สัญญาแต่งงาน 100 ล้าน พันธสัญญาที่ติดตัวไอรินตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก เธอรู้จักเขาดีเลยล่ะ แต่สำหรับเขาแล้วเธอเป็นเพียงคู่หมั้นที่ไร้ตัวตน
สัญญาแต่งงาน 100 ล้าน พันธสัญญาที่ติดตัวไอรินตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก เธอรู้จักเขาดีเลยล่ะ แต่สำหรับเขาแล้วเธอเป็นเพียงคู่หมั้นที่ไร้ตัวตน
ณ มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน
''ที่นู้นหนาวไหมลูก''
''วันนี้ไม่ค่อยหนาวค่ะคุณป้า อากาศกำลังเย็นสบายเลย'' ค่ะไม่หนาว 15 องศาเองเบาๆ
''จ๊ะ ใส่เสื้อผ้าหนาๆ อย่าลืมทานข้าวให้ตรงเวลาด้วยล่ะ''
''ค่าาา คุณป้าก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ คุณป้าค่ะหนูต้องไปเรียนแล้วค่ะ''
''จ๊ะ ไว้อาทิตหน้าป้าโทรหาใหม่ ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก มีอะไรรีบโทรหาป้าทันทีเข้าใจไหม''
''ค่าาาาาา''
ฟู่ เสียงถอนหายใจพรวดใหญ่ๆ การคุยกับญาติผู้ใหญ่บางที่มันก็อึดอัด ยิ่งถ้าอีกฝ่ายเป็นถึงว่าที่แม่สามีด้วยแล้วความอึดอัดมันก็คูณสิบไปเลยสิค่ะ
ไม่ชอบอากาศหนาว แต่ต้องมาอยู่เมืองหนาว ฉันไอริน กานต์จนา ทรัพย์ทวีไพศาล หลังจากที่แม่เสียชีวิตฉันก็หอบตัวเองมาเรียนต่อที่เมืองจีนทันที ที่วางสายไปเมื่อซักครู่คือคุณหญิงบัวแก้ว แม่ของคู่หมั้นฉันเอง เฮ้อ ย้อนกลับไป 25 ปีที่แล้ว วันที่ฉันลืมตาดูโลก
''พ่อจะให้ไอรินหมั้นกับลูกชายบ้านอินทราปัญญากูล''
''แต่คุณพ่อค่ะ ไอรินเพิ่งจะคลอดได้ไม่ถึง2 วันเลยนะคะ'' กานต์รวีกอดลูกน้อยที่อยู่ในห่อผ้าสีขาวสะอาดเด็กน้อยในห่อผ้ายังตัวแดงๆ เหี่ยวย่นอยู่เลย จะให้หมั้นซะแล้ว
''นั้นสิครับคุณพ่อ มันเร็วเกินไปหรือป่าวครับ ลูกผมเพิ่งจะคลอด'' สมประสงค์ ลูบหลังเมียรักปลอบประโลมแพ่วเบา
''แล้วแกมีเงินไปคืน 100 ล้าน ไปคืนท่านประพบหรือป่าวล่ะ'' ท่านสมบัติกัดฟันแน่น เมื่อปีก่อน บริษัทล้มไม่เป็นท่าสมบัติของตระกูลทั้งหมดกำลังจะถูกยึด โชคดีที่เพื่อนรักอย่างประพบ อินทราปัญญากูล ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ประพบเห็นลูกสะใภ้เขาท้องหลานสาวจึงเปรยมาว่า ไม่อยากได้คืนเงินแต่อยากเกี่ยวดองกันมากกว่าเพราะเขาก็มีหลานชายอายุ 5 ขวบ
''ตามนั้นล่ะ'' พูดจบท่านสมบัติก็เดินนออกจากห้องพักฟื้นคนไข้ออกไป ปล่อยให้สองสามีภรรยานั่งกอดกันเงียบๆ
สมประสงค์รู้ดีคำสั่งของพ่อเขาเด็ดขาดคำไหนคำนั้น อยากขัดใจพ่อแต่ก็ทำไม่ได้ ต่อให้ไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง เขาก็ไม่เคยขัดใจท่านอยู่แล้ว ท่านทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวมาตลอด แต่เมียเขานี้สิจะทำใจได้หรือ
ใช่แล้วกานต์รวีทำใจไม่ได้ที่จะให้ลูกน้อยหมั้นหมายและแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก ที่สำคัญลูกเธอยังเล็กมากๆ แม้จะเป็นการหมั้นหมายปากเปล่า แต่กานต์รวีก็ทำใจไม่ได้จริงๆ จึงเลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบ้านอินทราปัญญากูล
''วีร์ อยากโกรธคุณพ่อเลย ท่านทำเพื่อพวกเราทุกคนน่ะ''
''แต่นี้ลูกวีร์'' ฮึก ฮึก คลอดลูกมาต้องเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสิ แต่ทำไม่กานตร์วีร์กลับได้ข่าวร้าย
''อย่าเพิ่งคิดอะไรเลยวีร์ มันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ตกลงกัน รอยัยหนูโตนั้นล่ะถึงจะมีพิธีหมั้น''
''ยกเลิกไม่ได้ใช่ไหมค่ะ'' กานตร์วีร์ มองหน้าสามีด้วยความหวัง หวังว่าจะมีหนทาง
''ยกเลิกได้ แต่ต้องมีเงิน 100 ล้านไปคืนคุณลุงประพบ'' ไม่ใช่ว่าเขาไม่คุณกับพ่อ เขาคุยแล้ว เงินที่ให้ยืนมาถือว่าสินสอด ต่อให้หามาคืนได้เขาเชื่อว่าพ่อเขาก็ไม่มีทางผิดคำพูด การหมั้นหมายในอนาคตไม่มีทางล้มเลิก
เลือกสามีผิดคิดจนตัวตาย!เป็นเช่นไรรู้ก็เมื่อสายไปเสียแล้ว ลูกต้องตายจาก พ่อแม่พี่ชายพลัดพราก ด้วยหน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าเมือง ช่วยชีวิตทุกคนไว้ได้ เว้นแต่นาง เว้นแต่ครอบครัวของนาง
โปรยปราย ผู้คนเกลียดชังข้า แต่กลับมิมีผู้ใดรู้เบื้องหลังว่าแท้จริงแล้วข้าต้องโหดร้ายเช่นนี้เป็นเพราะผู้ใด แทงมีดใส่อกคนรักของข้า สังหารตระกูลข้าจนสิ้นแม้แต่เด็กทารกก็มิเว้น ข้าต้องยืนยิ้มแล้วเอ่ยว่า ไม่เป็นไร ข้าให้อภัย นั่นคงมีเพียงพระโพธิสัตว์เสียแล้วมิใช่ข้าคนนี้ คนที่พวกเจ้าหวาดกลัวยิ่งกว่าภูตผี
นางเคยเป็นดั่งดอกบัวขาว บริสุทธิ์ผุดผ่องมองแล้วสบายตา แต่เขาและน้องสาวต่างมารดาของนางกลับมาแต้มหมึกดำลงบนบัวขาวดอกนี้
นางเกิดมาขาพิการแต่หาได้ไร้ใจไม่ มีเพียงคนผู้นั้นที่ไร้หัวใจยิ่งกว่านาง เขามาหลอกให้นางหลงรักแล้วถอนหมั้นอย่างเลือดเย็น หลังนางตายจากไปแล้วยังใช้ความเห็นอกเห็นใจของพี่ชายนางเพื่อหาประโยชน์เข้าตัว โชคดีสวรรค์ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล กลับมาครานี้ ในเมื่อพวกมันรักกันมากนัก ก็เชิญรักกันไปได้เลย ชายชั่วเช่นนี้คิดจนตัวตายก็ไม่เอามาเป็นสามีเด็ดขาด!
ท่านช่างใจดำยิ่งนัก ท่านกับข้าเปรียบดั่งเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ ข้าเชื่อว่าสักวันท่านจะกลับมาเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับข้า แต่ใยท่านจึงพาสตรีอื่นกลับมา แล้วถอนหมั้นข้าอย่างไร้เยื่อใย
เพราะรักนางจึงยอมทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับมอบความรักให้สตรีอื่น ในเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางแล้วนางก็ไม่คิดจะยื้อไว้อีกต่อไป ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว ส่วนข้าจะเดินจากไปพร้อมกับบุตรในครรภ์
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)
“สวัสดีครับ” เภสัชกรวัยกลางคนที่ประจำเค้าเตอร์ขายยาทักทายลูกค้าทั้งสอง “ผมต้องการยาคุมกำเนิด” อดัมแจ้งสิ่งที่ต้องการโดยทันที น้ำฟ้าหันไปมองคนข้างกายที่ยังกุมมือเธอด้วยดวงตาที่เบิกกว้างจนดวงตาสีน้ำตาลเข้มแทบจะหลุดออกจากเบ้าตา “ครับ” เภสัชกรขานรับพร้อมกับหันหลังหยิบสิ่งที่ลูกค้าตรงหน้าต้องการ ด้วยแววตาที่เรียบเฉย “คุณครับ...คุณคิดว่าเธอคนนี้ควรใช้เวลากับผมเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดหรือแค่ยี่สิบแปดวันเท่านั้นเหรอครับ” คำพูดของอดัมสร้างความฉงนไม่เข้าใจให้กับเภสัชกรตรงหน้าอย่างมาก “เอ่อ...ขอโทษครับ...ผมไม่เข้าใจ” “ก็เธอคนนี้...คนที่ยืนอยู่ข้างๆผม...เธอเข้าใจว่าผมจะให้เธออยู่กับผมเพียงแค่ปริมาณยาคุมกำเนิดที่ผมให้เธอกิน” อดัมพูดต่อโดยที่สายตาของเขายังคงจ้องอยู่ที่เภสัชกรเท่านั้น แต่กลับเป็นเภสัชกรที่ย้ายสายตามามองคนที่ถูกกล่าวถึง และตอนนี้เภสัชกรก็เห็นใบหน้าเธอซับสีเลือดอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้นเมื่อได้ยินประโยคคำพูดของคนข้างๆเธอ “เข้าใจแล้วครับ...ทั้งร้านผมมียาตัวนี้อยู่น่าจะหนึ่งลังและในหนึ่งลังนั้นมีอยู่สี่ร้อยกล่องครับ...คุณจะเหมาหมดเลยมั้ยครับ” เภสัชกรวัยกลางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าชายตรงหน้าหลายปีนัก SET : Romance Of Mafia เรื่องราวต่อเนื่องกันมา.... ลำดับที่ 1 ; จังหวะรักมาเฟีย [ Mafia’s Rhythms Of Love ] ลำดับที่ 2 ; มาเฟีย'จ้าว'ชีวิต [ Mafia’s King ] ลำดับที่ 3 ; 'ลูกไม้'มาเฟีย [ Heir Of Mafia ] ลำดับที่ 4 ; นางฟ้ามาเฟีย [ Mafia’s Fairy ] ลำดับที่ 5 ; จอมใจมาเฟีย [ Mafia’s Beloved ]
"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด