พี่สาวฝาแฝดที่พลัดพรากตั้งแต่พึ่งจะลืมตาดูโลก จงใจสังหารท่านอ๋องสายโหดในคืนเข้าหอแล้วสาปสูญไป เมื่อฟื้นขึ้นมาในอาภรณ์สีแดงอู๋หงถิงกลับชะตาพลิกผันจากนางใบ้ขอทานมาเป็นชายาทาสของ หวาเซียงอ๋อง
พี่สาวฝาแฝดที่พลัดพรากตั้งแต่พึ่งจะลืมตาดูโลก จงใจสังหารท่านอ๋องสายโหดในคืนเข้าหอแล้วสาปสูญไป เมื่อฟื้นขึ้นมาในอาภรณ์สีแดงอู๋หงถิงกลับชะตาพลิกผันจากนางใบ้ขอทานมาเป็นชายาทาสของ หวาเซียงอ๋อง
อู่หงถิง ลืมตาตื่นบนแท่นนอนสีแดง ยามเช้าที่ไร้ซึ่งสรรพเสียง ทำไมมาอยู่ตรงนี้ในเมื่อเมื่อคืนจำได้ว่าตัวเองกำลังจะกลับบ้านที่เชิงเขาเพื่อนำของที่ขอมาได้วันนี้โชคดีได้เงินพอซื้อไก่ ไปให้น้องๆ
“พานางออกไป”
สาวใช้ที่ไม่สาวสองคนจับแขนพาอู่หงถิงออกจากตรงนั้นไปชุดสีแดง ที่สวมใส่ยังใหม่และสวย แต่อู่หงถิงกับคิดถึงราคาของมันหากนำไปขายให้เถ้าแก่ที่เคยขโมยของไปขายอยู่เรื่อยๆว่าจะได้ราคาเท่าไหร่กัน
ร่างซูบซีดในอาภรณ์สวยงาม ยืนมองอู่หงถิงด้วยสายตาสงสัย
“ท่านพี่ทำไมทำกับนางเช่นนั้น”
แววตาดุดันทว่าใบหน้าหล่อเหลาเฉยชา โอบแขนรอบไหล่บางของเหอซ่างเซี่ยน ชายาเอกที่งดงามด้วยรูปโฉมกุมมือบางไว้อย่างอ่อนโยน
“หวางเฟยอากาศข้างนอกเย็น เข้าไปข้างในเสียเถอะ อย่ามาเสียเวลากับหญิงไร้ค่าผู้นี้”
“ไร้ค่า”อู๋หงถิงยกมือขึ้นส่งภาษามือ ด้วยความไม่พอใจ หากมีเสียงก็จะเปล่งวาจาด่าทอแต่นี่อู่หงถิงเป็นใบ้ ไม่สามารถกล่าวคำใดได้
ร่างสูงพยุงชายาเอกเข้าไปข้างในไม่สนใจภาษามือด่าทอนั้นหรือว่าไม่เข้าใจว่ากำลังถูกด่าทอ
อู่หงถิงมอง ตัวเองในขณะนี้ทำไมถึง งดงามเพียงนี้แล้วมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
ถูกโยนเข้าไปในห้องเก็บของที่มี ทั้งธัญพืชตากแห้งกับฟืนในนั้น
“อยู่ในนี้จนกว่า ท่านอ๋องจะมีบัญชาให้ออกไป”
หงถิงขมวดคิ้วก่อนจะเดินสำรวจไปรอบๆห้อง
จะเป็นไรไป ดีกว่าบ้านที่อู่หงถิงอยู่กับมารดาแล้วก็น้องๆถมไป
“ท่านพี่นางทำอะไรผิด”แววตาอ่อนโยนไม่ต่างจากน้ำเสียง
“นางใช้มีดในมือแทงข้าก่อนที่จะหนีไป”แววตื่นตกใจ
“แทงท่านพี่ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น นางเป็นถึงลูกขุนนางใหญ่ แต่งเข้ามาในจวนอ๋องคืนแรกแล้วทำไมถึงทำเรื่องใหญ่เพียงนั้น”
หลี่กวางหวาเซียงส่ายหน้าไปมา
“ท่านพี่ลองฟังนางพูด อย่าเพิ่งลงโทษนางเลย”
ส่งเสียงไอถี่ๆสองสามที
“อย่ากังวลพักเสีย ยกถ้วยยาให้พระชายา”
หันไปสั่งสาวใช้
กุมมือซีดขาวไว้แน่นพยุงให้ไปนั่งที่แท่นนอน
ก่อนหน้านั้น
หลี่กวางหวาเซียงสาวเท้าเข้าไปในห้องหอที่ประดับตกแต่งอย่างงดงาม
“เปิดประตู”
บานประตูถูกเปิดออกช้าๆ ร่างบอบบางนิ่งงันในแสงสลัว ผ้าคุลมหน้าปกปิดมิดชิด มือใหญ่เอื้อมเปิดผ้าคุลมหน้าสีแดงบางเบา เสียงมีดสั้นแหวกอากาศพุ่งเข้าสีข้างเขาอย่างจังทั้งๆที่เบี่ยงตัวหลบ เลือดไหลซึมหวาเชียงอ๋องผลักร่างบางให้ล้มลงบนแท่นนอนกุมมือที่บาดแผลเลือดไหลซึม เพียงแค่อึดใจที่ก้มมองบาดแผลนางกับถลาออกจากห้องไปทันที
“จับตัวนางไว้”
มีดเปื้อนเลือดถูกทิ้งลงกับพื้นก่อนที่ร่างบางในอาภรณ์สีแดงจะหายไปกับความมืด
“หวาเซียงพบนางแล้ว นางสลบอยู่ที่ริมเขา”
“นำไปขังไว้”
บาดแผลถูกชำระล้างทำความสะอาดและใส่ยาสมานแผล แผลไม่ลึกนักอาจเป็นเพราะความขลาดเขลาจึงไม่กล้าออกแรงในการแทง หรืออาจเป็นเพราะคนแทงไร้วรยุทธ์ แผลที่ได้จึงไม่สาหัส แต่ในระยะประชิดขนาดนั้นนางตั้งใจจะให้เขาตายอย่างแน่นอน
จะฆ่าจะแกงก็ใช่ที่ บิดานางได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาทไม่น้อย เขาเองเคยพบนางเพียงครั้งเดียวในวังหลวงเพียงแค่เหลือบตามอง
“ท่านพี่จะลงทัณฑ์นางเช่นไร”
“ขังนาง ข้าเองไม่สู้ชอบใจนาง ขัดบัญชาฝ่าบาทไม่อาจกระทำอีกทั้งพ่อของนางยังได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาท”
“ท่านพี่ บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยอย่าได้ลงทัณฑ์นางเลยคิดเสียว่าเรื่องในครอบครัว”
“เรื่องในครอบครัว นางไม่ได้พลั้งมือทำร้ายข้าหากแต่นางจงใจแทงข้าให้ตาย”
“ท่านพี่อย่างไรเสียนางก็เป็นชายารอง”
“ข้าไม่เคยต้องการนาง ฝ่าบาทจงใจแต่งนางเข้าจวนอ๋องของข้าทั้งๆที่รู้ว่า ...ช่างเถอะ เจ้าพักเสียข้าจะออกไปสูดอากาศข้างนอก”
“ท่านพี่ข้างนอกอากาศเย็นหยิบเสื้อคลุมยื่นส่งให้ด้วยความห่วงใย หวาเซียงอ๋องเพียงรับมาถือไว้ก่อนจะก้าวออกไปด้วยอารมณ์ไม่สู้ดีนัก
“ข้าว”สาวใช้ร่างใหญ่วางถวยข้าวลงตรงหน้า อู่หงถิงส่งภาษามือแสดงความขอบคุณ จนป่านนี้ยังไม่เข้าใจว่าตัวเองล้วงเกินอะไรบุรุษผู้นั้นและคนในบ้านนี้จึงถูกนำมาขังไว้ที่นี่ ก้มหน้าก้มตากินข้าวพรุ่งนี้หากสิ่งที่สงสัยยังไม่กระจ่างจะหาทางหนี แม่กับน้องต้องเป็นห่วงอย่างแน่นอน
ทิ้งตัวลงบนแคร่ไม้ไผ่นอนพักเอาแรงเสียหน่อย เสียงบานประตูเปิดออกช้าๆ ร่างดำทะมึนของคนสองคนยืนมอง อู่หงถิงตาไม่กระพริบ
“ เจ้า”
โยนถุงเงินให้ตรงหน้า อู่หงถิงเลิกคิ้วสูง
“เจ้าขอทาน เพียงแค่สงบปากสงบคำ อย่าได้บอกหวาเซียงอ๋องว่าเจ้าไม่ใช่ กวงเจ้าหรูไม่เช่นนั้นแม่กับน้องของเจ้าไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไป”
อู๋หงถิงถลาเข้า ตบตีคนพูดไม่ยั้ง ร่างบางถูกผลักให้ลงไปกองกับพื้น
“ทำตัวดีดีหน่อยชีวิตแม่กับน้องของเจ้าอยู่ในมือพวกเรา สวมรอยเป็นเจ้าหรูได้แนบเนียนแม่กับน้องจึงจะปลอดภัยไม่เช่นนั้น น้องผู้หญิงของเจ้าข้าจะฝังเสียทั้งเป็น”
อู๋หงถิงส่ายหน้าไปมาน้ำตาร่วงพรูคลานเข้าไปกอดขาคนพูดพร้อมกับส่ายหน้า
“จำไว้เจ้าชื่อเจ้าหรูแซ่กวง เป็นบุตรีของใต้เท้ากวงขุนนางคนโปรดของฝ่าบาท”
“ท่านหวงนางพูดไม่ได้อาศัยขอทานอยู่ริมถนนมานาน”
“ดีดีเลยที่เดียว แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ นางทำไมถึงมีใบหน้าเหมือนกวงเจ้าหรู”
“อาจบังเอิญ”
คนที่ถูกเรียกว่าท่านหวงจิกผมของอู่หงถิงดึงให้ยืนขึ้นเต็มตัว
“ท่านหวงนางคงไม่กล้าแล้วจากที่ดูนางรักแม่รักน้องไม่น้อย แต่ถึงจะกล้าก็เป็นใบ้จะบอกหวาเซียงอ๋องได้อย่างไร”
“555ดี ผลักร่างบางลงไปกองกับพื้น”
“อยู่ที่นี่ทำตัวดีดีไม่แน่หวาเซียงอาจถูกใจเจ้ารับเป็นนางบำเรอ แต่เดิมเขาก็ไม่อยากแต่งกับเจ้าหรูอยู่แล้ว”
อู่หงถิงปาดน้ำตาก้มลงศรีษะจรดพื้น ส่งภาษามือ
“นางต้องการพูดอะไร”
“นางบอกว่านางยอมทำทุกอย่างขอเพียงปล่อยแม่และน้อง”
มือใหญ่บีบปากบางจนผิดรูป
“ใช้รูปโฉมของเจ้าให้เป็นประโยชน์ หากฆ่าหวาเซียงอ๋องได้เมื่อไหร่ข้าจึงจะปล่อยแม่และน้องของเจ้า”
สะบัดมืออย่างแรงจนใบหน้าของอู๋หงถิงสะบัดตามแรงมือ ก้าวข้าเร้นกายออกไปทันที
พระเอกสายแอพ เฉยชาทว่าโบ๊ะบ๊ะภายใน โคตรรั่ว อัตราการแขวะ0.01วินาที ภายใต้หน้ากากสูงส่งบริสุทธิ์ ในนามปรมาจารย์ ที่ค้ำคอไว้ พบกับ พระเอกสายกาว ที่ไม่เอื้อนเอ่ย ใครกันจะรู้ภายในใจท่านคิดเช่นไร พบกับนิยายแนว ขุนเขาจอมยุทธ์ บุญคุณความแค้น แต่พระเอกสายฮา สะกดกลั้นความอาไว้ภายใต้หน้ากากหล่อเหลาอย่าเผลอนินทาอย่าเผลอหลงรัก เพราะปรมาจารย์ท่านนี้อ่านใจคนออก
เรื่องเล่าของท่าน อาจทำข้าสำราญ หรืออาจทำให้ทุกข์ตรมไปกับท่าน ถือว่าท่านจ่ายค่าตอบแทนแก่ข้าแล้ว เสพสุขจากความทุกข์ตรมกระทำได้เช่นนั้นหรือความทุกข์ตรมของผู้อื่น ทำให้เราหลุดพ้นความทุกข์ตรมของเราได้
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
(คลื่นรักอสูร) ...เพราะเธอขึ้นเรือผิดลำ คลื่นร้ายจึงซัดแทบกระเจิง... “เธอมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว จะมาทำเล่นตัวเรื่องมากไม่ได้รู้ไหม ต่อให้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพยังไงก็เถอะ ก็ต้องหัดรู้จักตามใจแขกบ้าง แต่นี่อะไรหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ คนสอนไม่บอกหรือยังไงว่าไอ้ละครเล่นตัวนี่มันน่ารำคาญไม่ได้ดึงดูดลูกค้าเลย” บารเมษฐ์ต่อว่าพร้อมกวาดสายตามองเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนคลายมือออกจากปลายคางอย่างช้า ๆ “ฉันไม่ได้มาขายตัวสักหน่อย” คนได้รับอิสรภาพรีบบอกเขา “หืม” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันแค่ขึ้นเรือผิดลำ ฉันไม่ได้มาขายตัวจริง ๆ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณบารเมษฐ์” วินาทีนี้เธอกลัวเขามากกว่าใครบนเรือลำนี้เสียอีก เลยเลือกที่จะบอกความจริงกับเขาไป “ขึ้นเรือผิดลำ?” คนพูดหรี่ตาลงอย่างสงสัย “ใช่ค่ะ ฉันขึ้นเรือผิดลำจริง ๆ” “แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะสองคนในห้องเครื่องนั่นถึงได้ลุกลี้ลุกลนนัก” บารเมษฐ์นึกไปถึงท่าทางของอนุชิตกับธาวิน ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา “คุณรู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปเถอะคุณบารเมษฐ์ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” นีนนาราขอความเห็นใจจากเขา แต่สายตาที่เขามองกลับมานั้นมันว่างเปล่าชอบกล “รู้อะไรไหมนีนเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย เธอเป็นคนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง เพราะงั้นเธอก็ต้องรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เองเหมือนกัน” “ห้ะ คุณ นี่คุณ คุณทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้” หญิงสาวต่อว่าเขา ก่อนจะหน้าซีดหน้าเซียวลง เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอของเขาบ่งชัดว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่ “ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” นีนนาราดิ้นหนีเขาก็จับกดลงที่เดิม “งานก็คืองานนะคนสวย มาขายตัวก็คือมาขายตัว อย่าทำเสียเรื่องสินีน” บารเมษฐ์ย่อมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีกแน่ “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะ ว้าย!”
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
จะมีสิ่งใดน่าทุกข์ใจไปมากกว่าการถูกคนในครอบครัวรังเกียจภายหลังจากมารดาเสียชีวิตเด็กน้อยอายุห้าขวบต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดพร้อมกับน้องสาวที่พึ่งลืมตาดูโลกอีกทั้งน้องชายฝาแฝดที่พึ่งเกิดมายังถูกพรากไป หลี่อันหนิง เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ไม่เหมือนผู้ใดนอกจากต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากคนในครอบครัว ตลอดชีวิตนางยังไม่เคยได้รับอุ่นไอจากผู้เป็นบิดาที่ยังเหลืออยู่ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นางก็ยังไม่รู้เลยว่าเหตุใดสวรรค์ถึงได้กำหนดชะตาชีวิตเช่นนี้ให้กับตน เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวพบว่าตนเองกลับมายังอดีตในช่วงเวลาที่ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ พร้อมกับความสามารถที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้เหมือนอย่างนาง หลี่อันหนิงได้เริ่มวางแผนแก้แค้นให้กับตนและช่วยเหลือน้องทั้งสองมิให้มีชะตากรรมดั่งชาติที่แล้ว ************************************************************ “ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะ นอนที่นี่ไม่ได้นะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ร่างเล็กแกรนแกะเอาเสื่อที่ห่อม้วนร่างของมารดาออก ก่อนจะเขย่ากายที่เย็นชืดไปนานแล้วของนาง ทว่าในระหว่างที่สายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อยก็ดังขึ้น หลี่อันหนิงมองไปยังช่วงขาของมารดาเห็นบางสิ่งกำลังขยับไหว นางจึงเลิกชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของมารดาขึ้น บัดดลร่างเล็กของเด็กทารกที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ปรากฏแก่สายตา ด้วยสัญชาตญาณ เด็กน้อยในวัยห้าขวบรีบถอดเสื้อคลุมด้านนอกอันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำฝนออกมาห่อร่างเล็กของน้องสาวเอาไว้ ส่วนตนเองก็เอาแต่เอ่ยพึมพำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่สาวจะดูแลน้องเอง หลี่อันหนิงกอดเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างกายเล็กจ้อยของตนกำบังลมฝนให้น้องน้อยอย่างกล้าหาญ ******************************************************** ร่างเล็กนั่งตากฝนอยู่บนเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะหาหนทางกลับเรือนเฉกเช่นผู้ใหญ่ไม่ได้ กายของเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้านเสียงฟันของนางกระทบกันดังกึกกัก ก่อนสติสุดท้ายของเด็กหญิงจะดับวูบไป หลี่อันหนิงคล้ายมองเห็นมารดาของตนที่นอนอยู่เบื้องหน้าลุกขึ้นมาตระกองกอดนางเอาไว้แนบอก ก่อนกระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว เสียงเพลงกล่อมเด็กที่มารดาเคยร้องกล่อมตนยามค่ำคืนยังคงดังก้องประทับในโสต หลี่อันหนิงหลับไปทั้งรอยยิ้มโดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนั้น
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ชีวิตเธอกำลังมีความสุข แต่แล้วก็ประสบอุบัติเหตุมาอยู่ในยุคโบราณ อยู่โบราณไม่ว่าถ้ามาอยู่ในร่างเด็กที่แม่ป่วย พ่อพิการ แถมตัวเองก็เป็นคนเดียวที่พอจะหาอาหารให้พวกเขาได้!!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY