“เดี๋ยวพลอยไปเอาเสื้อผ้ามาให้พี่แล้วกันค่ะ” เขาทำท่าจะตามมา เธอเลยรีบปรามเอาไว้ “พี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องพลอยดีกว่า ยืนรอตรงนี้มันหนาว” “ไม่ได้ค่ะ” “กลัวพี่เหรอ” “กลัวค่ะ” เธอตอบตามตรง จะไปอวดดีว่าไม่กลัวเขา เดี๋ยวก็เจอดีเข้าหรอก “พี่ไม่ทำอะไรหรอก ถ้าพลอยไม่ยอม” “แน่ใช่ไหม” เธอพูดอย่างไม่ไว้ใจ “แน่ครับ” เขาเอานิ้วไปเกี่ยวไว้ทางด้านหลัง ก่อนจะฉีกยิ้มให้เธออย่างบริสุทธิ์ใจ “พลอยไม่ไว้ใจพี่เจตน์หรอกค่ะ พี่น่ะเสือผู้หญิง รออยู่นี่แหละค่ะ พลอยจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้” เธอรีบตัดบท ไม่ยอมใจอ่อนง่าย ๆ พลอยไพลินเปิดตู้เสื้อผ้าและหยิบชุดให้เขา พอหันมาก็ต้องสะดุ้ง “อุ๊ย! พี่เจตน์เข้ามาตอนไหนคะ พลอยบอกว่าให้รออยู่ข้างนอกไง” “ห้องน้องพลอยเรียบร้อยจังเลยครับ หอมด้วย” เขาได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากห้องนอนของเธอ “ชุดพี่เจตน์ค่ะ” เธอยื่นให้เขา เขาก็รับมาถือเอาไว้ “ชุดน้องพลอยหอมจังเลยครับ” เจตน์ยกขึ้นมาดม ก่อนจะยิ้มหวานให้เธอ “เวลาพี่เจตน์จีบผู้หญิงก็ใช้มุขนี้เหรอคะ” “พี่ไม่เคยจีบผู้หญิง” “จะบอกว่าผู้หญิงวิ่งเข้าหาพี่เองเหรอคะ” “น้องพลอยเห็นยังไงก็อย่างนั้นแหละ” “...” เธอเงียบไม่ได้ตอบโต้ “หึงพี่เหรอ” เขาเดินเข้าหา ก่อนจะใช้มือดันไปที่ตู้เสื้อผ้า ทำให้เธอตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา “ใครจะไปหึงพี่กันล่ะคะ” “น้องพลอยก็เปียกไปหมดแล้ว เปลี่ยนชุดพร้อมพี่ไหม” “อุ๊ย! อย่ามาลามกกับพลอยนะคะ” เธอยกขึ้นกอดอกเมื่อเขาหลุบสายตามองต่ำลง “ยังไม่ตอบเลยว่าหึงพี่เหรอ” เขาขยับเข้าไปใกล้ พลางกระซิบถามตรงริมหู ลมหายใจร้อนแรงของเขาเป่ารดอยู่ตรงพวงแก้มหอมกรุ่น “ไม่ได้หึงค่ะ” เธอตอบเขาออกไป ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด การใกล้ชิดกับผู้ชายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหลือร้ายแบบเขา ทำให้เธอใจสั่น พยายามจะอยู่ให้ไกลจากเขา เพราะรู้ว่าหัวใจตัวเองคงทานทนไม่ไหว แต่ก็เผลอเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาในชีวิตอยู่ร่ำไป “อย่าค่ะ” เธอดันใบหน้าของเขาออกห่าง เมื่อเขาทำท่าจะก้มลงมาประทับริมฝีปากกับกลีบปากหวานฉ่ำของเธอ
เสียงผิวปากระหว่างเดินทางไปยังตึกเรียนทำให้พลอยไพลินกอดหนังสือเอาไว้แน่น พยายามหลีกเลี่ยงจากรุ่นพี่ที่ชอบแซวเธอเสียเหลือเกิน
“จะรีบไปไหนจ๊ะน้องพลอยคนสวย วันนี้เดินคนเดียวเหรอจ๊ะ” หนุ่มทั้งแก๊งที่ชอบแซวสาว ๆ ในมหาวิทยาลัยรีบกระโดดมาขวางหน้าของพลอยไพลินเอาไว้
“หลีกไปนะ” พลอยไพลินถอยหนี ขยับแว่นตาไปมา ท่าทีรังเกียจของเธอทำให้หนุ่ม ๆ ถึงกับอยากแกล้งต่อ
พลอยไพลินเป็นเด็กเรียน ดูเชย ๆ แต่มีหนุ่ม ๆ เคยเห็นเธอถอดแว่นตาหนาเตอะออกจากใบหน้าแล้ว สวยจับจิตจับใจเสียเหลือเกิน นั่นทำให้หลายคนอยากตามมาวอแว
“น้องพลอยบอกว่าหลีกไปว่ะพวกเรา” คนพูดหันไปหัวเราะ แต่ก่อนที่จะยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าเนียนของพลอยไพลิน มือหนาของใครบางคนก็กระชากออกไปเสียก่อน
“เฮ้ย!ไอ้เจตน์ เสือกอะไรด้วยวะ”
“เสือกไม่เสือก มึงอยากเจอกับกูไหม” เจตน์มองอย่างเอาเรื่อง ใคร ๆ ก็รู้ว่าเจตน์เป็นขาใหญ่ประจำมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนี้ ไม่มีใครกล้าจะมีเรื่องด้วย
“จะจีบน้องแว่นเองก็ไม่บอก ไม่ยุ่งก็ได้วะ” คนพูดสะบัดมือไปมาเพราะโดนเจตน์บีบจนเจ็บไปหมด ไม่กล้างัดข้อกับคนหน้าดุ แถมยังเป็นนักเลงหัวไม้แบบเจตน์อีก
“คิดยังไงถึงเดินผ่านทางนี้ ก็รู้ว่าจะโดนแซวหรืออยากให้โดนแซว” เจตน์เอ่ยถาม แต่พลอยไพลินไม่คิดจะตอบโต้กับเขา เธอเดินผ่านเขาไปเหมือนเป็นอากาศธาตุ
“นี่พี่พูดกับเธออยู่นะ” เขาตามมากระชากข้อมือของเธอเอาไว้
“โอ๊ย! เจ็บนะคะพี่เจตน์ นี่ปล่อยนะ” ท่าทีรังเกียจของเธอทำให้เขาสบถยาวเหยียด
“หยาบคาย” เธอถูกจับผู้ใหญ่หมั้นกันแต่เล็ก บ้านเขาเป็นมาเฟียใหญ่ ทำธุรกิจสีเทามากมาย ในขณะที่เธอเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง อยู่ในสวนกับคุณยาย ใช้ชีวิตเรียบง่ายและสงบ
พ่อของเธอเคยเป็นลูกน้องเก่าของพ่อเจตน์ ท่านเอ็นดูเธอเลยขอหมั้นหมายเอาไว้ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นจิรศักดิ์คิดอะไรอยู่ แต่เธอไม่ปรารถนาจะเกี่ยวดองกับครอบครัวเจตน์ตั้งแต่แรก
เขาร้ายกาจ ฟันผู้หญิงแล้วทิ้ง สาวๆ ในมหาวิทยาลัยน้ำตาเช็ดหัวเข่าเพราะเขาด้วยกันทั้งนั้น
“รังเกียจพี่นักหรือไง” มีแต่สาว ๆ อยากได้เขากันทั้งนั้น ก็มีแต่เธอนี่แหละที่รังเกียจเขาเสียนักหนา
ทั้งเสียหน้า ทั้งอยากเอาชนะ และใจเขาก็บอกว่าพลอยไพลินคือคู่หมั้นของเขา เขาไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่
“ปล่อยพลอยนะคะ พลอยจะรีบไปเรียน” เธอพยายามดึงข้อมือออกจากการเกาะกุม แต่เขาไม่ยอมปล่อย
เธอทำเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด เวลาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นเขาโคตรมั่นใจ แต่เวลาอยู่กับพลอยไพลินเขาโคตรเสียความมั่นใจ เธอห้ามนักหนาว่าไม่ให้เขาบอกใครว่าเป็นคู่หมั้นกัน
เธออายที่จะมีคู่หมั้นแบบเขา ในขณะที่เขาโคตรเสียหน้าชะมัด
“อยากไปเรียนมากกว่าคุยกับพี่อย่างนั้นเหรอ”
“เป็นวิชาสำคัญ ถ้าพี่เจตน์ไม่มีอะไร พลอยขอตัวก่อนนะคะ” เขาไม่ยอมปล่อยเธอเลยต้องใช้ไม้อ่อน พูดดีกับเขา
“พี่ไม่มีคาบเรียนอยากออกไปหาอะไรกินหน่อย”
“แล้วไงคะ” เธอพูดอย่างเย็นชา
“หิวข้าว ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยง ไปด้วยกันสิ” เขาเช็กแล้วว่าเธอไม่มีคาบเรียน เธอแค่อ้างจะหนีเขาเท่านั้น
“พลอยไม่ไป ว้าย! พี่เจตน์ ปล่อยพลอยไปนะ” เธอทุบแผ่นหลังเขาระรัว แต่เจตน์ไม่คิดจะสนใจ เขาแบกเธอขึ้นบ่า ก่อนจะยัดเธอใส่รถคันงามและล็อกประตูอย่างแน่นหนา
“ปล่อยพลอยไปนะคะ พลอยไม่อยากไปกับพี่เจตน์” เธอขยาดกับสาว ๆ ที่คลั่งไคล้เขา เพราะเพิ่งโดนรุมตบหาว่าอ่อยเขาไปหยก ๆ เธอเข็ดขยาดจริง ๆ
“ไม่อยากไปก็ยิ่งต้องไป เธอก็รู้ว่าพี่อยากเอาชนะ”
“พลอยไม่อยากโดนรุมตบอีก” เธอพูดอย่างอ่อนใจ
“พี่จัดการพวกนั้นให้แล้ว”
“พี่เจตน์ก็มีผู้หญิงมากมาย ล้อมหน้าล้อมหลัง เลิกยุ่งกับพลอยเถอะค่ะ”
“เธอเป็นคู่หมั้นของพี่”
“เราถอนหมั้นกันก็ได้นี่คะ พี่ให้เหตุผลพ่อพี่ไปว่าพี่เองก็ไม่อยากหมั้นกับพลอย คุณลุงรักพี่มากเพราะเป็นลูกชายคนเล็ก ยังไงก็ต้องยอมยกเลิกแน่ ๆ อีกอย่างพี่ก็รวยขนาดนี้ คงมีผู้หญิงสวย ๆ รวยๆ เหมาะสมคู่ควรกับพี่เยอะแยะ” พลอยไพลินหว่านล้อม
“พูดเหมือนเล่นขายของ ไม่ใช่เด็กอมมือเสียหน่อย หมั้นกันแล้วใช่จะเลิกกันง่าย ๆ”
“พลอยไม่ชอบใช้ผู้ชายร่วมกับใคร” เธอแสดงสีหน้ารังเกียจเขาอย่างเห็นได้ชัด
“พี่เป็นของเธอคนเดียว เธอไม่ต้องใช้พี่ร่วมกับใคร”
“พลอยกลัวติดโรค พี่สำส่อนฟาดผู้หญิงไปทั่วมหาวิทยาลัย พลอยไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ พลอยโคตรเกลียด”
“พี่ไม่ได้เป็นโรคติดต่อนะ” เขากัดกรามแน่น พูดอย่างหงุดหงิดที่เธอแสดงออกว่ารังเกียจขนาดนี้
“สมัยก่อนพ่อก็เจ้าชู้ ชอบทำร้ายทุบตีแม่ของพลอย มีเมียไปทั่ว” เธอพูดแล้วตาแดง ๆ เหมือนจะร้องไห้
พอมีปัญหากัน แม่เลยพาเธอมาอยู่กับยาย บิดายังตามจองล้างจองผลาญ จับเธอไปยัดเยียดให้ลูกชายเจ้านาย หมั้นหมายกันอีก ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้รับรู้อะไรด้วยเลย เพราะหนี้บุญคุณแท้ ๆ ที่เธอต้องเป็นว่าที่เมียในอนาคตของเขา
คนรวยมักเห็นความสำคัญของผลประโยชน์เป็นสำคัญ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมบิดาของเขาถึงได้อยากได้เธอเป็นสะใภ้นัก แค่บิดาเคยช่วยเอาไว้ก็ไม่เกี่ยวกับการหาเมียให้ลูกชายเสียหน่อย
“รังเกียจหรือไง”
“ใช่ค่ะ” พลอยไพลินตอบตามตรง
“ตรงดี แต่พวกหล่อนมาเสนอเอง พี่ไม่ได้ขอ”
“พี่ก็เอาเหรอคะ”
“พี่ก็ป้องกัน ไม่ผูกมัดกับใคร”
“พลอยกลัวติดโรค”
“พี่ไม่เคยเอาใครสด” ประโยคของคนเถื่อนทำให้พลอยไพลินหน้าแดง
“เลิกพูดสักที”
“เธอเริ่มก่อน” เจตน์ยิ้มอย่างชอบใจที่ได้แหย่เธอ
เขาชอบเธอแต่เด็ก เป็นคนขอบิดาเองว่าโตขึ้นอยากได้เธอเป็นเมีย บิดาก็รักเขามากเพราะเป็นลูกคนเล็ก ก็เลยจัดการทาบทามกับบิดาของเธอ เลยได้หมั้นกัน อีกทั้งบิดาของเธอเคยมีบุญคุณช่วยเหลือพ่อของเขาเอาไว้ นั่นยิ่งทำให้พ่อของเขานิยมชมชอบพลอยไพลินเป็นอันมาก
ในตอนเด็กเธอเคยช่วยเขาเอาไว้จากการโดนทำร้าย โดยไปเรียกคนมาช่วย ไม่งั้นเขาโดนพวกนักเลงคู่อริของบิดากระทืบตายไปแล้ว
พวกมันโคตรหมาหมู่ แถมยังสันดานทราม ทำร้ายได้แม้กระทั่งเด็กไม่มีทางสู้
“พี่เจตน์จะพาพลอยไปไหน บอกแล้วไงว่าพลอยไม่ชอบให้พี่ขับรถเร็ว พลอยกลัว” พลอยไพลินหวาดกลัวสุดใจ
“เธอไม่ยอมคบกับพี่เอง ทุกอย่างถึงได้เป็นแบบนี้ ถ้าเธอยอมคบกับพี่ รับรองว่าเธอคือผู้หญิงหนึ่งเดียวของพี่” เขาพูดเอาแต่ได้ พลอยไพลินส่ายหน้าจนผมยุ่ง เธอจะไม่ยอมคบกับเขาเด็ดขาด
โปรย หวานใจเฮียเจ้า ปิ่นเพชรยืนมองประตูห้องน้ำอย่างลังเล เขากำลังอาบน้ำเช่นนี้ เธอควรจะเข้าไปดูแลเขาไหมนะ เขาไม่เคยเรียกร้อง ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด ถ้าเขาจะทำอะไรก็ควรทำสักที เธอมาอยู่กับเขาเพื่อสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ ตัดสินใจได้ดังนั้น ปิ่นเพชรก็ทะลึ่งพรวดพราดเข้าไปในห้องน้ำของเขาในทันที เจ้าทัพตกใจเมื่อจู่ ๆ เธอก็โผเข้ามากอดเขาเอาไว้ทั้งตัว ในขณะที่เขาเองก็กำลังเปลือยเปล่าอยู่ “มีอะไร” เขาเอ่ยถามเหมือนเพิ่งหาเสียงเจอ ไม่คิดว่าเธอจะโผล่พรวดเข้ามาแบบนี้ “คือปิ่นจะมาช่วยอาบน้ำให้คุณน่ะค่ะ” คนบอกว่าจะมาช่วยอาบน้ำกอดเขาเอาไว้แน่น ไม่กล้าผละออกห่างหรือเงยหน้ามองเขาเพราะอาย “จะมาช่วยอาบน้ำให้ผม แต่กอดผมเอาไว้ซะแน่นแบบนี้จะอาบได้ยังไงกันครรับ” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม พลางกลั้นยิ้มเอาไว้ “ก็คุณโป๊อยู่” “มาช่วยผมอาบน้ำก็ต้องรู้สิครับว่าผมโป๊” “เอ่อ...” เธออึกอัก เขาจึงค่อย ๆ ดันเธอออกห่าง ก่อนจะมองหน้าเธอไม่วาง เจ้าทัพทาบริมฝีปากลงไปหาริมฝีปากน้อยสั่นระริกของเธอ เธอเกร็งตัวหลับตาแน่น จิกมือเข้าที่บ่าของเขา ท่าทีของเธอบอกว่ากำลังหวาดกลัว และไม่พร้อม ทำให้เขาต้องละริมฝีปากออกห่าง เมื่อเขาจูบลงไปแต่เธอกลับปิดปากแน่น “คุณไม่ต้องฝืนใจตัวเองหรอกนะ ผมไม่บังคับคุณจนกว่าคุณจะเต็มใจ” ประโยคของเขาทำให้เธอชะงักและอึ้งไป
เธอขอพรได้ 1 ข้อ ถ้าเป็นไปได้ คุณจะขอพรอะไรเหรอ เมื่อเพียงดาวเจอกับชีวิตครอบครัวที่มีแม่สามีประสาทแดก สามีนอกใจไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน เขาดีแต่ดีไม่เกินแม่ของเขา เพียงดาวจึงขอพรหนึ่งข้อให้กับตัวเองในวันปีใหม่ ในวันที่เธอคิดสั้นฆ่าตัวตาย
เรื่องราวของภพและภาม ความรักมั่นคงของพวกเขาทำให้ฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
เขาคือท่านประธานนิรันดร์ ท่านประธานที่อยู่ห้องพักข้างๆ แถมยังชอบเรียกเธอให้ไปหาตอนดึกๆ ดื่นๆ
“เฮีย! ขึ้นมาทำไม ทำไมไม่ไปนอนที่ห้องตัวเอง” “ทีเมื่อกี้เรียกร้องจะให้นอนด้วย” “นั่นมันเมื่อก่อนนะ แต่ตอนนี้ไม่อยากให้นอน” “ใจร้าย...” เขาบ่นอุบ ซุกหน้าเข้าหาอกอวบๆ ของเมีย “เฮีย... จะมาซงมาซุกทำไมนี่” “พอได้เฮียเป็นผัวก็จะไล่ใช่ไหม เห็นเฮียเป็นของตาย” “ไม่ใช่ อัญกลัวเฮียจะลักหลับอัญ” เธอนิ่วหน้ายังเจ็บตรงหว่างขาอยู่เลย “เฮียไม่ลักหลับหรอก ชอบแบบดิ้นได้มากกว่า โอ๊ย! หยิกทำไมนี่ ยัยเด็กซาดิสม์” “ถ้าจะนอนด้วยกันก็อย่าลามกนะคะ” อัญชัญอ้าปากหาวอีก ซุกหน้าเข้าหาหมอน แต่เขาดึงศีรษะของเธอให้มาซุกหน้าเข้าหาอกกว้างของเขาแทน “ซุกตรงนี้” “เฮียไม่ใช่หมอนเสียหน่อย” เธอบ่นเสียงอู้อี้อยู่ที่อกเขา ตาปรือด้วยความง่วง ตะกายมือกับเขากอดเขาเหมือนเขาเป็นหมอนข้าง
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ