ลีนมองใบหน้าที่หมดจดของเขาแบบไม่วางตา ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาคมของเขาที่จ้องมองมาเหมือนจะให้มันทะลุผ่านเสื้อผ้าอาภรณ์ที่เธอใส่เอาไว้ ลลนาจับประสานมือของเธอที่เย็นเฉียบเอาไว้แน่น ลมหายใจเริ่มติดขัด นั่งตัวเกร็งไปหมด เธอแอบพ่นลมหายใจที่ประหม่ากับสายตาคมกล้าของคุณชัช
เมื่อสิบห้าชั่วโมงที่ผ่านมา
“ยายลีน จำได้ไหมว่าฉันเลี้ยงหล่อนมาตั้งแต่อายุเท่าไหร่?” คำถามที่เหมือนไม่ต้องการคำตอบ แต่เล่นเอาคนที่ได้ยินถึงกับหน้าเจื่อนลง
“ฮึ...ก็ตั้งแต่พ่อของแกตายไปไง” คุณดวงแขตอบเสียเอง
“รู้ไหม ว่าฉันลำบากแค่ไหนที่ต้องหาเลี้ยงแก ส่งเสียให้แกเรียนหนังสือหนังหาจนจบเนี่ย” ปากก็ยังทวงบุญคุณไม่เลิก ซึ่งลีนได้ยินประโยคแบบนี้มาเป็นร้อย ๆ รอบ
‘ค่ะ ม. หก กศน.’ ลลนาเถียงนางอยู่ในใจ แต่ตอนนี้เธอก็ได้แต่ยืนก้มหน้า
สายตาแทะโลมของคุณสมภพที่มองมายังหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกติดสามีเก่าของคุณดวงแขที่ตายลงไป เขาส่งสายตากรุ้มกริ่มลับหลังคุณดวงแขอยู่เสมอ สมภพจ้องสบตากับหญิงสาว แต่ลลนาทำเป็นเมินไม่มองเห็น
ในครัวเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
ลลนายังตกใจไม่หาย ที่คุณสมภพเดินเข้ามาใกล้ ๆ แล้วใช้ฝ่ามือหนา ๆ ของเขาขย้ำลงไปบนสะโพกกลมมนของเธอ จนลลนาอุทานขึ้นมาเสียงดัง
“ว้าย...”
เพล้ง... เสียงจานที่อยู่ในมือของลลนาหล่นลงไปที่พื้น
คุณดวงแขและสรีนลูกสาวของนางถึงกับเดินเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น คุณสมภพทำหน้าตายเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ก็ยายลีนนะสิ มือไม้อ่อนทำจานหล่นแตกอีกแล้ว ทำอะไรระวังหน่อยสิลูก” เขาหันไปฟ้องภรรยา และทำเป็นหวังดีกับหญิงสาว
คุณดวงแขทำตาขวางขึ้นมาทันที
“ระวังหน่อยสิยายลีน ทุกอย่างที่อยู่ในบ้านนี้ ฉันใช้เงินซื้อมานะยะ ทำอะไรให้มันระวัง ๆ หน่อย จริง ๆ เลย” นางทำเสียงเข้ม
ลลนากัดริมฝีปากขบเม้มเอาไว้แน่น เธอหันไปมองหน้าคุณสมภพที่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แล้วเขาก็เดินหนีเลี่ยงออกไปจากในครัว
“คุณแม่ขา... เดือนนี้พี่ลีนทำจานชามแตกไปกี่ใบแล้วคะ” เสียงน้องสาว เอ๊ะ... ไม่ใช่น้องสาวสิ สรีนเป็นลูกของคุณดวงแขกับคุณสมภพ นับแล้วก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวพันกับลลนาเลย
“เออ...นั่นสิ ดีนะสิรินเตือนแม่ ฉันหักค่าขนมแกทั้งอาทิตย์นะยายลีน ดูซิต่อไปแกจะมือไม้อ่อนอีกไหม” นางพูดพลางสะบัดตูดตามสามีและลูกสาวออกไป
ลลนานั่งลง เธอเก็บเศษจานที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น พร้อมกับถอนหายใจออกมาแรง ๆ
‘เมื่อไหร่นะ หนูจะได้ไปพ้นจากบ้านหลังนี้ค่ะคุณพ่อ จริง ๆ ลีนรักบ้านหลังนี้มาก แต่ถ้ามันอยู่แบบนี้ คุณพ่อขา คุณแม่ขา หาทางออกดี ๆ ให้กับลีนด้วยนะคะ’ เธอพูดอยู่ในใจและน้ำตาคลอ
“อะไรนะคะ คุณทนาย” เสียงคุณดวงแขดังลั่น น้ำเสียงสั่นด้วยความตกใจออกมา ทำให้คนที่อยู่ในห้องรับแขกที่ได้ยินหันไปมองด้วยความสนใจ
(“ใช่ครับ คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ”) ทนายกิตติสวนน้ำคำขึ้นมาทันที
(“คุณชัชวาลให้ผมแจ้งมาทางคุณดวงแขว่า หากคุณดวงแขไม่จ่ายเงินคืนกับทางเราทั้งต้นทั้งดอกภายในวันนี้ ก็เอาลูกสาวของคุณนายมาขัดดอกก็แล้วกัน”) ทนายกิตติสื่อสารออกไปตามคำพูดของนายจ้างที่บอกเขามาอย่างชัดเจน
“ไม่มีทางหรอก ลูกสาวของฉันอายุยังน้อย” นางพูดปฏิเสธออกไปทันที จ้องมองใบหน้าของลูกสาวทีสามีที แววตาหวั่น ๆ
(“ฮา ๆ ฮา ๆ...”) เสียงทนายกิตติหัวเราะออกมาแบบไม่ไว้หน้า
(“คุณนายดวงแขครับ หกเดือนแล้วนะครับที่คุณนายไม่จ่าย ทางเราไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียวทั้งเงินต้นและทั้งเงินดอก อันที่จริงผมว่านะครับ ข้อเสนอของคุณชัชวาลออกจะดีนะ หรือว่าจะให้ทางเรายึดบ้าน”) ทนายกิตติพูดขู่
“คุณทนายนี่มันจะไม่ใจร้ายใจดำมากไปหน่อยหรือคะ เงินต้นที่ทางเราเอามาแค่สามล้าน แต่ที่คุณเรียกเก็บมามันโหดมาก ๆ...” คุณดวงแขปากสั่นหน้าตาซีดเผือด คุณสมภพและสรีนขยับเข้ามาใกล้ ๆ สายตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยคำถาม
คุณสมภพพอจะรู้อยู่เป็นเลา ๆ แล้วว่าดวงแขพูดนั้นหมายถึงเรื่องอะไร เขามีสีหน้ากังวลขึ้นมาสายตาจ้องมองภรรยาสบสายตากัน
สาเหตุของเรื่องก็คือ ทั้งเขาและคุณดวงแขได้ไปเล่นพนันที่บ่อนของเสี่ย ทรงชัยและเล่นกันจนหมดตัวที่บ่อน และได้เอาที่บ้านหลังนี้ไปจดจำนองไว้กับชัชวาล เสี่ยใหญ่เจ้าของตลาดและตึกแถวหลายแห่งในย่านการค้าของกรุงเทพฯ และแถวชานเมือง
(“งั้นพวกคุณก็รอหมายศาลละกัน”) กิตติพูดแบบไม่ไยดี
“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว...” คุณดวงแขพูดออกไปด้วยน้ำเสียงละล่ำละลัก
(“ครับ... ว่าไง กระผมรอฟังอยู่”)
“แล้ว...ไอ้ที่ว่า เอาลูกสาวไปขัดดอกนี้ยังไง ฉันจะมีส่วนลดยังไง” คำพูดของแม่ ทำให้สรีนที่นั่งฟังอยู่ใกล้ ๆ ถึงกับยกมือขึ้นมาโบกสะบัดและขยับปากพูดปฏิเสธเบา
“แม่คะ สรีนไม่มีวันยอม” เธอกะพริบตาไล่น้ำตาปริบ ๆ แล้วเริ่มร้องไห้ คุณดวงแขยกมือขึ้นแตะที่ริมฝีปากของลูกสาว และทำเสียง
“จุ๊ จุ๊ จุ๊...” ให้เธอหยุดส่งเสียง