เธอจะมีแฟนใหม่ได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยเลิกกัน
เธอจะมีแฟนใหม่ได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยเลิกกัน
@คณะวิศวกรรมศาสตร์
ตึก!!!เสียงสองเท้าเล็กๆ ของอริญญากำลังเดินเข้าไปใต้ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ ใบหน้าสวยเรียบนิ่งไม่มีแม้แต่ร้อยยิ้มเผยออกมา กระนั้นถึงอริญญาจะไม่มีรอยยิ้มหวานๆประดับอยู่บนหน้า แต่ก็ยังเป็นจุดสนใจของคนที่พบเห็นได้ไม่อยาก
ด้วยหุ่นที่สมส่วนผิวขาวอมชมพูใบหน้าที่หวานหยดย้อยบวกกับดวงตาที่กลมโตผมยาวสลวยไปถึงกลางหลัง นั่นทำให้อริญญานั้นดูโดดเด่นไปกว่าใคร
"ไปนั่งอยู่ไหนกันนะ?" อริญญาบ่นพึมพำในใจเธอมองไปที่โต๊ะประจำก็ไม่เห็นเพื่อนทั้ง3คนของเธอ แต่กลับเป็นรุ่นพี่ปี2สองมานั่งแทน
"อริน...อริญญา ทางนี้ พวกเราอยู่ทางนี้" อริญญาหันมองไปตามเสียงก็พบว่าปลาดาวเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มกำลังโบกไม้โบกมือทักทายเธอโดยมีปลื้มและมาร์ค เพื่อนผู้ชายอีกสองคนของเธอก็กำลังมองมาที่เธอพร้อมกับยิ้มบางๆ อยู่ด้วยเช่นกัน
อริญญาที่อยู่ในชุดนักศึกษากระโปรงพลีทคลุมไปถึงหัวเข่า มือเรียวกระชับกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ด้านหลังเดินตรงไปหากลุ่มเพื่อนของเธอทันที
"วันนี้ใส่กระโปรงพลีทน่ารักเชียว ใส่แบบนี้บ่อยๆสิเราว่าแบบนี้เหมาะกับอรินนะ" เสียงสดใสของปลาดาวเอ่ยขึ้นก่อนจะดึงมืออริญญาให้มานั่งเก้าอี้ข้างๆกับตัวเอง
".........." เจ้าของใบหน้าหวานอย่างอริญญาพยักหน้า ก่อนจะฉีกยิ้มบางๆให้กับปลาดาวตามสไตล์คนพูดน้อยอย่างเธอ ไม่สิ...อริญญาไม่ได้เป็นคนพูดน้อยแต่เพราะเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ ทำให้อริญญากลับกลายมาเป็นคนพูดน้อยไม่สดใสเหมือนก่อน
"เมื่อเช้าทำไมไม่ให้มาร์คไปรับล่ะครับ อรินจะได้ไม่ต้องเดินมาให้เหนื่อยแบบนี้" มาร์คที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามสังเกตเห็นเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดออกมาจากกรอบหน้าหวานของอรินถึงกับพูดขึ้น เมื่อเช้าเขาโทรไปหาอริญญาอาสาที่จะไปรับเธอแต่ทว่าเธอกลับปฏิเสธเขา
"เราเกรงใจ...อีกอย่างบ้านเรากับบ้านของมาร์คก็อยู่คนละทาง" อริญญาพูดเสียงเรียบใบหน้าหวานฉีกยิ้มบางให้กับมาร์ค
"อรินจะไปเกรงใจมันทำไม ไอ้มาร์คมันเต็มใจที่จะรับส่งอรินจะตายไป จริงไหมไอ้มาร์ค?" ปลื้มพูดขึ้นพร้อมกับยกแขนมาพาดบ่าของมาร์ค พยายามช่วยเพื่อนสนิทของตัวเองจีบอริญญาอย่างออกหน้าออกตา ทำให้ปลาดาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับเบะปากมองบน
"จริงๆนะอริน เราเต็มใจรับส่งอรินนะ" มาร์คยังพยายามเสนอตัวทั้งที่รู้ว่าอริญญาจะตอบปฏิเสธ แต่เขาก็พยายามเสนอตัวไปรับไปส่งอริญญา
"ขอบใจนะมาร์คแต่ไม่เป็นไรเราชอบนั่งรถเมล์มามากกว่า" อริญญามักจะพูดประโยคปฏิเสธแบบถนอมน้ำใจของมาร์คเพราะยังไงก็เพื่อนกัน และมาร์คก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไร
อริญญารู้ว่ามาร์คชอบและกำลังจีบเธอแต่อริญญาก็ไม่ได้คิดกับมาร์คมากเกินไปกว่าคำว่าเพื่อน และเลือกที่จะไม่ให้ความหวังอะไรกับมาร์คเธอปฏิเสธความช่วยเหลือของมาร์คอยู่บ่อยครั้ง
"ประโยคปฏิเสธทางอ้อม คริ...คริ ไอ้มาร์คงานนี้แกกินแห้ว" ปลาดาวหัวเราะคึกคัก ส่วนอริญญาก็มองทั้งสามคนด้วยใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา
"ยัยปลาดาวไอ้มาร์คมันเพื่อนแกตั้งแต่มัธยมเลยนะเว้ย ทำไมไม่เชียร์เพื่อนบ้างวะ?" ปลื้มหันไปเหวใส่ปลาดาวที่เอาแต่หัวเราะคิกคักไม่สนสีหน้าไม่สู้ดีของมาร์คสักเท่าไหร่ ซึ่งพวกเขาทั้ง3คนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยม ส่วนอริญญามาเจอและเป็นเพื่อนกันที่มหาวิทยาลัย
"ไม่...แกก็รู้ไอ้ปลื้ม เรื่องความรักมันบังคับกันได้ที่ไหน จริงไหมอริน?" ปลาดาวหันไปถามอริญญาซึ่งอริญญาไม่ได้พูดอะไรทำเพียงพยักหน้างึกงัก นั่นทำให้มาร์คมีสีหน้าเศร้าเข้าไปใหญ่
"ถ้าพูดแบบนี้ไม่ต้องพูดดีกว่า ไปดูไอ้หนังสือซังกะบ้วยของเธอเถอะ ยิ่งพูดยิ่งแย่ไม่ให้กำลังใจเพื่อน" ปลื้มเหวใส่ปลาดาวอีกครั้งท่ามกลางสายตาของมาร์คและอริญญา
"ชิ...ไม่พูดก็ได้ ขอโทษแล้วกัน" หลังจากนั้นบรรยากาศที่โต๊ะก็เงียบ ทุกคนต่างเอากิจกรรมที่ตัวเองชอบขึ้นมาทำ รอเวลาเข้าคลาสอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า แต่ทว่า...
กรี๊ด!!!! เสียงเล็กแหลมถูกเปล่งออกมาจากปากของปลาดาว ขณะที่เธอกำลังก้มหน้าก้มตาระดมจูบไปที่ปกนิตยสาร ที่เธอเพิ่งซื้อมาก่อนที่จะมามหาลัย
"แด๊ดดี้...แด๊ดดี้ของฉัน งื้อรูปนั้น รูปนี้หล่อชะมัด" เสียงกรี๊ดและท่าทางของปลาดาวเรียกความสนใจจากเพื่อนทั้งสามคนได้เป็นอย่างดี
"เป็นอะไรปลาดาว มีอะไรเหรอ?" อริญญาที่สะดุ้งในตอนแรกก็หันไปถามปลาดาวด้วยใบหน้าที่ตื่นๆ รู้จักกันมาสักพักแต่อรินยังไม่ชินกับอาการแบบนี้ของปลาดาวสักเท่าไหร่ ส่วนปลื้มกับมาร์คก็ตกใจแต่ก็ปรับตัวได้เพราะปลาดาวเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง
"นั่นสิตกใจหมดเลย มดเข้าไปกัดจิมิเธอหรือไง กรี๊ดออกมาได้ไม่อายคนอื่นบ้างหรือไงวะ?"
"ไอ้ปลื้ม...ไอ้ปากเสีย ใช่แบบนั้นที่ไหนเล่า ฉันกรี๊ดเรื่องอื่นต่างหาก" ปลาดาวมองปลื้มด้วยสีหน้าไม่พอใจทำท่าจะเอานิตยสารไปฟาดปลื้ม แต่สุดท้ายก็วางลงเลือกที่จะถลึงตาใส่ปลื้มแทน
"แล้วกรี๊ดอะไร? กรี๊ด...จนอริญญาสะดุ้งเฮือกเลยนะปลาดาว" มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เขาเห็นอริญญาสะดุ้งตอนที่ปลาดาวส่งเสียงกรี๊ด
"ขอโทษนะอริน ปลาดาวลืมไปว่าอรินยังไม่ชิน" ปลาดาวหันไปขอโทษอริญญาด้วยใบหน้ารู้สึกผิด
"ไม่เป็นไร แล้วปลาดาวเป็นอะไรเหรอ? เมื่อกี้เราได้ยินว่าปลาดาวพูดว่าแด๊ดดี้ พ่อดาวเป็นอะไร" อริญญาถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากเธอได้ยินคำว่าแด๊ดดี้ออกจากปากของปลาดาว ทำให้คิดว่าพ่อของปลาดาวอาจจะเป็นอะไร
"ไม่ใช่แบบนั้นอริญญา แด๊ดดี๊ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ แต่แปลว่าผัว..." ปลาดาวยื่นหน้าเข้าไปพูดกระซิบที่ข้างหูของอริญญาเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน ทำให้ปลื้มกับมาร์คมองมาอย่างสงสัย
"หืม..." อริญญาเอียงคอเลิกคิ้วมองปลาดาวอย่างเชิงสงสัย และนั่นทำให้ปลาดาวถึงกับหัวเราะคึกคักออกมา ปลาดาวคิดอยู่แล้วว่าอริญญาจะต้องไม่รู้และไม่เข้าใจคำว่าแด๊ดดี้ของเธอ
"นี่ไง" ปลาดาวยิ้มกว้างหยิบนิตยสารที่อยู่ตรงหน้ากลางส่งให้อริญญาได้ดู และทันทีที่อริญญาได้เห็นถึงกับชะงักเม้มปากเข้าหากันแน่นหัวใจดวงน้อยเริ่มปวดหนึบๆ เมื่อภาพในนิตยสารนั้นคือคนๆ นั้น แฟนเพียงหนึ่งอาทิตย์ของอริญญา
"นี่ไงแด๊ดดี้ในฝันของเรา หมอคลาสทั้งหล่อทั้งรวย คาสโนว่าสุดๆ เป็นไงแด๊ดดี้ในฝันของเราล่ะ...." ปลาดาวยังอธิบายถึงบุคคลตรงหน้า คนที่เธอชื่นชอบ โดยไม่ได้หันมามองสีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ของอริญญาแม้แต่น้อย มีเพียงแค่มาร์คเท่านั้นที่สังเกตอาการของอริญญา ส่วนปลื้มก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมในโทรศัพท์
"ขอโทษนะปลาดาว เราขอตัวเข้าห้องน้ำก่อน" อริญญาบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเครือยันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองเสียงเรียกของปลาดาว
แกร็ก!!! เสียงปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นพร้อมกับร่างบางที่เอาแต่ร้องไห้ ทรุดตัวลงไปนั่งกับฝาชักโครกราวกับคนหมดเรี่ยวแรง หัวใจดวงน้อยปวดหนึบๆ จนต้องเอากำปั้นน้อยๆ ทุบไปที่อกข้างซ้าย
"ฮึก...คุณมันคนใจร้าย ใจร้ายที่สุด ฮึก...อรินเกลียดคุณ เกลียดที่สุด" อริญญายกมือขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เธอพยายามเข้มแข็งแล้ว แต่เมื่อมาเห็นรูปคนที่เธอทั้งรักและเกลียดแบบไม่ทันตั้งตัว มันก็ทำให้คนที่พยายามเข้มแข็งมาหลายปีอย่างอริญญา หมดความเข้มแข็งจนต้องแอบมาร้องไห้ในห้องน้ำแบบนี้
ภาพที่ปลาดาวให้อริญญาดูนั้น มันเป็นภาพของคนใจร้าย เขาชื่อคลาสหรือหมอคลาส แฟนเพียงหนึ่งอาทิตย์ของเธอ
ย้อนไปในวัย 17 ปีของอริญญา บ้านของอริญญาค่อนข้างมีฐานะพ่อกับแม่ของเธอรักและดูแลเอาใจใส่อริญญาเป็นอย่างดี อริญญาเป็นเด็กสดใสร่าเริงพูดเก่ง อยู่มาวันหนึ่งแม่ของอริญญาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หลังจากนั้นพ่อของเธอก็ดูจะไม่สนใจอริญญาสักเท่าไหร่ อริญญาเริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากที่เป็นเด็กช่างพูดสดใสร่าเริงก็กลับกลายเป็นเด็กเก็บกดพูดน้อยกระทั่งวันหนึ่งเธอได้เจอกับคลาสชายหนุ่มที่อายุเยอะกว่าเธอรอบกว่า คนที่เข้ามาทำให้ชีวิตของอริญญากลับมาดูสดใสขึ้นอีกครั้ง ทั้งคู่ใช้เวลาคบหาดูใจกันเป็นเวลา3เดือน ต่อมาคลาสก็ขออริญญาเป็นแฟน ซึ่งอริญญาก็ไม่รอช้าที่จะตอบตกลง หลังจากที่อริญญาตอบตกลงเป็นแฟนกับคลาสได้หนึ่งอาทิตย์ พ่อของอริญญาก็พาภรรยาใหม่เข้ามาที่บ้านพร้อมกับลูกติดที่อายุโตกว่าเธอ2ปี ตอนนั้นอริญญาเสียใจและทะเลาะกับพ่อของเธอหนักมาก อริญญาเลยตัดสินใจหนีออกจากบ้านท่ามกลางฝนที่โปรยปรายลงมา ที่พึ่งเดียวของอริญญาก็คือคลาสแฟนหนุ่มของเธอ อริญญาตัดสินใจออกจากบ้านโดยไม่ได้เอาข้าวของอะไรติดตัวมามาก มีเพียงโทรศัพท์หนึ่งเครื่องกับคีย์การ์ดห้องของคลาสและกระเป๋าสตางค์ของตัวเองเพียงแค่นั้น ทว่าเมื่ออริญญาเปิดประตูเข้ามาในห้องของคลาสก็ต้องพบกับความเสียใจ เมื่อเห็นคลาสกำลังเคลื่อนไหวร่างกายอยู่บนตัวของผู้หญิงคนหนึ่ง
อริญญาใจสลายเธอร้องไห้ฟูมฟายอยู่สักพัก จากนั้นเธอก็เดินออกมาจากห้องของคลาสแบบเงียบๆ ไม่คิดแม้แต่จะส่งเสียงบอกคนในห้องให้รับรู้
ร่างบางของอริญญาเดินไปตามถนนเหมือนคนไร้สติ ทว่าโชคดีระหว่างที่เธอกำลังเดินอยู่นั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเธอที่ฉุดรั้งสติ อริญญาตัดสินใจรับโทรศัพท์ของพี่สาวของแม่ ก็คือป้าแท้ๆของเธอ ก่อนที่จะเดินทางกลับต่างจังหวัดใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นตัดขาดการติดต่อกับพ่อและคลาสแฟนหนุ่มของเธอ
ติณภพตั้งใจจะรับเลี้ยงเด็กสาวคนหนึ่งเอาไว้ตามเจตนารมณ์ของตัวเองนั่นก็คือตอบแทนผู้มีพระคุณ เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะเลี้ยงเอาไว้ที่กินเอง แต่ทว่านานวันเข้าความคิดของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
ลินินจำใจต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมเป็นคู่นอนของคนที่ใจร้ายใจใจดำอย่างสิงหราช เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมา
กี่ครั้งแล้วที่เฮียทำร้ายหนู กี่ครั้งแล้วที่หนูยกโทษให้กับเฮีย ฮึก...ฮือ ครั้งนี้มันไม่ได้จริงๆเฮียทำร้ายหนูหนักเกินไปแล้ว
เพราะความใจดีทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนายน้อยแห่งตระกูลยากูซ่า
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
ในชาติก่อน นางได้ต่อสู้เพื่อประเทศชาติเป็นเวลาห้าปี แต่ความดีความชอบทางการทหารกลับถูกน้องหญิงยึดไป คู่หมั้นที่นางรักหมดใจนั้นกลับนิ่งเฉยและร่วมมือกับอีกฝ่ายผลักนางตกลงสู่ห้วงลึกจนต้องเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจในคืนที่หนาวเย็น หลังจากได้เกิดใหม่ นางสาบานว่าจะทำให้ทุกคนที่รังแกนางได้รับผลกรรมที่สาสม เมื่อเผชิญหน้ากับครอบครัวที่เสแสร้งและผู้ชายเจ้าชู้ นางยิ้มเยาะ : ความดีความชอบทางทหาร? รางวัล? คู่หมั้น? เอาไปให้หมด นางหันหลังกลับและคุกเข่าในงานเลี้ยงในวังอย่างน่าตกใจโดยชี้ตรงไปยังมุมมืดที่มีอ๋องอวี้นั่งอยู่บนรถเข็น“ขอฝ่าบาททรงโปรดพระราชทานการสมรสระหว่างหม่อมฉันกับอ๋องอวี้เพคะ” ทุกคนต่างตกตะลึง อ๋องอวี้เซียวจือ ขาทั้งสองข้างใช้การไม่ได้และมีนิสัยเย็นชา เป็นคนที่ทุกคนหลีกเลี่ยงเสมือนปีศาจที่มีชีวิต ทุกคนหัวเราะเยาะนางว่าคงบ้าไปแล้ว ถึงรนหาที่ตายเช่นนี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่านางเห็นถึงความโดดเด่นและพลังที่ซ่อนอยู่ลึกในตัวชายคนนี้ นางช่วยให้เขาฟื้นฟูความแข็งแกร่งและรักษาขาที่เป็นพิการ เขาสัญญาว่าจะให้ชีวิตที่มั่นคงแก่นางและเป็นที่พึ่งที่แข็งแกร่งที่สุดให้นาง เมื่อน้องหญิงที่แอบอ้างนำความดีความชอบทางทหารของนางไปอวดความเก่งกล้า และแม่แท้ ๆ ยังคงใช้กลอุบายควบคุมชะตากรรมของนาง… นางและอ๋องอวี้ร่วมมือกันวางแผนอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน เปิดโปงกลโกงและแสดงความกล้าหาญในสนามรบ! จนกระทั่งอ๋องอวี้ยืนขึ้นได้อีกครั้งและมีอำนาจครอบครองราชสำนัก จนกระทั่งนางแสดงตราประทับที่แท้จริงข และให้ทหารทั้งหลายยอมรับ ทุกคนเพิ่งรู้สึกตระหนักว่า คนที่พวกเขาเคยทิ้งไปไม่ต่างจากขยะนั้น ทั้งคู่ได้จับมือกันแล้วครองแผ่นดินไว้ด้วยแล้ว
ครั้งที่เก้าสิบเก้าที่ ‘เจต’ ทำให้ฉันใจสลาย คือครั้งสุดท้ายของเรา เราสองคนเคยเป็นคู่รักดาวเด่นของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา อนาคตของเราถูกวางแผนไว้อย่างสวยหรูว่าจะเข้าเรียนที่จุฬาฯ ด้วยกัน แต่แล้วในช่วงปีสุดท้ายของม.ปลาย เขากลับไปหลงรักผู้หญิงคนใหม่ที่ชื่อ ‘แคท’ เรื่องราวความรักของเรากลายเป็นละครน้ำเน่าราคาถูกที่น่าเบื่อหน่าย เต็มไปด้วยการทรยศของเขาและการขู่ว่าจะเลิกอย่างไร้ความหมายของฉัน ในงานเลี้ยงจบการศึกษา แคท ‘บังเอิญ’ ดึงฉันตกลงไปในสระว่ายน้ำกับเธอ เจตกระโดดลงไปช่วยโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เขากลับว่ายผ่านฉันที่กำลังตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดไปอย่างไม่ใยดี แล้วโอบแขนรอบตัวแคทก่อนจะพาเธอขึ้นจากสระอย่างปลอดภัย ขณะที่เขาช่วยพยุงเธอขึ้นจากสระ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ เขาหันกลับมามองฉันที่ตัวสั่นเทา มาสคาร่าไหลเป็นทางสีดำอาบแก้ม “ชีวิตเธอ ไม่ใช่ปัญหาของฉันอีกต่อไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนน้ำในสระที่ฉันกำลังจะจมดิ่งลงไป คืนนั้นเอง บางสิ่งในตัวฉันก็แตกสลายลงอย่างสมบูรณ์ ฉันกลับบ้าน เปิดโน้ตบุ๊ก และคลิกปุ่มยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาต่อ ไม่ใช่ที่จุฬาฯ กับเขา แต่เป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คนละฟากฝั่งของกรุงเทพฯ
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
จะดีแค่ไหน หากหล่อนได้ตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของเขาทุกเช้า... ตั้งแต่จำความได้ ชมพูนุชก็หายใจเป็นชื่อของเขาเรื่อยมา องค์รัชทายาทรูปงามแห่งซาเรีย เขาคือความสุขเดียวในชีวิตของหล่อน แต่ความสุขนั้นกลับไม่จีรังดั่งใจหวัง เมื่อหญิงเดียวในดวงใจของเขาหนีหน้าหายไปพร้อมกับพี่ชายของหล่อน ความผิดบาปทุกอย่างจึงถูกขว้างใส่หน้า เขาเรียกร้องให้ครอบครัวของหล่อนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับตราหน้าผู้หญิงที่เฝ้าภักดีกับเขาอย่างหล่อนว่า ‘นังแพศยา’ “หน้าที่หนึ่งเดียวสำหรับเธอ บนเตียงของฉันก็คือ... นางบำเรอ” องค์รัชทายาทรูปงามหยิบกางเกงขึ้นมาสวมใส่ นัยน์ตาสีทองตวัดจ้องมองมายังร่างเปลือยเปล่าบอบช้ำของหล่อนอย่างดูแคลน “จำเอาไว้ ถ้าฉันเรียก เธอก็ต้องมา ถ้ามาช้า ฉันจะสั่งโบยพ่อ หรือไม่ก็ แม่ของเธอ” “อย่านะเพคะ...” ริมฝีปากหยักสวยคลี่ยิ้มหยัน “ถ้าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เธอควรจะรู้หน้าที่ของตนเอง...” มือใหญ่ตบลงบนเตียงนอนนุ่ม ราวกับต้องการย้ำเตือนหน้าที่อันทรงเกียรติของหญิงสาว
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY