นางถือกำเนิดมาพร้อมกับโชคร้ายมารดาตาย ตั้งแต่นางลืมตาดูโลก ใครก็ช่างที่เห็นใบหน้างดงามของนางจะต้องมีอันเป็นไป
“ทำไมต้องเป็น เจิ้งอ้ายฉิง (เจิ้งแซ่ของมารดา อ้ายชิง-ความรัก) ”
“หวงเจิงอู๋ เจ้ากล้าขัดบัญชาข้าหรือไร”
“ฝ่าบาท ข้าเป็นถึงแม่ทัพไร้พ่ายอีกอย่าง นางแค่ลูกอนุเป็นชายารองท่านอ๋องอย่างข้าไม่นับว่ามากไปหน่อยหรือ”
“หวงเจิ้งอู๋จะมากไปแล้ว เมื่อไหร่จะเลิกดูถูกคนอื่นแล้วเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่”
“ข้าไม่ขอรับ นางในตำแหน่งชายารอง”
หวงฉีจิ้งตบโต๊ะฉาดใหญ่
"หากไม่เห็นแก่หน้าฮองเฮาก็เชิญเจ้าปฏิเสธได้ในทันที"
หวงเจิ้งอู๋ประสานมือจากไป
จวน ขุนนางเหว่ยจื่อหยวน
“ท่านแม่ นางอัปลักษณ์เหตุใดจึงได้แต่งกับท่านอ๋องหวงเฉิงอู๋ที่รูปงาม”
“ต้องมีสิ่งใดผิดพลาด ไม่สิ ฮองเฮาเป็นถึง น้าสาวคนเล็กของนาง ก็คงไม่น่าจะผิดพลาดอะไร”
“ท่านแม่ นางจะเป็นที่โปรดปรานของท่านอ๋องหรือไม่”
“ไม่สิเจ้าดูนางเกิดมาพร้อมกับความโชคร้ายแม่ตายแล้วยังใบหน้าอัปลักษ์ ผู้คนล้วนหวาดกลัวเมื่อพบหน้านางเจ้าคิดว่าท่านอ๋องจะทรงโปรดปรานหญิงหน้าตาอัปลักษณ์หรือไร”
รอยยิ้มหยันบนใบหน้าสวยสด
“ท่านแม่เช่นนั้น ...อีกไม่นานนางคงถูกเฉดหัวออกจากจวนอ๋อง ว่ากันว่าชายาเอกของท่านอ๋อง น่ากลัวเกินใคร”
“คงต้องนับวันว่านางจะเข้าไปอยู่ในนั้นได้นานกี่วันจะเหมาะกว่า”
เจิ้งอ้ายฉิง ในอาภรณ์สีแดง มีผ้าคลุมหน้าสีเดียวกัน ปิดบังใบหน้าไว้ แม้รูปร่างอรชรทว่าใบหน้าด้านซ้ายอัปลักษณ์จนเหมือนภูติผี ก้าวขาลงจากเกี้ยวหลังเล็ก แหงนหน้ามองป้ายด้านบน
“จวนอ๋องไร้พ่าย”ไม่ได้แสดงสีหน้าว่าดีใจหรือตื่นตกใจอะไร
“คุณหนูรองข้าน้อยส่งได้เพียงเท่านี้”
เจิ้งอ้ายฉิงย่อกายลงตรงหน้าคนหามเกี้ยว
“โอ้คุณหนูรองอย่าทำแบบนี้ ข้าน้อยไม่อาจรับได้”
“ท่านลุงเป่ย อีกเท่าไหร่ถึงจะได้พบกัน ท่านลุงมีน้ำใจกับข้ายิ่งแล้ว คนอื่นล้วนไม่มีใครอยากมาส่งข้าที่นี่ เพราะกลัวจะพบกับความโชคร้ายและอัปยศ มีแต่ท่านลุงที่มีน้ำใจกับข้ายิ่งนัก อ้ายฉิงไม่มีเงินทองตอบแทนมีเพียง คำขอบคุณก็เท่านั้น” ลุงเป่ย ได้แต่ยิ้มเศร้าๆ
“คุณหนูแค่นี้ก็ซึ้งใจแล้ว คุณหนูรองโชคร้ายแต่ไม่เคยโทษคนอื่น พยายามที่จะ ให้คนอื่นยิ้มได้เสมอ ยายแก่เป่ยฝากลุงมาบอกกับคุณหนูเพราะนางไม่อาจหยุดร้องไห้ได้ เมื่อคุณหนูมาที่นี่”
“ท่านป้าดีกับข้ามาตลอดตั้งแต่ข้าเกิดมามีเพียงท่านป้าที่คอยห่วงใย”
“นางตอนนี้ก็ยังห่วงคุณหนูรองไม่เสื่อมคลาย กำชับให้ทำเหมือนที่เคยทำเป็นประจำห้ามละเลย จนกว่าคุณหนูจะพ้นเคราะห์”
เจิ้งอ้ายฉิงยิ้ม ก่อนจะหันหลังสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก้าวเดินผ่านธรณีประตูหน้าจวนอ๋อง
สาวใช้นางหนึ่ง ก้มหน้าไม่กล้ามองผ่านผ้าคลุมด้วยได้ยินคำเล่าขานมามากมายกับใบหน้าอัปลักษณ์ของเจิ้งอ้ายฉิง
“พระชายา ท่านอ๋องให้ข้าน้อยจัดห้องหับไว้ให้ท่านแล้วอยู่ด้านในสุด”
สาวใช้วัยอ่อนกว่ายื่นมือรับห่อผ้าในมือของเจิ้งอ้ายฉิง
“ไม่เป็นไรข้าถือเองได้”
“เชิญนายหญิง ด้านซ้าย”
สาวใช้ผายมือ ให้เจิ้งอ้ายฉิงเดินไปก่อน
“นายหญิงเจ้าขาข้าน้อย เจียวหยูรับหน้าที่ดูแลนายหญิงต่อจากนี้ตามคำสั่งท่านอ๋อง”
“ขอบใจเจ้ายิ่งนัก”
น้ำเสียงอ่อนโยนไม่ว่าจะพูดกับใครเป็นกิริยาที่ อ้ายฉิงทำจนกลายเป็นความเคยชิน
ห้องด้านซ้ายสุด ที่เหมือนจะเพิ่งได้รับการปัดกวาดด้วยร้างไร้มานาน
“นายหญิงข้าน้อยเพิ่งจะได้มาปัดกวาดให้ท่าน เมื่อวานด้วยงานในจวนมากมายกว่าจะปลีกตัวมาได้ นายหญิงคงพอจะหลับนอนได้”
จริงอย่างที่คิด ห้องนี้ถูกทิ้งร้างมานานจริงๆ
“ขอบใจเจ้าเหลือเกินแค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้วปกติ ข้าทำทุกอย่างด้วยตัวเองนี่ถือว่ายังมีเจ้า”
หวงเจิงอู๋ก้าวเท้ายาวๆ หยุดยืนตรงหน้า สีหน้าเรียบเฉย ยืนเอามือไพล่หลังด้วยความถือตัวใบหน้าหล่อเหลาเบือนหน้าหนีไม่อยากมองเจิ้งอ้ายฉิงแม้แต่น้อย เจิ้งอ้ายฉิง แอบมองใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตร ที่มองเห็นเพียงเสี้ยวหน้า
“เจียวหยู ออกไปก่อน”
เจียวหยูย่อกายจากไป เจิ้งอ้ายฉิงนั่งก้มหน้ามองมือตัวเอง
“ข้าไม่ได้มาเปิดผ้าคลุมหน้ารับเจ้าเข้าจวนอย่างที่เจ้าคิด ข้าไม่ได้มาร่วมหอกับเจ้าอย่างที่เจ้าคิด เพราะฉะนั้นหากไม่พอใจในสิ่งที่ข้าทำ รุ่งเช้าเจ้าก็แค่ขอหย่ากับข้าเสีย”
เจิ้งอ้ายฉิงเงยหน้าอัปลักษณ์ขึ้นจ้องมองดวงหน้าของหวงเฉิงอู่ก่อนจะเปิดผ้าคลุมหน้า เผยให้เห็นใบหน้าหน้าอัปลักษณ์เต็มตา หวงเฉิงอู่ผงะถอยอ้าปากค้างใบหน้าซีกขวาแม้จะงดงาม จนไร้ที่ติแตกต่างกับใบหน้าซีกซ้าย ที่อัปลักษณ์จนเขาแทบจะเผลอสำรอกของเก่าออกมา
“คงต้องรบกวน ท่านอ๋องขอหย่ากับข้าเสียเอง”
เสียงดังระฆังแก้วกังวานเพราะพริ้งแม้จะอยู่ในอาการไม่พอใจก็ตาม
“เจ้ารู้คำตอบอยู่แล้วว่าข้าไม่อาจ ขอหย่าเจ้าได้ เจ้าจึงยื่นข้อเสนอแบบนี้คืนกลับมา เจ้าอัปลักษณ์เพียงนี้ก็น่าจะรู้ดีว่าไม่คู่ควรกับข้า”
“ข้ารู้ดี”
น้ำเสียงแปร่งในตอนท้าย คล้ายๆ กับยอมรับชะตากรรมของตัวเองเป็นอย่างดี
“รู้ก็ไปเสีย”
“ไม่ใช่ข้าที่ตัดสินใจได้เพียงลำพัง”
เหมือนจะร้องขอความเห็นใจ
“เจ้าก็รู้ว่าข้าต้องอับอายผู้คน และข้ารังเกียจเจ้าแค่ไหนกับเรื่องใบหน้าอัปลักษณ์ของเจ้า”
“ข้าก็เพียงทำตามบัญชาของฝ่าบาท”
“อ้าง บัญชาฝ่าบาท ใจจริงหากเจ้าไม่ยอมแต่งเพราะเห็นแก่ข้าที่ต้องมาแบกรับความอับอายให้เหล่าขุนนางและผู้คนในวังหลวงต้องหัวเราะเยาะ เจ้าก็ควรจะขัดบัญชาฝ่าบาทเสียมิใช่แต่งกับข้า หรือว่าเป็นเพราะเจ้าเองก็แอบดีใจที่ได้แต่งกับข้า”
“ข้าไม่เคยดีใจหรือเสียใจ”
“ดีข้าจะทำให้เจ้าเสียใจที่ต้องแต่งกับข้า และจะต้องขอหย่ากับข้าอีกไม่นาน”หวงเฉิงอู๋ก้าวขาสะบัดแขนจากไป เจิ้งอ้ายฉิงเอนกายพิงพนักเก้าอี้
จ้องมองกระจก เงาที่มีใบหน้าอัปลักษณ์ของตัวเองอยู่ตรงนั้น ยกมือขึ้นลูบใบหน้างดงามด้านขวา
สิบแปดปีก่อน
“นางถือกำเนิดมาพร้อมกับโชคร้ายมารดาตาย ตั้งแต่นางลืมตาดูโลก ใครก็ช่างที่เห็นใบหน้างดงามของนางจะต้องมีอันเป็นไป”
“ท่านเซียนแล้วข้าจะต้องทำอย่างไร”
ท่านป้าเป่ยตอนนั้นอายุอานามยังไม่เท่าไหร่นางเป็นสาวใช้ที่คอยรับใช้มารดาของเจิ้งอ้ายฉิงอีกที เอ่ยปากถามขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“เจ้าก็แค่ ปิดบังใบหน้างดงามของนางเสีย เด็กน้อยคนนี้เมื่อเติบใหญ่ใบหน้าของนางหาก ปล่อยให้ผู้คนพบเห็น จะต้องเป็นฉนวนเหตุล่มเมืองล่มสวรรค์อย่างแน่นอน”
เจิ้งอ้ายฉิง ยกมือขึ้นลูบใบหน้าด้านซ้ายแสนอัปลักษณ์ที่มีวัตถุบางอย่าง ปิดบังไว้ก่อนจะยิ้มให้กับกระจกบางๆ
“เจ้าเหมาะกับ ความอัปลักษณ์อย่างนี้เจิ้งอ้ายฉิง”
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
ปลอมตัวเข้ามาเป็นขันทีข้างกายฮ่องเต้หนุ่มหล่อ ที่มีเสียงเล่าขานว่าไม่ยอมแต่งเมียเพราะ นิยมบุรุษด้วยกัน
ดับอนาถ แต่เมื่อฟื้นขึ้นมาอนาถยิ่งกว่าตอนตาย องค์ชายขี้เมาตัวเหม็นผมเผ้ารุงรัง กับความคาดหวังของไทเฮาว่าจะเปลี่ยนกองขยะให้กลายเป็นผู้เป็นคน
ข้าอยู่ในสุสานบรรพชน ไล่ข้าแล้วยังไง ใช่ว่าข้าไม่มีวิชา ในเมื่อเป็นคนยุคใหม่ ข้าจะร่ำรวยด้วยมือของตัวเอง มีลูกแต่ไม่เคยลิ้มรสรักแล้วยังไง ลูกข้า ข้าเลี้ยงเอง!! แต่ทำไม…. สวรรค์…มีคนมาแสดงตัวว่าเป็นสามีข้าถึงสามคน แล้วสามีข้าคือใครกันแน่!! ****************** สามีข้าคือใคร ข้าไม่สน ข้าขอแค่หาเงินอย่างเดียวพอ!!
มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น “ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม” ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน. 4เรื่องสั้น แนวPWP > >หลงสวาท boss คลั่งรัก / คลั่งรัก น้องเมียแสนหวาน/ เมียเด็กของคุณป๋า / เล่นกับไฟ
หล่อนถูกส่งมาบรรณาการในฐานะทาสบำเรอความใคร่ เพื่อแลกกับหนี้สินก้อนโต นอนกับเขาจนกว่าเขาจะเบื่อ แล้วเมื่อนั้นแหละหน้าที่บำเรอบนเตียงของหล่อนจึงจะหมดไป พะแพง ถูกส่งตัวมาเป็นนางบำเรอให้กับมหาเศรษฐีเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในลาสเวกัส หน้าที่ของหล่อนคือทำให้เดมอน ลินการ์ด มีความสุขที่สุดยามอยู่บนเตียง หล่อนก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างเพื่อให้เขาพึงพอใจ แต่ไม่นานเขาก็เบื่อหน่าย ขับไล่ไสส่งหล่อนออกไปจากชีวิต ข่าวงานแต่งงานของเขากับผู้หญิงคนใหม่ที่ทั้งสวยและแสนคู่ควรดังก้องคับแผ่นฟ้า ในขณะที่หล่อนต้องหลบอยู่ในซอกหลืบของความมืดมิดเพื่อซ่อนเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอาไว้อย่างรวดร้าวทรมาน
เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
“คุณช่วยสอนเรื่องอย่างว่าให้ฉันได้ไหม?” “ห๊ะ?!” ทันทีที่เธอพูดจบ ออสตินก็อย่างตกใจจนเกือบจะพลัดตกเก้าอี้แล้วด้วย ไม่คาดคิดว่าเธอจะพูดเรื่องนี้กับเขา ออสติน เบรเดน ปิศาจหนุ่มผู้เจนจัดในเรื่องเริงรัก ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ยินคำขอสุดพิศดารพันลึกจากปากของดรัลพร แก้วกานต์ เมื่ออยู่ๆ เธอก็บุกมาถึงห้องทำงานแล้วขอให้เขาช่วยรับหน้าที่ “ติวเตอร์” เพื่อสอน “บทเรียนพิศวาส” ให้เธอเป็น “ผู้หญิงเร่าร้อน” ในแบบที่เขาชอบ และเขาคงจะรับหน้าที่ดังกล่าว หากว่าเธอไม่ใช่น้องสาวของเพื่อนสนิท และเป็นคนที่เขาพยายามเก็บไม้เก็บมือให้อยู่ห่างจากเธอมาตลอด เพราะเขาดันรู้สึกอยากครอบครองเธอตั้งแต่เธออายุได้เพียงสิบสามปีเท่านั้น! ทว่าคนอย่างดรัลพรผู้มุทะลุมีหรือจะยอมให้เขาปฏิเสธคำขอเธอง่ายๆ เมื่อเธอยั่วยวนเขาด้วยท่าทีไม่ประสีประสาจนเขาต้องหลวมตัวตกปากรับคำว่าจะเป็น “คุณครูกิตติมศักดิ์” สอนบทเรียนแสนพิเศษนั้นให้กับเธอ เพียงแต่เธอต้องจ่ายค่าเล่าเรียนแพงลิบลิ่ว ด้วย “พรหมจรรย์” ที่เพียรรักษามานานของเธอ “คราวหลัง... อย่าได้คิดจะอ่อยผู้ชายคนอื่นอีก เข้าใจไหม?!” เขาถามเมื่อฟาดแส้ลงมาอีกครั้ง “แยกขาออกเดี๋ยวนี้!” “อื้อ!” ดรัลพรร้องอีกครั้งเมื่อเขาฟาดแส้ลงมาเพื่อเป็นการทำโทษและตักเตือนถึงผลของการขัดคำสั่งของเขา
“นึกดูดีๆ เจ้าเอยเรามีอะไรเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดไหม ตัดคำว่าอาหลานออกไปก่อน ตอนนี้เราก็คือผู้หญิงกับผู้ชายที่มีความต้องการเหมือนกัน ถ้าอาปล่อยให้เจ้าเอยกลับห้องตอนนี้เจ้าเอยก็นอนไม่หลับและอาก็คงเป็นผู้ชายที่โง่มาก”