ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
“คุณกู้ คุณตั้งครรภ์ครับ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ เด็กในท้องของคุณมีสุขภาพแข็งแรงดีครับ”
กู้เหวยอีเดินออกจากโรงพยาบาลอย่างงุนงงโดยกำผลตรวจการตั้งครรภ์ไว้ในมือแน่น
กู้เหวยอีอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ มือเรียวเล็กก็ลูบท้องน้อยเบา ๆ
เธอท้องแล้ว เป็นลูกของเธอกับฟู่จิ่งเฉิน
กู้เหวยอีระงับความตื่นเต้นไว้พลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเตรียมจะโทรหาฟู่จิ่งเฉินเพื่อบอกเรื่องเซอร์ไพรส์นี้กับเขาเอง
และตอนนั้นโทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมา ฟู่จิ่งเฉิน สามีของเธอส่งข้อความมาพอดี
【รีบมาที่โรงแรมฮิลตันที 】
ไปโรงแรมฮิลตันตอนนี้เหรอ? ทำไมถึงปุบปับแบบนี้ล่ะ?
กู้เหวยอีรู้สึกสับสน แต่ก็ไม่ได้ลังเลอะไร เธอไปเรียกรถแท็กซี่ที่ข้างทางแล้วมุ่งหน้าไปที่โรงแรมฮิลตันทันที
ในเมื่อฟู่จิ่งเฉินอยากจะพบเธอ งั้นเธอก็บอกเรื่องที่เธอท้องต่อหน้าเขาไปเลยแล้วกัน
ไม่รู้ว่าถ้าฟู่จิ่งเฉินรู้ว่าเธอท้องแล้วจะมีปฏิกิริยายังไงนะ?
กู้เหวยอีมาที่โรงแรมด้วยความคาดหวัง แต่พอลงจากรถก็พบว่าโรงแรมเต็มไปด้วยดอกไม้ที่สวยงามมากมาย มีพรมแดงใหม่เอี่ยมปูอยู่บนพื้น เห็นได้ชัดว่ากำลังเตรียมฉลองอะไรอยู่
กู้เหวยอีอึ้งไปพักนึง ไม่นานเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่า วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของเธอกับฟู่จิ่งเฉินพอดี
เพราะงั้นฟู่จิ่งเฉินเลยเรียกเธอมาที่นี่เพื่อเซอร์ไพรส์เธองั้นเหรอ?
มีแขกจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม พวกเขากำลังดื่มกันอย่างคึกคักทีเดียว
กู้เหวยอีเดินผ่านฝูงชนไป ชุดเรียบง่ายของเธอนั้นไม่ได้ดึงดูดความสนใจของใครเลย
ไม่นานหลังจากนั้น พอเธอมองไปก็เห็นฟู่จิ่งเฉินอยู่ท่ามกลางฝูงชน เขาดูเจิดจรัสท่ามกลางฝูงชนมาก
นั่นคือสามีของเธอและพ่อในอนาคตของลูกเธอ
มุมปากของกู้เหวยอียกขึ้นมาทันที แต่วินาทีต่อมาพอเห็นผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ่งเฉิน รอยยิ้มของเธอก็แข็งทื่อไปทันที
นั่นมัน... หลินลี่ลี่ รักแรกของฟู่จิ่งเฉิน?!
เธอกลับมาจากต่างประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ตัวของกู้เหวยอีแข็งทื่อไปทันที เธอมองดูคนสองคนที่อยู่ไม่ไกลจับมือกันอย่างสนิทสนม ราวกับคู่รักที่น่าอิจฉา
กลุ่มเพื่อนสนิทมาล้อมรอบพวกเขาไว้และต่างพากันแสดงความยินดี
“ลี่ลี่ วันนี้ฉันต้องดื่มให้เกียรติเธอสักแก้วแล้วล่ะ ยินดีกับการกลับมาจากต่างประเทศของเธอด้วยนะ!”
“จิ่งเฉิน ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว ในที่สุด นายกับลี่ลี่ก็กลับมาพบกันอีกครั้ง วันดีแบบนี้ พวกนายสองคนต้องควงแขนกันดื่มฉลองสักหน่อยแล้วนะ”
เสียงเฮดังขึ้นเรื่อย ๆ
หลินลี่ลี่สวมชุดสีแดงร้อนแรงและแต่งหน้าอย่างสวยงาม เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนขึ้นมาแล้วพูดว่า “พวกเธอเลิกเอะอะได้แล้ว ฉันกับจิ่งเฉินจะดื่มควงแขนได้ยังไงกัน? เพราะยังไงจิ่งเฉินก็มีภรรยาแล้ว ถ้าจะดื่มควงแขนกันล่ะก็ น่าจะให้จิ่งเฉินกับภรรยาของเขาทำมากกว่า”
พอได้ยินหลินลี่ลี่พูดถึงกู้เหวยอี ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ทำสีหน้าดูถูกขึ้นมาทันที
“กู้เหวยอีนั่นน่ะเหรอ? ถือเป็นภรรยาที่ไหนกัน? กู้เหวยอีก็เป็นแค่เครื่องมือที่จิ่งเฉินใช้เพื่อเอาใจคุณย่าของเขาเฉย ๆ !”
“ใช่ ๆ ผู้หญิงที่จิ่งเฉินอยากจะแต่งงานด้วยจริง ๆ ก็คือเธอมาตลอดนะ ใช่ไหมจิ่งเฉิน?”
ฟู่จิ่งเฉินรูปร่างสูงและมีหน้าตาหล่อเหลา ชุดสูทหรูหราที่ไม่ได้ดูโอเวอร์ของเขานั้นทำให้เห็นถึงท่าทางเย็นชาที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา
“พอได้แล้ว พวกนายอย่ารังแกลี่ลี่ เธอดื่มเหล้าไม่เป็น ฉันจะดื่มแทนเธอเอง”
พอได้ยินแบบนี้ พวกเพื่อน ๆ ต่างก็พากันส่งเสียงเฮดังขึ้นมากกว่าเก่า
“นี่ ฟู่จิ่งเฉิน นายปวดใจแทนลี่ลี่งั้นสินะ?” ได้! นายไม่ให้ลี่ลี่ดื่มกับพวกเรา งั้นนายต้องดื่มไวน์ของเธอให้หมดเลยนะ! ถ้าดื่มไม่หมด วันนี้ก็ห้ามกลับ!”
ท่ามกลางเสียงเอะอะของฝูงชน สีหน้าของฟู่จิ่งเฉินเย็นชา มุมปากนั้นกลับยกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่สามารถละเลยได้
หลินลี่ลี่ที่อยู่ข้าง ๆ เขานั้นกลับก้มหน้าลงอย่างอาย ๆ
ภาพที่ทั้งสองคนสวีทกันมันบาดตามาก ทำให้ใจของกู้เหวยอีปวดตึบขึ้นมาทันที
เธอไม่รู้ว่าตัวเองหนีออกมาตอนไหน จนกระทั่งเม็ดฝนเย็น ๆ ตกลงมากระทบใบหน้า เธอถึงได้รู้สึกตัวว่าด้านนอกโรงแรมนั้นฝนตก
สายลมเย็นพัดพาสายฝนมากระทบร่างกายของกู้เหวยอี ภายในพริบตา ลมแรงก็โหมกระหน่ำมา เสียงฝนตกก็แรงขึ้น
กู้เหวยอีมองฝนตรงหน้าอย่างงุนงง
เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมฟู่จิ่งเฉินถึงเรียกเธอมา
หรือว่าเขาอยากให้เธอเห็นภาพพวกเขาสวีทกัน จากนั้นก็สละตำแหน่งคุณนายฟู่ให้หลินลี่ลี่ ผู้หญิงที่เขารักอย่างรู้การรู้งานงั้นเหรอ?
ลมหายใจของกู้เหวยอีค่อย ๆ หนักขึ้น เธอยกเท้าขึ้นด้วยความแข็งทื่อ ก่อนจะเดินตากฝนกลับบ้าน
เธอยืนอยู่ที่ประตูด้วยความสิ้นหวัง พลางมองบ้านที่คุ้นเคยตรงหน้าอย่างว่างเปล่าพลางคิดอย่างเหม่อลอย
สองปีก่อน ตระกูลกู้กำลังจะล้มละลายและพยายามจะแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลฟู่เพื่อจะได้กอบกู้สถานการณ์ที่แย่ลงของตระกูลเอาไว้
ตอนแรกฟู่จิ่งเฉินไม่ยอม แต่คุณนายใหญ่ฟู่ที่ป่วยหนักนั้นบีบบังคับให้เขาแต่งงาน เขาเลยต้องยอมแต่งงานกับเธอ
ตอนนี้อาการป่วยของคุณนายใหญ่ฟู่ดีขึ้นแล้ว หลินลี่ลี่ก็กลับมาจากต่างประเทศแล้วด้วย
ดูเหมือนจะถึงเวลาของเธอซึ่งเป็นคนนอกโดยแท้จริงที่ต้องไปจากฟู่จิ่งเฉินแล้วสินะ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ด้านนอกก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นมา
จากนั้นเสียงมีเสน่ห์ของผู้ชายคนนึงก็ดังขึ้นมาข้างหูเธอ
“กู้เหวยอี ทำไมเธอถึงมายืนตัวเปียกชุ่มอยู่ตรงนี้ล่ะ?”
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป