คู่สามีภรรยาที่รักกันหวานชื่นจนใครๆ ก็อิจฉา...ก่อนแต่งงานน่ะใช่แต่ตอนนี้ต้องหล่อเลี้ยงความรักด้วยลำแข้งเท่านั้น!
คู่สามีภรรยาที่รักกันหวานชื่นจนใครๆ ก็อิจฉา...ก่อนแต่งงานน่ะใช่แต่ตอนนี้ต้องหล่อเลี้ยงความรักด้วยลำแข้งเท่านั้น!
..
คนคนนี้แหละแม่ของลูก...
เคยมีอาการแบบนี้กันบ้างหรือไม่
จากใจคนที่ตกหลุมรักคนคนหนึ่งหัวปักหัวปำ
คลั่งรักสุดๆ หายใจเข้าก็เธอหายใจออกก็เธอ
ทุกวินาทีมีแต่เธอ
อยากเห็นหน้าตลอดเวลา
ไม่ว่านางจะทำอะไรผู้ชายควายๆ อย่างเราก็จะมองว่ามัน.....น่ารักจัง~
...
ปีที่แล้ว
"เพื่อนแต่งงานมีลูกมีเต้าไปเกือบหมดแล้วเมื่อไหร่มึงจะแต่งงานสักทีไอ้สัปดน?"
เอกรินทักเพื่อนสนิทอย่างเป็นกันเองในงานแต่งงานเพื่อนร่วมคณะคนที่ร้อย
หนุ่มเจ้าสำราญยืนเด่นเป็นสง่าหล่อรวย หูตาแพรวพราวโปรยสเน่ห์ไปทั่วงานแต่งที่มีบรรดาเเขกเหรื่อสวมชุดสวยแต่งหน้าจัดเต็มเดินกันให้ควักไขว่
ผิดกับเพื่อนสนิทอย่างเอกรินที่แม้จะหล่อเหลาไม่ต่างกันนักแต่กลับวางตัวชัดเจนว่าแต่งงานมีครอบครัวไม่เล่นหูเล่นตาใส่ใคร
"กูชื่อดล~ ณดล เรียกให้ถูกหน่อย มึงคิดว่าเพลย์บอยตัวพ่ออย่างกูจะมีภาพฝันแบบในละครหลังข่าวที่อยากหยุดความฮอตของตัวเองไว้ที่คนคนเดียวเหรอ? บ้าแล้ว"
ร่างสูงในชุดสูทราคาแพงอวดไหล่กว้างน่าซบแผงกล้ามอกเเน่นยืนล้วงมือในกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่ง อีกมือขยับยกแก้วไวน์ขึ้นกลางอากาศยิ้มให้สาวสวยที่มองมาอย่างสนอกสนใจ
"ใครๆ ก็ต้องแบบนั้นมั้ยวะ?"
เอกรินส่ายหน้าให้ความเจ้าชู้ของเพื่อนถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคืนนี้ไอ้คนหล่อข้างๆ ต้องหิ้วใครสักคนออกจากงานไปทำกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างแน่นอน
"ถ้ากูต้องลดอิสระภาพลงเพื่อจะได้มีเมียเหมือนมึงกูยอมโสดไปจนตายดีกว่า"
"มึงก็พูดเกินไปกระถินไม่เห็นเคยทำอะไรแบบนั้นอาจจะถามหลายคำหน่อยถ้าไปกับมึงเพราะในหัวมึงมีแต่เรื่องใต้สะดือไง"
เอกรินพูดชื่อภรรยาที่แต่งงานกันมานานหลายปีความสัมพันธ์หลังแต่งงานเป็นไปอย่างสงบเรียบง่ายไม่หวือหวา
"เพราะงี้ไงกูถึงไม่เอาความสุขไปผูกไว้กับการแต่งงานครั้งเดียว แถมยังต้องจ่ายค่าสินสอดแพงแสนแพงเพื่อเอาใครไม่รู้มาคอยตามจิกเป็นแม่ไก่ผูกมัดเราไว้คนเดียวมันดูโง่ๆ ยังไงไม่รู้"
"มึงอายุสามสิบห้าแล้วนะไอ้ดลเพื่อนมีลูกสองลูกสามแล้วมึงยังเที่ยวนอนกับคนอื่นไม่ซ้ำหน้ามึงอยากโดนเอดส์แดกตายใช่มั้ย?" เอกรินพูดเตือนสติคนที่ใช้ชีวิตสุดโต่งไร้ทิศทางไร้เป้าหมาย
"พูดมากน่า ทำไมคนเราต้องอยากเด้าคนคนเดียวไปจนตายด้วยวะ กูไม่เข้าใจ? เป้าหมายกูคือเด้าให้ตายกันไปข้างไม่ใช่เฉาตายพราะเด้าแค่คนคนเดียวไปตลอดชีวิต''
"เป้าห่าเหวบ้าอะไรของมึงแบบนั้นมันเรียกว่าสำส่อน มึงไม่มีทางฝืนธรรมชาติได้หรอก"
เอกรินยังคงสั่งสอนเพื่อนทุกครั้งที่มีโอกาสเพราะโตจนเรียกวัยกลางคนได้เเล้ว
"ไม่รู้ล่ะกูไม่ชอบให้ใครมาผูกมัด.."
ในงานแต่งของเพื่อนร่วมรุ่นคนที่เท่าไหร่ไม่ทราบได้รู้แต่ว่าคนที่เรียนรุ่นเดียวกันมาแต่งงานกันเกือบหมดแล้วทุกคน
ดล ณดล กุสุเมธ อายุสามสิบห้าปี
หนุ่มรูปงามร่างสูงใหญ่สมส่วน ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาตามประสาเพลย์บอยที่เนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อเอาไว้ตกบรรดดาเหยื่ออารมณ์อันโอชะ
การได้เห็นเพื่อนแต่งงานมีลูกความรู้สึกสงสารปนสมเพศก่อเกิดขึ้นในใจหนุ่มเจ้าสำราญทุกครั้ง
ทำไมคนเราถึงคิดว่าการแต่งงานคือหลักประกันความสุขของช่วงชีวิตที่เหลือด้วย
สิ่งที่เรียกว่าครอบครัวมันทั้งน่าเบื่อน่ารำคาญเรื่แงมากวุ่นวาย แค่คบกันโดยไม่ได้อยู่ด้วยกันก็มีสิ่งที่ไม่เข้าใจกันเต็มไปหมดแค่เรื่องจะกินอะไรก็เป็นหัวข้อหลักในการทะเลาะกันไดทุกวัน ปัญหาร้อยแปดอย่างในการมีคนรักจริงจังตามติดเป็นเงาตามตัวตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว
แต่มนุษย์ยังไงก็เป็นมนุษยอยู่วันยังค่ำ
ใครบางคนเคยพูดว่าวันหนึ่งเราจะเจอคนที่ใช่
คนเพลย์บอยอย่าง ณดลไม่เคยเข้าใจว่าอะไรที่เรียกว่าใช่ได้ขนาดนั้น ใครมันจะคู่ควรให้กับอิสระทั้งชีวิตของตัวเองกัน...
สิ้นคิดชะมัด
เสียงโต้เถียงกับเพื่อนรักชะงักลงเมื่อบรรดาเพื่อนเจ้าสาวเดินผ่านหน้าณดลไป
เพื่อนเจ้าสาวตัวบางใบหน้าเรียวยาวปากนิดจมูกหน่อยภายใต้ตาคู่สวยยังมีไฝสเน่ห์เม็ดเล็กใต้ตาซ้ายประดับอยู่
ดวงตาเฉี่ยวคมกรีดอายไลน์เนอร์เส้นเดียวขับให้ดวงตาคู่สวยโดดเด่นกว่าสาวทรงโตเซ็กซี่คนไหน
ส่วนเว้าส่วนโค้งภายใต้เนื้อผ้าบางเบาสุดเซ็กซี่สะกดทุกสายตาให้เหลียวมองจนคอเคล็ด
ไม่เว้นแม้แต่คนที่บอกกับตัวเองเสมอว่าจะไม่สนใจเรื่องความสัมพันธ์ที่มากกว่าเซ็กส์อย่างณดล
กลุ่มเพื่อนเจ้าสาวหอบช่อกุหลาบหอมกรุ่นย่างกายเฉียดกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าวไป นับตั้งแต่วินาทีนั้นหัวใจหนุ่มเพลย์บอยของณดลก็เต้นไม่เป็นจังหวะเดิมอีกต่อไป
ยิ่งเดินตามมาลอบสังเกตุคนที่ติดตาตรึงใจยิ่งอยากมองให้นานกว่าเดิม
ใช่...
มีบางอย่างตะโกนก้องภายในเช่นนั้น
คนคนนั้นไว้ผมยาวไม่มากมัดจุกเป็นหางเจี๊ยบเล็กๆ ด้านหลังปล่อยผมสีน้ำตาลอ่อนสลวยสวยลู่ลงกับกรอบหน้ารูปไข่ ผิวสีขาวเนียนละเอียด
ไม่ว่าจะขยับจับทำอะไรแม้แต่ตอนเผลอก็ยังดูสวยงามชวนมอง
เสื้อผูกคอสีขาวเปิดเปลือยเเผ่นหลังเล็กขาวเนียน ลำคอขาวยาวระหงษ์เอวบาวคอดกิ่วรับสะโพกเนินคู่อวบแน่นอวดสายตายามย่างกรายยักย้ายไปมา
เข้าคู่กับกางเกงหนังสีดำรัดรูปอวดสรีระช่วงล่างท่อนขาอวบอัดเรียวขายาวสวย
น่ารัก
สวย
เซ็กซี่
ทุกอย่างรวมไว้ในคนนี้คนเดียวหมดแล้ว
''มึง...คนนั้นใครวะ?"
ณดลถามเพื่อนรักดวงตาเหม่อมองคนที่ทำให้ละสายตาไปมองใครอื่นไม่ได้อีก
"อืม คนนั้นเหรอกู...จำไม่ได้นะ เท่าที่รู้งานนี้เชิญมาแค่รุ่นเรานี่หว่า"
เพื่อนสนิทข้างตัวมองไปยังคนหน้าสวยหุ่นบางผิวเนียนโดดเด่นท่ามกลางเพื่อนเจ้าสาวที่สวมชุดในตีมสีขาวคล้องคอเปิดหลังเหมือนกับคนอื่นแต่กลับโดดเด่นเกินกว่าใคร
"เกลือเเร่..แกใช่เเร่จริงๆ เหรอเนี่ย อีเหี้ยสวยชะมัด!มึงไปทำอะไรมา?"
สาวเจ้านางหนึ่งเอ่ยทักหนุ่มหน้าหวานที่พึ่งนึกออกว่าคนคนนี้คือใคร
"กูเป็นเกย์มึงคิดว่ากูจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้โทรมเป็นผักค้างแผงหรือไง หมอไงจ๊ะ~ หมอฝีมือดีเยอะแยะ"
นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยสะบัดเสียงเล็กละมุนหูยังถูกเปล่งออกมาให้คนใกล้ๆ ที่ได้ยินเคลิ้มหนักกว่าเดิม
''อีดอกแซ่บเวอร์~"
เพื่อนสาวแท้สาวเทียมจับร่างบางหมุนรอบพากันหัวเราะคิกคักให้กับอดีตที่แตกต่างราวกับกลับชาติมาเกิดของเพื่อนสมัยนั้น
"ห๊ะ เกลือเเร่...เเร่? ไอ้เกลือเเร่หัวเกรียนดำสิวเฉิ่มๆ ธารารัตน์ นั่นน่ะเหรอ?"
เอกรินอุทานออกมาตาโตเพราะภาพในอดีตคือเพื่อนคนที่เรียกว่าขี้เหร่สุดในชั้นปีก็ว่าได้
"บ้าเอ๊ย! เด็กหน้าห้องที่ไม่อยู่ในสายตากูสักนิดนี่นะกลายเป็นนางฟ้าสวยขนาดนี้ สวย สวยจริงๆ สวยชิบหาย!! "
"ไอ้สัปดนนี่มึงอย่าบอกนะว่า..."
ธารารัตน์..ไอ้เด็กหน้าดำทาเเป้งขาวแต่กลายเป็นสีเทาเหมือนเลือกรองพื้นผิดเบอร์ คนที่รู้แต่ชื่อแต่ไม่เคยอยู่ในสายตาใคร เป็นคนที่ไม่น่าจดจำที่สุดในรุ่น
แต่วันเวลาผันเปลี่ยนอดีตก็คือความหลังปัจจุบันน่างหากที่ต้องเผชิญคนที่สวยดูดีมีชาติตระกูล ทุกท่วงท่าขยับโยกย้ายไปมามันติดตราตรึงใจจนละสายตามองใครอื่นไม่ได้
นี่น่ะเหรอที่ใครเรียกกันว่า...คนที่ใช่
ตั้งแต่หันไปเจอเพื่อนเจ้าสาวสุดเฉี่ยวอดีตเพื่อนร่วมชั้นเมื่อนานมาแล้วตั้งแต่ยุคมืดของเกย์หัวเกรียนยันปัจจุบันที่เพศทางเลือกสวยยิ่งกว่านางฟ้า
ไม่ว่าจะหยิบจับทำอะไรเพลย์บอยตัวพ่ออย่างณดลก็ได้แต่ตามมองร่างขาวบางไม่ให้คลาดสายตา
เอกรินมองเพื่อนแล้งอดเป็นห่วงไม่ได้ ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายคนหนึ่งจะหยุดเจ้าพ่อเพลย์บอยได้
ขนาดสาวสวยเป็นร้อยยังไม่เคยรั้งความเจ้าชู้ของมันได้...ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ
ช่วงโยนดอกไม้
เพื่อนหลายสิบคนทั้งโสดและไม่โสดหญิงชายทอมดี้ตุ๊ดเกย์ต่างมายืนรอรับดอกไม้แม้แต่เพื่อนเจ้าสาวอย่างธารารัตน์ก็ถูกจูงมาร่วมสนุกด้วยด้านหลังสุดไม่ไกลนัก
ณดลเดินเลียบๆ เคียงๆ เข้าหาร่างเล็กใกล้ขึ้นๆ
จะโยนละน้า จะโยนแล้วน้า หนึ่ง สอง ซั่มมมม
เฮฮฮฮฮฮฮฮ
เจ้าสาวคนสวยยืนหันหลังให้เพื่อนๆก่อนจะส่งสัญญาญโยนช่อกอกไม้สีขาวบริสุดในช่อสวยงาม
พึ่บ!
พั่บ!
ตุ้บ!
ตุบ!
ปุ่บ!
ช่อดอกไม้กระเด็นกระดอนถูกแรงตวัดปัดผ่านไกลออกไป ดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์ช่อนั้นตกลงมาในมือเรียวสวยที่รับมันด้วยความตกใจที่อยู่ๆ ก็กระเด็นลงมาใส่มือ
"น้องเเกลือเร่คนสวยได้โว้ยยย~ เราได้เจ้าสาวคู่ถัดไปแล้ว เฮฮฮฮฮ!!"
"เอ่อ ...พวกเธอก็ว่าไปฉันไม่มีแฟนสักหน่อย"
"ไม่เห็นแปลกเลยคนที่ไม่มีแฟนนี่แหละแต่งงานปุบปับทุกรายถ้าได้ช่อดอกไม้จากงานแต่ง~"
"นั่นน่ะสิ ไหนใครเล็งเจ้าสาวสุดสวยไว้บ้างมาแสดงตัวหน่อยเร็ว~"
เพื่อนที่พากันบิ้วให้บรรยากาศครึกครื้นจนไม่รู้ว่าบรรยากาศพาไปหรือเพราะคนโสดที่ยิ้มกรุ้มกริ่มยึกยักรายรอบตัวธารารัตน์หนุ่มสวยถือช่อดอกไม้ที่ทำให้เลือดนักสู้สูบฉีดก้าวเท้าออกมายืนตรงหน้าคนถือดอกไม้หน้าสวยท่ามกลางการลุ้นระทึกของเพื่อนๆในค่ำคืนนี้
"เขาว่ากันว่าคนรับดอกไม้เจ้าสาวได้จะได้แต่งงานเป็นคนถัดไป" ณดลเดินเก๊กหล่อเข้ามาหาคนสวยขาด้วยรอยยิ้มพิฆาตจ้องตาร่างบางเอ่ยเสียงละมุนใกล้ๆ
"....นาย" เสียงเล็กหลุดลอดออกมา
"เราดลไง ณดล เราโสดนะแล้วเกลือเเร่ล่ะโสดไหม?"
"อะ..อืม...เรา...ยังโสด"
....
(No.1: โอ้ว~วันวานหวานจ๋อยจนอยากรู้ว่าปัจจุบันคุณคุณเขาจะเป็นเช่นไรกันเลยทีเดียว)
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
เรื่อง สลับรักยัยเลขาฝาแฝด โปรย...หญิงสาวฝาแฝด ที่พบกันโดยบังเอิญ พวกเธอเกิดความสงสัยแล้วอยากจะหาความจริงกับเรื่องนี้ คนหนึ่งเก่งฉลาด อีกคนน่ารักเรียบร้อย แนะนำตัวละคร กัญญารัตน์ วัชรจิรกุล (กรีน) อายุ 26 ปี ลูกสาวคนเดียวของคุณภูมิพัฒน์ กับ คุณศิริวรรณ เรียนจบมาจาก เยอรมัน แต่ด้วยที่ว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียว จึงต้องมาเรียนรู้งานในไร่กาแฟ ตอนแรก เธอก็อยากจะไปหาประสบการณ์ ในสิ่งที่ตัวเองเรียนมา แต่ก็ถูกผู้เป็นมารดาขอร้องให้มาช่วยงานคุณพ่อซะก่อน เพราะพ่อของเธอก็อายุมากแล้ว เธอจึงยอมมาเรียนรู้งานในไร่กาแฟ ไร่ที่ทำให้เธอ ได้ไปเรียนเมืองนอก ไร่ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของครอบครัวเธอ และตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเกือบปีแล้ว เธอได้มาทำงานแทนผู้เป็นบิดา ได้เต็มตัวแล้ว เธอมีเพื่อนที่สนิทคนหนึ่งชื่อ อคิณ เป็นเจ้าของไร่ชา ที่อยู่ติดกับไร่กาแฟของเธอ เควิน เตชะวงศ์วรากุล (คุณเค) อายุ 35 ปี นักธุรกิจหนุ่มหล่อ เป็นผู้ชายที่สาวๆ ต่างหมายปอง เขาทั้งหล่อ ทั้งรวย ก็ไม่แปลกที่จะมีสาวๆ เข้ามาหา "ผมเป็นผู้ชายนะครับ มีผู้หญิงมาทอดสะพานให้ถึงที่ ผมก็ต้องเป็นสุภาพบุรุษหน่อยสิครับ จะปล่อยผ่านได้ยังไง ผมขึ้นเตียงกับพวกเธออยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกคนผมก็จะตกลงกับพวกเธอว่าไม่มีการผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น แฟนเหรอ...ผมไม่คิดจะมีหรอก แค่งานก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว ขออยู่แบบโสดๆ แบบนี้ดีกว่า อีกอย่างผู้หญิงพวกนั้นเข้ามา ก็เพราะเงินของผมทั้งนั้น เวลาที่ผมนอนกับพวกเธอแต่ละคน ผมไม่ได้เอาฟรีๆ หรอกนะครับ ผมจ่ายหนักทุกครั้ง ส่วนยัยเลขาของผมก็งั้นๆ ผมไม่เคยคิดอะไรกับเธอ ถึงเธอจะสวย เธอเป็นคนวางตัวดี คนดีอย่างผมไม่กินไก่วัดหรอกครับ เธอทำงานกับผมมาสามปี ทำงานก็พอใช้ได้ก็ทั่วๆไป ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ไม่ใช่ว่าเธอทำงานไม่ดีนะครับ แต่มาตรฐานของผมคงจะสูงไป" กัญญาณี วรกฤตติกา (แกรนด์) อายุ 26 ปี หญิงสาวตัวเล็กผิวขาวตาโต ขนตายาว เธอเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอทำงานเป็นเลขาให้เควินมาสามปี เธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร พูดน้อย ตั้งใจทำงานและเธอก็ทำงานของเธอได้เป็นอย่างดี ไหนจะงานราษงานหลวง แล้วแต่บอสของเธอจะสั่ง และเธอก็เบื่อชีวิตในเมืองหลวงมาก เมืองที่มีแต่ความแออัด รีบเร่ง วุ่นวาย รถก็ติดอากาศก็มีแต่มลพิษ แล้วก็งานเลขาที่มีเจ้านายเจ้าชู้ เข้มงวด เนียบ ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เธออยากใช้ชีวิตที่สงบสุข ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นชีวิตที่เธอใฝ่ฝัน อคิณ ทวีทรัพย์ธาดา (คิณ) อายุ 26 ปี "ผมอคิณ เจ้าของไร่ชา อายุอานามก็พอๆ กับกรีนนั่นแหละครับ เพราะผมกับกรีนเป็นเพื่อนกัน เราเรียนมาด้วยกัน พอโตมา เราก็สนิทกันเหมือนตอนเด็กๆ นั่นแหละครับ พูดถึงเพื่อนผม ความอ่อนหวานสักนิดก็ไม่มี ทำงานก็อย่างกับผู้ชาย แถมมันยังดุมากอีกด้วย เวลามันดุลูกน้องที่ทำงานผิดพลาดนะ ผมนี่ขนลุกเลย ถ้าผมเอามันมาเป็นเมียนะ ผมได้แม่เพิ่มมาอีกคนนึงแน่ ฮึ้ยยยย!! แค่คิดก็ขนลุก แต่ผู้ใหญ่นี่สิครับ รวมถึงไอ้น้องเวรของผมด้วย อยากได้เธอมาเป็นสะใภ้ แต่ผมไม่เล่นด้วยหรอกครับ ขอเป็นเพื่อนกับมันแบบนี้ไปนานๆ ดีกว่า" บทนำ ณ ไร่กาแฟที่เป็นบ้านเกิดของหญิงสาวที่มีนามว่ากรีน เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กผิวขาว หน้าตาน่ารัก ผมยาวรูปร่างทะมัดทะแมง เธอทำงานในไร่ ได้เหมือนคนงานคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เธอทั้งสวยและเก่งแถมยังฉลาด พูดจาฉะฉาน กำลังเดินตรวจงานในไร่ ไร่ที่ผู้เป็นบิดาสร้างไว้ให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวของท่าน ที่ท่านเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ กรีนเธอเป็นผู้หญิงเก่ง ถึงตัวเธอจะเล็กแต่เธอก็สู้งาน ทำงานในไร่ได้เสมือนกับลูกน้องของเธอทุกคน แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่เธอเรียนจบจากต่างประเทศมา เธอก็อยากจะมีประสบการณ์ในการทำงานที่เธอได้ศึกษาเรียนรู้มา ที่ไม่ใช่ไร่ของเธอ เธอเรียนด้านบริหารธุรกิจ และยังพูดได้ตั้งหลายภาษาด้วยความเก่งและหัวดีของเธอ ทำให้เธออยากจะลองไปใช้วิชาที่ได้ร่ำเรียนมา และในขณะเดียวกันก็มีผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนกับเธออย่างกับแกะมีนามว่า แกรนด์ เธออยู่เมืองหลวงของประเทศไทยตั้งแต่เกิด
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด