“เธอมันก็แค่นางบำเรอขัดดอก อย่าบีบน้ำตาเรียกราคาให้มากหน่อยเลย" ครั้งหนึ่งคนพูดเคยเป็นสุภาพบุรุษแต่ความผิดหวังทำให้เขากลายเป็นเสือที่พร้อมจะขย้ำเหยื่ออย่างเธอ” ชายหนุ่มซุกหน้าลงกับคอยาวระหงของหญิงสาว เขาซุกไซร้มันอย่างรุนแรงรุกขึ้นจากข้างเตียง ขึ้นมาคร่อมคนร่างบางไว้ หญิงสาวที่กำลังตกใจตื่นกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น พยายามกลั้นเสียงร้องไห้ที่มันดังอยู่ข้างในหัวใจ แต่มันก็สุดที่จะกลั้นมันไว้จริงๆ
บทที่1
หัวใจที่แตกสลาย
“ผมยังไม่มีจริงๆ ครับ ถ้าหาได้เมื่อไหร่ ผมจะรีบเอามาใช้ให้เลย” ชายวัยกลางคนพนมมือไหว้ชายหนุ่มรุ่นลูก
“ก็พูดแบบนี้ทุกราย ไม่มีปัญญาใช้หนี้ แต่! เสือกมีปัญญาลงขันจ้างมือปืนมายิงพ่อกู” คนพูดชี้หน้า จ้องตาแบบหมายจะเอาถึงชีวิต
“ผมไม่เกี่ยว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมเลย ท่านมีพระคุณ เมตตาผมมาตั้งหลายครั้ง ผมจะทำกับผู้มีพระคุณแบบนั้นได้อย่างไรกัน” คนพูดมือไม้สั่นรนราน
“ก็ถ้ามึงไม่เกี่ยว แล้วใครเกี่ยว พ่อกูใจดีกับพวกมึง ไม่มีเงิน ก็ให้กู้ แต่พวกมึงเสือกไปเล่นเสียกันเอง ยืมแล้วมันก็ต้องใช้ พอทวงพวกมึงก็หาว่าใจร้าย มึงอย่านึกว่ากูโง่นะ”
เท้าใหญ่ถีบเก็าอี้ที่อยู่ใกล้ๆชายที่ยืนพนมมือด้วยความกลัว กลิ้งระเนะนาด เสียงดังโครมคราม คนข้างนอกห้องที่กำลังมุ่งมั่นกับการพนันต่างพากันหันมาดู
“ถ้าภายในหนึ่งเดือนมึงหาต้นมาคืนกูไม่ได้ มึงก็เอาลูกสาวคนสวยของมึง มาเป็นนางบำเรอขัดดอกกูแล้วกัน ” รอยยิ้มแบบสะใจปรากฏบนใบหน้าที่ดุร้ายของคนพูด
“เอ่อ....” ลูกหนี้รุ่นพ่อพูดไม่ออก
“ถ้าทำไม่ได้ มึงก็บอกลูกสาวคนสวยของมึง ให้เตรียมทำศพพ่อมันได้เลย”
“ครับๆ คุณติณห์ ผมจะหาเงินมาคืนให้ได้ครับ” ทัตเทพยกมือไหว้ท่วมหัว ก่อนรีบร้อนเดินออกไป อย่างรนราน
ตั้งแต่กิตต์ขจร พ่อของติณห์ ถูกพวกลูกหนี้ในบ่อน ลงขันกันจ้างมือปืนมายิง เขาก็กลายเป็นอัมพฤกษ์ส่วนล่าง ลูกชายคนเดียวของเขา จากที่เคยตั้งใจว่าจะไม่เข้ามายุ่งกับธุรกิจมืดของบิดา แต่ด้วยความแค้น ติณห์จึงลงมาดูแอย่างเต็มตัว
ชายหนุ่มที่สุขุม ใจเย็น กลับกลายเป็นเสือร้าย ที่พร้อมจะจัดการทุกคน ที่เขาคิดว่าอยู่เบื้องหลังความพิการของบิดา และทัตเทพก็คือหนึ่งในนั้น ในเมื่อทางการหาตัวคนผิดมารับกรรมไม่ได้ ชายหนุ่มตั้งใจจะเป็นคนพาพวกมันทุกคนไปใช้กรรมในนรกเอง
“ถึงคิวมันแล้วไอ้ทัตเทพ” ติณห์หันไปสบตากับลูกน้องคนสนิทของบิดา
“ต้องเอาให้สาสม” ฤทธิ์สำทับเจ้านาย
“กลับมาแล้วเหรอคะ วันนี้ไปหาลูกหาเมียคุณมาหรือยังล่ะ” เกสรายืนรอทัตเทพผู้เป็นสามีอย่างร้อนใจ
“คุณพูดเรื่องอะไร ผมทำงานกับมาเหนื่อยๆ อย่ามาหาเรื่องกันได้ไหม” คนเพิ่งมาถึงทำท่าทางหงุดหงิดใส่
“ก็แม่แก็วตา กับลูกสาวมัน ลูกคุณใช่ไหม” เกสราเดินตามไปที่บันไดขึ้นชั้นสอง
“เป็นบ้าไปแล้วหรือไง พูดอะไร น่ารำคาญที่สุด เพราะคุณเป็นแบบนี้ผมถึงไม่อยากกลับบ้าน ดูสภาพตัวเองในกระจกบ้างนะ เหมือนผีขึ้นไปทุกวัน”
“ลงมาคุยกันให้รู้เรื่อง ” เกสราดึงทัตเทพที่กำลังเดินขึ้นบันได ให้ลงมาคุยให้รู้เรื่อง จนชายวัยกลางคนเดินโซซัดโซเซ เหมือนจะล้ม
“อีบ้า จะบ้าก็บ้าไปคนเดียว เดี๋ยวไปเอง”
“คุณจะไปหาอีแก็วตาใช่ไหม วันนี้ลูกเมียคุณมันพากันมาที่นี่ มันมาแสดงตัว เพื่อให้ฉันรับผิดชอบในสิ่งที่คุณสร้างขึ้น คุณอยู่กับมันมาเกือบสิบปี ฉันเป็นควายให้คุณหลอกมานานขนาดนี้ คุณมันเลว เลวเหมือนสัตว์”
เพี้ย! !
ทัตเทพหมดความอดทน มือหนาตบเข้าอย่างแรงจนใบหน้าของเกสราหันตามแรงมือ เลือดที่หยดอยู่มุมปาก บอกได้ถึงความเจ็บที่เธอได้รับ
“คุณตบฉัน” กัดฟัน กำมือแน่น ด้วยความแค้น ที่ถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้าย
“ใช่กูมันเลว แก็วตาเขาเป็นเมียกู และนั่นก็ลูกกู มึงอยู่กับกูมากี่ปี มึงก็ไม่เคยยอมท้อง ใช้ให้กูเลี้ยงลูกไอ้พ่อไม่เอา มึงนึกว่ากูมความสุขนักเหรอ ถ้ามึงรับไม่ได้ มึงก็ไปตายซะ”
ก่อนกลับบ้าน เขาก็เพิ่งโดนเล่นงานจนหมดศักดิ์ศรี หวังจะได้มาพัก คิดหาทางออกที่บ้าน กลับต้องมาโดนเมียด่า เพราะรู้ความจริง ที่เขามีเมียอีกคนและอยู่ด้วยกันมานานเป็นสิบปี จนมีลุก ทัตเทพทนไม่ไหวแล้ว เขาขับรถออกมา คืนนี้คงต้องหาโรงแรมนอนพักใจสักคืน
เมื่อความรักมันบังตาอารมณ์หึงก็เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเพียงค่ำคืนเดียวที่กวีท่านประธานหนุ่มมองเห็นนักศึกษาฝึกงานที่เขาหลงรักเดินเคียงคู่มากับชายอื่นเขาก็ตัดสินใจมอบความเป็นสามีให้เธอ บัวชมพูอยากจะหนีไปให้ไกลจากคนใจร้าย...แต่เขาดีกับเธอทุกอย่างหนี้บุญคุณครั้งนี้เธอคงไม่มีทางตอบแทนได้หมด ความรักเริ่มก่อตัวขึ้นแต่ทุกอย่างกลับต้องพังลงเมื่อความจริงบางอย่างปรากฏในวันเดียวกับที่เธอรู้ตัวว่ากำลังอุ้มท้องสายเลือดของท่านประธานอยู่ V V V “กล้าทำแบบนี้ในที่ทำงานไม่กลัวว่าใครจะเห็นแล้วเอาไปฟ้องคุณแม่และผู้หญิงที่มากับท่านวันนั้นหรือคะ” บัวชมพูมองจ้องหน้าแบบท้าทายในเมื่อวันนี้เขาดูถูกเธอ กล่าวหาว่าเธอกำลังนอกใจไปมีคนอื่น หญิงสาวก็อยากจะแสดงให้เขารู้เหมือนกันว่าเขาเองก็ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าเธอ “ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้นไม่ว่าผมจะนอนกับใครมันก็สิทธิ์ของผม ใครอยู่ได้ก็อยู่ ใครอยู่ไม่ได้ก็ไปแต่สำหรับคุณ..อย่าลืมที่คุณเคยบอกว่าอยากตอบแทนในสิ่งที่ผมทำให้ถ้าอยากเป็นคนอกตัญญูก็แค่เก็บเสื้อผ้าแล้วไปจากผมก็เท่านั้น” กวีรู้ดีว่าคำขู่นี้ยังได้ผลเพราะครอบครัวของบัวชมพูยังคงต้องการความช่วยเหลือจากเขาซึ่งนับจากวันนั้นวันที่กวีเดินทางไปเยี่ยมแม่ของหญิงสาวที่บ้าน พ่อของบัวชมพูก็พูดคุยติดต่อธุระกับกวีด้วยตัวเองโดยที่ไม่ผ่านลูกสาวอีกเลยบัวชมพูอยากจะห้ามพ่อ แต่เธอก็ไม่รู้จะใช้เหตุผลข้อไหนจึงทำได้แค่ใช้ร่างกายและหัวใจของตัวเองในการตอบแทนทุกอย่างที่กวีทำให้กับครอบครัวของเธอ V v
ภูริดล นักธุรกิจหนุ่ม เขาทำทุกอย่างไม่เคยมีคำว่าไม่สำเร็จยกเว้นเรื่องเดียวคือการมีครอบครัวที่มีความสุขตามที่บิดาต้องการเพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนา พิรฎา สาวน้อยที่ต้องการมีชีวิตอิสระหลุดพ้นจากครอบครัวที่เธอไม่เคยมองว่ามันอบอุ่นและเธอก็ตัดสินใจเดินออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการยอมเซ็นสัญญาเป็นภรรยารับจ้าง *************** “ปิดไฟได้แล้ว” คนหล่อร่างใหญ่กึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาเจ้าชู้จนคนถูกมองถึงกับอายต้องหลบสายตาทันที “คุณง่วงก็นอนไปก่อนเลยฉันยังไม่ง่วงว่าจะนั่งทำอะไรเพลินๆ” หญิงสาวพยายามหาเรื่องมาถ่วงเวลาเพราะเธอรู้ว่าหลังจากที่ไฟในห้องถูกปิดลงทุกดวงอะไรจะเกิดขึ้นและถึงเวลานั้นเธอก็คงทำได้แค่เพียงยอมเขาเท่านั้น “ปล่อยค่ะคุณดล พิมพ์ว่าเราอย่าเพิ่ง...” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจเมื่อถูกอีกฝ่ายลุกขึ้นจากเตียงนอนมาอุ้มร่างของเธอและโยนลงบนที่นอนก่อนที่เขาจะเอาตัวเองมาค่อมร่างเล็กของเธอไว้พร้อมกับขึงมือทั้งสองข้างของเธอไว้เหนือศีรษะ ******************* “สัญญามันควรจะจบในเมื่อคุณก็ได้ฉันเป็นเมียแล้ว” หญิงสาวในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าเบาหวิวกำลังยื้อแย่งกระดาษสัญญาจากมือของชายหนุ่มที่นุ่งเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “เด็กก็คือเด็กตอนที่เซ็นไม่เคยคิดจะอ่านทุกอย่างให้ละเอียดอยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมสัญญาฉบับนี้ยังต้องมีต่อไป เอาไปอ่าน อ่านให้ดีและหวังว่าจะตาสว่างขึ้นอย่าโวยวายอะไรในสิ่งที่ตัวเองเซ็นไปแล้ว” พิรฎารีบรับสัญญาจากมือของอีกฝ่ายมาอย่างรีบรอน หญิงสาวกวาดสายตาอ่านอย่างละเอียดหัวใจของเธอแทบจะหลุดลงมากองอยู่ที่พื้นเมื่อความจริงคือนอกจากเธอจะต้องเป็นภรรยารับจ้างของเขาแล้วเธอยังจะต้องอุ้มท้องและคลอดลูกของเขาให้สำเร็จสัญญาฉบับนี้ถึงจะเป็นอันสิ้นสุดโดยที่ตัวเธอเองจะไม่มีสิทธิ์ใดๆในตัวเด็กน้อยที่เกิดมา *************************** ความรักเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้มารู้อีกที อีกฝ่ายก็ท้องแล้วทำไงดีล่ะทีนี้ในเมื่อไม่มีใครอยากให้สัญญาสิ้นสุดอยากให้ทุกอย่างเป็นไปแบบนี้ตลอดชีวิตแต่ความจริงบางอย่างที่ภูริดลไม่เคยได้รับรู้มันทำให้ชายหนุ่มเริ่มไม่แน่ใจว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันหญิงสาวที่เขานอนกอดทุกคืนมีอะไรบ้างที่เธอโกหกและอะไรบ้างที่เป็นความจริง ฝากติดตามความรักของชายจอมดุกับสาวจอมเถียงด้วยนะคะ เช้าตรู่ฤดูหนาว
เขาต้องการมีลูกแต่ไม่ต้องการมีครอบครัว การมีภรรยาเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับเขา ความรักนำมาแต่ความทุกข์ และไม่เคยทำให้ใครได้รู้จักความสุขที่แท้จริง ภาคินถูกมารดาใส่ความคิดนี้มาตั้งแต่วัยเยาว์ เพราะพ่อของเขาทิ้งครอบครัวไปแต่งงานใหม่ทำให้แม่ต้องสู้ทนเลี้ยงเขามาด้วยความลำบาก แต่…. วันนี้มารดาของเขากลับยื่นคำขาดต้องการทายาทสืบสกุลด้วยอาการป่วยของผกาทำให้เธอตัดสินใจให้ลูกชายเร่งผลิตทายาทให้ได้ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป แล้ว.. ขนมผิงสาวน้อยตกงานเธอไม่มีทางเลือกเท่าไหร่เพราะพ่อของเธอกำลังป่วยหนักต้องการใช้เงินในการรักษาเธอจึงยอมเซ็นสัญญาทั้งที่มันสุดแสนจะเจ็บปวดหัวใจ ***เป็นแม่ของลูกให้เขาที่ไม่ใช่ภรรยาและไม่มีสิทธิ์เป็นกระทั่งคนรัก*** */* รักหวาน ๆ โรแมนติกกับบรรยากาศของสะปันฝากติดตามกันด้วยนะคะ*/* .....เทพพิสุทธิ์...
**กินเด็กเขาว่าอมตะ** เธอหนีจากไฟที่แผดเผามาซบอกกว้างที่แสนอบอุ่น ความรักที่เกิดขึ้นตั้งแต่ค่ำคืนแรก ทุกอย่างมันควรจะจบลงแค่นั้น.....ทว่าสัมผัสรักที่ทั้งคู่มอบให้แก่กันมันมีความสุขเกินกว่าจะตัดใจ ********* “อืม...แดน” ใบหน้าที่คมภายใต้ผิวขาวค่อย ๆ ใช้ปลายลิ้นเลื่อนต่ำลงมาก่อนที่เขาจะจัดการกับเสื้อตัวบางที่ขวางกั้นเส้นทางที่เขาจะได้ใช้สองมือสัมผัสกับเนื้อนุ่มของอกอิ่มของหญิงสาวที่กำลังนอนหลับตาพริ้มในที่สุดอาภรณ์ทั้งส่วนบนและส่วนล่างก็ถูกถอดกองไว้ข้าง ๆ ก่อนที่แดนไตรจะสาละวนกับยอดที่ชูช่อแข็งตั้งรับสัมผัสของลิ้นอุ่นแสนหวานของเขา */* */* */* ความรักครั้งใหม่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะเดินออกจากความเจ็บปวด.....ทุกอย่างกำลังจะลงเอยด้วยดี...ถ้าชายหนุ่มที่เธอหวังให้เป็นที่พักใจสุดท้ายเขาไม่ใช่ลูกชายของศัตรูอดีตสามีเธอ จบ Happy นะคะ ปะหนัน
ชายคนเก่าในร่างใหม่ เขากลับมาเพื่อลองใจเธอ การพิสูจน์หัวใจของหญิงสาวมันอาจเป็นการมองหารักแท้สำหรับปองภพ แต่สำหรับดาวิกามันคือความหลอกลวงและทำร้ายหัวใจของคนที่รอเขามาถึง5 ปี ************** “สาแก่ใจแล้วหรือยังกับแผนการพิสูจน์รักแท้ของพี่ แต่สำหรับดามันคือการดูถูก ถึงดาจะจนแต่ก็ไม่ได้กระหายความรวยจนลืมฟังเสียงหัวใจ เสียแรงที่รู้จักกันมาเกือบสิบปี พี่มันก็แค่ผู้ชายที่รักแต่ตัวเอง” ปองภพยืนฟังดาวิกาต่อว่าเขาจนจบ เขายอมรับทุกคำด่าทอของหญิงสาว “ใช่พี่เห็นแก่ตัว พี่คิดแต่ในมุมของตัวเอง ถูกแล้วที่ดาจะโกรธพี่แต่ขอร้องอย่าเกลียดพี่ได้ไหม พี่พร้อมจะทำตามข้อเสนอของดาทุกอย่างที่พูดบนเวที แล้วเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าผู้ชายคนนี้ใช่พี่ภพคนเดิมไหม” หญิงสาวกำมือแน่น มองสบตาคนรักด้วยดวงตาที่แดงกร่ำ น้ำใส ๆ ไหลคลอตาแต่หญิงแกร่งอย่างดาวิกาไม่มีทางร้องไห้ต่อหน้าใครแน่ ๆ “โอกาสมีแค่ครั้งเดียว ถ้าทำมันไม่ได้ ก็อย่าใช้คำว่าขอโทษเลย เพราะมันคงไม่ใช่ความพลั้งพลาดแต่มันคงเป็นสันดานลึก ๆ ที่เพิ่งแสดงออกมา” ***เมื่อได้รับโอกาส ก็อยู่ที่ตัวเองแล้ว ว่าจะรักษามันไว้หรือปล่อยรักให้หลุดมือไป**** /*/ความเผ็ดเราก็มี ความหวานเราก็เยอะ ฝากผลงานของปะหนันด้วยนะคะ/*/
เหมันต์เจ้าของไร่ชาที่รักในชีวิตโสดเป็นที่สุดแต่กลับดันมามีใจให้กับลูกสาวเพื่อนแม่ ที่รักการทำขนมมากที่สุดในชีวิต แต่เขาก็เลือกที่จะปากแข็งและทำทุกอย่างตรงข้ามหัวใจ ******************************************** ความรักที่ไม่ชัดเจน ก็ไม่มีค่าพอที่รั้งอีกฝ่ายให้อยู่ได้ ถ้ารักเป็นเพียงแค่คำพูดแต่มันไม่เคยถูกแสดงผ่านการกระทำ ***************** “เอาไงเอากันวะ ต้องคุยให้รู้เรื่อง ดูสิถ้าเป็นผัวเมียกันแล้วจะกล้าไปไหนอีกไหม” ห้องนอนที่ปิดไม่สนิทอยู่แล้ว ถูกดันให้เปิดออกกว้างด้วยแรงของชายหนุ่มที่กำลังหึงขึ้นหน้า “ตกลงจะไปจริง ๆ ใช่ไหม” เหมันต์อยู่ดี ๆ ก็ถามคำถามที่คนฟังยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะทิพย์นารียังไม่ได้พูดเรื่องนี้กับลุลา หญิงสาวหันมามองหน้าคนถามลับหันกลับไปนั่งพับผ้าต่อ ยิ่งสร้างอารมณ์ความโกรธให้กับเหมันต์ให้รุนแรงขึ้น ร่างหนาโถมเข้าใส่คนร่างเล็กที่กำลังนั่งพับผ้าโดยไม่รู้ตัวว่าจะโดนอีกฝ่ายทำรุนแรงใส่ เหมันต์จัดการผลักร่างบางนอนลงกับเตียงนอน โดยที่ตัวเขาเองลืมไปเลยว่าประตูห้องยังปิดไม่สนิท ลุลาได้แต่พยายามใช้มือปัดป้องตัวเองจากการบุรุก โดยที่เธอยังคงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น อยู่ดี ๆ ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ทำท่าโมโหและทำกับเธอแบบนี้ เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกดึงออกจากกันกระดุมทุกเม็ดหลุดออกจากตัวเสื้อ กางเกงขาสั้นถูกถอดโดยง่ายทั้งที่เจ้าตัวก็ขัดขืนเต็มกำลัง ชายหนุ่มซุกไซ้ซอกคอยาว สองมือจับมือของลุลาขึงไว้กับที่นอน เมื่อปากหนาสัมผัสกับเรือนร่างของหญิงสาว ลุลาก็เป็นเหมือนเทียนที่ถูกไปแล้วหลอมละลาย เสียงของคนไม่เต็มใจดังจนทิพย์นารีต้องเดินออกจากห้องมาดู แต่ตอนนั้นคนตัวเล็กก็อ่อนระทวยไปหมดแล้ว คนเป็นแม่ที่เคยผ่านรสชาติแบบนี้มาก่อนแล้ว ทำได้แค่ปิดประตูให้สนิทด้วยเสียงที่เบาที่สุด ***หากเปรียบฉากรักของทั้งคู่เป็นเหมือนภาพยนตร์ ก็คงเป็นหนังสงครามที่ยิงกันได้ทั้งวัน***
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ