เปาเปา เปยเปยมีรึจะยอมให้อ๋องปากสุนัขมายุ่งกับมารดาของพวกเขามิสู้ หาบิดาหล่อๆ ให้มารดาสักคนเสียดีกว่า 55555 สมหน้าบิดาสมองสุนัข
เปาเปา เปยเปยมีรึจะยอมให้อ๋องปากสุนัขมายุ่งกับมารดาของพวกเขามิสู้ หาบิดาหล่อๆ ให้มารดาสักคนเสียดีกว่า 55555 สมหน้าบิดาสมองสุนัข
เสียงอัสนีฟ้าผ่าลงมาดรุณีร่างบางเดินย่ำเท้าเปล่าอย่างรวดเร็วในยามราตรีที่มืดมิดแม้แต่แสงดาวก็ยังไม่มี มีเพียงลมกระโชกแรงกับฝนห่าใหญ่ที่ตกลงมา
ใบหน้าของนางอาบไปด้วยน้ำตา หญิงสาวมองเด็กทารกที่ห่อด้วยผ้าฝ้าย
"ลูกแม่ พวกเราจะตายมิได้ แม่ต้องให้เจ้ารอดไปหาท่านตาของเจ้า แม่ผิดเองแม่มันไม่ดีเอง" ถังลีเฟยไม่คิดว่าการมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตายจะเป็นเช่นนี้
นางคือคุณหนูใหญ่บุตรสาวแม่ทัพใหญ่ถังเทียน เพลงพิณ หมากล้อม กวี วาดภาพนางนั้นล้วนเป็นหมด นางเป็นยอดหญิงอันดับหนึ่งของเมืองต้าโจว อีกทั้งเป็นยอดหญิงที่มีพลังปราณขั้นสี่
พลังปราณทั้งหมดมีหกขั้น
ขั้นที่ 1 ผู้เริ่มต้นพลังปราณสีม่วง
ขั้นที่ 2 หลอมรวมพลังปราณสีน้ำเงิน
ขั้นที่ 3 จอมยุทธ์พลังปราณสีฟ้า
ขั้นที่ 4 ปรมาจารย์พลังปราณสีเขียว
ขั้นที่ 5 ผู้อาวุโสพลังปราณสีเหลือง
และสุดท้ายเคล็ดลับยอดวิชาขั้นที่หก เซียน สีน้ำตาลอมตะวิชา
ถังลีเฟยไม่ไหวแล้วมีคนกำลังจะสังหารนาง ลูกแฝดทั้งสองของนางช่างน่าสงสารนัก เราจะตายกันทั้งหมดมิได้
ข้าแด่สวรรค์ ข้าขอโอกาสหนทางให้บุตรชายหญิงฝาแฝดของข้านั้นมีชีวิตรอด
เปรี้ยง !!! ราวกับสวรรค์รับคำขอของนาง
อีกด้านหนึ่งของหลายสหัสวรรษ ภายในนั้นมืดมิดเต็มไปด้วยกลิ่นธูปกำยานเครื่องหอม ถังเฟยเฟยในอาภรณ์ผ้าต่วนสีขาวนวล ใบหน้างามไร้ที่ติ เธอเพิ่งออกมาจากพระราชวังต้อง แน่นอนว่าวันหยุดของแพทย์ศัลยกรรมอันดับหนึ่งของปักกิ่ง
เธอเป็นหมอที่มีชื่อเสียง เธอเป็นเด็กกำพร้าบิดามารดา เธอเติบโตจากสถานสงเคราะห์ของรัฐบาล ถังเฟยเฟยเป็นคนที่เรียนเก่งจนติดแพทย์ระดับประเทศ ทางสถานสงเคราะห์ส่งเธอเรียนจนจบและทำให้เธอมีงานทำเป็นหมอเหมือนทุกวันนี้
แต่เนื่องด้วยความเหงาเธออายุสามสิบปี ไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีใครในโลกใบนี้ กระนั้นจึงตัดสินใจมาในกระโจมแม่หมอเปอร์เซียที่ตั้งแผงใกล้พระราชวังต้องห้าม
"นี่แม่หนูเจ้าอยากจะถามหาเนื้อคู่สินะ" สายตาแม่หมอเปอร์เซียจ้องคนงามอย่างถังเฟยเฟย ทำให้เธอถึงกับขนลุก
แม่นมากแม้ไม่ได้ถาม
"ค่ะท่านยาย"
"ข้าจะมองไปในลูกแก้วแห่งจิตวิณญาณ" ดวงตาอันกลมโตเท่าไข่ห่านพลันจ้องเข้าไปในลูกแก้วอันมืดมิด
ถังเฟยเฟยมองตามแม่หมอเช่นกันมันไม่มีอันใดเลย
"ไอ้หยา เนื้อคู่เจ้ามันช่างอยู่ไกลนักจนข้ามองไม่เห็น" แม่หมอมองหน้าคนงาม
ถังเฟยเฟยถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายเกิดมาก็แย่อยู่แล้วยังไร้เนื้อคู่อีก เพื่อนหมอมีลูกมีสามีกันหมดแล้ว
แม่หมอเห็นน่าเศร้าของถังเฟยเฟยก็สลดใจขึ้นมา
"เอานี่ไปใส่" แม่หมอสวมด้ายแดงให้เธอ
"ไม่คิดเงินนะ รับรองเจ้าได้เจอเนื้อคู่ของเจ้าแน่นอน" แม่หมอไม่คิดเงินด้ายแดงแต่แม่หมอคิดเงินค่าดูดวง สรุปถังเฟยเฟยต้องจ่ายอยู่ดี หญิงสาวออกจากกระโจมฝนก็ยังตกอยู่ดี โชคที่พกร่มมาด้วย จังหวะนั้นพายุห่าใหญ่ได้พัดเข้ามาร่างบางหายไปกับพายุท่ามกลางความมืดมิด...
คำขอของถังลีเฟยนั้นเป็นความจริงเมื่อมีสตรีชุดขาวโผล่มาจากท้องฟ้าราตรีที่มืดมิด
"ที่ไหนเนี่ย" ถังเฟยเฟยมองผืนป่าที่เต็มไปด้วยเม็ดฝน
ดวงตาของถังลีเฟยเฟยมองแม่นางชุดขาวอย่างมีความหวัง
"แม่นางเจ้าช่างเหมือนข้ายิ่งนัก แม่นาง" ถังลีเฟยมองสตรีที่เหมือนนางราวกับแกะ
ถังเฟยเฟยอึ้งงันเช่นกัน เหตุใดเป็นเช่นนี้แม้แต่ชุดที่สวมใส่ยังเหมือนกัน นางอยู่เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยผู้คนบ้านเรือนบัดนี้มายืนอยู่กลางป่า
"ข้าไม่ไหวแล้ว" ถังลีเฟยยื่นบุตรฝาแฝดให้ถังเฟยเฟย นี่นางต้องเลี้ยงดูเจ้าทารกน้อยพวกนี้รึ
"เจ้าจะไปไหน" ถังเฟยเฟยถามถังลีเฟย
"ข้าร่างกายข้ามีพิษ ข้าคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ข้าคือถังลีเฟยบุตรสาวท่านแม่ทัพแห่งต้าโจว เราสองคนหน้าเหมือนกันนัก ข้าฝากท่านดูแลพวกเขาแทนข้าด้วย นี่คือป้ายหยกของบิดาสองแฝด อย่ากลับไปกับคนพวกนั้นเพราะจะสังหารเราแม่ลูก" ถังลีเฟยเฟยกล่าวกับสตรีชุดขาว
ถังเฟยเฟยยังไม่ได้ถามอะไรเลย
ตุบ !!!
จู่ๆ มีลูกธนูปักที่กลางอกของถังลีเฟย ทำให้นางเซไปทางหน้าผาแล้วล้มลงไป
"เจ้า" ถังเฟยเฟยได้แต่มองร่างถังลีเฟยตกลงไปด้านล่างหน้าผามิรู้ว่าเป็นแม่น้ำหรือป่าไม้
สมองของถังเฟยเฟยขบคิดเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ยอีกทั้งนางยังมองสองแฝดชายหญิงเพิ่งจะเสียมารดาแท้ๆ ไปช่างน่าอนาถใจนัก
"ถังลีเฟย เหตุใดเจ้าต้องหนีข้าด้วยเล่า" คนนับสิบวิ่งมาที่หน้าผา ถังเฟยเฟยคิดว่าแย่แล้ว หากคนพวกนั้นจับได้นางมิอาจรับคำหญิงผู้นั้นได้เป็นแน่แท้
นางมองบุรุษสวมหน้ากากผีเสื้อในอาภรณ์สีน้ำเงิน พร้อมกับลูกน้องของเขาในยามนี้สมองของถังเฟยเฟยคิดได้ก็คือนางต้องดูแลสองแฝดอย่าให้มีอันตราย
"ถังลีเฟยกลับไปกับข้า" ชายผู้นั้นสาวเท้าเข้ามาใกล้ถังเฟยเฟย
ก่อนจะตกลงหน้าผาถังลีเฟยได้บอกกับนางว่าอย่ากลับไปกับคนพวกนั้น
"ไม่!!!"ถังเฟยเฟยค่อยๆ ถอยหลังไปทีละ นางอุ้มลูกแฝดในเมื่อถังลีเฟยมอบสองแฝดให้นางแล้ว สองแฝดถือเป็นลูกของนาง
"เจ้าไม่กลัวตายรึ"
"เหตุใดต้องกลัว"
หากสวรรค์ให้ข้ามาเพื่อเลี้ยงสองแฝดข้าเชื่อว่าข้าจะไม่ตายง่ายๆ
ถังเฟยเฟยคิดว่าถึงอย่างไรหนีไม่พ้น สู้ตายเอาดาบหน้าเสียกว่า
ตุบ !!!
"อย่า!!!" ชายผู้นั้นคว้าได้เพียงอากาศ เหตุใดนางต้องทิ้งเขาไว้ด้วยเล่า...
หลีซินแพทย์ศัลยกรรมในยุคปัจจุบันได้ทะลุมิติเข้าร่างสตรีลูกขุนนาง ที่มีความเอาแต่ใจ อารมณ์ร้ายเป็นใหญ่ แต่ทว่าสตรีนางนี้ ต้องแต่งงานกับหยางอ๋องผู้มีลูกติดฝาแฝดชายหญิง
นางหนีความยากลำบากเข้ามาในเมืองหลวงฉางอัน เพื่อขายตัวเองเป็นสาวใช้ในจวนท่านแม่ทัพ แต่ทว่า ท่านแม่ทัพผู้นี้เมตตาสาวใช้อย่างนางยิ่งนัก จนกระทั่งทำให้ฮูหยินใหญ่ในจวนมิพอใจสาวใช้อย่างนาง จูจูจะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่ปลอดภัยในจวนท่านแม่ทัพนี้ ร่วมเป็นกำลังใจให้จูจูนะเจ้าคะ
เซียวหรูอวี้กับโอวหยางหลิงหลง เรื่องข้ามภพข้ามชาติมาเป็นชายาอ๋อง เรื่องข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า เป็นเรื่องบุตรสาวของเซียวหรูอวี้ คือท่านหญิงเปยเปยกับอวครักษ์จาง เรื่องราวระหว่างท่านหญิงกับองครักษ์ที่มีความรักให้กัน คนทั้งคู่จะได้มีวาสนาได้ครองรักกันหรือไม่? ................................................................................................................................................................ ใต้น้ำ ชายหนุ่มกอดหญิงสาวไว้ ริมฝีปากรีบประกบปากนาง ทั้งคู่มองหน้ากันแม้จะอยู่ใต้น้ำ เขาต้องต่อลมหายใจให้นาง ถ้าขืนโผล่หน้าขึ้นไปพวกมันอาจซุ่มอยู่ก็เป็นได้ การประกบริมฝีปากอยู่ใต้น้ำช่างเนิ่นนานเหลือเกิน พรึ่บ! ในที่สุดทั้งคู่ก็โผล่หัวออกมาจากใต้น้ำ หญิงสาวหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าหนาว พาข้าขึ้นฝั่งที” ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาพานางขึ้นฝั่ง เขาพานางขึ้นฝั่งแล้วเข้าไปในถ้ำ โชคดีในถ้ำเหมือนจะมีคนเคยมาพักที่นี่ ทิ้งฟืนไว้จำนวนมาก หญิงสาวนั่งตัวสั่น นางหนาวเหลือเกิน “เจ้าถอดเสื้อผ้าออกเถอะ” ชายหนุ่มหันไปบอกหญิงสาว แต่ในมือยังคงก่อไฟ เป่ยเป่ยได้ยินดังนั้นก็ปลดอาภรณ์สีแดงเพลิงออกเหลือเพียงแค่เอี๊ยมสีชมพู หญิงสาวนั่งผิงไฟอย่างเขินอาย จีนโบราณ
อวี้เหมยหรู แพทย์สาวยุคปัจจุบัน ได้ทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่เธออ่าน เธอนั้นดันชอบพระรองอย่างท่านแม่ทัพซือเหยียน มากกว่าพระเอกอย่างองค์ชายสามจีเสวียน
"ท่านเป็นอย่างไรบ้าง" เซียวหยามองหน้าชายคนรักที่โดนพิษยาปลุกกำหนัดในใจก็นึกโกรธเซียวเหยียนขึ้นมาทันที "ข้าร้อนยิ่งนักอยากจะปลดปล่อย" น้ำเสียงกระเซ้าบอกชายคนรัก ในใต้หล้านี้ เสิ่นจ้านไม่ต้องการสตรีแม้แต่คนเดียว เขาต้องการบุรุษอย่างเซียวหยาเท่านั้น
เกาเหมียวหรงบุตรสาวนายอำเภอโจว ไม่เป็นที่รักของขอบิดา เกาเซิง นางเป็นบุตรภรรยาเอกที่ตายไปแล้ว กระนั้นบิดาจึงให้นางออกเรือนกับพ่อค้าคารวานแห่งทุ่งหญ้า มีอายุคราวบิดา นางจึงตัดสินใจเป็นอนุของแม่ทัพหนานอ๋อง
นายหัวอารัณย์พยายามบอกับตัวเองว่า เพลงขวัญ ยังเด็ก และไม่ใช่สเปค แต่แล้วก็ต้องกลืนน้ำลายตัวเองเมื่อได้ลิ้มรสชาติหญ้าอ่อน เขาติดใจจนอยากจะกินซ้ำ ๆ แล้วเธอจะทนเขาได้นานแค่ไหน...... ******************************************************* "ขออีกครั้งเดียวนะ ....ครั้งเดียวนะเพลง" นายหัวหนุ่มทำเสียงอ้อนกลับ เพราะร่างกายของเขาต้องการปลดปล่อยออกมาให้ได้มากที่สุด "จะไม่ปรานีเพลงหน่อยเหรอคะ เพลงไม่ไหวแล้ว" "ปากเธอบอกให้ปรานี แต่ตอดถีึแบบนี้ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่า เธอต้องการแบบไหนกันแน่!"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ" เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"
เธอแค่อยากลองใจโดยการให้ของขวัญสุดพิเศษกับคนรัก แต่...เขาดันไม่ดีใจ แล้วมาบอกให้เราอยู่ห่างกันสักพัก ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอท้องลูกของเขา ผัวเฮงซวยเอ๊ย!!! อยากไปก็ไป ฉันจะหาพ่อใหม่ให้ลูก ไปแล้วอย่ามาหอนทีหลังนะ ชิ! "นี่พี่จะโทษว่ามี่ตั้งใจปล่อยท้องงั้นเหรอ" "เปล่า พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ว่า...พี่ยังไม่พร้อมจะแต่งงานหรือมีลูกตอนนี้ มี่เข้าใจพี่หน่อยได้ไหม" มิรันดาสะอึกเมื่อได้ฟังเหตุผลห่วยแตกของเขา คำว่าไม่พร้อมนั่นคืออะไร "พี่ไม่พร้อมแต่งงาน ไม่พร้อมมีลูก แต่พร้อมจะไปจากมี่ นี่หรือเปล่าที่พี่อยากให้มี่เข้าใจ" หญิงสาวเอ่ยทั้งน้ำตาที่ไหลรินกลบภาพคนรักตรงหน้าจนมองไม่เห็นความรักในดวงตาคู่นั้นอีกแล้ว คนหนึ่งหมดรัก หมดใจ แต่อีกคนกลับยังรักหมดใจ ใครควรเจ็บกว่าถ้าไม่ใช่เธอ "พูดกันให้รู้เรื่องตอนนี้เลยดีกว่า ในเมื่อพี่รู้ว่ามี่กำลังจะมีลูก พี่ก็ยังอยากไปอยู่ใช่ไหม" คำถามนั้นแทงใจดำของเขาอย่างจัง จนปฏิเสธไม่ได้ มิรันดาเหยียดยิ้มทั้งน้ำตา เพียงแค่มองตาเธอก็ได้คำตอบจากเขา อยู่กันมาสี่ปีไม่นับที่คบกันมาตอนสมัยเรียนอีก เธอรู้ใจเขาทุกอย่าง แค่มองตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร รู้สึกยังไง ไม่ต้องพูดออกมาด้วยซ้ำ "งั้นพี่ก็ไปเถอะ อยากจะอยู่ห่างแค่ไหน เอาที่พี่สบายใจเลย ไม่ต้องห่วงมี่ ของขวัญชิ้นนี้ในเมื่อพี่ไม่ต้องการงั้นก็ทิ้งไปเถอะ"
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด