‘เปลี่ยนทอมให้เป็นเธอ’ เมื่อ ‘ณฉัตร’ สาวมาดทอมบอยที่โครงหน้านั้นหล่อปนหวาน จนผู้ชายบางคนยังต้องชิดซ้าย เธอโด่งดังเป็นพลุแตกหลังรับบททอมในภาพยนตร์แห่งปี และบทบาทนั้นก็ทำให้ทุกคนติดภาพและตัดสินว่าตัวเธอเป็นทอมไม่เว้นแม้แต่ ‘กฤตนัย’ ------------------------------ “เคยมีผู้ชายคนไหน ทำแบบนี้กับเธอไหม” คำถามของกฤตนัย ณฉัตรกำลังคิดหาคำตอบว่าจะตอบอะไรกลับไปดี “ฉันถามว่าเคยไหม” “ไม่เคย” เมื่อถูกจี้เอาคำตอบ ณฉัตรก็ตอบรัวเสียงสั่นทันที “ก็ไม่น่าแปลก เพราะเธอเป็นทอมไม่ใช่เหรอ ต้องมีดี้สาวๆ มาหอม มาจูบสิ ถึงจะถูก ว่าไหม” ขณะถามกฤตนัยก็ก้มมองเรือนร่างของณฉัตร ลึกๆ กลับมีความรู้สึกเสียดายที่เธอเป็นทอม เพราะถ้าเธอเป็นหญิงรูปร่างแบบนี้คงดึงดูดผู้ชายไม่น้อย “มองอะไรไม่ทราบ ฉันเป็นผู้ชายเหมือนคุณ รูปร่างภายนอกก็แค่ของนอกกาย แต่จิตใจฉันแมนไม่แพ้ผู้ชายหรอก” คำพูดของณฉัตรดูวกวนอย่างบอกไม่ถูก พร้อมกับพยายามข่มความอายไว้ เพราะถ้าเธออายกฤตนัยต้องคิดว่าเธอยังเป็นผู้หญิงแน่ จึงแอ๊บแมนเข้าสู้ แต่ก็เหมือนจะไร้ซึ่งประโยชน์ “จะบอกว่านี่คือเปลือกนอกว่างั้น” “ใช่... รู้ไว้ซะว่าฉันนิยมตีฉิ่ง ไม่นิยมผู้ชาย” “เคยลองมีอะไรกับผู้ชายแล้วอย่างนั้นเหรอ ถึงบอกว่าไม่นิยมชมชอบ” แววตายียวน น้ำเสียงกึ่งๆ หยอกล้อเอ่ยถาม กฤตนัยยิ้มเจ้าเล่ห์ อยู่ๆ ความคิดที่อยากเปลี่ยนทอมให้เป็นผู้หญิงก็ผุดขึ้นมาในสมอง เขาจะใช้ทฤษฎีส่วนตัวพิสูจน์ว่าทอมอย่างณฉัตรจะกลับมาเป็นผู้หญิงได้ไหม ถ้าเขามีอะไรกับเธอขึ้นมา
สายตาคมกริบของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้บริหาร มองภาพหวือหวา บนปกนิตยสารชื่อดัง ซึ่งนางแบบคนที่ขึ้นปกไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือดาราสาวในสังกัดของเขาเอง ทั้งๆ ที่ในสัญญาระบุข้อตกลงอย่างชัดเจน ว่าเธอจะไม่รับถ่ายงานประเภทนี้ เนื่องจากจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ ก่อนจะกดโทรศัพท์ภายในออกไปหาเลขาหน้าห้องทำงาน ก่อนที่เสียงทุ้มๆ แต่ฟังดูน่าเกรมขามจะดังขึ้นในวินาทีต่อมา
“ให้แตงโมเข้ามาพบฉัน”
“ค่ะเจ้านาย” เลขาหน้าห้องเอ่ยรับ สีหน้าเธอดูหวาดๆ ชอบกล ก่อนจะเอ่ยบอกนักแสดงสาวต้นเรื่องให้เข้าไปพบเจ้านาย
“น้ำเสียงคุณก้องเป็นยังไงบ้างคะพี่นิ่ม”
“ฟังไม่ดีเลย น้องแตงโมไม่น่าทำแบบนี้เลยนะคะ พี่ล่ะกลัวแทน”
พูดจบก็ทำหน้าไม่พอใจเล็กๆ นั่นทำให้มณีรัตน์ ดาราเจ้าของบทบาทนางเอกระดับร้อยล้านของค่ายภาพยนตร์หนึ่งห้าเก้าฟิล์มหน้าถอดสีเล็กๆ
“ก็หนูไม่รู้นี่คะ ว่ารูปจะออกมาโป๊ขนาดนี้”
“รีบเข้าไปเถอะค่ะ เดี๋ยวพายุจะลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่”
“ค่ะๆ” ดาราสาวเอ่ยรับ ก่อนจะรีบเข้าไปในห้องทำงานของกฤตนัย เมื่อเห็นมณีรัตน์เสียงห้วนๆ ของชายหนุ่มก็ดังขึ้น เพราะดาราสาวทำให้ทุกอย่างเสียหายค่อนข้างมาก ภาพลักษณ์ของเธอดีมาตลอดแต่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเห็นรูปในนิตยสารที่โป๊จนเกินงามแบบนี้
“นี่มันอะไรกัน”
“แตงโมขอโทษค่ะคุณก้อง แตงโมไม่คิดว่ารูปจะออกมาโป้แบบนี้ แตงโมผิดเองที่ไว้ใจทางนิตยสารมากไป แตงโมไม่ได้ตั้งใจจะให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนะคะ คุณก้องอย่ายกเลิกสัญญาแตงโมเลยนะคะ แตงโมจะไม่ทำอีกแล้ว” มณีรัตน์ละล่ำละลักเอ่ยบอก
“เธอไม่น่าทำแบบนี้ตั้งแต่ต้น รู้ไหมรูปพวกนี้ทำให้เธอเสียหายมากแค่ไหน ทางฉันเองก็ด้วย” นอกจากบริษัทจะเสียหายเรื่องภาพพจน์แล้ว คนที่จะได้รับผลกระทบตรงๆ นั่นคือมณีรัตน์เอง เพราะอีกไม่นานเธอจะมีภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่บทสวยใส แนวหญิงรักหญิงด้วย
“แตงโมผิดไปแล้วค่ะ”
“รู้ตัวว่าผิดก็ดี ครั้งหน้าอย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ข่าวฉาวๆ ชอบนักหรือไง ภาพลักษณ์เธอไม่ใช่แบบนี้นะ”
“ค่ะ” ดาราสาวรีบรับคำ ก่อนจะพูดสิ่งที่เธอกังวล
“เอ่อ...คุณก้องจะไม่ถอดแตงโมออกจากบทนางเอกของหนังเรื่องที่กำลังถ่ายทำใช่ไหมคะ”
“คงไม่ แต่ถ้ามีอีกก็ไม่แน่”
“ขอบคุณค่ะ” ความที่ดีใจทำให้มณีรัตน์โผเข้าหาพร้อมกับกอดคอชายหนุ่มไว้แน่น หนำซ้ำยังหอมแก้ม กฤตนัยไปอีกฟอดใหญ่ ทำเอาชายหนุ่มอึ้งรีบผละเธอออกไปทันที
“ทำอะไรแตงโม”
“แตงโมก็แค่อยากขอบคุณคุณก้อง ที่ให้โอกาสแตงโมแบบนี้ ขอบคุณนะคะ แตงโมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรให้คุณก้องต้องเครียดอีก แตงโมจะรอบคอบกับการรับงาน สกรีนงานมากขึ้น จะเชื่อฟังคุณก้องทุกอย่าง” ขณะพูดก็สบตาชายหนุ่มไปด้วย เพราะมณีรัตน์ไม่ได้อยากเป็นแค่นักแสดงในสังกัด เธออยากเป็นภรรยาของเจ้าของค่ายภาพยนตร์มากกว่า ภาษีดีกว่าหลายเท่า
“คิดได้แบบนั้นก็ดี เธอออกไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน”
“ค่ะ...อ้อ เย็นนี้คุณก้องว่างไหมคะ แตงโมอยากชวนไปทานข้าว อยากเลี้ยงขอบคุณ”
“ผมมีนัดแล้ว ส่วนเรื่องที่จะขอบคุณ ขอให้แตงโมทุ่มเทเวลาทำงานให้ดีแล้วกัน”
“ค่ะ” มณีรัตน์เอ่ยรับ ก่อนจะเดินยิ้มกลับออกไปจากห้องทำงานของกฤตนัย อย่างน้อยเรื่องวันนี้ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี อันที่จริงเธอเห็นรูปและรู้คอนเซ็ปต์ของหนังสือเล่มที่พึ่งวางแผงไปแล้ว รู้ว่ารูปจะออกแนวเซ็กซี่มากแค่ไหน แต่ก็ยังยอม เพราะลึกๆ เธออยากเปลี่ยนลุค อยากให้ทุกๆ คนมองว่าเธอนั้นเซ็กซี่ ไม่ใช่สาวอ่อนหวานตามที่เห็นๆ กัน ซึ่งตอนนี้ผลตอบรับก็ถือว่าดีเกินคาด
เมื่อมณีรัตน์กลับออกจากห้องทำงานไปแล้ว กฤตนัยก็ลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ มือก็เปิดนิตยสารตรงหน้าดูไปเรื่อยๆ สลับส่ายหน้าให้กับภาพของมณีรัตน์ที่ได้เห็น กระทั่งมือหนามาหยุดยังหน้าที่มีคอลัมน์แนะนำสาวมาดทอมที่หล่อไม่แพ้ผู้ชาย ที่กำลังเป็นที่สนใจในโลโซเชียลขณะนี้
“น่าสนใจ” เสียงทุ้มๆ เอ่ยขึ้น เพราะตอนนี้เขากำลังมีโปรเจคภาพยนตร์ตัวใหม่ที่ร่วมลงทุนสร้างกับต่างประเทศ และพระนางของเรื่องไม่ใช่หญิงกับชาย แต่เป็นหญิงกับหญิง จึงกำลังเฟ้นหาทอมที่จะมารับบทเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งจะประกบคู่กับมณีรัตน์นั่นเอง กฤตนัยสั่งให้ลูกน้องนัดหมายทอมหน้าหล่อเข้ามาทำการแคสติ้งทันที แม้ในใจจะมีอคติกับคนกลุ่มนี้อยู่บ้างก็ตามที
ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่ผู้คนแวะเวียนมาช้อปปิ้งหรือทำกิจกรรมตามที่ต้องการ เป็นเหมือนศูนย์รวมของคนทุกเพศ ทุกวัย หนึ่งในนั้นคือหญิงสาวที่ชื่อณฉัตร สาวมาดทอมบอยที่โครงหน้านั้นหล่อปนหวาน จนผู้ชายบางคนยังต้องชิดซ้าย ใบหน้าสวย คิ้วหนาเพราะไม่ชอบกันคิ้วให้ยุ่งยาก ปากเป็นกระจับสีชมพูระเรื่อ ไว้ผมสั้นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ลุกทอมของเธอเด่นขึ้น เหตุผลที่เธอต้องตัดผมสั้นเพราะอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ แต่ดูเหมือนจะเปลี่ยนมาไปจากหญิงจึงกลายเป็นทอม
“มองอะไรกันหว่า” ณฉัตรก้มมองตัวเองอย่างสำรวจว่าเธอผิดปรกติตรงไหน ซิปไม่ได้รูดหรือเป้ากางเกงแตก ซึ่งก็ไม่เห็นมีสิ่งผิดปรกติ แต่ทำไมผู้หญิงถึงมองเธอนัก แถมหลังๆ มีผู้ชายแอบเหล่มาเป็นระยะๆ ด้วย ก่อนจะสะดุ้งเล็กๆ เมื่อมีแขนใครบางคนยื่นมาคล้องแขนของเธอไว้
“ฉัตร...รอนานไหม”
“กิ่ง...มาไม่ให้สุ้มให้เสียง ตกใจหมด”
“โอ๋ๆ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะ” ขณะพูด กชกรก็ยื่นมือไปวางบนศีรษะของณฉัตรแล้วยีผมสั้นๆ ของเพื่อนสนิทไปมา นั่นยิ่งตอกย้ำภาพคู่จิ้นหญิงหญิงมากขึ้นไปอีก เพราะหนึ่งคือสาวมาดทอมอีกหนึ่งคือสาวสวย
“ก็ฉัตรยืนเหม่อนี่นา คิดถึงใครอยู่”
“เปล่านะ”
“ว่าแต่หิวหรือยัง” คนข้างๆ เอ่ยถาม
“นิดหน่อย”
“งั้นไปหาอะไรกินกันนะ เราหิวมาก” กชกรยิ้มให้ ก่อนจะเดินคล้องแขนณฉัตรไปยังร้านอาหารที่พวก เธอเล็งไว้แล้วว่าจะกินอะไร แต่แล้วกลับมีคนที่เดินสวนไปสวนมาจะชนกชกร ณฉัตรจึงรีบลากแขนเพื่อนให้หลบ จากนั้นก็จูงมือกันเดินต่อ ความที่มีนิสัยแมนๆ อยู่บ้าง คอยดูแลกชกรหญิงสาวผู้อ่อนหวานแต่หัวแข็งไม่น้อย ทำให้บางครั้งณฉัตรก็ดูเหมือนทอมตามลุคภายนอกที่ทุกคนเห็น
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ “นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง “ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก “ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด” “แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่พอ” คำตอบของเขาช่างแสนเลือดเย็นจนทำให้เภตราจุกไปทั้งอกก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาลงคอ เพราะไม่อยากให้มันไหลออกมาประจานตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของมันเธอไปเก็บมาใส่ใจแล้วจะได้อะไร
งานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป +++++++++++++++++ “คุณ” ลลิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเป็นคริส ชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ “ขอเข้าไปหน่อย” แขกที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยบอกแต่เจ้าบ้านสาวกลับไม่ยอมทำตามเช่นกัน “ฉันไม่สะดวก คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลย” “แน่ใจหรอกว่าจะให้ผมพูดตรงนี้” “แน่ใจ” ลลิตาเชิดหน้าขึ้นสูง เธอต้องเอาชนะผู้ชายคนนี้ให้ได้ จะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอแน่นอน “โอเค แน่ใจก็แน่ใจ บังเอิญว่าผมยังเก็บคลิปเซ็กซ์ของเราไว้ดูต่างหน้า” “ว่าอะไรนะ!” คำพูดของคริสทำให้ลลิตารู้สึกเย็นวาบไปถึงตัว เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปเธอจึงยอมให้เขาถ่ายทุกอย่างเก็บไว้ ไม่คิดว่าวันนึงคลิปบ้าๆ นั่นจะตามมาหลอกหลอนเธอ “ได้ยินชัดแล้วนี่” “แต่ฉันลบมันไปแล้วกับมือ” ลลิตามั่นใจว่าเธอลบคลิปที่ว่ากับมือแล้วทำไมคริสถึงยังมีอีกหรือว่าเขาหลอกให้เธอตายใจ “ลบเสียเมื่อไหร่เพราะก่อนหน้านั้นผมสำรองไฟล์ไว้ดูหลายไฟล์ คิดถูกจริงๆ ที่ทำแบบนั้น” “สารเลว” “นอกจากมีคลิปแล้วผมยังเปิดดูมันบ่อยๆ ด้วยนะ คุณไม่อยากดูบทรักของเราหน่อยเราเหรอ” คริสเอ่ยอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งปกติ “คุณมาหาฉันเพื่อเอาคลิปอุบาทว์ๆ นั่นมาขู่อย่างนี้นะเหรอ” “ผมไม่ได้ขู่” “แล้วต้องการอะไร” “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ช่วยหาเวลาให้ผมหน่อย ขอแค่สามวันเท่านั้น” นั่นคือหนึ่งในแผนที่จะทำลายผู้หญิงตรงหน้าของคริส “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” ลลิตาจ้องตาเขากลับมาอย่างไม่กลัวเช่นกัน “คุณก็น่าจะเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คลิปในมือผมมันคงทำให้คุณดังกระฉ่อนทีเดียวล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำขู่ของเขายังคงได้ผลกับลลิตาเรื่องแบบนี้คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นผู้หญิงแบบเธอ “ถ้าคลิปนั่นหลุดขึ้นมา คุณเองก็จะดังกระฉ่อนไปด้วยไม่ใช่หรอ หน้าที่การงานที่คุณโหยหาและสร้างมันของคุณจะพังทลายไปเหมือนกัน” “มันคือเรื่องส่วนตัวฝรั่งเขาไม่แคร์เรื่องนี้หรอกอีกอย่างในคลิปนั้นก็ไม่เห็นหน้าผมด้วยสิ”
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยังเวอร์จิ้น! มาแก้ไขปริศนาประโยคนี้กันค๊า โดยแกนนำคือรอยส์ซีอีโอหนุ่มที่ตกหลุมรักลูกน้องคนเก่งที่มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างขวัญชีวาเข้าอย่างจัง กระทั่งเธอก็มีเหตุให้ยื่นใบลาออก รอยส์จึงใช้ความเจ้าเล่ห์เข้าล่อหลอกเพื่อให้เธอตกหลุมพราง แต่ดูเหมือนเขาต่างหากที่จะตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้เสียเอง ในเมื่อต้องการเรื่องอะไรจะปล่อยเธอไป ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องได้ด้วยคาถา โอมมมม เพี้ยงงงงง
เธอถูกคนใกล้ตัวคิดร้ายและเขาคือเจ้าชายขี่ม้าขาว รวีคือหญิงสาวที่รอดตายจากการถูกลอบฆ่า เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก้นเหมืองและคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือภีม บางคนกล่าวไว้ว่าความรักครั้งนี้ของภีมเกิดขึ้นจากความสงสาร แต่ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักที่เกิดจากความสงสารนั้นไม่ผิด เขารักเธอ รักผู้หญิงแปลกหน้าที่ใสซื่อและไร้พิษภัย เพราะรักจึงทุ่มเทและเลือกที่จะปกป้อง ใครหน้าไหนก็แตะเธอไม่ได้
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป