ใช้ชีวิตโสดมาตั้งกี่ปี พอมาเจอเธอ หัวใจที่แกร่งดุจหินผาก็อ่อนยวบ อยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของหัวใจเธอ
ใช้ชีวิตโสดมาตั้งกี่ปี พอมาเจอเธอ หัวใจที่แกร่งดุจหินผาก็อ่อนยวบ อยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของหัวใจเธอ
“เอ่อ เจ้านายครับ เจ้านาย ถึงโรงแรมแล้วครับ” โทนี่เปิดประตูรถลงมาเรียกเจ้านายที่เบาะโดยสารหลังรถอย่างเกรงอกเกรงใจ เนื่องจากเขาเรียกมาสักพักแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้านายมาดเข้มของเขาจะตื่นจากนิทรา วันนี้เจ้านายเขาเป็นอะไรเนี่ย ออกจากบ้านมาก็หลับทันที เห็นทุกทีที่ออกจากบ้านต้องคอยเช็คข่าวสารและตารางงานที่จะต้องทำในวันนี้ตลอด สงสัยจะเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้วันนี้เจ้านายของเขาเข้ามาโรงแรมสายกว่าปกติมากโข
ภาคภูมิ พิชญะสกุล หนุ่มรูปหล่อบ้านรวย ผู้กุมบังเหียนใหญ่คนปัจจุบันของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ Paradise ที่มีสาขาทั้งในและต่างประเทศ เขามีพร้อมทั้งฐานะและหน้าตาเป็นผู้ชายในฝันของสาวๆ แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถเข้ามาครอบครองสี่ห้องหัวใจของเขาได้ เมื่อถึงเวลาเขาก็คงจะเจอคนที่หัวใจต้องการเอง เขาจึงไม่อยากคบใครค่าเวลา แค่ปลดปล่อยอารมณ์ตามธรรมชาติของผู้ชาย เพื่อรอใครบางคนที่จะมาดูแลหัวใจของเขาในอนาคต ซึ่งตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนและจะมีจริงหรือไม่
“อือ รู้แล้ว แกจะตะโกนทำไมวะโทนี่ ฉันแค่พักสายตาไม่ได้หลับลึกขนาดนั้น” เสียงเข้มเอ่ยเสียงขุ่นกับเลขาพ่วงตำแหน่งลูกน้องคนสนิท ก่อนจะก้าวเท้าลงจากรถคันหรูพาร่างกายสมบูรณ์แบบเดินเข้าไปในโรงแรม
“นี่ฉันผิดเหรอวะจอห์น แล้วฉันก้ไม่ได้ตะโกนด้วยนะเว้ย แกก็ได้ยิน” โทนี่ยืนทำหน้าเลิ่กลั่กกับจอห์นที่กำลังยืนหัวเราะเขาอยู่
“ยังไม่ชินอีกเหรอวะ ไปเถอะ เจ้านายเดินไปโน่นแล้ว” จอห์นว่าก่อนจะลากคอโทนี่ที่ทำหน้าหมดอาลัยตายอยากเดินตามเจ้านายไป
“สวัสดีครับบอส/สวัสดีค่ะบอส”
เมื่อเห็นว่าเจ้านายรูปหล่อเข้ามาในโรงแรม เหล่าพนักงานต่างทำความเคารพเจ้านายหนุ่มไปตลอดทาง เขาทำเพียงแค่พยักหน้าตอบและยิ้มน้อยๆ ให้กับลูกน้องของตน ก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นผู้บริหาร แต่แล้วสายตาก็พลันไปสะดุดที่สาวน้อยหน้าหวานแต่แอบเซ็กซี่ในชุดนักศึกษาที่ล็อบบี้ของโรงแรม ซึ่งกำลังคุยอย่างออกรสกับชายหนุ่มอีกคนที่เขารู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งเขามั่นใจว่าเมื่อตอนเขาเข้ามาไม่เห็นหรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวเท่าที่ควร เมื่อเท้าไวเท่าความคิด เขาก็พาร่างกายของตัวเองเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ทันที ทำให้โทนี่กับจอห์นที่ตามหลังมารีบเดินตามเจ้านายไปอีกคน
คนที่กำลังคุยกันอยู่อย่างสนุกสนานนั้นไม่ได้สังเกตรอบตัวว่ากำลังมีสิ่งมีชีวิตหน้าตาดีเดินเข้ามาหาคนทั้งคู่ และมาหยุดยืนอยู่ตรงด้านหลังสาวน้อยหน้าสวย
“ไอ้ภาค” ธีรเดชที่เงยหน้าขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกจ้องมอง รู้ว่าเป็นใครก็ร้องเรียก แต่เรียกเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ยิน ไม่รู้ว่ายืนเหม่ออะไรอยู่ ท่าทางเลื่อนลอยอย่างกับคนบ้า ตานี่เยิ้มเชียว หันสบตากับลูกน้องมันลูกน้องมันก็ได้แต่ส่ายหัวกันไปมา เมื่อทนไม่ไหวเขาเลยต้องลุกไปหาแล้วตบหน้าดัง
เผียะ!
“ไอ้ทรพี มือหรือตีนวะตบมาได้นะมึง” ภาคภูมิถึงกับสะดุ้ง ลูบหน้าตัวเองที่ตอนนี้คิดว่ามันคงแดงแน่ๆ เพราะแรงตบที่กระแทกหน้าเขามันแรงไม่ใช่น้อย ไอ้เพื่อนเวรตบมาได้ แล้วดูสิ ยัยตัวเล็กคนสวยนี่ก็นั่งขำเขาด้วย ฮึ่ย!
“อ้าว ไอเวรนี่ เดี๋ยวพ่อก็ถีบให้อีกหรอก กูธีรเดชไม่ใช่ทรพีแล้วเป็นห่าอะไรวะ ยืนเหม่อเหมือนหมามองเครื่องบินเลย อย่าบอกนะว่าแอบคิดอะไรกับกู อย่าเชียวนะมึง” ธีรเดชลูบแขนตัวเองไปมาอย่างขนลุก เขาไม่นิยมชมชอบเพศเดียวกัน อย่างเขาเหมาะแก่เป็นพ่อพันธ์ุมากกว่า
“ไอบ้าฉันไม่ได้ชอบไม้ป่าเดียวกัน พูดงี้เดี๋ยวกูขายไม่ออก” คำว่าขายไม่ออกเขาเน้นหนักเป็นพิเศษ และสบตากับสาวน้อยในชุดนักศึกษาที่กำลังมองมาทางเขาพอดี
“พี่ธีร์คะ พลอยขอขัดจังหวะการจีบกันของพี่แป๊บนึงนะคะ คือพลอยจะขอตัวไปเรียนก่อนน่ะค่ะ เดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน คลาสสำคัญด้วย” เธอเห็นว่าธีรเดชพูดคุยกับคนที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากพอสมควร จึงคิดที่จะพาตนเองออกไปจากตรงนี้ แล้วอีตาคนชื่อภาคอะไรนี่ก็ชอบมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
“อ่าฮะ แต่เดี๋ยวก่อนน้องพลอย พี่ลืมแนะนำเราเลย มัวแต่คุยเพลิน ภาค นี่แพรพลอย น้องสาวฉัน ลูกของคุณอาฉันน่ะ ส่วนนี่ภาคภูมิพี่ภาคเพื่อนสนิทพี่เองจ้ะ” ธีรเดชแนะนำสาวน้อยข้างกายให้กับเพื่อนสนิทได้รู้จัก เพราะทั้งสองคนยังไม่เคยเจอกันมาก่อน
เมื่อธีรเดชแนะนำแพรพลอยก็ยกมือไหว้ชายหนุ่มและส่งยิ้มน้อยๆ ให้ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชอบใจสายตาของเขาก็ตาม แต่เธอก็ไม่อยากให้พี่ชาย และเขามองตัวเองไม่ดีเลยต้องทำตามมารยาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องพลอย” เมื่อได้รับรู้ว่าคนตรงหน้ามีศักดิ์เป็นน้องของเพื่อนสนิทเขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะตอนแรกเขาคิดว่าคนตรงหน้าอาจจะเป็นเด็กของเพื่อนเขาแต่ตอนนี้รู้แล้วเขาเลยไม่ค่อยเก็บอาการ และสายตาเท่าที่ควร ชายหนุ่มใช้สายตาสำรวจสาวน้อยร่างบางจนได้ค้อนกลับมาเมื่อเจ้าตัวสบตากับเขาเข้าพอดี
“รู้จักกับเพื่อนพี่ธีร์แล้วงั้นพลอยขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวไปไม่ทันแล้วเจอกันนะคะพี่ธีร์สวัสดีค่ะ” แพรพลอยเอ่ยลากับธีรเดชและไม่ลืมที่จะลาภาคภูมิที่กำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยสายตาแพรวพราว
“แล้วเจอกันน้องรัก” ธีรเดชขยี้ผมสวยอย่างเอ็นดู
“สวัสดีค่ะคุณภาคภูมิ” แพรพลอยเอ่ยลาภาคภูมิอย่างเลี่ยงไม่ได้ก่อนที่จะรีบสาวเท้าก้าวออกไป
แม้ว่าภาคภูมิจะอยากรั้งสาวเจ้าไว้และอยากจะทำโทษที่โทษฐานเรียกเขาซะห่างเหินแต่ก็ไม่อาจทำได้จึงได้แต่มองตามร่างบอบบางไปจนลับสายตา เพราะเขายังไม่อยากทำให้ไก่ตื่นไปมากกว่านี้ แต่การกระทำของชายหนุ่มก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของลูกน้องคู่ใจที่ลอบสบตากันเป็นระยะอย่างรู้กัน
“วันนี้แกมาทำอะไรที่นี่วะไอ้ธี ไม่อยู่บริหารห้างกิ๊กก๊อกของแกแล้วเหรอ ถึงได้มีเวลามานั่งเล่นที่ห้องทำงานฉันเนี่ย” เขาแกล้งเย้าแหย่ธีรเดชให้มันยั๊วะโทษฐานที่มันกล้าตบหน้าเขาโชว์สาววันนี้
"กิ๊กก๊อกบ้านป้าแกสิ ห้างฉันมันห้างมีระดับโว้ย ที่มาวันนี้ก็แค่มานัดเจอน้องพลอย เพราะน้องฉันอยากกินเค้กของโรงแรมแก รายนั้นน่ะชอบอย่างกับอะไรดี ซึ่งฉันว่ามันก็งั้นๆ แหละ” ธีรเดชกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ
ภาคภูมิส่ายหัวอย่างขำๆ เขาแค่แกล้งแหย่เล่นจริงๆ แล้วห้างมันใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศเชียวแหละ เขาเอนหลังกับพนักพิงเก้าอี้ทำงานอย่างผ่อนคลาย ไม่ได้สนใจเอกสารที่รอการอนุมัติจากเขาอย่างเร่งด่วน ปกติเขาเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานมาก ไม่เคยวอกแวกกับเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น แต่วันนี้สติเขากระเจิดกระเจิงหมดไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น คิดถึงแต่น้องพลอยที่มองมุมไหนก็สวย ถึงแม้ตัวจะเล็กแต่ทรวดทรงองค์เอวไม่ธรรมดา แม้จะมองแค่ภายนอกแต่เขาก็รู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าภายใต้เสื้อผ้านั้นต้องมีสรีระที่งดงามแน่ๆ แต่แล้วสายตาอันเฉียบคมของเขาก็ไปสะดุดอยู่ที่โทรศัพท์เครื่องหรูของธีรเดชที่วางไว้บนโต๊ะทำงานของเขา เนื่องจากเจ้าตัวไปเข้าห้องน้ำ เมื่อคิดอะไรดีๆออกก็เอื้อมมือไปคว้ามาไว้ในมือตัวเองก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ยิ้มอะไรวะเจ้าเล่ห์ชอบกล แล้วนั่นมันโทรศัพท์ฉันนี่เอาไปทำอะไรมาภาค” ธีรเดชเดินมาทรุดนั่งหน้าโต๊ะทำงานของเพื่อนตามเดิม หลังจากลุกไปเข้าห้องน้ำมา
“ฉันแค่ยืมมาโทรเข้าเครื่องตัวเอง พอดีว่าหาของตัวเองไม่เจอสงสัยจะไม่ได้เอามา” เมื่อเห็นเพื่อนทำท่าสงสัยจึงส่งโทรศัพท์คืนเจ้าของไป
“เอ่อ แกพาน้องพลอยมาแกไม่กลัวแฟนน้องเขาเข้าใจผิด คิดว่าแกจีบเหรอวะ” เขาถามคนที่กำลังเช็คโทรศัพท์ของตัวเองอยู่ คงจะกลัวว่าเขาจะแกล้งอะไรล่ะสิ"
“ประสาท ฉันกับน้องพลอยเป็นพี่น้องกันเว้ย แล้วก็คงไม่มีใครเข้าใจผิดหรอกเพราะน้องพลอยไม่มีแฟนเข้าใจ๊”
ร่างบอบบางใบหน้าสวยหมดจดในชุดนิสิตนักศึกษากำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ได้ฟังในสิ่งที่อาจารย์ผู้สอนกำลังบรรยายแม้แต่น้อย แต่ต้องมาสะดุ้งเมื่อรู้สึกเจ็บที่บริเวณแขนจนต้องลูบแขนไปมาเพื่อบรรเทาความเจ็บ
“นี่ยัยชะนีหน้าสวย หล่อนเป็นอะไรยะ ทำหน้ายังกับยักษ์ คิ้วนี่ขมวดซะยุ่งเชียว” ซินดี้สาวสวยในร่างชายชาตรีส่งเสียงกระซิบกระซาบกับเพื่อนสาว เนื่องจากเห็นว่าแม่เพื่อนรักไม่ได้สนใจจะจดเล็กเชอร์แม้แต่น้อย ทำหน้าตาอย่างกับจะไปฆ่าใครงั้นแหละ
“แกจะหยิกฉันทำไมนังชาย เจ็บนะยะ ฉันก็แค่คิดอะไรนิดหน่อยแค่นั้นเอง” สาวสวยทำปากยื่นแล้วแว้ดใส่เพื่อนเสียงเบา เพราะไม่กล้าส่งเสียงดังรบกวนคนที่ตั้งใจเรียน แล้วหยิกหมับเข้าที่หน้าอกอย่างแรง เป็นการเอาคืน ฉันไม่ได้คิดถึงใครสักหน่อย แค่ไม่ชอบสายตาที่เพื่อนพี่ชายมองเธอต่างหาก คนอะไรไม่มีมารยาทเลย จาบจ้วงซะไม่มี เธอต่อประโยคนี้ในใจไม่ได้เอ่ยออกไปให้เพื่อนฟัง
“ว้าย อีนี่ซินดี้ย่ะ ซินดี้เรียกให้ถูกด้วยเดี๋ยวตบหน้าสั่น แล้วนี่หยิกมาได้หัวนมฉันแทบขาดเดี๋ยวแม่ยันโครมเลย” เมื่อทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้เพราะอยู่ในห้องเรียนเลยได้แต่ส่งสายตาจิกกัดไปให้คนที่นั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างๆ แทน
เห็นว่าเพื่อนไม่ได้สนใจตนเองแล้ว แพรพลอยก็กลับมาจมอยู่กับความคิดของตัวเองต่อ จะตั้งใจฟังบรรยายตอนนี้ก็คงจะไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะไม่ได้สนใจฟังตั้งแต่แรก ไว้ค่อยถามซินดี้เอา เพราะอีตานั่นคนเดียวที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ ทำสมาธิเธอหดหายหมด หวังว่าเราจะไม่ต้องเจอกันอีกนะ
She said : ฤดูหนาวหรือท้องฟ้าเหรอที่ปืนชอบอะ He said : พริกหวาน She said : ฮะ? He said : ชอบพริกหวาน Reader : Oops . หากใครกำลังมองหานิยายเนื้อเรื่องเข้มข้น เน้นหนักในเรื่องราวที่ลึกลับสลับซับซ้อน ซ่อนปม ซ่อนเงื่อน กลิ่นดราม่าโชยแรงมาแต่ไกลต้อง… ‘T h e o r y ล้ อ ม รั ก ล ะ ล า ย ใ จ’ สายหวาน พาฝัน กุ๊กกิ๊ก ละมุนละไม เบาสมอง ฟีลกู๊ด อ่านง่ายมาก ๆ อ่านแล้วอารมณ์ดี มีแต่รอยยิ้ม ไม่เชื่อลองอ่านดูสิคะ ไม่แน่ว่าอ่านแล้วคุณอาจจะตกหลุมรักปืนสุดหล่อกับพริกหวานสุดน่ารักเข้าโดยไม่รู้ตัว . “วันนี้มีดาวเคียงเดือน” “ดาวเคียงเดือน?” ผมเลิกคิ้ว เห็นท่าทางตื่นเต้นของพริกหวานจากหางตาเลยอดที่จะยิ้มเอ็นดูไม่ได้ และก่อนที่ผมจะเอ่ยปากถาม ว่าดาวเคียงเดือนที่ว่ามันคือละครหรืออะไร ริมฝีปากอวบอิ่มจิ้มลิ้ม ที่เงียบเสียงไปหลังจากแยกย้ายกับพวกไอ้เข้มที่ลานจอดรถเมื่อประมาณสิบนาทีที่แล้วก็ชิงขยับเพื่อขยายความ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เท้าผมต้องแตะเบรกเพราะข้างหน้าเป็นสัญญาณไฟแดงพอดี คันแรกที่ติดเลยกู ผมเท้าข้อศอกข้างขวาตรงประตู ตามองจ้องอยู่ที่ตุ๊กตาหน้ารถถามว่าตอนนี้อารมณ์ขุ่นมัวของผมหายไปหรือยัง คำตอบคือมันยังอยู่ แต่เจือจางลงมากแล้วล่ะ โมโหเองหายเอง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นผมโมโหแทบตาย เชื่อไหมผมตกอยู่ในอาการนั้นเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ตั้งแต่นำพาชีวิตมาคลุกคลีอยู่กับพริกหวานน้อย เธออยู่เฉย ๆ ก็สามารถ ทำผมบ้าได้ “ดาวเคียงเดือน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าพระจันทร์ยิ้มไง ปืนรู้จักใช่ไหม เมื่อกี้เค้าอ่านเจอในเฟซบุ๊ก บอกว่าค่ำวันนี้จะมี เค้าอยากดูมากกกก” ผมพยักหน้า ร้องอ๋อ แล้วเอนตัวไปข้างหน้ามองดูท้องฟ้าที่เริ่มถูกความมืดกลืนกินด้วยความสนใจ “แล้วเราจะเห็นปรากฏการณ์นั้นได้ตอนกี่โมงอะดื้อ” ดาวเคียงเดือนคือปรากฏการณ์ที่ดาวศุกร์ ดาวพฤหัสบดี และดวงจันทร์โคจรเข้ามาใกล้กัน โดยดวงจันทร์จะหงายอยู่ด้านล่างของดาวอีกสองดวง สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สาเหตุที่เรียกว่าพระจันทร์ยิ้มก็เพราะมีลักษณะคล้ายใบหน้าคนกำลังยิ้ม จำได้เพราะเคยอ่านมา “ตามที่ข่าวบอก เราจะเห็นกันช่วงหัวค่ำ กินเวลาไม่นาน” “งั้นก็ต้องจับตาดูให้ดี” “ใช่ แต่ปืนจ๋า ช่วยพาเค้าไปส่งที่หอเลยได้ไหมอะ เค้าไม่อยากแวะที่ไหนอีกแล้ว” เสียงอ้อนอ่อนหวานเรียกปืนจ๋าของสาวตาใสแจ๋วและปากจู๋ ๆ ของเธอเรียกรอยยิ้มจากผม อดใจไม่ไหวต้องยื่นมือออกไปประคองซีกแก้มเนียนนุ่มไม่ต่างจากผิวเด็กทารกแรกเกิด ผมเกลี่ยคลึงเบา ๆ ด้วยปลายนิ้วหัวแม่มือ เล่นนุ่มนิ่มซะขนาดนี้จะไม่ให้อยากทะนุถนอมได้ยังไง “แต่ปืนยังไม่อยากแยกกับดื้อเลยทำไงดีล่ะ” ผมพูดเสียงเบา ก้มหน้าลงไล้ปลายจมูกเชิดรั้นอย่างหยอกล้อ ขณะเดียวกันก็ซึมซับกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างบางไปด้วย พอได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันผมก็เกิดความโลภ อยากยืดเวลาออกไปอีก อยู่กับเพื่อนถึงตอนต้องแยกคือแยก ไม่มีความอาลัยอะไรหรอก แต่กับผู้หญิงคนนี้ผมดันอยากให้เวลา มีมากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่ต้องพูดคุยอะไรกันก็ได้ ขอแค่นั่งมอง นอนมอง #ดื้อของปืน
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลังจากแต่งงานมาสามปี ฮั่วเป่ยอวี๋ไม่เพียงแต่เย็นชากับเสิ่นเจียงหนานเท่านั้น แต่ยังคบชู้ ทำให้เสิ่นเจียงหนานผิดหวังมาก เขาก็แค่ชายเจ้าชู้นี่เอง หลังจากหย่ากันอย่างเด็ดขาด เธอก็มุ่งหน้าไปทำงาน ในฐานะนักออกแบบชั้นนำ แพทย์ผู้อัศจรรย์ และแฮ็กเกอร์เก่งๆ เธอเชี่ยวชาญหลายๆ ด้านและกลายเป็นเจ้าหญิงที่ทุกคนชื่นชมและเป็นที่ต้องการ ในที่สุด ฮั่วเป่ยอวี๋ก็ตระหนักถึงสิ่งที่เขาสูญเสียไปและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะใจเธอ แต่เขากลับเห็นเธอจัดงานแต่งงานแห่งศตวรรษร่วมกับชายอีกคน เมื่องานแต่งงานของคนสองคนถูกถ่ายทอดสดบนป้ายโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก-- เผ๋ยเหยียนหลี่สวมแหวนให้เธอ และประกาศให้โลกได้รับรู้อย่างท่วมท้น "เสิ่นเจียงหนานเป็นภรรยาของผมและเธอเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับผม ใครกล้ามาแตะต้อง ต้องเจดีแน่!"
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
เพลิงกัลป์ / Ryuu ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ในคราบคุณหมอ หล่อ เลว เถื่อน ร้ายกับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งกับ เธอ "กฎของการเป็นของเล่นคือห้ามรักเขา" ลูกพีช รินรดา สวย เซ็กซี่ สดใส ร่าเริง ปากร้าย กล้าได้กล้าเสีย สายอ่อยตัวแม่ "ของเล่นที่มีหัวใจของผู้ชายที่ไร้หัวใจ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด