เปาเปา เปยเปยมีรึจะยอมให้อ๋องปากสุนัขมายุ่งกับมารดาของพวกเขามิสู้ หาบิดาหล่อๆ ให้มารดาสักคนเสียดีกว่า 55555 สมหน้าบิดาสมองสุนัข
เปาเปา เปยเปยมีรึจะยอมให้อ๋องปากสุนัขมายุ่งกับมารดาของพวกเขามิสู้ หาบิดาหล่อๆ ให้มารดาสักคนเสียดีกว่า 55555 สมหน้าบิดาสมองสุนัข
เสียงอัสนีฟ้าผ่าลงมาดรุณีร่างบางเดินย่ำเท้าเปล่าอย่างรวดเร็วในยามราตรีที่มืดมิดแม้แต่แสงดาวก็ยังไม่มี มีเพียงลมกระโชกแรงกับฝนห่าใหญ่ที่ตกลงมา
ใบหน้าของนางอาบไปด้วยน้ำตา หญิงสาวมองเด็กทารกที่ห่อด้วยผ้าฝ้าย
"ลูกแม่ พวกเราจะตายมิได้ แม่ต้องให้เจ้ารอดไปหาท่านตาของเจ้า แม่ผิดเองแม่มันไม่ดีเอง" ถังลีเฟยไม่คิดว่าการมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตายจะเป็นเช่นนี้
นางคือคุณหนูใหญ่บุตรสาวแม่ทัพใหญ่ถังเทียน เพลงพิณ หมากล้อม กวี วาดภาพนางนั้นล้วนเป็นหมด นางเป็นยอดหญิงอันดับหนึ่งของเมืองต้าโจว อีกทั้งเป็นยอดหญิงที่มีพลังปราณขั้นสี่
พลังปราณทั้งหมดมีหกขั้น
ขั้นที่ 1 ผู้เริ่มต้นพลังปราณสีม่วง
ขั้นที่ 2 หลอมรวมพลังปราณสีน้ำเงิน
ขั้นที่ 3 จอมยุทธ์พลังปราณสีฟ้า
ขั้นที่ 4 ปรมาจารย์พลังปราณสีเขียว
ขั้นที่ 5 ผู้อาวุโสพลังปราณสีเหลือง
และสุดท้ายเคล็ดลับยอดวิชาขั้นที่หก เซียน สีน้ำตาลอมตะวิชา
ถังลีเฟยไม่ไหวแล้วมีคนกำลังจะสังหารนาง ลูกแฝดทั้งสองของนางช่างน่าสงสารนัก เราจะตายกันทั้งหมดมิได้
ข้าแด่สวรรค์ ข้าขอโอกาสหนทางให้บุตรชายหญิงฝาแฝดของข้านั้นมีชีวิตรอด
เปรี้ยง !!! ราวกับสวรรค์รับคำขอของนาง
อีกด้านหนึ่งของหลายสหัสวรรษ ภายในนั้นมืดมิดเต็มไปด้วยกลิ่นธูปกำยานเครื่องหอม ถังเฟยเฟยในอาภรณ์ผ้าต่วนสีขาวนวล ใบหน้างามไร้ที่ติ เธอเพิ่งออกมาจากพระราชวังต้อง แน่นอนว่าวันหยุดของแพทย์ศัลยกรรมอันดับหนึ่งของปักกิ่ง
เธอเป็นหมอที่มีชื่อเสียง เธอเป็นเด็กกำพร้าบิดามารดา เธอเติบโตจากสถานสงเคราะห์ของรัฐบาล ถังเฟยเฟยเป็นคนที่เรียนเก่งจนติดแพทย์ระดับประเทศ ทางสถานสงเคราะห์ส่งเธอเรียนจนจบและทำให้เธอมีงานทำเป็นหมอเหมือนทุกวันนี้
แต่เนื่องด้วยความเหงาเธออายุสามสิบปี ไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีใครในโลกใบนี้ กระนั้นจึงตัดสินใจมาในกระโจมแม่หมอเปอร์เซียที่ตั้งแผงใกล้พระราชวังต้องห้าม
"นี่แม่หนูเจ้าอยากจะถามหาเนื้อคู่สินะ" สายตาแม่หมอเปอร์เซียจ้องคนงามอย่างถังเฟยเฟย ทำให้เธอถึงกับขนลุก
แม่นมากแม้ไม่ได้ถาม
"ค่ะท่านยาย"
"ข้าจะมองไปในลูกแก้วแห่งจิตวิณญาณ" ดวงตาอันกลมโตเท่าไข่ห่านพลันจ้องเข้าไปในลูกแก้วอันมืดมิด
ถังเฟยเฟยมองตามแม่หมอเช่นกันมันไม่มีอันใดเลย
"ไอ้หยา เนื้อคู่เจ้ามันช่างอยู่ไกลนักจนข้ามองไม่เห็น" แม่หมอมองหน้าคนงาม
ถังเฟยเฟยถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายเกิดมาก็แย่อยู่แล้วยังไร้เนื้อคู่อีก เพื่อนหมอมีลูกมีสามีกันหมดแล้ว
แม่หมอเห็นน่าเศร้าของถังเฟยเฟยก็สลดใจขึ้นมา
"เอานี่ไปใส่" แม่หมอสวมด้ายแดงให้เธอ
"ไม่คิดเงินนะ รับรองเจ้าได้เจอเนื้อคู่ของเจ้าแน่นอน" แม่หมอไม่คิดเงินด้ายแดงแต่แม่หมอคิดเงินค่าดูดวง สรุปถังเฟยเฟยต้องจ่ายอยู่ดี หญิงสาวออกจากกระโจมฝนก็ยังตกอยู่ดี โชคที่พกร่มมาด้วย จังหวะนั้นพายุห่าใหญ่ได้พัดเข้ามาร่างบางหายไปกับพายุท่ามกลางความมืดมิด...
คำขอของถังลีเฟยนั้นเป็นความจริงเมื่อมีสตรีชุดขาวโผล่มาจากท้องฟ้าราตรีที่มืดมิด
"ที่ไหนเนี่ย" ถังเฟยเฟยมองผืนป่าที่เต็มไปด้วยเม็ดฝน
ดวงตาของถังลีเฟยเฟยมองแม่นางชุดขาวอย่างมีความหวัง
"แม่นางเจ้าช่างเหมือนข้ายิ่งนัก แม่นาง" ถังลีเฟยมองสตรีที่เหมือนนางราวกับแกะ
ถังเฟยเฟยอึ้งงันเช่นกัน เหตุใดเป็นเช่นนี้แม้แต่ชุดที่สวมใส่ยังเหมือนกัน นางอยู่เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยผู้คนบ้านเรือนบัดนี้มายืนอยู่กลางป่า
"ข้าไม่ไหวแล้ว" ถังลีเฟยยื่นบุตรฝาแฝดให้ถังเฟยเฟย นี่นางต้องเลี้ยงดูเจ้าทารกน้อยพวกนี้รึ
"เจ้าจะไปไหน" ถังเฟยเฟยถามถังลีเฟย
"ข้าร่างกายข้ามีพิษ ข้าคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ข้าคือถังลีเฟยบุตรสาวท่านแม่ทัพแห่งต้าโจว เราสองคนหน้าเหมือนกันนัก ข้าฝากท่านดูแลพวกเขาแทนข้าด้วย นี่คือป้ายหยกของบิดาสองแฝด อย่ากลับไปกับคนพวกนั้นเพราะจะสังหารเราแม่ลูก" ถังลีเฟยเฟยกล่าวกับสตรีชุดขาว
ถังเฟยเฟยยังไม่ได้ถามอะไรเลย
ตุบ !!!
จู่ๆ มีลูกธนูปักที่กลางอกของถังลีเฟย ทำให้นางเซไปทางหน้าผาแล้วล้มลงไป
"เจ้า" ถังเฟยเฟยได้แต่มองร่างถังลีเฟยตกลงไปด้านล่างหน้าผามิรู้ว่าเป็นแม่น้ำหรือป่าไม้
สมองของถังเฟยเฟยขบคิดเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ยอีกทั้งนางยังมองสองแฝดชายหญิงเพิ่งจะเสียมารดาแท้ๆ ไปช่างน่าอนาถใจนัก
"ถังลีเฟย เหตุใดเจ้าต้องหนีข้าด้วยเล่า" คนนับสิบวิ่งมาที่หน้าผา ถังเฟยเฟยคิดว่าแย่แล้ว หากคนพวกนั้นจับได้นางมิอาจรับคำหญิงผู้นั้นได้เป็นแน่แท้
นางมองบุรุษสวมหน้ากากผีเสื้อในอาภรณ์สีน้ำเงิน พร้อมกับลูกน้องของเขาในยามนี้สมองของถังเฟยเฟยคิดได้ก็คือนางต้องดูแลสองแฝดอย่าให้มีอันตราย
"ถังลีเฟยกลับไปกับข้า" ชายผู้นั้นสาวเท้าเข้ามาใกล้ถังเฟยเฟย
ก่อนจะตกลงหน้าผาถังลีเฟยได้บอกกับนางว่าอย่ากลับไปกับคนพวกนั้น
"ไม่!!!"ถังเฟยเฟยค่อยๆ ถอยหลังไปทีละ นางอุ้มลูกแฝดในเมื่อถังลีเฟยมอบสองแฝดให้นางแล้ว สองแฝดถือเป็นลูกของนาง
"เจ้าไม่กลัวตายรึ"
"เหตุใดต้องกลัว"
หากสวรรค์ให้ข้ามาเพื่อเลี้ยงสองแฝดข้าเชื่อว่าข้าจะไม่ตายง่ายๆ
ถังเฟยเฟยคิดว่าถึงอย่างไรหนีไม่พ้น สู้ตายเอาดาบหน้าเสียกว่า
ตุบ !!!
"อย่า!!!" ชายผู้นั้นคว้าได้เพียงอากาศ เหตุใดนางต้องทิ้งเขาไว้ด้วยเล่า...
หลีซินแพทย์ศัลยกรรมในยุคปัจจุบันได้ทะลุมิติเข้าร่างสตรีลูกขุนนาง ที่มีความเอาแต่ใจ อารมณ์ร้ายเป็นใหญ่ แต่ทว่าสตรีนางนี้ ต้องแต่งงานกับหยางอ๋องผู้มีลูกติดฝาแฝดชายหญิง
นางหนีความยากลำบากเข้ามาในเมืองหลวงฉางอัน เพื่อขายตัวเองเป็นสาวใช้ในจวนท่านแม่ทัพ แต่ทว่า ท่านแม่ทัพผู้นี้เมตตาสาวใช้อย่างนางยิ่งนัก จนกระทั่งทำให้ฮูหยินใหญ่ในจวนมิพอใจสาวใช้อย่างนาง จูจูจะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่ปลอดภัยในจวนท่านแม่ทัพนี้ ร่วมเป็นกำลังใจให้จูจูนะเจ้าคะ
เซียวหรูอวี้กับโอวหยางหลิงหลง เรื่องข้ามภพข้ามชาติมาเป็นชายาอ๋อง เรื่องข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า เป็นเรื่องบุตรสาวของเซียวหรูอวี้ คือท่านหญิงเปยเปยกับอวครักษ์จาง เรื่องราวระหว่างท่านหญิงกับองครักษ์ที่มีความรักให้กัน คนทั้งคู่จะได้มีวาสนาได้ครองรักกันหรือไม่? ................................................................................................................................................................ ใต้น้ำ ชายหนุ่มกอดหญิงสาวไว้ ริมฝีปากรีบประกบปากนาง ทั้งคู่มองหน้ากันแม้จะอยู่ใต้น้ำ เขาต้องต่อลมหายใจให้นาง ถ้าขืนโผล่หน้าขึ้นไปพวกมันอาจซุ่มอยู่ก็เป็นได้ การประกบริมฝีปากอยู่ใต้น้ำช่างเนิ่นนานเหลือเกิน พรึ่บ! ในที่สุดทั้งคู่ก็โผล่หัวออกมาจากใต้น้ำ หญิงสาวหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าหนาว พาข้าขึ้นฝั่งที” ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาพานางขึ้นฝั่ง เขาพานางขึ้นฝั่งแล้วเข้าไปในถ้ำ โชคดีในถ้ำเหมือนจะมีคนเคยมาพักที่นี่ ทิ้งฟืนไว้จำนวนมาก หญิงสาวนั่งตัวสั่น นางหนาวเหลือเกิน “เจ้าถอดเสื้อผ้าออกเถอะ” ชายหนุ่มหันไปบอกหญิงสาว แต่ในมือยังคงก่อไฟ เป่ยเป่ยได้ยินดังนั้นก็ปลดอาภรณ์สีแดงเพลิงออกเหลือเพียงแค่เอี๊ยมสีชมพู หญิงสาวนั่งผิงไฟอย่างเขินอาย จีนโบราณ
อวี้เหมยหรู แพทย์สาวยุคปัจจุบัน ได้ทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่เธออ่าน เธอนั้นดันชอบพระรองอย่างท่านแม่ทัพซือเหยียน มากกว่าพระเอกอย่างองค์ชายสามจีเสวียน
"ท่านเป็นอย่างไรบ้าง" เซียวหยามองหน้าชายคนรักที่โดนพิษยาปลุกกำหนัดในใจก็นึกโกรธเซียวเหยียนขึ้นมาทันที "ข้าร้อนยิ่งนักอยากจะปลดปล่อย" น้ำเสียงกระเซ้าบอกชายคนรัก ในใต้หล้านี้ เสิ่นจ้านไม่ต้องการสตรีแม้แต่คนเดียว เขาต้องการบุรุษอย่างเซียวหยาเท่านั้น
เกาเหมียวหรงบุตรสาวนายอำเภอโจว ไม่เป็นที่รักของขอบิดา เกาเซิง นางเป็นบุตรภรรยาเอกที่ตายไปแล้ว กระนั้นบิดาจึงให้นางออกเรือนกับพ่อค้าคารวานแห่งทุ่งหญ้า มีอายุคราวบิดา นางจึงตัดสินใจเป็นอนุของแม่ทัพหนานอ๋อง
โปรยปราย... เมื่ออยากให้มหาเศรษฐีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่าง ‘ปวีร์’ ช่วยให้ ‘พิมพ์พิศา’ หลุดพ้นจากสภาพของสาวค้าบริการอย่างไม่สมยอม ไหนจะ ‘พ่อเลี้ยง’ บ้ากามที่จ้องคุกคามพรหมจรรย์ หญิงสาวบริสุทธิ์จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อ ‘จับ’ เขาไว้ให้อยู่หมัด ด้วยรู้ว่าอิทธิพลของเขาจะช่วยคุ้มภัยให้เธอไปตลอดกาล แต่นักธุรกิจทุกกระเบียดอย่างเขา จะช่วยใครย่อมต้องมีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่าง... ข้อนั้นพิมพ์พิศารู้ดี แต่ไม่รู้เลยว่า... เพียงเพื่อแลกกับอิสรภาพ เธอจะต้องมีทายาทให้เขา +++++++++++++++
หนูน้อย"อ้ายหลาน"เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษไม่เหมือนใคร แม้นางจะเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่นางก็มีพลังมหาศาลสามารถยกกระสอบข้าวด้วยมือเดียว ก้อนหินสิบคนโอบนางก็สามารถยกทุ่มได้อย่างง่ายดาย และจมูกนางไวต่อกลิ่นยิ่งนักแม้สิ่งนั้นจะอยู่ไกลเพียงใดโดยเฉพาะอาหาร นางมีจมูกที่พิเศษสามารถแยกแยะสิ่งมีพิษและไม่มีพิษได้
"ท่านครับ คนยังไม่ตาย ต้องการชนอีกทีไหมครับ" "จัดการเลย" เสิ่นอันหยูซึ่งกำลังจมอยู่ในกองเลือด ได้ยินคำสั่งของสามีกับหู เธอกับเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยมีลูก อย่างไรก็ตาม การแต่งงานที่ไม่มีบุตรทำให้แม่สามีกล่าวหาว่าเสิ่นอันหยูมีบุตรยาก ตอนนี้ สามีของเธอไม่เพียงนอกใจเธอเท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธอตายด้วย! เขาก็หย่ากับเธอได้ แต่นี่เขาพยายามจะฆ่าเธอ... ในวันที่หย่ากัน เสิ่นอันหยูที่เคยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นก็แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่งทันที สามีคนที่สองของเธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเมือง เธอสาบานว่าจะใช้อำนาจของเขาให้เป็นประโยชน์และแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ! เดิมทีการแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ควรเป็นเพียงข้อตกลงที่หาประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สุดท้าย เธอกลับถูกชายที่ดื้อรั้นคนนี้ตรึงไว้กับกำแพง "เอาจริงเลยได้ไหม ผมอยากอยู่กับคุณตลอดไป"
นายพายุ ศิระภาคิณ อายุสามสิบปี นักธุรกิจหนุ่มประธานบริษัทส่งออกผ้าไทย วีรกรรมที่เขาทำไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน กำลังจะย้อนกลับมา เมื่อนางสาวแพรไหม โภสิกุล ดีไซเนอร์สาวอายุยี่สิบเก้าปี ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เธอนั้นหายออกไปจากมหาวิทยาลัย กว่าสิบปี โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทำให้ท่านประธานหนุ่มเริ่มอยากรู้ชีวิตของเธอ เมื่อครั้งหนึ่งเรือนร่างอันบอบบางอรชรเคยหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับเขามาแล้ว ถ้าหากเขาต้องการสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง มันก็ไม่แปลกหากเธอนั้นยังโสดแพรไหมจะยังต้องการเขาอยู่หรือไม่ ในเมื่อเธอคิดว่าพายุนั้นเป็นแค่ผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอเท่านั้น ซึ่งเวลานี้เธอก็ยังคงมองเขาในด้านลบอยู่ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก “ฮ่ะ!” พายุอุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่หัวใจของเขานั้นเต้นแรง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต "ถ้าคุณไม่เชื่อ พาหนูไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะคะ" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับมีใบหน้าที่เศร้าหม่น เมื่อเธอคิดว่าบิดาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอนั้นพูดออกมา "ไม่จำเป็น!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง เพื่อยืนกรานที่จะตรวจดีเอ็นเอ จนทำให้คนฟังนั้นหวาดกลัว เพราะใยไหมคิดว่าบิดานั้นไม่เชื่อใจเธอ "หนูขอโทษที่มารบกวน หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" ใยไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นบิดาอย่างนอบน้อม ประหนึ่งว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อเธอได้สัญญากับผู้เป็นมารดาเอาไว้ หากถูกปฏิเสธแล้วไซร้ จะขอกลับไปไม่กลับมาหาชายตรงหน้าอีกเลยตราบชั่วชีวิต "แล้วหนูจะไปไหน นั่งลงก่อนสิ" พายุพูดพร้อมกับจับร่างเล็กของลูกสาวนั่งลงข้าง ๆ อีกครั้ง "ที่บอกว่าไม่จำเป็น นั่นเป็นเพราะว่าพ่อเชื่อว่าหนูเป็นลูกของพ่อโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ใยไหมไม่รอช้าโผเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาอีกครั้งในทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ "ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพ่อ" พายุพูดพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มใสของลูกสาวออกจนสิ้น ในขณะที่ตัวของเขาเองก็น้ำตาคลอเช่นกัน "หนูขอเรียกพ่อว่าคุณป๋านะคะ" เสียงเจี๊ยวจ๊าวพูดออกมาอย่างรื่นหู คุณป๋าที่เด็กหญิงพูดนั้น ทำให้พายุอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้ "ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ทำไมถึงต้องเรียกพ่อว่าคุณป๋าด้วยละ หืม" พายุเอ่ยถามลูกสาวออกมา ขณะที่เขายังคงกอดเด็กหญิงเอาไว้ ด้วยความรักความผูกพันของสายใยระหว่างพ่อลูก ที่มันพันผูกจนมาสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ "มาดาม ไม่ชอบให้หนูมีพ่อ หนูก็จะมีคุณป๋าแทนยังไงล่ะคะ" คำตอบของลูกสาวทำให้พายุยิ้มไม่หุบครั้งแล้วครั้งเล่า เธอช่างเป็นเด็กฉลาดและร่าเริง ผิดกับแพรไหมมารดาของเธอ ที่ชอบทำหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ตลอดเวลา "ทำไมถึงเรียกแม่ว่ามาดาม ตอนนี้แม่แต่งงานไปแล้วหรือยัง" เวลานี้พายุลุ้นคำตอบจากลูกสาว หรือแพรไหมจะแต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวไปแล้ว ใยไหมถึงได้เรียกเธอว่ามาดาม "แม่ยังไม่มีใคร มีแค่ลุงดนัยที่ชอบมาข้องแวะ แต่หนูไม่ชอบเขาเลย เพราะเขาชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาดามอยู่เรื่อย" คำตอบของลูกสาวช่างอิ่มเอมใจ เมื่อแพรไหมไม่มีใครเขาก็พร้อมจะสานสัมพันธ์ แต่งานนี้คงจะยากหากผู้ชายคนนั้นมาข้องแวะ แต่เขามีลูกสาวที่ยืนเคียงข้างแล้วจะกลัวอะไร "ถ้าพ่ออยากจะจีบแม่ต้องทำยังไง" "โอ้! เจ๋งเป้งมากค่ะคุณป๋า เดี๋ยวหนูจะช่วยเอง" ใยไหมพูดออกมาด้วยความดีใจ นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนามาแสนนาน อยากให้บิดามารดาได้ลงเอยกันสักที "ลูกรับปากพ่อแล้วน๊า... " พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก "แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อนค่ะ คุณป๋า" ใยไหม ผละออกจากอกกว้างของผู้เป็นบิดา พร้อมกับหยิบคุกกี้ตรงหน้าเข้าปาก "หิวหรือยัง ไปทานข้าวก่อนดีไหม" พายุเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นลูกสาวนั้นหยิบคุกกี้เข้าปากคำโต "เดี๋ยวค่อยไปทานก็ได้ค่ะ แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อน เรื่องที่หนูเป็นลูกสาวของคุณป๋า ห้ามให้ใครรู้ ทุกอย่างจะเป็นความลับระหว่างเราได้ไหมคะ" พายุทำหน้าสงสัยกลับไปให้เด็กหญิง เธอกำลังคิดจะทำอะไร ใครหลายคนคงดีใจหากได้เป็นลูกสาวของท่านประธาน "ทำไมเป็นลูกสาวพ่อมันไม่ดีตรงไหนเหรอ ลูกถึงไม่อยากให้ใครรู้" พายุเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความน้อยใจ เมื่อลูกสาวไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเขาเป็นบิดาของเธอ "เป็นลูกสาวของป๋าดีที่สุดแล้ว แต่หนูไม่อยากให้ใครมองมาดามในทางไม่ดี ทุกคนต้องรู้แน่ สาเหตุที่มาดามต้องออกจากมหา'ลัยกลางคัน" คำบอกเล่าของใยไหมเป็นเหมือนดังคมหอก ที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของพายุ เด็กหญิงตรงหน้าช่างมีความคิดแบบผู้ใหญ่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบไหนทำไมถึงได้ฉลาดอย่างนี้ แพรไหมคงดูแลอบรมลูกสาวมาอย่างดี ต่างจากเขาผู้เป็นบิดาที่ไม่เคยได้เหลียวแล "พ่อขอโทษนะ ที่ไม่เคยได้ดูแลหนูเลย ต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ทิ้งหนูกับแม่ให้อยู่กันตามลำพังอีกแล้ว" คำพูดของผู้เป็นบิดากำลังทำให้เด็กหญิงหัวใจพองโต เธอดีใจที่ผู้เป็นพายุไม่ปฏิเสธ แถมเขายังคิดที่จะสานสัมพันธ์กับมาดามของเธออีกครั้ง คงไม่มีอะไรทำให้เด็กหญิงมีความสุขเท่าสิ่งนี้มาก่อนเลยในชีวิต "ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก "ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวด
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด