กี่ครั้งแล้วที่เฮียทำร้ายหนู กี่ครั้งแล้วที่หนูยกโทษให้กับเฮีย ฮึก...ฮือ ครั้งนี้มันไม่ได้จริงๆเฮียทำร้ายหนูหนักเกินไปแล้ว
กี่ครั้งแล้วที่เฮียทำร้ายหนู กี่ครั้งแล้วที่หนูยกโทษให้กับเฮีย ฮึก...ฮือ ครั้งนี้มันไม่ได้จริงๆเฮียทำร้ายหนูหนักเกินไปแล้ว
เพล้ง!
กรี๊ด!.......
‘โอ๊ย!...พี่ศักดิ์ปล่อยแขนกานดาก่อนนะจ๊ะ กานดาเจ็บจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ปล่อยเถอะนะ กรี๊ด~ฮือ ฮือ เจ็บ’ เสียงกรีดร้องอ้อนวอน ด้วยความเจ็บปวดและทรมาน ดังออกมาจากบ้านไม้สองชั้นหลังเก่า ที่ตอนนี้มีหญิงสาวร่างเล็กบอบบางกำลังโดนทำร้ายร่างกาย จากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี ที่อยู่กินกันมาเพียงแค่5เดือน แต่เขาก็ทำร้ายร่างกายเธอซ้ำๆ อยู่เป็นประจำ
หมับ!
‘มึงกลัวกูเหรออีกานดา อย่ามาทำเป็นสำออยหน่อยเลย กูไม่สงสารมึงหรอกนะ’ ศักดิ์หรือศักดิ์ชัยปล่อยมือออกจากแขนของกานดา จากนั้นเขาก็ตรงไปกระชากเข้าที่ผมของเธอแทน นั่นทำให้กานดานั้นต้องเซถลา ตามแรงกระชากของศักดิ์ชัย
‘โอ๊ย!เจ็บ พี่ศักดิ์ปล่อยผมกานดาก่อนนะจ๊ะ กานดาเจ็บจริงๆ ไม่ได้สำออย เชื่อกานดาสิ พี่ศักดิ์ทำร้ายกานดาเกือบทุกวัน ร่างกายของกานดามันจะรับไม่ไหวแล้วนะพี่’
‘รับไม่ไหวมึงก็ต้องรับให้ไหวอีกานดา เพราะมึงยังต้องอยู่บ้านของกู แล้วก็ไอ้เด็กเวรนั้นด้วย กูจะทุบตีมึงสองแม่ลูกยังไงก็ได้ ตราบใดที่มึงยังอาศัยบ้านของกูอยู่ เข้าใจไหมอีกานดา’
‘ก็ได้จ๊ะพี่ศักดิ์ พี่จะทุบตีทำร้ายกานดายังไงก็ได้ แต่อย่าทำอะไรท๊อปเลยนะพี่ ลูกไม่เกี่ยว’
‘มึงใช่คำว่าลูกเหรออีกานดา มึงลืมไปหรือเปล่าว่ามันไม่ใช่ลูกกู มันเป็นลูกมึงกับผัวเก่ามึงนู้น’ ศักดิ์ชัยตะเบ็งเสียงดังลั่นไปทั่วบริเวณ พร้อมกับเพิ่มแรงกระชากเข้าไปที่ผมของกานดาอย่างแรง จนเธอร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
และเสียงร้องของผู้เป็นแม่ ทำให้เด็กชายวัย9ขวบที่ชื่อท๊อป สะดุ้งตัวลุกจากที่นอน จากนั้นเขาก็ค่อยๆ เปิดประตูไม้เก่าๆ ออกมาแอบดูเหตุการณ์ ตรงบันไดชั้นสองของบ้าน
‘อย่าเสียงดังไปเลยนะพี่ จะทำอะไรฉันก็ได้ แต่อย่าเสียงดัง ฉันไม่อยากให้ท๊อปตื่นขึ้นมาเห็นเหตุการณ์แบบนี้ ลูกยังเด็ก ฉันไม่อยากให้แกรับรู้เรื่องบ้าๆ แบบนี้’ กานดาพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ศักดิ์ชัย ด้วยร่างกายที่สั่นเทา
‘มึงพูดเองนะอีกานดาว่า กูจะทำอะไรมึงก็ได้ งั้นมึงเจอกูแน่’ พูดจบศักดิ์ชัยก็ปล่อยผมของกานดาออก จากนั้นเขาก็ง้างมือจนสุด แล้วตบเข้าที่หน้าของกานดาอย่างแรง จนเธอเซถลาล้มลงไปกับพื้น
เพี๊ยะ!
โอ๊ย!
‘พี่ศักดิ์ ฮือ ฮือ ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ กานดาเจ็บ ทำไมพี่ถึงใจร้ายแบบนี้ด้วย ยังมีความเป็นคนอยู่ไหม?’ กานดาที่ล้มนอนไปกับพื้น เธอใช้มือเช็ดเลือดที่มุมปาก จากนั้นก็หันมาพูดกับศักดิ์ชัยด้วยแววตาตัดพ้อ
‘กูชอบแบบนี้ไง เวลากูเอากับมึง มันเร้าใจกูดี’ พูดจบศักดิ์ชัยก็ตรงไปคร่อมร่างของกานดาไว้ พร้อมกับใช้มือใหญ่ของเขากระชากไปที่เสื้อของกานดาจนขาด เผยให้เห็นหน้าอกที่ล้นออกมาจากบราลายลูกไม้สีดำ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังใช้มือทั้งสองข้างของตัวเอง ตรงไปบีบคอของกานดาจนเธอเริ่มจะหายใจไม่ออก และดิ้นทุรนทุรายไปกับพื้น
แค่ก! แค่ก! แค่ก!
‘ปะ ปล่อยนะพี่ศักดิ์ กานดาจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว’ กานดาพยายามจะแกะมือของศักดิ์ชัย ออกจากคอของตัวเอง แต่ก็ยังไม่เป็นผล เพราะเขาใช้มือบีบคอของเธอจนแน่น
แต่ระหว่างที่เธอกำลังแกะมือของศักดิ์อยู่นั้น หางตาก็เหลือบไปเห็นเด็กวัย9ขวบ เดินถือมีดปลายแหลมเดินลงมาจากชั้น 2 ของบ้าน
เธอพยายามจะตะโกนห้ามลูกชายของเธอ ที่กำลังจะง้างมีดในมือแทงศักดิ์ชัยจากด้านหลัง แต่กระนั้นเสียงของเธอก็ไม่ได้ออกมาจากลำคอ เพราะตอนนี้เธอก็โดนบีบคอ จนเกือบจะขาดอากาศหายใจ จึงไม่สามารถส่งเสียงห้ามลูกชายของเธอได้
ฉึก!
อัก!
‘มึงกล้าทำร้ายกูเหรอไอ้เด็กเวร’ ศักดิ์ชัยปล่อยมือออกจากคอของกานดา จากนั้นเขาก็ยันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะหมุนตัวมาหาเด็กชาย แล้วใช้มือตบเข้าไปที่ใบหน้าของเด็กชายวัย9ขวบอย่างแรง จนเขากระเด็นไปติดผนังไม้เก่าๆ ภายในบ้าน
‘ท๊อปเป็นอะไรหรือเปล่าลูก ฮือฮือ พี่ศักดิ์อย่าทำอะไรลูกเลย ลูกคงไม่ได้ตั้งใจ’ กานดาพูดขณะที่พยายามจะยันตัวไปหาลูกน้อยของเธอ แต่ก็ต้องล้มลงอีกครั้ง เพราะร่างกายของเธอบอบช้ำเกินไป
‘ไม่ได้ตั้งใจเหี้ยอะไร ไม่ได้ตั้งใจเลือดกูจะไหลออกมาเยอะขนาดนี้เหรอ?’ ศักดิ์ชัยใช้มือดึงมีดที่เสียบอยู่ด้านหลังของเขาออก จากนั้นเขาก็ถือมีดตรงไปยังเด็กชายตัวเล็ก ที่นอนงอตัวอยู่กับพื้น
‘………….’ ท็อปเด็กชายตัวเล็ก ที่เมื่อเห็นศักดิ์ชัยเดินถือมีดตรงเข้ามาหา เขาก็กระเสือกกระสน ใช้เท้าดันไปกับพื้นไม้ เพื่อจะหนีจากเงื้อมือของศักดิ์ชัย
แต่กระนั้นมันก็ไม่ทันอยู่ดี เพราะศักดิ์ชัยได้จับเข้าที่ขาของเด็กชายตัวเล็กนั้นไว้ แล้วดึงเข้ามาหาตัว ก่อนจะง้างมือจนสุด จากนั้น….
กริ๊ง!........
เฮือก!.....
ผมสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมาจากฝัน เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์กรีดร้อง อยู่ใกล้ๆกับตัวของผม ไม่รอช้าผมรีบใช้มือควานหา จากนั้นก็รีบหยิบขึ้นมาดูรายชื่อที่โชว์อยู่หน้าจอ ปรากฏว่าคนที่โทรมาก็คือแม่ของผม และไม่รอช้าผมจึงรีบกดรับสายทันที
ติ๊ด….
“ครับแม่ โทรมาหาผมแต่เช้ามีอะไรหรือเปล่า?” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่นนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งน้ำเสียงแบบนี้ผมจะพูดเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น
“ (แม่อยากจะชวนท๊อปมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน แม่ทำของโปรดเอาไว้ให้เยอะเลย แต่ถ้าท๊อปงานยุ่งก็ไม่เป็นไรนะลูก แม่เข้าใจ) ” ผมอมยิ้มให้กับคำพูดของแม่ตัวเอง ที่บอกว่าเข้าใจแต่จริงๆแล้วแม่ของผมน่ะ ไม่เข้าใจอย่างที่ปากพูดหรอกครับ นี่ก็คงจะแอบน้อยใจที่ผมไม่ได้เข้าไปหาที่บ้านเลยในช่วงที่ผ่านมา
“เดี๋ยวเที่ยงผมเข้าไปหาแม่ที่บ้านแน่นอนครับ ไม่น้อยใจนะครับแม่” ผมยันตัวไปนั่งพิงกับหัวเตียงพร้อมกับพูดตอบตกลงแม่ไป ขืนถ้าผมไม่ไปกินข้าวเที่ยงกับแม่วันนี้ ต้องเจองอนหนักแน่ เพราะท่านก็โทรมาชวนผมหลายครั้งแล้ว แต่ช่วงนั้นผมกำลังยุ่งเกี่ยวกับเปิดสนามแข่งรถใหม่ของผมอยู่ กว่าจะเข้าที่เข้าทางก็ใช้เวลาพอสมควร
“ (แม่จะรอนะ ว่าแต่ตอนนี้ลูกอยู่ที่บ้านหรือเปล่า?) ”
“ครับ ตอนนี้ผมอยู่บ้าน แม่มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ (พอดีแม่จะฝากท๊อปซื้อขนมร้านโปรดของแม่น่ะ ท๊อปซื้อให้แม่หน่อยได้ไหมลูก?) ”
“ได้ครับ เอาอะไรเพิ่มอีกไหมครับ?”
“ (ไม่แล้วลูก แม่วางสายก่อนนะ ขับรถดีๆ นะลูก) ” แล้วสายของแม่ก็ถูกตัดไป ผมวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหน้าตัวเองอย่างหงุดหงิด เมื่อนึกถึงความฝัน ถ้าแม่ไม่โทรมาซะก่อน ผมคงจมอยู่กับความฝันที่โหดร้าย ในวัยเด็กพวกนั้นอีกนาน มันเป็นเหตุการณ์เลวร้าย ที่ทำให้ผมเป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่ง ซึ่งมันทำให้ผมเป็นปกติเหมือนคนอื่นไม่ได้
คิดแล้วก็เครียด ผมนั่งถอนหายใจออกมาหนักๆ จากนั้นไม่นานผมก็ลุกขึ้นจากที่นอน เดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าไปในห้องน้ำ หวังว่าน้ำเย็นๆจะช่วงให้ผมสดชื่น และหลุดจากความเครียดไปได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
ติณภพตั้งใจจะรับเลี้ยงเด็กสาวคนหนึ่งเอาไว้ตามเจตนารมณ์ของตัวเองนั่นก็คือตอบแทนผู้มีพระคุณ เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะเลี้ยงเอาไว้ที่กินเอง แต่ทว่านานวันเข้าความคิดของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
ลินินจำใจต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมเป็นคู่นอนของคนที่ใจร้ายใจใจดำอย่างสิงหราช เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมา
เพราะความใจดีทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนายน้อยแห่งตระกูลยากูซ่า
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ธัญญ์... ชายหนุ่มที่เจ็บช้ำกับความรักเมื่อครั้งอดีต วิธาดา... หญิงสาวร้ายกาจที่แอบรักเขาหมดหัวใจ หญิงสาวมองสบตากับเขาในระยะกระชั้นชิด หัวใจบอบบางเรียกร้องให้เธอเปิดเผยความจริงในส่วนลึกของจิตใจ “ฉันรักนายนะธัญญ์ รักนายมานานแล้ว” หล่อนคิดเอาไว้ไม่มีผิดว่าเขาจะต้องทำหน้าตกใจ แม้จะทำใจเอาไว้แล้ว แต่เธอรู้สึกเจ็บปวด มีผู้ชายหลายคนอยากสานสัมพันธ์กับเธอ แต่เธอก็สลัดทิ้ง แต่เขา... คนที่เธอแอบรัก เขากลับมีใจให้น้องสาวของเธอ เขากลับไม่ต้องการความรักของเธอ เขากลับตกใจและมองเธอเหมือนตัวประหลาด “เธอพูดอะไรของเธอ” ธัญญ์ทั้งมึนงง ทั้งตกใจในคำพูดของหญิงสาว “พูดความจริง นายคงไม่เคยรู้มาก่อน นายเป็นผู้ชายคนแรกของฉัน คืนนั้น...” เธอพูดอย่างหมดเปลือก เขาจะดูถูกยังไงก็ช่าง แต่เธอเป็นคนพูดตรงๆ เธออยากให้เขารับรู้และเข้าใจ “แต่ฉันไม่ได้รักเธอ ไม่แม้แต่จะคิด”
เพราะรักเขาตั้งแต่แรกเห็น หล่อนจึงยินยอมแต่งงานกับเขา เพราะถูกบังคับเขาจึงเห็นหล่อนเป็นเศษธุลีดินไร้ค่า แม้เป็นเมียแต่ง หล่อนคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะรักหล่อนตอบกลับมา ไม่มาก... ก็น้อย แต่ไม่นึกว่าเมื่อเขาหลอกให้หล่อนรักเขาสุดหัวใจ เขากลับขับไล่หล่อนออกมาจากชีวิตด้วยเหตุผลว่า เขาไม่รักหล่อน... "เธอเข้ามาในชีวิตฉันง่ายๆ ก็ช่วยออกไปง่ายๆ ด้วยเถอะ" ถ้อยคำเจ็บปวดทำร้ายที่ตามมาหลอกหลอน แม้ในยามที่หล่อนหลีกลี้จากเขามาได้นานเนิ่น ในวันที่หล่อนเข้มเเข็งและอยู่ได้โดยไม่มีเขา ลูกในท้องที่หล่อนปกปิดเขาเอาไว้ กำลังจะทำให้หล่อนกับเขาหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่หล่อนไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว ................................................................ “การแต่งงานของเราเกิดขึ้นเพราะฉันถูกบังคับ การที่ฉันไม่ได้รักเธอ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ” ธีภพ วิชญ์วิศิษฐ์ “ความรักของมนอาจจะดูไร้ค่าแต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งเดียวที่มนพอจะให้คุณธีร์ได้ ที่ผ่านมาคุณธีร์แสดงออกเสมอว่าคุณธีร์ไม่ต้องการและทิ้งขว้างมันมาตลอด มันก็ไม่ใช่ความผิดของมนที่สุดท้ายมนจะหมดรัก มนหวังว่าคุณธีร์จะเข้าใจ เหมือนที่มนเคยเข้าใจคุณธีร์” มนพัทธ์ สว่างโชติ
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
“ไม่นะ อย่านะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คุณได้พระคืนไปแล้วนี่ ปล่อยฉันไปเถอะ ฮือ...อย่าทำอะไรฉันเลย อย่าทำฉันเลย” หมอนวดสาวยังคงอ้อนวอนไม่หยุด มีหรือที่รัฐภูมิจะใจอ่อน เมตตาสาวตรงหน้าง่ายๆ เขาปล่อยเธอแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้และเวลานี้ สิบแปดมงกุฎอย่างจันยาวีร์ต้องเจอคนอย่างเขา ร้ายมาร้ายกลับและเพิ่มความร้ายมากเป็นร้อยเท่า เท้าเล็กพยายามถีบ กระแทกไปที่ร่างหนาดูเหมือนว่าจะถีบลมมากกว่า มันไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆ เพราะตอนนี้เขาขึ้นมานั่งคร่อมร่างเธออีกครั้งหนึ่งแล้ว “ยานี้จะทำให้ร้อนรุ่มอย่างมากมาย เลือดในกายเธอจะสูบฉีดจนเธอกระสับกระส่าย กระหายไปด้วยความใคร่แบบสุดๆ เธออยากจนแทบจะถ่างขารอให้ผู้ชายมากระทุ้ง ขอให้มีความสุขกับความร่านที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอนะ ยาออกฤทธิ์เต็มที่เมื่อไหร่ ฉันจะมาสนองตอบความอยากให้เธอเอง รับรองถึงอกถึงใจไปสามโลก หมอนวดอย่างเธอคงผ่านศึกมาไม่ใช่น้อย คงมีวิธีบังคับความร่านของตัวเองนะ ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อน แล้วเจอกันนะแป้ง” จันยาวีร์เม้มปากเป็นเส้นตรงแน่น เพื่อไม่ให้เขานำยานั้นใส่เข้าไปในปากของเธอ ทว่ามันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลยที่จะทำให้ปากของเธอเปิดอ้าออก เพียงแค่รัฐภูมิใช้ฝ่ามือบีบไปบนแก้มของเธอทั้งซ้ายขวาอย่างแรง หญิงสาวระบมปวดแก้มไปหมด แรงบีบที่มากมายทำให้ปากที่เม้มค่อยๆ คลายตัวออก จนในที่สุดปากของเธอก็อ้าออก ชายหนุ่มหน้าดุรีบใส่ยาปลุกเซ็กส์เข้าไปในช่องปากสาวบังคับให้เธอกลืนมันลงไปด้วยการนำฝ่ามือใหญ่มาปิดทับที่ริมฝีปาก ยาที่อยู่ในปากไม่ได้ถูกกลืนลงไปในลำคอ แต่มันละลายเมื่อสัมผัสโดนความชื้นของน้ำลายที่อยู่ภายใน ความขมของเม็ดยาที่เริ่มละลายในปาก ทำให้สาวเจ้าร้องไห้ออกมาทันที คิดในใจว่าเธอจะต่อต้านยาประเภทนี้ได้อย่างไร รัฐภูมิกระตุกยิ้มอย่างพอใจ ขยับร่างกายลงมายืนอยู่ริมเตียง มองดูร่างสาวที่ร้องไห้ตัวโยนด้วยความสะใจ เจอแค่นี้มันยังน้อยไป ริอาจเข้ามากระตุกหนวดเสือถึงที่ ไม่ถูกเสือขย้ำกินก็คงเป็นไม่ได้ เสืออย่างเขาฆ่าได้หยามไม่ได้อยู่แล้ว เขาหมุนตัวก่อนจะขยับร่างกายเดินไปยังห้องน้ำ อาบน้ำอย่างสบายใจ ผิวปากอย่างอารมณ์ดี ยาเซ็กส์ชนิดนี้เขาซื้อมาจากตลาดมืดแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส เป็นยาปลุกเซ็กส์ชนิดใหม่ล่าสุดที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ สาเหตุที่เขาซื้อยาชนิดนี้มาไม่ใช่ว่าเขาจะใช้เอง พันกรเพื่อนสนิทของเขาเป็นคนฝากซื้อ เพื่อจะนำไปให้พี่เขยที่มีอาการนกเขาไม่ขัน ต้องพึ่งยาปลุกเซ็กส์ขณะที่ดำเนินกิจกรรมทางเพศ ห้านาทีต่อมาหลังจากที่ยาปลุกเซ็กส์เริ่มละลายในปากและตัวยาไหลเข้าไปในลำคอสาว อาการแปลกๆ ก็เกิดขึ้นกับจันยาวีร์ คลื่นความร้อนบางอย่างแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอ แทรกลึกไหลซึมเข้าไปตามเซลล์ต่างๆ เม็ดเลือด ลุกลามลึกเข้าไปถึงกระแสเลือดที่เร่งสูบฉีดด้วยอัตราที่เร็วกว่าปกติ จันยาวีร์รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ความร้อนที่ได้รับทำให้เธอต้องการที่จะถอดเสื้อผ้าออก ความปรารถนาทางอารมณ์ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนกำลังกระจายอาบไปทั่วร่าง ความเป็นอิสตรีเพศกระตุกและเต้นเร่าอยู่ตลอดเวลา เธอมีความรู้สึกว่าต้องการร่วมเพศกับผู้ชายสักคน เพื่อมาบำบัดอาการที่เป็นอยู่นี้ให้ดีขึ้น ต้องการให้เขานำปาก ลิ้นประโลมจูบไปทั่วร่างสาว และต้องการฝ่ามือของเขาลูบไล้นวดเฟ้นไปตามผิวกายของเธอ และความปรารถนามากที่สุดก็คือ ต้องการให้เขาฝังกายลึกเข้าไปในกลีบสาว ขยับเขยื้อนกายด้วยความรุนแรง กระแทกกระทั้นให้ถึงอกถึงใจ
เพียงข้ามคืนที่หล่อนต้องสูญเสียพรหมจรรย์เพราะเขาเดินเข้าผิดห้อง จากนั้นแล้วชีวิตหล่อนกับเขาก็ผูกพันกันยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง _________________________________________________________ “ไม่มีใครทำให้ผมกังวลที่สุดเท่าไอ้พีท สายตาที่คุณมองมันวันนั้น แล้วการที่มันโทรหาคุณค่ำๆ มืดๆ มันทำให้ผม...” เฟื่องฟ้าไม่อยากฟังคำตัดพ้อที่เด่นชัดทั้งปากทั้งตานั่นอีก เขายังพูดไม่ทันจบเพราะหล่อนขยับเข้าหาและกดริมฝีปากไว้กับปากของเขา... “ถ้าคุณจะให้ความมั่นใจผม คุณก็ไม่ควรหยุดแค่จูบ การปิดปากผมไห้หยุดพูดไม่ได้ทำให้ผมหายกังวลใจหรอกนะ” “ฉันทำอะไรมากกว่านี้ไม่เป็น คุณก็รู้ นี่ครั้งแรก ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน” “ผมจะสอนเอง ผมอยากให้ผมเป็นผู้รับ ผมจะได้รู้ว่าผมไม่ได้ต้องการอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าผมทำ มันจะทำให้ผมรู้สึกว่าผมฝืนใจคุณ คุณไม่รู้หรือไงว่าเรื่องนี้มันกระทบจิตใจผมแค่ไหน” “แต่...” “ผมเสียขวัญมากเลยนะ คุณจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หรือไง” หล่อนชักเริ่มจะไม่คิดว่าเขากำลังกังวลใจเรื่องหล่อนกับหมอพีท แต่กำลังเจ้าเล่ห์ให้หล่อนทำอะไรที่หล่อนทำไม่เป็นแถมน่าอายสุดๆ อีกด้วย... อยากปฏิเสธแต่แล้วทำไมเขาต้องทำหน้าจริงจังปนเศร้าแบบนั้นด้วย... เฟื่องฟ้ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความรู้สึกซ่านซ่าแปลกๆ กับบางสิ่งที่ดุนดันหน้าท้อง คล้ายมันสั่นระริกเพียงแค่คิดถึงหล่อนก็แก้มแดงเห่อ... “ฉันต้องทำอะไรบ้าง” เสียงพูดและคำถามที่ไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือเสียงหล่อน อาชว์ดูเหมือนอารมณ์ดีขึ้นหากแต่ไม่ยอมยิ้ม เขาตอบหล่อนด้วยสีหน้าจริงจัง “เริ่มจากถอดเสื้อก่อนเป็นไง...” ครางอิดออดนิดเดียวหล่อนก็ยอมทำตามที่เขาบอก มือสั่นเทานิดๆ เมื่อแกะกระดุมเสื้อนอนปาจามาของเขาออกและแก้มเห่อร้อนยามเมื่อแหวกสาบเสื้อออก “ผมหมายถึงถอดเสื้อคุณ” “เอ๊ะ” หญิงสาวทำท่าจะถลึงตาใส่เขา แต่เขาก็ทำหน้านิ่งๆ แล้วก็ต้องถอนหายใจ ไม่รู้ว่าโกรธจริงหรือโกรธเล่นกันแน่ เห็นเขานอนมองหน้าเหมือนรอว่าหล่อนจะทำอะไรหล่อนก็จำต้องถอดผ้าตัวเองมือไม้สั่นไปหมด แกะกระดุมไปพลางเอ็ดตัวเองไปว่าทำไมต้องยอมเขาขนาดนั้นทั้งที่ไม่จำเป็นเลย เพียงแค่เห็นว่าเขาโกรธและเต็มไปด้วยความกังวลใจหล่อนก็ต้องรีบทำให้เขาสบายใจ เขาสำคัญขนาดนั้นกับหล่อนมากหรือไงกัน ถามไปก็ได้คำตอบอยู่ตรงหน้า... เสื้อนอนหล่อนถูกถอดออกด้วยฝีมือตัวเองเพียงเพราะไม่อยากเห็นเขามึนตึงใส่
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY