พี่สาวฝาแฝดที่พลัดพรากตั้งแต่พึ่งจะลืมตาดูโลก จงใจสังหารท่านอ๋องสายโหดในคืนเข้าหอแล้วสาปสูญไป เมื่อฟื้นขึ้นมาในอาภรณ์สีแดงอู๋หงถิงกลับชะตาพลิกผันจากนางใบ้ขอทานมาเป็นชายาทาสของ หวาเซียงอ๋อง
อู่หงถิง ลืมตาตื่นบนแท่นนอนสีแดง ยามเช้าที่ไร้ซึ่งสรรพเสียง ทำไมมาอยู่ตรงนี้ในเมื่อเมื่อคืนจำได้ว่าตัวเองกำลังจะกลับบ้านที่เชิงเขาเพื่อนำของที่ขอมาได้วันนี้โชคดีได้เงินพอซื้อไก่ ไปให้น้องๆ
“พานางออกไป”
สาวใช้ที่ไม่สาวสองคนจับแขนพาอู่หงถิงออกจากตรงนั้นไปชุดสีแดง ที่สวมใส่ยังใหม่และสวย แต่อู่หงถิงกับคิดถึงราคาของมันหากนำไปขายให้เถ้าแก่ที่เคยขโมยของไปขายอยู่เรื่อยๆว่าจะได้ราคาเท่าไหร่กัน
ร่างซูบซีดในอาภรณ์สวยงาม ยืนมองอู่หงถิงด้วยสายตาสงสัย
“ท่านพี่ทำไมทำกับนางเช่นนั้น”
แววตาดุดันทว่าใบหน้าหล่อเหลาเฉยชา โอบแขนรอบไหล่บางของเหอซ่างเซี่ยน ชายาเอกที่งดงามด้วยรูปโฉมกุมมือบางไว้อย่างอ่อนโยน
“หวางเฟยอากาศข้างนอกเย็น เข้าไปข้างในเสียเถอะ อย่ามาเสียเวลากับหญิงไร้ค่าผู้นี้”
“ไร้ค่า”อู๋หงถิงยกมือขึ้นส่งภาษามือ ด้วยความไม่พอใจ หากมีเสียงก็จะเปล่งวาจาด่าทอแต่นี่อู่หงถิงเป็นใบ้ ไม่สามารถกล่าวคำใดได้
ร่างสูงพยุงชายาเอกเข้าไปข้างในไม่สนใจภาษามือด่าทอนั้นหรือว่าไม่เข้าใจว่ากำลังถูกด่าทอ
อู่หงถิงมอง ตัวเองในขณะนี้ทำไมถึง งดงามเพียงนี้แล้วมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
ถูกโยนเข้าไปในห้องเก็บของที่มี ทั้งธัญพืชตากแห้งกับฟืนในนั้น
“อยู่ในนี้จนกว่า ท่านอ๋องจะมีบัญชาให้ออกไป”
หงถิงขมวดคิ้วก่อนจะเดินสำรวจไปรอบๆห้อง
จะเป็นไรไป ดีกว่าบ้านที่อู่หงถิงอยู่กับมารดาแล้วก็น้องๆถมไป
“ท่านพี่นางทำอะไรผิด”แววตาอ่อนโยนไม่ต่างจากน้ำเสียง
“นางใช้มีดในมือแทงข้าก่อนที่จะหนีไป”แววตื่นตกใจ
“แทงท่านพี่ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น นางเป็นถึงลูกขุนนางใหญ่ แต่งเข้ามาในจวนอ๋องคืนแรกแล้วทำไมถึงทำเรื่องใหญ่เพียงนั้น”
หลี่กวางหวาเซียงส่ายหน้าไปมา
“ท่านพี่ลองฟังนางพูด อย่าเพิ่งลงโทษนางเลย”
ส่งเสียงไอถี่ๆสองสามที
“อย่ากังวลพักเสีย ยกถ้วยยาให้พระชายา”
หันไปสั่งสาวใช้
กุมมือซีดขาวไว้แน่นพยุงให้ไปนั่งที่แท่นนอน
ก่อนหน้านั้น
หลี่กวางหวาเซียงสาวเท้าเข้าไปในห้องหอที่ประดับตกแต่งอย่างงดงาม
“เปิดประตู”
บานประตูถูกเปิดออกช้าๆ ร่างบอบบางนิ่งงันในแสงสลัว ผ้าคุลมหน้าปกปิดมิดชิด มือใหญ่เอื้อมเปิดผ้าคุลมหน้าสีแดงบางเบา เสียงมีดสั้นแหวกอากาศพุ่งเข้าสีข้างเขาอย่างจังทั้งๆที่เบี่ยงตัวหลบ เลือดไหลซึมหวาเชียงอ๋องผลักร่างบางให้ล้มลงบนแท่นนอนกุมมือที่บาดแผลเลือดไหลซึม เพียงแค่อึดใจที่ก้มมองบาดแผลนางกับถลาออกจากห้องไปทันที
“จับตัวนางไว้”
มีดเปื้อนเลือดถูกทิ้งลงกับพื้นก่อนที่ร่างบางในอาภรณ์สีแดงจะหายไปกับความมืด
“หวาเซียงพบนางแล้ว นางสลบอยู่ที่ริมเขา”
“นำไปขังไว้”
บาดแผลถูกชำระล้างทำความสะอาดและใส่ยาสมานแผล แผลไม่ลึกนักอาจเป็นเพราะความขลาดเขลาจึงไม่กล้าออกแรงในการแทง หรืออาจเป็นเพราะคนแทงไร้วรยุทธ์ แผลที่ได้จึงไม่สาหัส แต่ในระยะประชิดขนาดนั้นนางตั้งใจจะให้เขาตายอย่างแน่นอน
จะฆ่าจะแกงก็ใช่ที่ บิดานางได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาทไม่น้อย เขาเองเคยพบนางเพียงครั้งเดียวในวังหลวงเพียงแค่เหลือบตามอง
“ท่านพี่จะลงทัณฑ์นางเช่นไร”
“ขังนาง ข้าเองไม่สู้ชอบใจนาง ขัดบัญชาฝ่าบาทไม่อาจกระทำอีกทั้งพ่อของนางยังได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาท”
“ท่านพี่ บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยอย่าได้ลงทัณฑ์นางเลยคิดเสียว่าเรื่องในครอบครัว”
“เรื่องในครอบครัว นางไม่ได้พลั้งมือทำร้ายข้าหากแต่นางจงใจแทงข้าให้ตาย”
“ท่านพี่อย่างไรเสียนางก็เป็นชายารอง”
“ข้าไม่เคยต้องการนาง ฝ่าบาทจงใจแต่งนางเข้าจวนอ๋องของข้าทั้งๆที่รู้ว่า ...ช่างเถอะ เจ้าพักเสียข้าจะออกไปสูดอากาศข้างนอก”
“ท่านพี่ข้างนอกอากาศเย็นหยิบเสื้อคลุมยื่นส่งให้ด้วยความห่วงใย หวาเซียงอ๋องเพียงรับมาถือไว้ก่อนจะก้าวออกไปด้วยอารมณ์ไม่สู้ดีนัก
“ข้าว”สาวใช้ร่างใหญ่วางถวยข้าวลงตรงหน้า อู่หงถิงส่งภาษามือแสดงความขอบคุณ จนป่านนี้ยังไม่เข้าใจว่าตัวเองล้วงเกินอะไรบุรุษผู้นั้นและคนในบ้านนี้จึงถูกนำมาขังไว้ที่นี่ ก้มหน้าก้มตากินข้าวพรุ่งนี้หากสิ่งที่สงสัยยังไม่กระจ่างจะหาทางหนี แม่กับน้องต้องเป็นห่วงอย่างแน่นอน
ทิ้งตัวลงบนแคร่ไม้ไผ่นอนพักเอาแรงเสียหน่อย เสียงบานประตูเปิดออกช้าๆ ร่างดำทะมึนของคนสองคนยืนมอง อู่หงถิงตาไม่กระพริบ
“ เจ้า”
โยนถุงเงินให้ตรงหน้า อู่หงถิงเลิกคิ้วสูง
“เจ้าขอทาน เพียงแค่สงบปากสงบคำ อย่าได้บอกหวาเซียงอ๋องว่าเจ้าไม่ใช่ กวงเจ้าหรูไม่เช่นนั้นแม่กับน้องของเจ้าไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไป”
อู๋หงถิงถลาเข้า ตบตีคนพูดไม่ยั้ง ร่างบางถูกผลักให้ลงไปกองกับพื้น
“ทำตัวดีดีหน่อยชีวิตแม่กับน้องของเจ้าอยู่ในมือพวกเรา สวมรอยเป็นเจ้าหรูได้แนบเนียนแม่กับน้องจึงจะปลอดภัยไม่เช่นนั้น น้องผู้หญิงของเจ้าข้าจะฝังเสียทั้งเป็น”
อู๋หงถิงส่ายหน้าไปมาน้ำตาร่วงพรูคลานเข้าไปกอดขาคนพูดพร้อมกับส่ายหน้า
“จำไว้เจ้าชื่อเจ้าหรูแซ่กวง เป็นบุตรีของใต้เท้ากวงขุนนางคนโปรดของฝ่าบาท”
“ท่านหวงนางพูดไม่ได้อาศัยขอทานอยู่ริมถนนมานาน”
“ดีดีเลยที่เดียว แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ นางทำไมถึงมีใบหน้าเหมือนกวงเจ้าหรู”
“อาจบังเอิญ”
คนที่ถูกเรียกว่าท่านหวงจิกผมของอู่หงถิงดึงให้ยืนขึ้นเต็มตัว
“ท่านหวงนางคงไม่กล้าแล้วจากที่ดูนางรักแม่รักน้องไม่น้อย แต่ถึงจะกล้าก็เป็นใบ้จะบอกหวาเซียงอ๋องได้อย่างไร”
“555ดี ผลักร่างบางลงไปกองกับพื้น”
“อยู่ที่นี่ทำตัวดีดีไม่แน่หวาเซียงอาจถูกใจเจ้ารับเป็นนางบำเรอ แต่เดิมเขาก็ไม่อยากแต่งกับเจ้าหรูอยู่แล้ว”
อู่หงถิงปาดน้ำตาก้มลงศรีษะจรดพื้น ส่งภาษามือ
“นางต้องการพูดอะไร”
“นางบอกว่านางยอมทำทุกอย่างขอเพียงปล่อยแม่และน้อง”
มือใหญ่บีบปากบางจนผิดรูป
“ใช้รูปโฉมของเจ้าให้เป็นประโยชน์ หากฆ่าหวาเซียงอ๋องได้เมื่อไหร่ข้าจึงจะปล่อยแม่และน้องของเจ้า”
สะบัดมืออย่างแรงจนใบหน้าของอู๋หงถิงสะบัดตามแรงมือ ก้าวข้าเร้นกายออกไปทันที
พระเอกสายแอพ เฉยชาทว่าโบ๊ะบ๊ะภายใน โคตรรั่ว อัตราการแขวะ0.01วินาที ภายใต้หน้ากากสูงส่งบริสุทธิ์ ในนามปรมาจารย์ ที่ค้ำคอไว้ พบกับ พระเอกสายกาว ที่ไม่เอื้อนเอ่ย ใครกันจะรู้ภายในใจท่านคิดเช่นไร พบกับนิยายแนว ขุนเขาจอมยุทธ์ บุญคุณความแค้น แต่พระเอกสายฮา สะกดกลั้นความอาไว้ภายใต้หน้ากากหล่อเหลาอย่าเผลอนินทาอย่าเผลอหลงรัก เพราะปรมาจารย์ท่านนี้อ่านใจคนออก
เรื่องเล่าของท่าน อาจทำข้าสำราญ หรืออาจทำให้ทุกข์ตรมไปกับท่าน ถือว่าท่านจ่ายค่าตอบแทนแก่ข้าแล้ว เสพสุขจากความทุกข์ตรมกระทำได้เช่นนั้นหรือความทุกข์ตรมของผู้อื่น ทำให้เราหลุดพ้นความทุกข์ตรมของเราได้
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"