ลินินจำใจต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมเป็นคู่นอนของคนที่ใจร้ายใจใจดำอย่างสิงหราช เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมา
ลินินจำใจต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมเป็นคู่นอนของคนที่ใจร้ายใจใจดำอย่างสิงหราช เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมา
แค่นอนกับฉันมันไม่ได้ยากอะไร ไหนบอกว่ารักแม่เธอนักหนา เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไม่ได้
............................................................................................................................................
@คฤหาสน์พิพัตน์มงคลสกุล
ภานในห้องนอนขนาดใหญ่ทางปีกด้านซ้ายของคฤหาสน์มีหญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มกำลังหลับไหลอยู่บนเตียงนอนนุ่มๆด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการนั่งรถมาเป็นเวลานาน รวมถึงจัดเสื้อผ้าข้าวของให้เข้าที่
โดยไม่รู้เลยว่ามีร่างสูงใหญ่ของใครบางคนค่อยๆเปิดและปิดประตูห้องนอนด้วยความเบามือ เปิดไฟในห้องจนมันสว่างวาบ
ก่อนที่จะสาวเท้าเดินตรงเข้ามานั่งประชิตร่างอวบอิ่มที่กำลังหลับไหลด้วยใบหน้าที่ยากจะคาดเดา
ดวงตาคมกริบไล่สายตามองเรือนร่างขาวอมชมพูที่สวมเพียงชุดนอนสายเดี่ยว เนื้อผ้าซาตินใส่สบายตั้งแต่ปลายเท้าผ่านสัดส่วนโค้งเว้า
ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่หน้าอกอวบอิ่มไร้บราห่อหุ้มที่ล้นทะลักออกมาให้เห็นเพียงครู่ ปากหยักกระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ ไม่นานก็เลื่อนไปที่ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ยังคงหลับสนิทอยู่
หมับ!!!
ฝ่ามือใหญ่ที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนตรงเข้าไปบีบปากเล็กๆของคนที่ยังคงหลับไหลอย่างแรง จนใบหน้าจิ้มลิ้มเริ่มเหยเกไปด้วยความเจ็บ ก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมา
เฮือก!
"คะ...คุณใหญ่" ใบหน้าสวยหวานสะบัดออกจากฝ่ามือใหญ่อย่างแรง น้ำเสียงตะกุกตะกักที่เต็มไปด้วยความตกใจของลินินดังขึ้นทันทีที่ลืมตาขึ้นมาเห็นร่างสูงใหญ่ของสิงหราชหรือคุณใหญ่ผู้เป็นเจ้าของการกระทำอุกอาจ
ดวงตากลมโตที่โอบร้อมไปด้วยแผงขนตางามงอนเบิกกว้างพลางยันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดเรือนร่างขาวอมชมพู ซึ่งจังหวะนั้นสิงหราชก็แสยะยิ้มร้ายกาจออกมา
"มีอะไรคะ คุณใหญ่เข้ามาในห้องนินทำไม!" ลินินพูดออกไปด้วยท่าทีประหม่า มือเรียวเล็กกำผ้าห่มแน่น เพราะตอนนี้สิงหราชกับเธออยู่ใกล้กันมาก ใกล้กันอย่างที่ไม่เคยใกล้กันมาก่อน
ดวงตากลมโตมองไปที่สิงหราชด้วยความไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าเขาเข้ามาในห้องเธอทำไม และก็เข้ามาได้ยังไง ในเมื่อเธอก็จำได้ว่าก่อนจะเข้านอนเธอจัดการล็อคประตูห้องนอนเรียบร้อยแล้ว
"..........." เมื่อเห็นท่าทีตื่นตกใจของคนตรงหน้าสิงหราชก็เหยียดยิ้มร้ายกาจออกมาอย่างไม่ปกปิด โยนกุญแจที่อยู่ในฝ่ามือใหญ่ไปที่โต๊ะข้างหัวเตียงอย่างไม่ใยดี
ซึ่งการกระทำของเขาบ่งบอกเป็นนัยๆว่าไม่ใช่เรื่องยากอะไรในการที่เขาจะเข้ามาในห้องเธอ
"นี่มันบ้านฉัน ฉันจะเข้าห้องไหนมันก็เป็นสิทธิ์ของฉันไม่ใช่หรือไง?" น้ำเสียงดุถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากหยักได้รูป
ดวงตาคมกริบจ้องมองไปที่ใบหน้าจิ้มลิ้มของลินินอย่างเอาเป็นเอาตาย จนคนถูกมองเริ่มทำตัวไม่ถูก รู้สึกเสียวสันหลังวาบแปลกๆ
"แต่คุณลุงยกห้องนี้ให้นินแล้ว คุณใหญ่ไม่ควรเข้ามานะคะ" ปากเล็กๆอมชมพูเอ่ยบอก ดวงตากลมโตเริ่มสั่นระริกด้วยความกลัว
คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเป็นปมด้วยความไม่เข้าใจ เหตุใดสิงหราชหรือคุณใหญ่ที่เธอเห็นตอนนี้ถึงได้แตกต่างจากสิงหราชคนที่เธอเจอเมื่อหลายชั่วโมงก่อนนัก
ตอนนั้นเขาไม่ได้เป็นแบบนี้ ตอนนั้นเขาไม่แสดงออกทางสีหน้าอะไรเลย ดูไม่ยินดียินร้าย ออกจะนิ่งเฉยเสียด้วยซ้ำกับการมาของเธอและแม่ของเธอหรือเธอไปทำอะไรผิดให้เขาไม่พอใจ
แต่พอคิดทบทวนดูแล้วก็ดูจะไม่เห็นถึงความผิดของตัวเองเลยสักนิดแล้วนี่มันอะไรกัน
ลินินจมอยู่กับความคิดของตัวเองเพียงครู่และยังไม่ทันได้เอ่ยถามถึงสาเหตุก็โดนจู่โจมด้วยฝ่ามือใหญ่
หมับ!!!
"......." สิงหราชยื่นฝ่ามือใหญ่ของตัวเองไปคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กของลินินพร้อมกับออกแรงกระชากอย่างแรง
จนคนตัวเล็กนั้นปลิวตามแรงกระชาก ใบหน้าจิ้มลิ้มกระแทกไปกับหัวไหล่กว้าง หน้าอกอวบอิ่มขนาดใหญ่เสียดสีไปกับแผงอกแกร่ง
ลิลินยังคงจมอยู่กับความเจ็บและความไม่เข้าใจ ใบหน้าจิ้มลิ้มยังคงซบอยู่ที่ไหล่กว้าง
จนกระทั่งได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ เธอจึงค่อยๆเขยื้อนตัวออก เงยหน้าไปมองใบหน้าหล่อคมคายด้วยความไม่เข้าใจ
ก่อนจะรู้ว่าสิงหราชไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเธอแต่เป็นตำแหน่งที่ต่ำกว่า
"อ่อย" ถ้อยคำดูถูกๆเปล่งออกมาจากริมฝีปากหยัก ในขณะที่ดวงตาคมกริบจับจ้องอยู่ที่หน้าอกอวบอิ่มขนาดใหญ่ที่เด้งชูชันสู้สายตา
เพราะเสื้อสายเดี่ยวตัวโคร่งดันร่นลงมาจนเกือบจะถึงหน้าท้องแบนราบ
"ไม่ใช่แบบนั้นนะคะคุณใหญ่" ใบหน้าและคำพูดที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจถูกพ่นออกมา
มือเรียวรีบดึงเสื้อสายเดี่ยวขึ้นพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปกปิดทั้งสองเต้างามเอาไว้ ในใจแอบโกรธตัวเองที่หยิบชุดนอนตัวนี้มาใส่ ไม่น่าเห็นแก่ความสบายและความเคยชินของตัวเอง
"คุณใหญ่เข้ามาในห้องของนินทำไมคะ คุณใหญ่ไม่ควรเข้ามาในห้องนอนของนินแบบนี้นะคะ ใครเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี"
"คิดว่าฉันอยากเข้ามานักหรือไง ถ้าไม่มีเรื่องคุยกับเธอ"
"คุยกับนิน เรื่องอะไรคะ?" ลินินเอ่ยถามอย่างสงสัย คนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมงมีอะไรต้องคุยกัน สำคัญขนาดต้องบุกเข้ามาในของเธอในเวลาดึกดื่นเช่นนี้
"ออกไปจากบ้านฉัน" สิงหราชเค้นเสียงเข้มดุ ซึ่งใบหน้าหล่อก็แสดงสีหน้าไม่ต่างกันกับน้ำเสียง
"คะ....?" ลินินเลิกคิ้วถามด้วยความไม่เข้าใจ
"ไม่ได้ยินที่ฉันพูด"
"ได้ยินค่ะ แต่นินแค่ไม่เข้าใจ มันเรื่องอะไรกันคะคุณใหญ่" ลินินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่ไม่เข้าใจตามที่พูด
เธอกับแม่เพิ่งจะเข้ามาในบ้านหลังนี้ไม่ถึง24ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ จู่ๆก็เข้ามาไล่ ทั้งทีตอนเจอกันกับเธอและแม่ของเธอ เขาก็ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจอะไร
"นินกับแม่ไม่ไปไหนทั้งนั้น ทำไมนินกับแม่ต้องไปด้วย ในเมื่อคุณลุงเป็นคนชวนนินกับแม่มา คนที่จะไล่นินกับแม่ของนินออกจากบ้านหลังนี้ได้ก็มีแต่คุณลุงคนเดียวเท่านั้น คุณใหญ่ไม่มีสิทธิ์"
"เหอะ" สิงหราชแค่นหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน กับเด็กสาวตรงหน้าที่กล้าต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่เกรงกลัว "หน้าด้าน หิวเงินกันทั้งแม่ทั้งลูก"
เพี๊ยะ!
.................................................
เปิดตัวคุณสิงหราชคนใจร้ายนอกจากจะใจร้ายแล้วปากยังร้ายใช่ย่อย สู้เขานะหนูลินินรับมือกับคุณสิงหราชให้ได้
อ่านจบแล้วคอมเม้นท์ด้วยน๊า ไรท์รออ่านค่ะ
..................................................
สวัสดีค่ะ ไรท์ยาหยีนะคะ
ขออนุญาตฝากนิยายเซ็ตท่านประธานเถื่อนคลั่งรักไว้ด้วยนะคะ เซ็ตนี้ประกอบไปด้วย3เรื่อง
1.สิงหราชคนใจร้าย
2.เหมราชคนร้ายกาจ
3.ติณราชคนเจ้าเล่ห์
ฝากกดติดตาม กดเพิ่มชั้นไว้เพื่อรับการแจ้งเตือนด้วยนะคะ
ติณภพตั้งใจจะรับเลี้ยงเด็กสาวคนหนึ่งเอาไว้ตามเจตนารมณ์ของตัวเองนั่นก็คือตอบแทนผู้มีพระคุณ เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะเลี้ยงเอาไว้ที่กินเอง แต่ทว่านานวันเข้าความคิดของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
กี่ครั้งแล้วที่เฮียทำร้ายหนู กี่ครั้งแล้วที่หนูยกโทษให้กับเฮีย ฮึก...ฮือ ครั้งนี้มันไม่ได้จริงๆเฮียทำร้ายหนูหนักเกินไปแล้ว
เพราะความใจดีทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนายน้อยแห่งตระกูลยากูซ่า
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
เอ๋ สาวโรงงานที่มีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลาว่า คนเราตายแล้วไปไหน แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเธอได้เลยสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรักอย่างชลดา ที่มาด่วนจากไปเมื่อ 5ปีที่แล้ว หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอเองที่เพิ่งจะเสียไปเมื่อ 3เดือนก่อน แล้วตอนนี้ สำหรับเอ๋ ไม่เหลือญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว นอกจากเพื่อนสนิท ที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว เช่น พร อยู่มาวันหนึ่งเอ๋ได้ฝันถึงชลดา เพื่อนรักอีกคนที่จากไปแล้ว ในฝัน ชลดา บอกกับเธอว่า หลังจากที่ตายไปแล้วชลดาก็ไปมีสามีและมีลูก เธอยังพูดกับชลดาว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง ตายแล้วไหนจะไปมีสามีมีลูกได้เล่า และในฝัน ชลดาบอกว่านี่เป็นคำตอบสำหรับตัวเธอว่าตายแล้วไปไหน ส่วนคนอื่นเธอไม่รู้จริงๆ ว่าตายแล้วไปไหน แต่ตัวชลดาเองบอกกับ เอ๋ ว่าตายแล้วไปมีสามีและมีลูก เช้าวันต่อมา เอ๋ก็ไปทำงานตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ เอนก แฟนหนุ่มของเธอ จะเกิดอะไรขึ้นกับเอ๋ และเอ๋จะได้คำตอบเป็นของตัวเองหรือไม่ เราไปร่วมลุ้นหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""
หล่อนถูกส่งมาบรรณาการในฐานะทาสบำเรอความใคร่ เพื่อแลกกับหนี้สินก้อนโต นอนกับเขาจนกว่าเขาจะเบื่อ แล้วเมื่อนั้นแหละหน้าที่บำเรอบนเตียงของหล่อนจึงจะหมดไป พะแพง ถูกส่งตัวมาเป็นนางบำเรอให้กับมหาเศรษฐีเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในลาสเวกัส หน้าที่ของหล่อนคือทำให้เดมอน ลินการ์ด มีความสุขที่สุดยามอยู่บนเตียง หล่อนก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างเพื่อให้เขาพึงพอใจ แต่ไม่นานเขาก็เบื่อหน่าย ขับไล่ไสส่งหล่อนออกไปจากชีวิต ข่าวงานแต่งงานของเขากับผู้หญิงคนใหม่ที่ทั้งสวยและแสนคู่ควรดังก้องคับแผ่นฟ้า ในขณะที่หล่อนต้องหลบอยู่ในซอกหลืบของความมืดมิดเพื่อซ่อนเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอาไว้อย่างรวดร้าวทรมาน
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
© 2018-now MeghaBook
บนสุด