คุณท่านเจ้าคะ … เบาหน่อยเถอะค่ะ
คุณท่านเจ้าคะ … เบาหน่อยเถอะค่ะ
“แน่นจัง” หนุ่มใหญ่ครางกระเส่าเมื่อความเป็นชายสอดเข้าไปสุดลำ
“พี่จักร ไหนว่าเหนื่อยไงคะ” หญิงสาวตัดพ้อด้วยความเป็นห่วง
“เหนื่อยงานอาบน้ำก็หายแต่ถ้าไม่ได้เหนื่อยก่อนนอนคงหลับไม่สนิท”
“ปากหวานนัก”
“ก็หวานแบบนี้มาสิบปีแล้ว ยังไม่ชินอีกเหรอจ๊ะ”
“อืม … ไม่ชินเลยค่ะ พี่จักรอย่าทำแบบนี้สิคะ” เธอต่อว่าเมื่อเขาอัดเข้ามาแบบหนักหน่วง
“แบบไหนจ๊ะแข” หนุ่มใหญ่แกล้งทำเป็นงงทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าการทำแบบนั้นมันยากเกินทนไหว
“แกล้งแขอีกแล้ว”
“แกล้งเพราะอยากให้แขของพี่เสียวสุดๆ ไงจ๊ะ”
“เสียวค่ะพี่จักร เสียวมาก” หญิงสาวดิ้นเร่าๆ เหมือนจะขาดใจเมื่อแท่งกำยำกระแทกเข้ามาซ้ำๆ ไม่มีหยุดพัก
“พี่ก็เสียว แขของพี่สวยเหลือเกิน” ทั้งสองมองกันด้วยสายตาหยาดเยิ้มแม้จะอยู่กินมาสิบปีแต่ความหลงใหลในกันและกันไม่เคยเปลี่ยน
แขไขอายุสามสิบห้าปี ส่วนสัดโค้งเว้าเข้ารูปเหมาะเจาะ ดวงหน้าหวานซึ้งยากที่จะมองผ่าน เธอเป็นลูกสาวของตระกูลขุนนาง
บวรจักรอายุสี่สิบห้าปี วัยใกล้เลขห้าไม่ใช่อุปสรรคในการร่วมรักหรือกิจกรรมอื่นๆ เขาสูงล่ำหน้าตาคมเข้มเป็นที่หมายปองของหญิงสาวแม้กระทั่งตอนนี้
จะมีหญิงใดกล้ามองผ่านหนุ่มใหญ่ที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมฐานะมั่งคั่ง บวรจักรคือบุตรชายคนเดียวของตระกูลชั้นสูง ที่ที่เขาเติบโตคือเรือนภิรมย์ซึ่งคนภายนอกมักเรียกว่าวังภิรมย์
ชายหนุ่มจบปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ เมื่อกลับบ้านเกิดสาวๆ หมายตาอยากได้เป็นของตนแต่บวรจักรยังไม่ถูกใจใครจนได้พบแขไข เขาจึงได้รู้ว่ารักแรกพบมีอยู่จริง
ชีวิตคู่ของทั้งสองมีแต่คนอวยพรเพราะเหมาะสมกันทุกประการแม้จะขาดไปบ้างตรงที่ไม่มีทายาทสืบสกุลแต่บวรจักรก็ไม่เก็บมาใส่ใจ เขาให้กำลังใจภรรยาและอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
ถึงจะเป็นเด็กนอกแต่บวรจักรรักเดียวใจเดียว เมื่อแต่งงานสายตาของเขามีไว้มองแค่ภรรยาแม้จะมีหญิงสาวเข้าหาแต่เขาไม่เคยเผลอใจ
“สิบปีแล้ว แขไม่ใช่สาวๆ เหมือนเดิมสักหน่อย” หญิงสาวอดกังวลไม่ได้แม้ว่าเขาจะชื่นชมทุกเช้าค่ำว่าเธองดงามเพียงใด
“โธ่ๆ แล้วพี่ล่ะแข จะห้าสิบแล้ว แก่เป็นไอ้เฒ่าเลยนะ” บวรจักรเย้ากลับ
“อืม … มันไม่เหมือนกันนี่คะ พี่ยิ่งแก่ยิ่งแซ่บ” ดูเอาเถอะจะห้าสิบแล้วแต่ยังมีแรงจัดหนักได้ทุกวัน
“แขของพี่ ยิ่งนานวันยิ่งแน่น พี่เสียวจนจะแตกแล้วจ้ะ”
“แตกข้างในนะคะคุณพี่” หญิงสาวออดอ้อน
“แขจ๋า ยั่วพี่อีกแล้ว”
“แขรักคุณพี่” แขไขยิ้มกริ่ม
ทุกครั้งที่โดนเรียกว่าคุณพี่ บวรจักรจะฮึกเหิมเสมอครั้งนี้ก็เช่นกัน หนุ่มใหญ่สาวเอ็นเข้าออกจนเตียงสั่นอึดใจต่อมาทั้งสองก็ครางระงมเพราะเสร็จสมพร้อมกัน
เรือนภิรมย์มีอายุร้อยกว่าปีแต่ยังงดงามไม่เปลี่ยนเพราะบวรจักรซ่อมบำรุงอยู่เสมอ เขาเคยวาดฝันว่าจะมีภรรยาและเจ้าตัวเล็กมาวิ่งเล่นสนามหน้าบ้านแต่คนเราแม้จะมั่งมีหรือสูงส่งเพียงใดก็ไม่พ้นต้องพบความผิดหวัง
แขไขตั้งครรภ์ไม่ได้แม้จะรู้ก่อนแต่งงานบวรจักรก็ไม่เปลี่ยนใจ เขารักผู้หญิงคนนี้ที่ตัวตน จึงยินยอมรับทั้งหมดไม่ว่าด้านใดๆ แม้ไม่มีโซ่คล้องใจแต่ทั้งสองก็รักกันมั่นคง
“แม่ปุ้ยจ๊ะ เย็นนี้ฝากดูแลพี่จักรด้วยนะคะ แขต้องไปงานวันเกิดเพื่อน” แขไขบอกแม่บ้านที่ดูแลเรื่องอาหารการกินในเรือนภิรมย์
“ได้ค่ะคุณแข ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ”
“พูดเหมือนพี่อายุสามขวบหาข้าวกินเองไม่เป็น” บวรจักรทำหน้างอใส่ผู้หญิงทั้งสอง
“แขรู้ว่าพี่จักรหาข้าวกินเองได้ค่ะแต่พี่ชอบทำงานจนลืมเวลา แขก็ต้องให้แม่ปุ้ยช่วยเตือน”
“แขไม่อยู่ พี่ไม่รู้จะทำอะไรนี่” บวรจักรบ่นงึมงำ
“ไปกับแขไหมล่ะคะ” แขไขอมยิ้มเพราะรู้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร
บวรจักรไม่ชอบร่วมงานสังคมมันทำให้เขาอึดอัดเพราะไปไหนก็ตกเป็นเป้าสายตาตลอด พวกผู้หญิงยิ่งน่าระอาเพราะคอยจะให้ท่าหาทางมาชิดใกล้ไม่เว้นนาที
“เจอกันตอนค่ำนะคะคุณพี่” แขไขกระซิบบอกสามี
แขไขเป็นเจ้าของบริษัทโฆษณาเธอสร้างมันด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง บวรจักรไม่เคยขัดใจภรรยา เธอยากทำงานที่ไหนก็แล้วแต่เธอต้องการแม้ตัวเขาจะมีบริษัทในเครือมากมายพร้อมให้เธอขึ้นแท่นผู้บริหารด้วยเงินเดือนหกหลักปลายๆ
แต่แขไขจะต้องการเงินมากมายไปทำไมแค่ที่มีตอนนี้ก็ใช้ไม่หมดแถมสามียังร่ำรวยระดับต้นๆ ของประเทศ ที่ออกไปทำงานทุกวันเพราะใจรักล้วนๆ ให้อยู่แต่บ้านได้เฉาตายพอดี
บวรจักรในวัยเกือบห้าสิบก็ยังทำงานทุกวัน เขาคิดว่าตัวเองแก่เต็มทีแต่คนรอบกายไม่คิดแบบนั้น เขาดูอ่อนกว่าอายุจริงเป็นสิบปีการได้รับประทานอาหารดีๆ และจิตใจแจ่มใสคือเคล็ดไม่ลับของหนุ่มใหญ่
เงินและอำนาจทำให้ชีวิตสุขสบายเมื่อกายสบายใจก็สบายแถมได้ภรรยาแสนดี … บวรจักรจึงมีแต่ความสุข
“แม่ปุ้ยครับ ตะวันจะเข้ามหาลัยแล้วใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะคุณจักร ฉันพาไปซื้อของครบแล้วค่ะ”
“เวลาผ่านไปเร็วจังเลยนะครับเหมือนเรื่องนั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน”
“ตะวันมันซาบซึ้งมากที่คุณจักรเมตตาจนทำให้มีวันนี้ ฉันก็เหมือนกันค่ะ ไม่รู้จะตอบแทนยังไง”
“แม่ปุ้ยดูแลคนในเรือนภิรมย์เป็นอย่างดี ผมก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงครับ”
“คุณจักรจะมาตอบแทนคนก้นครัวไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบฉันทำไมคะ”
“แม่ปุ้ยก็รู้ว่าผมไม่เคยคิดแบบนั้น” บวรจักรกล่าวด้วยความเสียใจ
“ขอโทษค่ะคุณจักร ฉันปากไวไปหน่อย”
“ถ้าไม่มีแม่ปุ้ย แขคงเหงาแย่”
“โธ่ … คุณจักร”
วันว่างๆ แขไขมักไปหาแม่ปุ้ยที่เรือนเล็ก ก็หาทำขนมทำกับข้าวไปเรื่อยเปื่อยแต่สุดท้ายก็ไม่พ้นพูดคุยเรื่องเดิมๆ แขไขเสียใจมากที่มีลูกไม่ได้ พยายามแค่ไหนเสียเงินไปเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ
คนที่ยอมแพ้ไม่ใช่เธอแต่เป็นสามี เขาทนเห็นเธอเจ็บปวดซ้ำๆ ไม่ไหว
ชีวิตของแขไขสมบูรณ์ไร้ที่ติถ้าไม่นับเรื่องนี้ เธอเกิดในชาติตระกูลดี ร่ำรวย เรียนเก่ง สะสวย พอออกเรือนก็ได้สามีที่มีพร้อมทุกอย่าง
“ผมน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่แขไม่เคยเลิกโทษตัวเองเลย”
“แม่ปุ้ยก็พยายามบอกตลอดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น”
“ขอบคุณแม่ปุ้ยมากนะครับ วันนี้ผมมีแค่ประชุม บ่ายๆ ก็น่าจะกลับแล้ว”
“คุณจักรอยากให้ทำอะไรเป็นพิเศษไหมคะ”
“หลนปูแล้วกันครับ แขบ่นอยากกินวันก่อน”
“ได้ค่ะคุณจักร” แม่บ้านยิ้มละไมให้ความรักของทั้งคู่ ต่างคนต่างนึกถึงกันและกันอยู่ตลอดจึงไม่แปลกที่ทั้งสองเหมือนเพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ
บวรจักรเข้าประชุมตอนเช้าแล้วแวะเซ็นเอกสารต่างๆ ที่เลขาเตรียมไว้ กำลังจะกลับบ้านแต่ฝนก็ตกมาโครมใหญ่เขาจึงเปลี่ยนใจจิบกาแฟรอให้ฝนซา
“สวัสดีครับ บวรจักรครับ” ชายหนุ่มมองสายฝนที่โปรยปรายไม่หยุด
“สวัสดีค่ะ จากโรงพยาบาลรักษาดี คุณแขไขโดนรถชนค่ะ”
“ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ” บวรจักรไปทันเวลาก่อนแขไขสิ้นใจ ทั้งสองได้ร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
ซุนเหยา เจ้าของร้านอาหารจีน ที่มีอยู่หลายสาขาทั่วประเทศ เธอทำงานหนักจนหมกสติไป เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในเกี้ยวแปดคนหาม สวมชุดแดงมงคล กำลังจะเข้าพิธีแต่งาน
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด