" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
เย็นวันศุกร์
เวลาทุ่มสิบนาที รถเก๋งสัญชาติญี่ปุ่นสีขาวแล่นเข้าไปหมู่บ้านจัดสรรในจังหวัดหนึ่งไม่ไกลจากเมืองหลวงนัก ผ่านทั้งสามซอยแรกที่เป็นบ้านแบบทาวน์เฮาส์ ตรงดิ่งไปยังท้ายซอยอันเป็นบ้านสองชั้น มีรั้วรอบขอบชิด มีพื้นที่จัดสวนให้พอได้หายใจหายคอ เป็นซอยเดียวที่บ้านแปดหลังในซอยนั้นราคาสูงที่สุดในโครงการแต่เพราะความเก่าของโครงการที่เนิ่นนานกว่ายี่สิบปีจึงทำให้บ้านสีขาวมันหม่นลง รั้วคอนกรีตมีรอยกระดำกระด่างตามกาลเวลา
รถยนต์คันนั้นจอดหน้ารั้วของบ้านหลังสุดซอย กดเลื่อนกระจกรถลง หยิบรีโมตประตูรั้วขึ้นมากดและมันค่อย ๆ เลื่อนเปิดอย่างเชื่องช้า เธอกดย้ำ ๆ ราวกับว่ามันจะเลื่อนไวขึ้นหากทำอย่างนั้น แต่ก็ไม่
คิ้วสวยได้รูปเหนือดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิด ไม่ใช่แค่เรื่องประตูเลื่อนช้าหรอก แต่เพราะเรื่องอื่นสุมรุมอัดแน่นราวกับเธอเป็นถังขยะใบโตที่เทศบาลลืมมาเก็บ
เธอจอดรถในโรงรถด้านข้างรถยนต์เจ็ดที่นั่งที่พ่อของเธอพึ่งเอาคันเก่าที่พึ่งออกมายังไม่ทันถึงสองปีและแน่นอนว่ายังผ่อนไม่หมดแล้วนำไปเทิร์นคันใหม่มาเมื่อต้นปี ถัดไปเป็นรถยุโรปของแม่ที่ผ่อนไม่หมดเช่นเดียวกัน ถัดไปอีกเป็นรถ SUV สัญชาติญี่ปุ่นที่เสียแล้วไม่ยอมนำไปซ่อม จอดทิ้งไว้แบบนั้น
ส่วนเธอผู้เป็นลูกสาวนั้นโดยปกติจะพักที่คอนโดมิเนียมใกล้ที่ทำงานแล้วกลับบ้านเฉพาะวันหยุดเท่านั้น แต่ทั้งพ่อทั้งแม่ก็ยังดึงดันจะซื้อรถคนละคัน ทั้ง ๆ ที่ที่ทำงานก็อยู่โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดเดียวกันแท้ ๆ และไอ้รถเจ็ดที่นั่งนั่นก็กินน้ำมันเหลือเกิน แต่ก็อย่างที่พ่อกับแม่พูดเสมอแหละ
“ รถยนต์ทรัพย์สินมันเป็นหน้าเป็นตาให้เราได้นะ แกก็รู้จักซื้อรถยุโรปมาขับบ้าง ไม่งั้นก็เจ็ดที่นั่งก็ได้ นี่อะไร ขับรถเก๋งญี่ปุ่นคันเล็ก ๆ ไม่สมฐานะหัวหน้าฝ่ายเลย ลูกครูทองเปลวน่ะเขาพึ่งออกปาเจโร่ตัวใหม่มา สวยเชียว ”
เป็นหน้าเป็นตา สมฐานะ มีเกียรติ คำคำนี้ที่เธอมักจะได้ยินพ่อกับแม่พูดอยู่เสมอ จนบางครั้งต้องเดินหนีเพราะกลัวจะอ้วกเกียรติและศักดิ์ศรีออกมาเสียก่อน
เธอลงจากรถแล้วเปิดประตูรถด้านหลัง หอบกระเป๋าถือและกระเป๋าแล็ปท็อปไว้ในมือก่อนสาวเท้าผ่านต้นมะม่วงอกร่องที่ทั้งดอกทั้งใบร่วงเกลื่อนอยู่เต็มพื้นโดยปราศจากการกวาดเก็บ ต้นไม้ดอกไม้ที่ปลูกไว้รอบบริเวณบ้างก็เหี่ยวเฉา บ้างก็ยืนต้นตายเพราะขาดน้ำขาดการดูแล
เครื่องหน้าจิ้มลิ้ม ตาโต ปากนิด จมูกหน่อยภายใต้ใบหน้ารูปไข่ ผิวใสอมชมพูตามธรรมชาติ มันควรจะสดใสตามวัยยี่สิบเก้าขวบปีกำลังเป็นวัยเริ่มต้นชีวิต เป็นวัยผลิบานสู่ผู้ใหญ่ เป็นวัยสร้างอนาคตไฟแรงเจิดจ้า แต่ยามนี้มันกลับหม่นหมองเครียดขึ้ง ดวงตาหม่นแสง ไฟในกายที่มันควรจะโชติช่วงกลับริบหรี่ เธอรู้สึกว่าตัวเองแก่เกินอายุไปเป็นสิบ ๆ ปี
มิถุนา ศญารัตน์ หรือจูน คือหญิงสาวแบกทุกข์วัยยี่สิบเก้าผู้นี้
เธอสาวเท้าเข้าไปในประตูบ้านไม้สักแกะสลักรูปมังกรราคาเกินครึ่งแสนที่ ท่าน ผอ.ประชา ศญารัตน์ พ่อของเธอพึ่งจะสั่งมาเปลี่ยนเป็นครั้งที่สี่ทั้งที่ประตูเดิมก็ไม่ได้พังเสียหาย เหตุผลก็เพราะว่ารองผู้อำนวยการโรงเรียนพึ่งเปลี่ยนเพื่อฮวงจุ้ยบ้านที่ดี ตัวพ่อของเธอเองที่มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนก็เลยน้อยหน้าไม่ได้ ต้องสั่งที่ใหญ่กว่าและแพงกว่ามาเปลี่ยนบ้างจึงจะสมฐานะและตำแหน่งอันมีเกียรติ
ไอ้ประตูรีโมตหน้าบ้านนั่นก็เหมือนกัน เธอรู้สึกไม่ชอบใจเลยทั้งราคาที่แพงจนไม่สมเหตุสมผล ทั้งสภาพสินค้าที่ดูมะล้องก๊องแก๊ง ติดตั้งมาสามเดือนแต่ซ่อมไปแล้วสี่ครั้ง เหตุผลแค่เพราะแม่ของเธอต้องการอุดหนุนลูกศิษย์ที่พึ่งเปิดร้านทำประตูรีโมต ลูกศิษย์คนนั้นทั้งชมทั้งสรรเสริญยกยอให้ อาจารย์มนีญา ศญารัตน์ คนสวยและใจดีของศิษย์ลองติดตั้งดู เขาจะลดราคาให้เป็นพิเศษ แม้คนเป็นลูกสาวจะลองสืบค้นในอินเทอร์เน็ตดูแล้วว่าร้านอื่นในย่านจังหวัดที่อาศัยอยู่รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง พบว่าราคาเบากว่าลูกศิษย์แม่เกือบจะครึ่ง แต่ท่านก็ยืนยันว่าจะติดตั้งกับคนนั้นเพราะเขาบอกว่าสินค้าของเขาคุณภาพดีกว่าที่อื่น
ทั้งพ่อและแม่เป็นแบบนี้มาตลอด ใครจะมาขายอะไรให้ ขอแค่สรรเสริญเยินยอ แค่ป้อนคำหวานให้ถูกจิตถูกใจ ทั้งคู่ก็พร้อมจะทำได้ทุกอย่าง
ซึ่งอันที่จริงแล้วมิถุนารู้ดีว่าเหตุผลหลักที่ทั้งพ่อทั้งแม่เป็นแบบนี้ก็เพราะแค่ต้องการรักษาภาพลักษณ์ สร้างภาพให้ชาวบ้านชาวช่องเห็นว่าตัวเองดี ร่ำรวย น่านับถือ มีเกียรติอะไรก็ว่ากันไป
หรือที่เรียกง่าย ๆ ประสาชาวบ้านว่า หน้าใหญ่ นั่นแหละ
คนเดียวที่รู้ถึงความข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรงของบุพการีก็มีแต่เธอเท่านั้น
เงินเดือนผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษและอาจารย์ชำนาญการพิเศษที่อีกสองปีจะเกษียณอายุนั้นถือว่าไม่ได้น้อย รวมสองคนก็แสนกว่าบาท แต่ใบรับรองเงินเดือนของทั้งคู่เหลือรับจริงไม่ถึงเดือนละสามพันบาทด้วยซ้ำไป
เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะกู้ยืมจนหมดทุกสถาบันการเงิน อย่างเดียวที่ไม่ได้กู้ก็เห็นจะมีแต่ระเบิด
ถามว่าเหลือแค่นั้นแล้วพอใช้ไหม คำตอบคือมันจะพอได้ยังไงล่ะในเมื่อทั้งคู่จมไม่ลง หน้าใหญ่ ออกงานสังคมบ่อย ชุดก็ใส่ซ้ำไม่ได้ โดยเฉพาะแม่ที่ต้องตัดผ้าไหมแพง ๆ ใหม่ทุกงาน ไหนจะค่ากินค่าอยู่ค่าน้ำค่าไฟค่าน้ำมัน ค่าอื่น ๆ อีกจิปาถะ เลยเกิดการกู้หนี้นอกระบบมาหมุนใช้ เอารถเข้าไฟแนนซ์ เอาที่ไปจำนองหรือไม่ก็ขายกินจนมรดกตกทอดจากปู่ย่าตายายไม่เหลือแล้ว
ภาระทั้งหมดก็เลยตกมาที่เธอ ลูกสาวคนเดียวที่โดนกรอกหูมาตั้งแต่จำความได้ว่าเกิดเป็นลูกต้องกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา ไม่อย่างนั้นจะเป็นบาป ตกนรกหมกไหม้ชั่วกัปกัลป์ ทำงานได้เงินแล้วก็ต้องเอามาจุนเจือครอบครัวบำรุงดูแลพ่อแม่
มิถุนาไม่ติดใจเลยที่จะต้องกตัญญูดูแลพ่อแม่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือแม้จะลำบาก แม้รู้ดีว่าหนี้ท่วมหัว เงินเดือนไม่พอใช้แต่ทั้งคู่ก็ยังจมไม่ลง ใช้จ่ายเงินฟุ้งเฟ้อเกินตัว หาเงินมาให้เท่าไหร่ก็ถมไม่เต็ม เหมือนเทน้ำลงบนผืนทรายละลายหายไปในชั่วพริบตา แต่ถ้าไม่มีให้ก็จะหาว่าเป็นลูกทรพี
คำถามในใจของมิถุนาที่มีมาตลอด คือคนเป็นลูกต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ แม้ว่าทั้งคู่จะทำเรื่องแย่กับคนเป็นลูกอย่างไรก็ตามงั้นหรือ ?
ตั้งแต่จำความได้ตั้งแต่อนุบาล มิถุนาต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ตื่นเช้ามาต้องกวาดถูบ้านก่อนไปโรงเรียน เย็นกลับมาต้องรดน้ำต้นไม้ หุงข้าว ล้างจาน โตขึ้นมาอีกนิดเข้าชั้นประถมพอที่จะใช้ไฟได้ก็ต้องรับหน้าที่หัดทำกับข้าวด้วย เสาร์อาทิตย์อย่าหวังจะได้ไปเล่นกับเพื่อนในหมู่บ้านเหมือนเด็กทั่วไป เพราะเธอต้องซักรีดเสื้อผ้าของคนทั้งครอบครัว ทำความสะอาดบ้านขนานใหญ่ทั้งนอกและในบ้าน ตัดต้นไม้ ตัดรั้ว และอีกจิปาถะ
และอีกเหตุผลที่พ่อแม่ไม่ให้เธอไปเล่นกับเพื่อน ๆ ก็เพราะว่า เธอเป็นลูกใคร จะไปเล่นกับลูกชาวบ้านสกปรกมอมแมมได้ยังไง มันไม่สมเกียรติลูกสาวอาจารย์และท่าน ผอ.
ซึ่งมิถุนาเองก็ไม่เข้าใจว่าชาวบ้านชาวช่องเขาไม่มีเกียรติตรงไหน เกียรติไม่ได้ขึ้นอยู่แค่หน้าที่การงานหรือตำแหน่ง เกียรติไม่อยู่ที่อายุหรือผมหงอกบนศีรษะ แต่เกียรติขึ้นอยู่กับการกระทำของคนคนนั้นต่างหาก
บ่อยครั้งที่เด็กหญิงมิถุนาตัวน้อยนั่งกอดเข่าเจ่าจุกอยู่ลำพังเพราะพ่อแม่ไปออกงานกลับบ้านดึก เสาร์อาทิตย์ก็แทบไม่อยู่ติดบ้าน ทิ้งเงินไว้ให้เธอร้อยสองร้อยให้ใช้จ่ายทั้งอาทิตย์ก็มี ขอเพิ่มก็โดนด่าหาว่าใช้จ่ายไม่ประหยัด พ่อแม่มีหนี้มีสินกว่าจะสร้างตัวมาได้ขนาดนี้
เด็กหญิงมิถุนาเรียนรู้ที่จะประหยัดอดออม เมนูประจำบ้านคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับไข่ เรียนรู้ที่จะปลูกผักสวนครัวไว้หลังบ้านเพื่อที่จะนำมาผัดใส่ไข่ราดข้าวกินบ้าง ขนมขบเคี้ยวอย่าไปใฝ่ฝันถึง
เพราะความไม่ค่อยมีเพื่อนทำให้มิถุนาชอบขลุกอยู่ในห้องสมุด อ่านหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่า เจอสูตรผักชุบแป้งทอดกรอบก็ลองเอามาทำดูบ้าง รู้สึกว่ามันอร่อยแทนขนมขบเคี้ยวได้ ก็เริ่มประยุกต์เอาโน่นเอานี่มาชุบแป้งทอด หัดทำอาหารจากสูตรในหนังสือที่พอจะหาวัตถุดิบง่าย ๆ ได้ พอได้คลายความอยากและความเหงาของเด็กน้อยได้บ้าง
แต่ก็นั่นแหละ มันช่วยได้เพียงชั่วครู่ชั่วยาม สุดท้ายเธอก็เป็นแค่เด็กที่ต้องการความรักความอบอุ่นในครอบครัวเหมือนคนอื่นเขา
โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
จะผิดไหม ถ้าอยากมีอะไรกับเพื่อนรัก เขาอยากสอดเสยลำใหญ่เข้าไปในกายเธอเหลือเกิน..เช่นเดียวกับเธอที่อยากให้เขาเข้ามาลึกๆ แรงๆ
พี่สาวครับ ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ผมอยากกอด อยากหอม อยากจับ อยากเหลือเกินครับ อยากจะจับพี่ทำเมีย...
ถูกพ่อแท้ ๆ ขายให้กับชายแก่คราวพ่อเพื่อไปเป็น 'เมียน้อย' เธอไม่อยากเสียซิงให้ชายแก่คราวพ่อ จึงเลือกเสียมันให้กับหนุ่มหล่อที่ 'ขายตัว' แต่เธอดันตกใจจนหมดสติทั้งที่เขาเสียบเข้าไปได้แค่ส่วนหัว บ้าบอฉิบ ! เมื่อได้สติ ขวัญเอยอับอายเป็นอย่างมาก สบถสาบานเอาไว้ว่าจะไม่ทำอะไรไร้สติเช่นนี้อีกแล้ว และภาวนาอย่าได้พบได้เจอเขาอีกเลย แต่ดูเหมือนเทวดาไม่เป็นใจ เพราะหนุ่มเจนรักคนนั้น กลับกลายมาเป็นนักศึกษาในคลาสที่เธอสอน แถมบ้านอยู่ติดกับเธออีกด้วย เวรล่ะสิ !
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"