ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
เฟิ่งหลิวสาวน้อยรูปร่างหน้าตาต่างจากชาวบ้านธรรมดาทั่วไปผิวเนื้อผุดผาดขาวราวหยกขาวต้องแสง ปากคอคิ้วคางดุจงานสรรค์สร้างจากปลายพู่กันของจิตรกรเอก แต่รูปร่างเล็กเหมือนหญิงชาวบ้านที่อดยากขาดแคลนอาหารดีๆ หากพินิจให้ดีเสียหน่อย เฟิ่งหลิวนับว่าโดดเด่นไม่น้อยแต่ใบหน้ากลับขะมุกขะมอมด้วยความทุกข์เข็ญ หอบห่อผ้ากอดร่ำลามารดาที่อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ที่อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ มือกร้านลูบหัวเฟิ่งหลิวไปมา
“แน่ใจแล้วหรือ”เฟิ่งหลิวฝืนยิ้มพยักหน้าช้าๆ
“ปีนี้ เฟิ่งหลิวสิบสามแล้ว ท่านแม่ก็ลำบากที่หอเทียนถางมีงานพอให้ทำได้ ท่านแม่ไม่ต้องกังวล เฟิ่งหลิวแค่ไปช่วยเขาทำงานรับใช้ในหอนางโลมหาได้เข้าไปเป็นนางคณิกาไม่”มารดายังปล่อยน้ำตาไหลริน กล้ำกลืนกับความว่าใจกล้ามีเส้นบางๆฟ่งหลิวนางกล้ำกลืนเสียมากกว่า
“เอาไว้ เฟิ่งหลิวกลับมาเยี่ยมท่านแม่บ่อยหน่อย”กอดรอบเอวมารดาแน่น
“เฟิ่งหลิว เฟิ่งหลิว”
เถ้าแก่เนี้ยของหอเทียนถางที่อดีตก็คือนางคณิกามีชื่อพอแก่ตัวมีเงินเก็บบ้างก็เปิดโรงน้ำชาและหอนางโลมจนเป็นที่รู้จักกันดี เดินวนรอบๆ เฟิ่งหลิว
“ไม่เลว ไม่เลวแต่ ทรวดทรงเอวกับท่อนไม้เช่นนี้เห็นทีต้องบำรุงกันอีกหน่อย”ดวงตาเป็นประกายหญิงนางนี้หากดูแลดีดีแต่งองค์ทรงเครื่องเสียหน่อยนางจะงดงามเพียงใดกันรอให้มีหน้าอกหน้าใจรอให้ย่างเข้าสู่วัยสาวนางจะต้องเป็นอันดับหนึ่งของหอเทียนถาง
“เฟิ่งหลิวมิได้ต้องการเข้ามา เป็นนางคณิกา”
“อิอิอิ เข้ามาใหม่ๆ ใครๆก็พูดเช่นนี้ต่อมาเสียงก้อนเงินกระทบกันมักจะละลายคำพูดของพวกนางไปจนสิ้นเห้นไหมพวกนางก็เคยพูดคำนี้ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่าพวกนางล้วนสนุกกับเงินทองที่ไหลมาเทมา”
หัวเราะเสียงใสชี้มือไปยังเหล่านางคณิการุ่นพี่ที่ยืนรายล้อม
“แต่เฟิ่งหลิวแค่...ต้องการหาเงิน ไปให้ท่านแม่ท่านแม่จะได้ไม่ต้องลำบาก”
“อืม...ความจริงหากจะไม่ขายตัวก็เพียง ไม่สิต้องฝึกฝนตัวเองให้เป็นอี้จี”
“อี้จี”เฟิ่งหลิวทวนคำเบาๆ
“ก็อี้จีมีหน้าที่ให้ความสำราญแต่เป็นแค่เพียงด้านเสียงเพลงและเพื่อนเดินหมากซึ่งเจ้าจะต้องหัดเดินหมากให้เก่ง และเล่นพิณหรือกู่เจิ้ง ผีผาสักอย่างได้ไพเราะบวกกับหน้าตาที่งดงามไม่จำเป็นต้องขายตัวอย่างพวกเราก็ได้ หรืออาจะจะขายให้เฉพาะคนที่เจ้าพึงใจหรือเงินหนาเพื่อโก่งราคาตัวเจ้าว่ารับแขกเพียงน้อยนิด”
“เหมือนกับล่อหลอกเอาเงินเช่นนั้นหรือ”
“ใครบอกเจ้ากัน อี้จีแค่อาศัยใบหน้าที่งดงามและความสามารถในด้านดนตรี และการเดินหมากให้ความสำราญกับพวกเขาในอีกแบบหนึ่งก็เท่านั้น ไม่ได้หลอกลวงใคร เราต่างทำงานแลกเงินทุกคนล้วนทำงานแลกเงิน”
“แล้ว หากมีใครต้องการตัวเราเล่า แล้วข้าจะเลือกได้อย่างที่ท่านบอกหรือ”
“อิอิอยู่ที่เจ้าแล้วว่าจะเต็มใจหรือไม่ หากเจ้าฉลาดพอก็แค่พูดจาหว่านล้อมบ่ายเบี่ยง เพื่อหาคนจริงใจ แต่หากเจ้าใจไม่แข็งพอก็จะ ยอมทอดกายให้พวกมากรักได้เช่นกัน คนพวกนี้มากรักไม่มีรักแท้ในหอนางโลมหรอกเด็กน้อยเงินเท่านั้นที่สำคัญเจ้าอย่าได้หลงใหลบุรุษรูปงามเช่นคนโง่งม นั่นเท่ากับทำลายงานดีดีของเจ้าไป”เฟิ่งหลิวคิดตาม
“ขอบคุณนายหญิงที่ชี้แนะ”
“หากมีชื่อเสียง มีคนต้องการตัวย่อมมีโอกาสหลอกล่อเงินทองของกำนัลเจ้าคิดเอาล่ะกันว่าความรัก”เฟิ่งหลิวยิ้ม อยู่ข้างนอกนั่นทุกวันนี้ก็แค่ หาทางหลอกล่อเงินทองจากคนอื่นเหมือนกัน บางครั้งก็แกล้ง เป็นคนพิการบางครั้งก็แกล้งเป็นคนป่วย แกล้งตาบอดก็ยังเคย
ตั้งแต่นั้นมาทุกวันของเฟิ่งหลิวจึงผ่านไปด้วยการฝึกฝนอย่างหนักทั้งทำงานในหอนางโลมสารพัดที่จะถูกเรียกใช้ แล้วยังจะต้องฝึกเพลงพิณดีดกู่เจิ้ง และเดินหมาก
สี่ปีผ่านไป
เฟิ่งหลิวบรรเลงเพลงพิณหวานแววฟังแล้วเคลิบเคลิ้มล่องลอยชวนให้อยากพบหน้าคนบรรเลงเพลงพิณ
“เอาหละ เฟิ่งหลิว ข้าคิดว่าถึงเลวจะต้องให้เจ้าได้เปิดตัวเสียทีหลายปีมานี้ฝึกอย่างหนักอีกทั้งยังสั่งสอนเจ้าในเรื่องกิริยาและการวางตัวต่อไปหวังว่าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”นายหญิงของหอเทียนถางนาม สือหยูเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนหลายปีมานี้ทั้งเคี่ยวกรำทั้งดุด่าแต่เฟิ่งหลิวนางไม่เคยปริปากสักคำจนในสุดเฟิ่งหลิวก็กลายเป็นเพชรเม็ดงามที่ผ่านการเจียนัยโดยสือหยู รอเวลาอวกโฉมเปล่งแสงให้ผู้คนได้ตกตะลึง และเมื่อนั้นเงินทองจะไหลมาเทมาที่หอเทียนถาง
พระเอกสายแอพ เฉยชาทว่าโบ๊ะบ๊ะภายใน โคตรรั่ว อัตราการแขวะ0.01วินาที ภายใต้หน้ากากสูงส่งบริสุทธิ์ ในนามปรมาจารย์ ที่ค้ำคอไว้ พบกับ พระเอกสายกาว ที่ไม่เอื้อนเอ่ย ใครกันจะรู้ภายในใจท่านคิดเช่นไร พบกับนิยายแนว ขุนเขาจอมยุทธ์ บุญคุณความแค้น แต่พระเอกสายฮา สะกดกลั้นความอาไว้ภายใต้หน้ากากหล่อเหลาอย่าเผลอนินทาอย่าเผลอหลงรัก เพราะปรมาจารย์ท่านนี้อ่านใจคนออก
เรื่องเล่าของท่าน อาจทำข้าสำราญ หรืออาจทำให้ทุกข์ตรมไปกับท่าน ถือว่าท่านจ่ายค่าตอบแทนแก่ข้าแล้ว เสพสุขจากความทุกข์ตรมกระทำได้เช่นนั้นหรือความทุกข์ตรมของผู้อื่น ทำให้เราหลุดพ้นความทุกข์ตรมของเราได้
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ปลอมตัวเข้ามาเป็นขันทีข้างกายฮ่องเต้หนุ่มหล่อ ที่มีเสียงเล่าขานว่าไม่ยอมแต่งเมียเพราะ นิยมบุรุษด้วยกัน
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้