เล่อซานเป็นคนใบ้ เธอถูกสามีละเลยมาเป็นเวลาห้าปี ม้แต่เธอตั้งท้องยังถูกแม่สามาีทำร้ายจนแท้งลูก หลังจากการหย่าร้าง สามีของเธอก็ประกาศหมั้นกับคนรักในใจของเขาทันที เธอกุมท้องที่นูนเล็กน้อยไว้ ในที่สุดก็ได้สติและเข้าใจว่าเขาไม่เคยจริงจังกับเธอมาก่อน... เธอหันหลังจากไปอย่างเด็ดขาด และทั้งสองก็กลายเป็นคนแปลกหน้า หลังจากที่เธอจากไป ชายคนนั้นก็ตามหาเธอไปทั่วโลก เมื่อพวกเขาได้พบกันอีกครั้ง เธอก็รักคนอื่นไปแล้ว เป็นครั้งแรกที่เขาถามอย่างถ่อมตัวว่า "ได้โปรดอย่าไป..." ทว่าคำแรกที่เธอพูดก็คือให้เขาไปให้พ้น!
ค่ำคืนที่ฝนกระหน่ำ พายุพัดสายฝนไหลกระทบลงมาตามหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน
ภายในวิลล่าที่ว่างเปล่า มีเพียงห้องนอนเดียวที่เปิดไฟสว่างไสว
เล่อซานอ่านหนังสืออยู่ตรงหัวเตียง อ่านจนรู้สึกเหมือนตาจะหลับ
ทันใดนั้น ประตูห้องถูกคนเปิดเข้ามา
เธอเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ เป็นซูจินเฉินสามีของเธอ
เขามีรูปร่างสูงโปร่ง ชุดสูงเรียบตรง ใบหน้าที่หล่อเหลาแฝงไปด้วยความไม่พอใจ
เธอยังไม่ทันได้แสดงความเป็นห่วงออกมา ริมฝีปากชุ่มคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ ก็ประกบลงมา
มือที่เย็นเฉียบถกชายกระโปรงของเธอขึ้นมา กดต้นขาที่ดิ้นรนขัดขืนเล็กน้อยของเธอไว้
เสียงที่ทุ้มต่ำแอบแฝงไปด้วยความเมามาย ทว่าราวกับต้องมนตร์สะกด “อย่าขยับ ทำตัวดี ๆ”
เธอเชื่อฟังไม่ดิ้นรนขัดขืน เจ็บสุดขีด แต่ก็ทำได้แค่ส่งเสียงแปลก ๆ ที่ฟังดูไม่เข้ากับสถานการณ์ออกมา
ซูจินเฉินขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นมาอุดปากของเธอเอาไว้
เล่อซานไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมาอีก ทำได้แค่คว้าแขนที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดของเขาเอาไว้แน่น ราวกับเรือที่อยู่ท่ามกลางคลื่นพายุที่โหมกระหน่ำ
จนกระทั่งเธอเกือบจะเป็นลมหมดสติไป ซูจินเฉินถึงได้ปล่อยเธอออก ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ
ประตูห้องน้ำปิดลงไปได้ไม่นาน หน้าจอโทรศัพท์ที่ซูจินเฉินวางไว้บนหัวเตียงก็สว่างขึ้นมา
เธอมองไปโดยสัญชาตญาณ มีข้อความหนึ่งเด้งขึ้นมา
[จินเฉิน ฉันผิดไปแล้ว เวลาที่เราทะเลาะกัน คุณอย่ากลับไปหายัยใบ้ที่บ้านเก่าเลยได้ไหม ฉันรู้สึกแย่มากจริง ๆ ]
แสงสว่างในตาของเล่อซานหรี่ลงทันที
เธอไม่สามารถแสดงความอ้อนแอ้นฉอเลาะ ไม่สามารถร้องครวญครางอย่างอ่อนหวานเวลาอยู่บนเตียงเหมือนกับคนอื่นได้
เพราะเธอป่วยมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่สามารถพูดได้อีก
ทำได้แค่ส่งเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ออกมา แม้แต่สามีของเธอเองก็ไม่อยากที่จะฟังมันเลยด้วยซ้ำ
ฝ้าใสเพียงครึ่งที่หน้าต่างห้องน้ำ เห็นเงาสูงโปร่งของซูจินเฉินสะท้อนออกมา เธอจึงรีบละสายตาออก
เขาเช็ดผมที่เปียกหมาด ๆ อย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร สายตาของเขากวาดมอง
“เมื่อตะกี้คุณดูโทรศัพท์ของผมเหรอ?”
เล่อซานประหม่าขึ้นมาทันที รีบโบกมือปฏิเสธโดยสัญชาตญาณ
เธอพยายามจะแสดงท่าทางเพื่ออธิบายว่าตัวเองไม่ทันระวังเผลอไปเห็นหน้าจอเข้า
ซูจินเฉินเริ่มจะหงุดหงิด พูดออกมานิ่ง ๆ “ต่อไปอย่าแตะต้องอีก”
รอยยิ้มที่เจ็บปวดผุดขึ้นมาตรงมุมปาก เธอกัดริมฝีปากพยักหน้า
ซูจินเฉินไม่ได้รักเธอ พวกเขาแต่งงานกัน ก็เพียงเพราะเป็นคำสั่งของปู่เขา
แม้แต่ซูจินเฉินเองก็เคยบอกกับปากตัวเองแล้วว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพราะว่าเธอเป็นลูกสาวบุญธรรมของตระกูลซู ไม่อยากจะให้ปู่ต้องโกรธเพราะว่าเรื่องนี้
ตลอดห้าปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยล้ำเส้นมาก่อน แม้จะรู้ว่าซูจินเฉินอยู่ด้วยกันกับคนอื่นก็ตาม
เธอเองก็ไม่เคยโหวกเหวกโวยวายมาก่อน กลัวว่าทำให้เขารำคาญแล้วจะรังเกียจเธอขึ้นมา
เธอยกมือขึ้นมาทำท่าทาง:ฉันต้มซุปแก้เมาค้างให้คุณแล้ว
พูดจบ ก็ไม่กล้ามองใบหน้าที่เย็นชาหลังจากที่ระบายอารมณ์ออกมาของซูจินเฉินอีก รีบออกจากห้องไปทันที
ภายในห้อง ซูจินเฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ไม่แม้แต่จะอ่านเนื้อหาโดยละเอียด
ลบข้อความทิ้งไปทันที
เล่อซานตื่นตั้งแต่เช้าตรู่
ซูจินเฉินไม่กินอาหารจีน กินแค่อาหารเย็นตะวันตกเท่านั้น
แล้วก็เป็นคนค่อนข้างเลือกมากด้วย อีกทั้งกระเพาะก็แพ้ง่าย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอจะเป็นคนเตรียมอาหารเช้าให้กับเขาเสมอ
ซูจินเฉินตื่นขึ้นมา หลังจากลงมาชั้นล่าง ภาพที่เห็นก็คือท่าทางที่กำลัววุ่นไปวุ่นมาอยู่ในครัวของเล่อซาน
สายรัดผ้ากันเปื้อนรัดให้เอวของเธอดูเล็กคอด คอที่ขาวนวลยังคงมีรอยจาง ๆ ที่เหลือทิ้งเอาไว้จากเมื่อคืน
อ่อนโยน เงียบ แล้วก็ไม่เคยก่อปัญหาอะไรมาก่อน เธอเป็นภรรยาที่ดีคนหนึ่งเลยจริง ๆ
ใบหน้าที่เย็นชาดูอ่อนโยนขึ้นมาอย่างสังเกตเห็นได้ยาก
เขาเป็นฝ่ายเปิดปากพูดขึ้นก่อน “ไม่ต้องทำแล้ว มากินด้วยกัน”
เล่อซานรู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อย รีบทำภาษามือแสดงความขอบคุณทันที
เธอถอดผ้ากันเปื้อนออก ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ เขาอย่างระมัดระวัง
พวกเขาไม่เคยใกล้ชิดกันขนาดนี้มาก่อน
ซูจินเฉินยื่นแซนวิชมาหนึ่งชิ้น เล่อซานรับมาอย่างระมัดระวัง
เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “พรุ่งนี้งานเลี้ยงฉลองครบรอบร้อยวันลูกเฮียใหญ่ คุณไปด้วยกับผม”
เธอมือไม้อ่อนขึ้นมาทันที แซนวิชเกือบจะร่วงหล่น
เขาแทบจะไม่เคยให้เธอไปออกงานด้วยกันเลย
แต่ที่ให้เธอไปเข้าร่วมงานในครั้งนี้ กลับเป็นงานเลี้ยงฉลองครบรอบร้อยวัน
แววตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและสับสน
นัตน์ตาหดลงเล็กน้อย ซูจินเฉินกลับไม่ได้สังเกตเห็น
เพียงสั่งกำชับออกมาว่า “พรุ่งนี้ผมจะให้ผู้ช่วยส่งชุดมาให้ จะมารับคุณตอนเที่ยง”
เล่อซานหมดหนทาง ทำได้แค่พยักหน้าตกลง
ตระกูลซูมีอำนาจอิทธิพลอย่างมากในเมืองเจียง งานฉลองครบร้อยวันลูกชายคนแรกของซูหมิงจาง ซึ่งเป็นลูกชายคนโต ก็ยิ่งเป็นที่จับตามองมากขึ้น
ซูหมิงจางได้ทำการจองโรงแรมระดับไฮเอนด์เอาไว้ สถานที่บริเวณนั้นการจราจรคับคั่ง บรรยากาศคึกคักวุ่นวายมาก
เล่อซานใส่ชุดเดรสสีเบจ แต่งหน้าอ่อน ๆ
เข้ากันกับใบหน้าที่สดใส และดวงตาที่ใสแป๋ว งดงามอย่างหาที่เปรียบมิได้
แต่สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนมองพาดผ่านตัวของเธอ แค่มองสำรวจเท่านั้น
“อิจฉาคนเขาจริง ๆ พูดไม่ได้แต่เกิด ยังได้แต่งงานกับคนดี ๆ ขนาดนี้ ทำไมฉันถึงไม่มีบุญวาสนาแบบนี้บ้างนะ ผิดที่ฉันพูดได้งั้นเหรอ?”
“พูดได้แล้วทำไม? เธอเสแสร้งแสดงท่าทางน่าสงสารได้เหมือนคนเขาไหมล่ะ?”
“ยังไง?”
“ในตอนนั้นเธอก็มีท่าทางน่าสงสารแบบนี้นี่แหละ ปู่ซูจากตระกลูซูเลยรับเธอไปเป็นลูกสาวบุญธรรม อีกทั้งยังให้เธอหมั้นหมายกับคุณชายรองซูจินเฉินอีก จุ๊ ๆ ๆ!”
“มองภายนอกเหมือนโชคดี แต่ความจริงแล้ว แผนการชัด ๆ ลองเรียนแบบสิ!”
เพียงเพราะคุณปู่รู้สึกสงสารเธอเท่านั้น
เล่อซานแก้ตัวอย่างเงียบ ๆ
แต่เธอรู้ว่าไม่มีใครสนใจ
“น้องสะใภ้ ในที่สุดก็มาสักที ฉันรอตั้งนาน”
[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
ฟาเบียน ฟรองซัว (ฟา) 32 ปีลูกเสี้ยว ไทย-ฝรั่งเศส-จีนผู้กว้างขวาง และร่ำรวยจากการทำชิปปิ้งตัวแทนผู้นำเข้าและส่งออกรายใหญ่ของไทยชายหนุ่มที่ขาดเรื่องบนเตียงไม่ได้แต่เขาเบื่อผู้หญิงที่จ้องจะจับเขา ทิพย์ดารา นวลพรรณ (ดาด้า) นางแบบและนักแสดงสาวมากความสามารถกำลังหัวเสียที่เธอถูกฟาเบียนตัดความสัมพันธ์เธอนั่งบ่นให้กับช่างประจำที่ร้านฟังฟาเบียนบอกเธอว่า "ถ้าผมหิว ผมจะซื้อกินเอง" เพราะคำว่าแต่งงานหรือผูกมัดไม่ใช่ทางของเขา ปองรัก พลอยรัตนา (จิล) 22 ปีเธอกำลังต้องการเงินเพื่อไปช่วยครอบครัวที่กำลังถูกฟ้องและถูกหุ้นส่วนโกงจำนวนเงินอาจจะไม่มากเท่าไหร่แต่มันก็ทำให้ครอบครัวที่เคยอยู่เย็นเป็นสุขต้องเดือดร้อน แทบหมดตัวอีกอย่างตอนนี้เธอก็ยังเรียนไม่จบเหลืออีกเทอมเดียวเท่านั้นด้วยความบังเอิญเธอได้บัตรกำนัลทำผมที่ร้านแห่งหนึ่ง..ฟรี จากเพื่อนรักสุจิรา เดชธนาดล (จิรา)ลูกเจ้าของร้านเพชรชื่อดังในเมืองไทย ชื่อและประวัติของ ฟาเบียนทำให้จิลเห็นทางออกหญิงสาวที่ยังบริสุทธิ์ เธอจะทำยังไงให้ครอบครัวกลับมาอยู่ดีเหมือนเดิมได้เธอยินดี...ทำเธอเดินเข้าไปเสนอขายพรหมจรรย์ให้กับเขาเงินที่เธอร้องขอ สำหรับ ฟาเบียน แค่เศษเงินแค่เห็นหน้าเธอ เขาก็ปิ๊งเสียแล้วฟาเบียน รับข้อเสนอและให้เธอมาเป็น...เมียพาร์ทไทม์ เริ่มต้นก็สนุกเสียแล้ว พลาดได้ไง ขอฝากผลงานเรื่องนี้ไว้ในอ้อมใจของนักอ่านที่น่ารักด้วยนะคะ
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี