คุณท่านเจ้าคะ … เบาหน่อยเถอะค่ะ
“แน่นจัง” หนุ่มใหญ่ครางกระเส่าเมื่อความเป็นชายสอดเข้าไปสุดลำ
“พี่จักร ไหนว่าเหนื่อยไงคะ” หญิงสาวตัดพ้อด้วยความเป็นห่วง
“เหนื่อยงานอาบน้ำก็หายแต่ถ้าไม่ได้เหนื่อยก่อนนอนคงหลับไม่สนิท”
“ปากหวานนัก”
“ก็หวานแบบนี้มาสิบปีแล้ว ยังไม่ชินอีกเหรอจ๊ะ”
“อืม … ไม่ชินเลยค่ะ พี่จักรอย่าทำแบบนี้สิคะ” เธอต่อว่าเมื่อเขาอัดเข้ามาแบบหนักหน่วง
“แบบไหนจ๊ะแข” หนุ่มใหญ่แกล้งทำเป็นงงทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าการทำแบบนั้นมันยากเกินทนไหว
“แกล้งแขอีกแล้ว”
“แกล้งเพราะอยากให้แขของพี่เสียวสุดๆ ไงจ๊ะ”
“เสียวค่ะพี่จักร เสียวมาก” หญิงสาวดิ้นเร่าๆ เหมือนจะขาดใจเมื่อแท่งกำยำกระแทกเข้ามาซ้ำๆ ไม่มีหยุดพัก
“พี่ก็เสียว แขของพี่สวยเหลือเกิน” ทั้งสองมองกันด้วยสายตาหยาดเยิ้มแม้จะอยู่กินมาสิบปีแต่ความหลงใหลในกันและกันไม่เคยเปลี่ยน
แขไขอายุสามสิบห้าปี ส่วนสัดโค้งเว้าเข้ารูปเหมาะเจาะ ดวงหน้าหวานซึ้งยากที่จะมองผ่าน เธอเป็นลูกสาวของตระกูลขุนนาง
บวรจักรอายุสี่สิบห้าปี วัยใกล้เลขห้าไม่ใช่อุปสรรคในการร่วมรักหรือกิจกรรมอื่นๆ เขาสูงล่ำหน้าตาคมเข้มเป็นที่หมายปองของหญิงสาวแม้กระทั่งตอนนี้
จะมีหญิงใดกล้ามองผ่านหนุ่มใหญ่ที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมฐานะมั่งคั่ง บวรจักรคือบุตรชายคนเดียวของตระกูลชั้นสูง ที่ที่เขาเติบโตคือเรือนภิรมย์ซึ่งคนภายนอกมักเรียกว่าวังภิรมย์
ชายหนุ่มจบปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ เมื่อกลับบ้านเกิดสาวๆ หมายตาอยากได้เป็นของตนแต่บวรจักรยังไม่ถูกใจใครจนได้พบแขไข เขาจึงได้รู้ว่ารักแรกพบมีอยู่จริง
ชีวิตคู่ของทั้งสองมีแต่คนอวยพรเพราะเหมาะสมกันทุกประการแม้จะขาดไปบ้างตรงที่ไม่มีทายาทสืบสกุลแต่บวรจักรก็ไม่เก็บมาใส่ใจ เขาให้กำลังใจภรรยาและอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
ถึงจะเป็นเด็กนอกแต่บวรจักรรักเดียวใจเดียว เมื่อแต่งงานสายตาของเขามีไว้มองแค่ภรรยาแม้จะมีหญิงสาวเข้าหาแต่เขาไม่เคยเผลอใจ
“สิบปีแล้ว แขไม่ใช่สาวๆ เหมือนเดิมสักหน่อย” หญิงสาวอดกังวลไม่ได้แม้ว่าเขาจะชื่นชมทุกเช้าค่ำว่าเธองดงามเพียงใด
“โธ่ๆ แล้วพี่ล่ะแข จะห้าสิบแล้ว แก่เป็นไอ้เฒ่าเลยนะ” บวรจักรเย้ากลับ
“อืม … มันไม่เหมือนกันนี่คะ พี่ยิ่งแก่ยิ่งแซ่บ” ดูเอาเถอะจะห้าสิบแล้วแต่ยังมีแรงจัดหนักได้ทุกวัน
“แขของพี่ ยิ่งนานวันยิ่งแน่น พี่เสียวจนจะแตกแล้วจ้ะ”
“แตกข้างในนะคะคุณพี่” หญิงสาวออดอ้อน
“แขจ๋า ยั่วพี่อีกแล้ว”
“แขรักคุณพี่” แขไขยิ้มกริ่ม
ทุกครั้งที่โดนเรียกว่าคุณพี่ บวรจักรจะฮึกเหิมเสมอครั้งนี้ก็เช่นกัน หนุ่มใหญ่สาวเอ็นเข้าออกจนเตียงสั่นอึดใจต่อมาทั้งสองก็ครางระงมเพราะเสร็จสมพร้อมกัน
เรือนภิรมย์มีอายุร้อยกว่าปีแต่ยังงดงามไม่เปลี่ยนเพราะบวรจักรซ่อมบำรุงอยู่เสมอ เขาเคยวาดฝันว่าจะมีภรรยาและเจ้าตัวเล็กมาวิ่งเล่นสนามหน้าบ้านแต่คนเราแม้จะมั่งมีหรือสูงส่งเพียงใดก็ไม่พ้นต้องพบความผิดหวัง
แขไขตั้งครรภ์ไม่ได้แม้จะรู้ก่อนแต่งงานบวรจักรก็ไม่เปลี่ยนใจ เขารักผู้หญิงคนนี้ที่ตัวตน จึงยินยอมรับทั้งหมดไม่ว่าด้านใดๆ แม้ไม่มีโซ่คล้องใจแต่ทั้งสองก็รักกันมั่นคง
“แม่ปุ้ยจ๊ะ เย็นนี้ฝากดูแลพี่จักรด้วยนะคะ แขต้องไปงานวันเกิดเพื่อน” แขไขบอกแม่บ้านที่ดูแลเรื่องอาหารการกินในเรือนภิรมย์
“ได้ค่ะคุณแข ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ”
“พูดเหมือนพี่อายุสามขวบหาข้าวกินเองไม่เป็น” บวรจักรทำหน้างอใส่ผู้หญิงทั้งสอง
“แขรู้ว่าพี่จักรหาข้าวกินเองได้ค่ะแต่พี่ชอบทำงานจนลืมเวลา แขก็ต้องให้แม่ปุ้ยช่วยเตือน”
“แขไม่อยู่ พี่ไม่รู้จะทำอะไรนี่” บวรจักรบ่นงึมงำ
“ไปกับแขไหมล่ะคะ” แขไขอมยิ้มเพราะรู้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร
บวรจักรไม่ชอบร่วมงานสังคมมันทำให้เขาอึดอัดเพราะไปไหนก็ตกเป็นเป้าสายตาตลอด พวกผู้หญิงยิ่งน่าระอาเพราะคอยจะให้ท่าหาทางมาชิดใกล้ไม่เว้นนาที
“เจอกันตอนค่ำนะคะคุณพี่” แขไขกระซิบบอกสามี
แขไขเป็นเจ้าของบริษัทโฆษณาเธอสร้างมันด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง บวรจักรไม่เคยขัดใจภรรยา เธอยากทำงานที่ไหนก็แล้วแต่เธอต้องการแม้ตัวเขาจะมีบริษัทในเครือมากมายพร้อมให้เธอขึ้นแท่นผู้บริหารด้วยเงินเดือนหกหลักปลายๆ
แต่แขไขจะต้องการเงินมากมายไปทำไมแค่ที่มีตอนนี้ก็ใช้ไม่หมดแถมสามียังร่ำรวยระดับต้นๆ ของประเทศ ที่ออกไปทำงานทุกวันเพราะใจรักล้วนๆ ให้อยู่แต่บ้านได้เฉาตายพอดี
บวรจักรในวัยเกือบห้าสิบก็ยังทำงานทุกวัน เขาคิดว่าตัวเองแก่เต็มทีแต่คนรอบกายไม่คิดแบบนั้น เขาดูอ่อนกว่าอายุจริงเป็นสิบปีการได้รับประทานอาหารดีๆ และจิตใจแจ่มใสคือเคล็ดไม่ลับของหนุ่มใหญ่
เงินและอำนาจทำให้ชีวิตสุขสบายเมื่อกายสบายใจก็สบายแถมได้ภรรยาแสนดี … บวรจักรจึงมีแต่ความสุข
“แม่ปุ้ยครับ ตะวันจะเข้ามหาลัยแล้วใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะคุณจักร ฉันพาไปซื้อของครบแล้วค่ะ”
“เวลาผ่านไปเร็วจังเลยนะครับเหมือนเรื่องนั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน”
“ตะวันมันซาบซึ้งมากที่คุณจักรเมตตาจนทำให้มีวันนี้ ฉันก็เหมือนกันค่ะ ไม่รู้จะตอบแทนยังไง”
“แม่ปุ้ยดูแลคนในเรือนภิรมย์เป็นอย่างดี ผมก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงครับ”
“คุณจักรจะมาตอบแทนคนก้นครัวไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบฉันทำไมคะ”
“แม่ปุ้ยก็รู้ว่าผมไม่เคยคิดแบบนั้น” บวรจักรกล่าวด้วยความเสียใจ
“ขอโทษค่ะคุณจักร ฉันปากไวไปหน่อย”
“ถ้าไม่มีแม่ปุ้ย แขคงเหงาแย่”
“โธ่ … คุณจักร”
วันว่างๆ แขไขมักไปหาแม่ปุ้ยที่เรือนเล็ก ก็หาทำขนมทำกับข้าวไปเรื่อยเปื่อยแต่สุดท้ายก็ไม่พ้นพูดคุยเรื่องเดิมๆ แขไขเสียใจมากที่มีลูกไม่ได้ พยายามแค่ไหนเสียเงินไปเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ
คนที่ยอมแพ้ไม่ใช่เธอแต่เป็นสามี เขาทนเห็นเธอเจ็บปวดซ้ำๆ ไม่ไหว
ชีวิตของแขไขสมบูรณ์ไร้ที่ติถ้าไม่นับเรื่องนี้ เธอเกิดในชาติตระกูลดี ร่ำรวย เรียนเก่ง สะสวย พอออกเรือนก็ได้สามีที่มีพร้อมทุกอย่าง
“ผมน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่แขไม่เคยเลิกโทษตัวเองเลย”
“แม่ปุ้ยก็พยายามบอกตลอดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น”
“ขอบคุณแม่ปุ้ยมากนะครับ วันนี้ผมมีแค่ประชุม บ่ายๆ ก็น่าจะกลับแล้ว”
“คุณจักรอยากให้ทำอะไรเป็นพิเศษไหมคะ”
“หลนปูแล้วกันครับ แขบ่นอยากกินวันก่อน”
“ได้ค่ะคุณจักร” แม่บ้านยิ้มละไมให้ความรักของทั้งคู่ ต่างคนต่างนึกถึงกันและกันอยู่ตลอดจึงไม่แปลกที่ทั้งสองเหมือนเพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ
บวรจักรเข้าประชุมตอนเช้าแล้วแวะเซ็นเอกสารต่างๆ ที่เลขาเตรียมไว้ กำลังจะกลับบ้านแต่ฝนก็ตกมาโครมใหญ่เขาจึงเปลี่ยนใจจิบกาแฟรอให้ฝนซา
“สวัสดีครับ บวรจักรครับ” ชายหนุ่มมองสายฝนที่โปรยปรายไม่หยุด
“สวัสดีค่ะ จากโรงพยาบาลรักษาดี คุณแขไขโดนรถชนค่ะ”
“ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ” บวรจักรไปทันเวลาก่อนแขไขสิ้นใจ ทั้งสองได้ร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ