เธอจะมีแฟนใหม่ได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยเลิกกัน
เธอจะมีแฟนใหม่ได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยเลิกกัน
@คณะวิศวกรรมศาสตร์
ตึก!!!เสียงสองเท้าเล็กๆ ของอริญญากำลังเดินเข้าไปใต้ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ ใบหน้าสวยเรียบนิ่งไม่มีแม้แต่ร้อยยิ้มเผยออกมา กระนั้นถึงอริญญาจะไม่มีรอยยิ้มหวานๆประดับอยู่บนหน้า แต่ก็ยังเป็นจุดสนใจของคนที่พบเห็นได้ไม่อยาก
ด้วยหุ่นที่สมส่วนผิวขาวอมชมพูใบหน้าที่หวานหยดย้อยบวกกับดวงตาที่กลมโตผมยาวสลวยไปถึงกลางหลัง นั่นทำให้อริญญานั้นดูโดดเด่นไปกว่าใคร
"ไปนั่งอยู่ไหนกันนะ?" อริญญาบ่นพึมพำในใจเธอมองไปที่โต๊ะประจำก็ไม่เห็นเพื่อนทั้ง3คนของเธอ แต่กลับเป็นรุ่นพี่ปี2สองมานั่งแทน
"อริน...อริญญา ทางนี้ พวกเราอยู่ทางนี้" อริญญาหันมองไปตามเสียงก็พบว่าปลาดาวเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มกำลังโบกไม้โบกมือทักทายเธอโดยมีปลื้มและมาร์ค เพื่อนผู้ชายอีกสองคนของเธอก็กำลังมองมาที่เธอพร้อมกับยิ้มบางๆ อยู่ด้วยเช่นกัน
อริญญาที่อยู่ในชุดนักศึกษากระโปรงพลีทคลุมไปถึงหัวเข่า มือเรียวกระชับกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ด้านหลังเดินตรงไปหากลุ่มเพื่อนของเธอทันที
"วันนี้ใส่กระโปรงพลีทน่ารักเชียว ใส่แบบนี้บ่อยๆสิเราว่าแบบนี้เหมาะกับอรินนะ" เสียงสดใสของปลาดาวเอ่ยขึ้นก่อนจะดึงมืออริญญาให้มานั่งเก้าอี้ข้างๆกับตัวเอง
".........." เจ้าของใบหน้าหวานอย่างอริญญาพยักหน้า ก่อนจะฉีกยิ้มบางๆให้กับปลาดาวตามสไตล์คนพูดน้อยอย่างเธอ ไม่สิ...อริญญาไม่ได้เป็นคนพูดน้อยแต่เพราะเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ ทำให้อริญญากลับกลายมาเป็นคนพูดน้อยไม่สดใสเหมือนก่อน
"เมื่อเช้าทำไมไม่ให้มาร์คไปรับล่ะครับ อรินจะได้ไม่ต้องเดินมาให้เหนื่อยแบบนี้" มาร์คที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามสังเกตเห็นเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดออกมาจากกรอบหน้าหวานของอรินถึงกับพูดขึ้น เมื่อเช้าเขาโทรไปหาอริญญาอาสาที่จะไปรับเธอแต่ทว่าเธอกลับปฏิเสธเขา
"เราเกรงใจ...อีกอย่างบ้านเรากับบ้านของมาร์คก็อยู่คนละทาง" อริญญาพูดเสียงเรียบใบหน้าหวานฉีกยิ้มบางให้กับมาร์ค
"อรินจะไปเกรงใจมันทำไม ไอ้มาร์คมันเต็มใจที่จะรับส่งอรินจะตายไป จริงไหมไอ้มาร์ค?" ปลื้มพูดขึ้นพร้อมกับยกแขนมาพาดบ่าของมาร์ค พยายามช่วยเพื่อนสนิทของตัวเองจีบอริญญาอย่างออกหน้าออกตา ทำให้ปลาดาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับเบะปากมองบน
"จริงๆนะอริน เราเต็มใจรับส่งอรินนะ" มาร์คยังพยายามเสนอตัวทั้งที่รู้ว่าอริญญาจะตอบปฏิเสธ แต่เขาก็พยายามเสนอตัวไปรับไปส่งอริญญา
"ขอบใจนะมาร์คแต่ไม่เป็นไรเราชอบนั่งรถเมล์มามากกว่า" อริญญามักจะพูดประโยคปฏิเสธแบบถนอมน้ำใจของมาร์คเพราะยังไงก็เพื่อนกัน และมาร์คก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไร
อริญญารู้ว่ามาร์คชอบและกำลังจีบเธอแต่อริญญาก็ไม่ได้คิดกับมาร์คมากเกินไปกว่าคำว่าเพื่อน และเลือกที่จะไม่ให้ความหวังอะไรกับมาร์คเธอปฏิเสธความช่วยเหลือของมาร์คอยู่บ่อยครั้ง
"ประโยคปฏิเสธทางอ้อม คริ...คริ ไอ้มาร์คงานนี้แกกินแห้ว" ปลาดาวหัวเราะคึกคัก ส่วนอริญญาก็มองทั้งสามคนด้วยใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา
"ยัยปลาดาวไอ้มาร์คมันเพื่อนแกตั้งแต่มัธยมเลยนะเว้ย ทำไมไม่เชียร์เพื่อนบ้างวะ?" ปลื้มหันไปเหวใส่ปลาดาวที่เอาแต่หัวเราะคิกคักไม่สนสีหน้าไม่สู้ดีของมาร์คสักเท่าไหร่ ซึ่งพวกเขาทั้ง3คนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยม ส่วนอริญญามาเจอและเป็นเพื่อนกันที่มหาวิทยาลัย
"ไม่...แกก็รู้ไอ้ปลื้ม เรื่องความรักมันบังคับกันได้ที่ไหน จริงไหมอริน?" ปลาดาวหันไปถามอริญญาซึ่งอริญญาไม่ได้พูดอะไรทำเพียงพยักหน้างึกงัก นั่นทำให้มาร์คมีสีหน้าเศร้าเข้าไปใหญ่
"ถ้าพูดแบบนี้ไม่ต้องพูดดีกว่า ไปดูไอ้หนังสือซังกะบ้วยของเธอเถอะ ยิ่งพูดยิ่งแย่ไม่ให้กำลังใจเพื่อน" ปลื้มเหวใส่ปลาดาวอีกครั้งท่ามกลางสายตาของมาร์คและอริญญา
"ชิ...ไม่พูดก็ได้ ขอโทษแล้วกัน" หลังจากนั้นบรรยากาศที่โต๊ะก็เงียบ ทุกคนต่างเอากิจกรรมที่ตัวเองชอบขึ้นมาทำ รอเวลาเข้าคลาสอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า แต่ทว่า...
กรี๊ด!!!! เสียงเล็กแหลมถูกเปล่งออกมาจากปากของปลาดาว ขณะที่เธอกำลังก้มหน้าก้มตาระดมจูบไปที่ปกนิตยสาร ที่เธอเพิ่งซื้อมาก่อนที่จะมามหาลัย
"แด๊ดดี้...แด๊ดดี้ของฉัน งื้อรูปนั้น รูปนี้หล่อชะมัด" เสียงกรี๊ดและท่าทางของปลาดาวเรียกความสนใจจากเพื่อนทั้งสามคนได้เป็นอย่างดี
"เป็นอะไรปลาดาว มีอะไรเหรอ?" อริญญาที่สะดุ้งในตอนแรกก็หันไปถามปลาดาวด้วยใบหน้าที่ตื่นๆ รู้จักกันมาสักพักแต่อรินยังไม่ชินกับอาการแบบนี้ของปลาดาวสักเท่าไหร่ ส่วนปลื้มกับมาร์คก็ตกใจแต่ก็ปรับตัวได้เพราะปลาดาวเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง
"นั่นสิตกใจหมดเลย มดเข้าไปกัดจิมิเธอหรือไง กรี๊ดออกมาได้ไม่อายคนอื่นบ้างหรือไงวะ?"
"ไอ้ปลื้ม...ไอ้ปากเสีย ใช่แบบนั้นที่ไหนเล่า ฉันกรี๊ดเรื่องอื่นต่างหาก" ปลาดาวมองปลื้มด้วยสีหน้าไม่พอใจทำท่าจะเอานิตยสารไปฟาดปลื้ม แต่สุดท้ายก็วางลงเลือกที่จะถลึงตาใส่ปลื้มแทน
"แล้วกรี๊ดอะไร? กรี๊ด...จนอริญญาสะดุ้งเฮือกเลยนะปลาดาว" มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เขาเห็นอริญญาสะดุ้งตอนที่ปลาดาวส่งเสียงกรี๊ด
"ขอโทษนะอริน ปลาดาวลืมไปว่าอรินยังไม่ชิน" ปลาดาวหันไปขอโทษอริญญาด้วยใบหน้ารู้สึกผิด
"ไม่เป็นไร แล้วปลาดาวเป็นอะไรเหรอ? เมื่อกี้เราได้ยินว่าปลาดาวพูดว่าแด๊ดดี้ พ่อดาวเป็นอะไร" อริญญาถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากเธอได้ยินคำว่าแด๊ดดี้ออกจากปากของปลาดาว ทำให้คิดว่าพ่อของปลาดาวอาจจะเป็นอะไร
"ไม่ใช่แบบนั้นอริญญา แด๊ดดี๊ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ แต่แปลว่าผัว..." ปลาดาวยื่นหน้าเข้าไปพูดกระซิบที่ข้างหูของอริญญาเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน ทำให้ปลื้มกับมาร์คมองมาอย่างสงสัย
"หืม..." อริญญาเอียงคอเลิกคิ้วมองปลาดาวอย่างเชิงสงสัย และนั่นทำให้ปลาดาวถึงกับหัวเราะคึกคักออกมา ปลาดาวคิดอยู่แล้วว่าอริญญาจะต้องไม่รู้และไม่เข้าใจคำว่าแด๊ดดี้ของเธอ
"นี่ไง" ปลาดาวยิ้มกว้างหยิบนิตยสารที่อยู่ตรงหน้ากลางส่งให้อริญญาได้ดู และทันทีที่อริญญาได้เห็นถึงกับชะงักเม้มปากเข้าหากันแน่นหัวใจดวงน้อยเริ่มปวดหนึบๆ เมื่อภาพในนิตยสารนั้นคือคนๆ นั้น แฟนเพียงหนึ่งอาทิตย์ของอริญญา
"นี่ไงแด๊ดดี้ในฝันของเรา หมอคลาสทั้งหล่อทั้งรวย คาสโนว่าสุดๆ เป็นไงแด๊ดดี้ในฝันของเราล่ะ...." ปลาดาวยังอธิบายถึงบุคคลตรงหน้า คนที่เธอชื่นชอบ โดยไม่ได้หันมามองสีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ของอริญญาแม้แต่น้อย มีเพียงแค่มาร์คเท่านั้นที่สังเกตอาการของอริญญา ส่วนปลื้มก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมในโทรศัพท์
"ขอโทษนะปลาดาว เราขอตัวเข้าห้องน้ำก่อน" อริญญาบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเครือยันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองเสียงเรียกของปลาดาว
แกร็ก!!! เสียงปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นพร้อมกับร่างบางที่เอาแต่ร้องไห้ ทรุดตัวลงไปนั่งกับฝาชักโครกราวกับคนหมดเรี่ยวแรง หัวใจดวงน้อยปวดหนึบๆ จนต้องเอากำปั้นน้อยๆ ทุบไปที่อกข้างซ้าย
"ฮึก...คุณมันคนใจร้าย ใจร้ายที่สุด ฮึก...อรินเกลียดคุณ เกลียดที่สุด" อริญญายกมือขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เธอพยายามเข้มแข็งแล้ว แต่เมื่อมาเห็นรูปคนที่เธอทั้งรักและเกลียดแบบไม่ทันตั้งตัว มันก็ทำให้คนที่พยายามเข้มแข็งมาหลายปีอย่างอริญญา หมดความเข้มแข็งจนต้องแอบมาร้องไห้ในห้องน้ำแบบนี้
ภาพที่ปลาดาวให้อริญญาดูนั้น มันเป็นภาพของคนใจร้าย เขาชื่อคลาสหรือหมอคลาส แฟนเพียงหนึ่งอาทิตย์ของเธอ
ย้อนไปในวัย 17 ปีของอริญญา บ้านของอริญญาค่อนข้างมีฐานะพ่อกับแม่ของเธอรักและดูแลเอาใจใส่อริญญาเป็นอย่างดี อริญญาเป็นเด็กสดใสร่าเริงพูดเก่ง อยู่มาวันหนึ่งแม่ของอริญญาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หลังจากนั้นพ่อของเธอก็ดูจะไม่สนใจอริญญาสักเท่าไหร่ อริญญาเริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากที่เป็นเด็กช่างพูดสดใสร่าเริงก็กลับกลายเป็นเด็กเก็บกดพูดน้อยกระทั่งวันหนึ่งเธอได้เจอกับคลาสชายหนุ่มที่อายุเยอะกว่าเธอรอบกว่า คนที่เข้ามาทำให้ชีวิตของอริญญากลับมาดูสดใสขึ้นอีกครั้ง ทั้งคู่ใช้เวลาคบหาดูใจกันเป็นเวลา3เดือน ต่อมาคลาสก็ขออริญญาเป็นแฟน ซึ่งอริญญาก็ไม่รอช้าที่จะตอบตกลง หลังจากที่อริญญาตอบตกลงเป็นแฟนกับคลาสได้หนึ่งอาทิตย์ พ่อของอริญญาก็พาภรรยาใหม่เข้ามาที่บ้านพร้อมกับลูกติดที่อายุโตกว่าเธอ2ปี ตอนนั้นอริญญาเสียใจและทะเลาะกับพ่อของเธอหนักมาก อริญญาเลยตัดสินใจหนีออกจากบ้านท่ามกลางฝนที่โปรยปรายลงมา ที่พึ่งเดียวของอริญญาก็คือคลาสแฟนหนุ่มของเธอ อริญญาตัดสินใจออกจากบ้านโดยไม่ได้เอาข้าวของอะไรติดตัวมามาก มีเพียงโทรศัพท์หนึ่งเครื่องกับคีย์การ์ดห้องของคลาสและกระเป๋าสตางค์ของตัวเองเพียงแค่นั้น ทว่าเมื่ออริญญาเปิดประตูเข้ามาในห้องของคลาสก็ต้องพบกับความเสียใจ เมื่อเห็นคลาสกำลังเคลื่อนไหวร่างกายอยู่บนตัวของผู้หญิงคนหนึ่ง
อริญญาใจสลายเธอร้องไห้ฟูมฟายอยู่สักพัก จากนั้นเธอก็เดินออกมาจากห้องของคลาสแบบเงียบๆ ไม่คิดแม้แต่จะส่งเสียงบอกคนในห้องให้รับรู้
ร่างบางของอริญญาเดินไปตามถนนเหมือนคนไร้สติ ทว่าโชคดีระหว่างที่เธอกำลังเดินอยู่นั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเธอที่ฉุดรั้งสติ อริญญาตัดสินใจรับโทรศัพท์ของพี่สาวของแม่ ก็คือป้าแท้ๆของเธอ ก่อนที่จะเดินทางกลับต่างจังหวัดใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นตัดขาดการติดต่อกับพ่อและคลาสแฟนหนุ่มของเธอ
ติณภพตั้งใจจะรับเลี้ยงเด็กสาวคนหนึ่งเอาไว้ตามเจตนารมณ์ของตัวเองนั่นก็คือตอบแทนผู้มีพระคุณ เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะเลี้ยงเอาไว้ที่กินเอง แต่ทว่านานวันเข้าความคิดของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
ลินินจำใจต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมเป็นคู่นอนของคนที่ใจร้ายใจใจดำอย่างสิงหราช เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมา
กี่ครั้งแล้วที่เฮียทำร้ายหนู กี่ครั้งแล้วที่หนูยกโทษให้กับเฮีย ฮึก...ฮือ ครั้งนี้มันไม่ได้จริงๆเฮียทำร้ายหนูหนักเกินไปแล้ว
เพราะความใจดีทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนายน้อยแห่งตระกูลยากูซ่า
เธอแค่อยากลองใจโดยการให้ของขวัญสุดพิเศษกับคนรัก แต่...เขาดันไม่ดีใจ แล้วมาบอกให้เราอยู่ห่างกันสักพัก ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอท้องลูกของเขา ผัวเฮงซวยเอ๊ย!!! อยากไปก็ไป ฉันจะหาพ่อใหม่ให้ลูก ไปแล้วอย่ามาหอนทีหลังนะ ชิ! "นี่พี่จะโทษว่ามี่ตั้งใจปล่อยท้องงั้นเหรอ" "เปล่า พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ว่า...พี่ยังไม่พร้อมจะแต่งงานหรือมีลูกตอนนี้ มี่เข้าใจพี่หน่อยได้ไหม" มิรันดาสะอึกเมื่อได้ฟังเหตุผลห่วยแตกของเขา คำว่าไม่พร้อมนั่นคืออะไร "พี่ไม่พร้อมแต่งงาน ไม่พร้อมมีลูก แต่พร้อมจะไปจากมี่ นี่หรือเปล่าที่พี่อยากให้มี่เข้าใจ" หญิงสาวเอ่ยทั้งน้ำตาที่ไหลรินกลบภาพคนรักตรงหน้าจนมองไม่เห็นความรักในดวงตาคู่นั้นอีกแล้ว คนหนึ่งหมดรัก หมดใจ แต่อีกคนกลับยังรักหมดใจ ใครควรเจ็บกว่าถ้าไม่ใช่เธอ "พูดกันให้รู้เรื่องตอนนี้เลยดีกว่า ในเมื่อพี่รู้ว่ามี่กำลังจะมีลูก พี่ก็ยังอยากไปอยู่ใช่ไหม" คำถามนั้นแทงใจดำของเขาอย่างจัง จนปฏิเสธไม่ได้ มิรันดาเหยียดยิ้มทั้งน้ำตา เพียงแค่มองตาเธอก็ได้คำตอบจากเขา อยู่กันมาสี่ปีไม่นับที่คบกันมาตอนสมัยเรียนอีก เธอรู้ใจเขาทุกอย่าง แค่มองตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร รู้สึกยังไง ไม่ต้องพูดออกมาด้วยซ้ำ "งั้นพี่ก็ไปเถอะ อยากจะอยู่ห่างแค่ไหน เอาที่พี่สบายใจเลย ไม่ต้องห่วงมี่ ของขวัญชิ้นนี้ในเมื่อพี่ไม่ต้องการงั้นก็ทิ้งไปเถอะ"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด