"เออสิวะ บุรุษพูดแล้วไม่คืนคำ วันก่อนแม่งมึง ผู้หญิงคนนั้นปารองเท้าแตะมากลางวงพวกกูเลย โอ้โห... แถมด่าพวกกูไฟแลบ ปากร้ายโคตรๆ" เรย์ทำท่าขยาด
"เอาดิ... หรือมึงป๊อด..." อ้นยุป้อง
"ก็ได้... คอยดูผลงานกูก็แล้วกัน ระดับเดือน... มีแต่สาวๆ วิ่งหากู ไอ้เรย์มึงเตรียมแต่งหญิงเอาไว้ได้เลย" เพราะการท้าทายและไม่อยากเสียหน้า และหาว่าป๊อด ป้องจึงตกปากรับคำพวกนั้นไป
วันพุธที่ผ่านมา หลังมหาวิทยาลัย..... หน้าร้านขายข้าวของยายวันเพ็ญ
รินดาเดินมาจากมินิมาร์ตหน้าปากซอยกำลังจะกลับเข้าไปในบ้านที่อยู่ยังท้ายซอย และต้องผ่านร้านยายวันเพ็ญอยู่แล้ว
"ป้า กะเพราหมูกรอบราดข้าวหนึ่งกล่อง” รินดาตะโกนสั่งข้าวอยู่ที่หน้าร้าน สายตาของกลุ่มบุรุษหลายหน่อที่เข้าชมรมหมาป่าล่าเนื้อ แต่จริงๆ น่าจะชื่อปากหมาซะมากกว่า
“ทำไปได้ว่าไหมมึง ขาสั้นสีเหลือง รองเท้าแตะสีแดง ถ้าเป็นแถวๆ บ้านกูนะมึง หมาเห่านึกว่าเห็นสัตว์ประหลาด”
“กูว่าน้องเขาก็สวยอยู่นะ” เสียงหนึ่งดังสนับสนุนขึ้น
“สวยอยู่คนเดียว สวยไม่ปรึกษาใคร สวยแบบทำไปได้” เหล่าบรรดากระชายเหล่านั้นก็ส่งเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
“รูปร่างก็สูงยาวเข่าดีนะมึง ถ้าไว้ผมยาวกูว่าก็น่าเอาอยู่นะ” อีกคนหนึ่งบอก
“อี๋ย... ไอ้เชี่ย... มึงไม่เห็นยางจัดฟันที่น้องเขาใส่เหรอวะ แม่ง... สี... โอ้โห... เห็นมาตั้งกะไฟแดงหน้ารถไม่กล้าชนนะมึง ต้องเบรกตัวโก่ง เพราะแสงสะท้อนมันเข้าตา” เสียงฮาดังกันขึ้นอีกตรึม
“สี่สิบห้าบาท” ยายวันเพ็ญส่งข้าวกล่องให้กับรินดา เธอรับมันมาถือไว้ ก่อนจะจ่ายเงินในจำนวนที่พอดี
“ขอบใจ...” ยายวันเพ็ญหันหลังให้ เดินกลับเข้าไปที่หลังร้าน
“วี๊ดวิ้ว...” เสียงผิวปากดังขึ้น ตอนที่เธอจะหันหลังกลับ
“น้องสาวผมสั้นครับ ให้พวกพี่ไปส่งข้างในไหมครับ พี่กลัวหมามันจะไล่งับขาน้องนะครับ” คนในกลุ่มนั้นตะโกนแซวขึ้นมา
“ไอ้... เชี่ย... กูได้ยินนะว่าพวกมึงนินทากูอยู่ ไม่มีอะไรทำกันหรือไง กลับไปนั่งวิจารณ์แม่กับน้องมึงที่บ้านไป ไอ้...”
เพล้ง... ตุ๊บ...
เธอถอนรองเท้าของตัวเองโยนเข้าไปกลางวงทั้งสองข้าง ชายหนุ่มสี่ห้าคนนั้นกระโดดแยกกันไปคนละทิศละทาง เธอยังไม่ยอมลดละ เดินตรงเข้าไปยังชายหนุ่มปากดีเหล่านั้น
พวกผู้ชายหน้าหม้อตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนภายในร้าน
รินดาไม่พูดอะไรอีก เธอส่งสายตาระร้ายมองผ่านแว่นกลมๆ หนาเตอะไปยังใบหน้าของหนุ่มๆ ทุกคน เธอหยิบแล้วสะบัดเอาน้ำแกงออกจากรองเท้าของตัวเอง และป้ายไปที่กระเป๋าผ้าของเรย์ที่วางใกล้ที่สุด ก่อนจะเอามันมาใส่ที่เท้าแล้วเดินกลับไปแบบไม่หันกลับมามอง
“เวรแล้ว กระเป๋าน้องเฟิร์นซื้อให้กู” เรย์โอดครวญ ตอนนี้กระเป๋าของเขาเต็มไปด้วยน้ำต้มแซ่บ
“ฝากเอาไว้ก่อนนะยายแว่น” เรย์ยืนมองตามหลังผู้หญิงคนนั้นไป คิดเอาคืน
“เจ้าป้องมันรู้ตัวหรือยังแม่” คุณเปรมถามภรรยาขึ้นมา ตอนนี้เธอยังก้มๆ เงยๆ อยู่กับมือถือของตัวเอง
“ฉันไม่ชอบบังคับลูก พ่อก็รู้” คุณอ่อนตอบออกมาโดยไม่มองหน้าของสามี
“คุณอ่อน” สามีทำเสียงเข้มเข้าใส่
“พ่อไม่ได้พูดเล่นนะ ไปปลุกมัน พ่อจะให้มันบินไปเย็นนี้เลย”
“อะไรกัน อย่ามาหยอกกันแรงขนาดนี้นะ” ภรรยามือถือแทบร่วง
“พ่อจะส่งลูกไปเรียนถึงอังกฤษ จะไม่ให้แม่ทำใจเลยหรือไงคะ" เธอหน้าตาตกใจ ไม่คิดว่าสามีจะทำอะไรรวดเร็วอย่างนี้
ทั้งๆ ที่ปรึกษากันได้ไม่นาน และเธอไม่คิดว่าเขาจะเอาจริง ทำให้เธอไม่ทันได้ตั้งตัว
“ถ้าแม่ยังเห็นเจ้าป้องมันเป็นเด็กอยู่อย่างนี้ พ่อว่าให้อยู่เมืองไทย คงเสียคนในไม่ช้า”
“คุณเปรมจะพูดเกินไปแล้วนะคะ” เธอเริ่มบีบน้ำตา เรียกชื่อสามีเต็มยศ
“ให้ลูกไปเรียนนะแม่ พ่อไม่ได้ให้มันไปตาย”
“คุณ...” เธอเห็นสายตาที่เอาจริง และไม่ได้ล้อเล่น
“เวียนไปปลุกคุณป้อง และกระเป๋าที่ให้จัดเมื่อวาน เวียนให้หวังขึ้นไปเอาลงมา แล้วเอาขึ้นท้ายรถ ฉันจะไปส่งเจ้าป้องมันขึ้นเครื่องเอง” เขาหันไปสั่งคนใช้
คุณเปรมศักดิ์ที่เผด็จการที่สุดในบ้าน และทำอะไรตามใจตัวเองอยู่แล้ว เขาใช้วิธีบังคับให้ลูกชายคนเดียวไปเรียนที่อังกฤษโดยไม่ได้ถามความสมัครใจของเจ้าตัว
“คุณ...” คุณภคมนถึงกลับเข่าอ่อน
“จะไปส่งลูกกับพ่อไหม” เขานั่งลงใกล้ๆ ภรรยา จับมือของเธอขึ้นมาบีบเบาๆ เธอทำน้ำตาร่วง
“ให้ลูกไปเถอะ จะได้โตซะที เรามีความหวังเดียวอยู่ที่มันนะ ยังไงก็อยากให้ลูกได้ไปผจญภัยดูบ้าง”
“เดี๋ยวฮะพ่อ นี่มันอะไรกัน ผมไม่ไปเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาด ผมก็ไม่ไป”
ป้องณวัฒน์ตะโกนโวยวายดังมาจากข้างบน เมื่อมาถึงตรงหน้าพ่อ สายตาที่ดุดันและเอาเรื่องเป็นที่สุด ทำให้เขาหันหลังกลับขึ้นไปข้างบนบ้านอย่างรวดเร็ว
“เร็วๆ นะโว้ย เครื่องจะออก ฉันจะต้องให้แกไปในวันนี้ให้ได้”
“เผด็จการ” ภคมนทำปากมุบมิบ ก่อนจะวิ่งปรู๊ดขึ้นชั้นสองตามหลังลูกชายไปติดๆ
ทุกอย่างถูกนำมาขึ้นรถ รวมทั้งลูกชายที่นั่งหน้าเหม็น เขาถูกยึดโทรศัพท์เอาไว้เรียบร้อย โดยไม่ให้ได้บอกและร่ำลาเพื่อนๆ ป้องณวัฒน์ทำตัวไม่ถูกเอาเหมือนกัน ตอนนี้มีแม่ที่ร้องไห้กระซิกๆ อยู่ข้างๆ
“ตั้งใจเรียน ฉันเสียเงินไปเยอะนะกับแก เรื่องที่จะส่งไปเรียนที่อังกฤษ และต้องทำตัวให้ดีๆ ฉันจะให้เงินแกแค่พอใช้ ดัดนิสัยใช้เงินมือเติบ อยากได้อะไรเป็นพิเศษต้องทำงานเอาเอง และฉันยึดบัตรทุกอย่างของแกคืน และใช้ได้แค่บัตรนี้บัตรเดียว” คุณพ่อยื่นบัตรสีทองให้ ป้องหันไปกอดแม่
“อย่าทำตัวเหลวไหลนะลูก” เธอสอนเหมือนป้องณวัฒน์เป็นเด็กเล็กๆ
“แล้วห้ามมีเมียแหม่ม มีลูก” คุณเปรมศักดิ์กำชับ
คำว่าเมียทำให้เขานึกไปถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาทำมิดีมิร้ายกับเธอเมื่อคืนนี้ แล้วสัญญาที่ว่าจะไปรับไปเรียนในเช้าวันจันทร์