นางหนีความยากลำบากเข้ามาในเมืองหลวงฉางอัน เพื่อขายตัวเองเป็นสาวใช้ในจวนท่านแม่ทัพ แต่ทว่า ท่านแม่ทัพผู้นี้เมตตาสาวใช้อย่างนางยิ่งนัก จนกระทั่งทำให้ฮูหยินใหญ่ในจวนมิพอใจสาวใช้อย่างนาง จูจูจะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่ปลอดภัยในจวนท่านแม่ทัพนี้ ร่วมเป็นกำลังใจให้จูจูนะเจ้าคะ
เรือนร่างอรชนนอนที่เตียงไม้เก่า ใบหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ หนึ่งบุรุษ หนึ่งสตรีเฝ้ามองอย่างใจจดใจจ่อเหตุใดบุตรสาวของพวกเขายังไม่ฟื้น จมน้ำจนศีรษะกระแทกกับโขดหินได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
“ท่านพี่เหตุใดจูจูยังมิฟื้นเจ้าคะ” มารดาของจูจู หรือนางสวี เอ่ยถามสามีอย่างหลงซาน เขาทอดสายตามองดูจูจู แล้วถอนหายใจ หลงซานไม่ตอบเพียงแต่กอดภรรยาไว้
เสียงผู้ใดมาร่ำไห้แถวนี้ แพรขนตาผีเสื้อกระพือขึ้นมา ภาพนั้นช่างเลือนรางยิ่งนัก จากเลือนรางค่อยแปรผันเป็นภาพชัดเจน หนึ่งสตรี หนึ่งบุรุษ วัยกลางคนยิ้มให้นาง
“จูจูฟื้นแล้ว” สตรีนางนั้นเรียก นางว่าจูจู
หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าจูจู พลันตกใจ ที่แห่งนี้ที่ไหนกัน นางกวาดสายตามองดูรอบๆเรือนเก่าโทรมแห่งนี้ ทำไมนางถึงได้ปวดศีรษะยิ่งนัก มือสองข้างกุมศีรษะอย่างเจ็บปวด
“ลูกแม่ ไม่เป็นไรแม่อยู่นี่” นางสวีพลันกอดบุตรสาว
“ทำไมข้าจำอะไรไม่ได้เลย” จูจูบอกกับมารดา
“โธ่ เจ้าพลัดตกน้ำ จากนั้นศีรษะกระแทกอย่างแรง ไม่แปลกที่จะจำอะไรไม่ได้” นางสวีหันไปสบตากับหลงซาน
จูจูพลันมองใบหน้าของนางสวี ในเมื่อเขาบอกว่าเป็นมารดาของนาง ทำไมนางถึงไม่ได้รู้สึกผูกพันธ์แม้แต่น้อย
ที่แท้นางชื่อจูจูหรอกหรือ แต่ทำไมนางไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้จริงๆ “ลูกพ่อในที่สุดเจ้าก็ฟื้นเสียที ทำให้ข้ากับแม่เจ้าตกใจ นึกว่าจะสูญเสียเจ้าไปแล้ว” กล่าวจบ หลงซานกับนางสวีพลันร่ำไห้ราวกับพายุสายฝนหลั่งรินลงมา
หลายวันมานี้จูจูใช้ชีวิตอยู่ในเรือนเก่าโทรมแห่งนี้ นางรู้แต่ว่าบิดามารดาของนางมีอาชีพตัดฟืนขาย เรือนที่พวกนางอาศัยอยู่ตั้งอยู่บนภูเขาที่มาหนาหมอกทึบ มารดาบอกว่านางอายุสิบหกปีแล้วแต่ทว่าดื้อซุกซนราวกับเด็กน้อย ชอบไปเล่นน้ำตามลำธารแล้วพลัดตกลงไปในน้ำลึก จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ตอนนี้นางสวีห้ามนางไปที่ลำธาร กระนั้นจูจูจำต้องอยู่ในแห่งนี้ นางสวียังสอนจูจูให้ถักทอถุงหอมหลากสีเพื่อนำไปจำหน่ายในเมืองหลวงฉางอัน กระนั้นชีวิตจูจูจึงไม่ค่อยเบื่อหน่ายเพราะนางถักทอถุงหอมทั้งวัน
พริบตาเดียวก็สองปีผ่านไป หลังผ่านพ้นปีใหม่ จูจูก็อายุสิบแปดปีแล้ว นางสวีกับหลงซานรักบุตรสาวคนนี้มาก สองสามีภรรยาลงทุนซื้ออาภรณ์สีชมพูลายดอกเหมยให้บุตรสาวอย่างจูจู
ภายในค่ำคืนนี้ นางสวีลงแรงทำกับข้าวให้บุตรสาวกับสามีกินอย่างสุดฝีมือ น้ำแกงแดงหมูตุ๋นนั่นเอง วางบนโต๊ะกลมเก่าๆ กับข้าวตั้งสามอย่าง สามคนพ่อแม่ลูกกินข้าวกันอย่างมีความสุข
หลังกินข้าวอิ่มจูจูเก็บสำรับไปล้างแล้วกลับมานั่งที่เก้าอี้ไม้เหมือนเดิม
สองสามีภรรยามองหน้ากัน “คืนนี้แม่มีสิ่งของมอบให้เจ้า” จูจูได้ยินกระนั้นก็ตาโตราวกับไข่ห่าน ท่านแม่มีอะไรมอบให้นางกันนะ
“ท่านพี่ ไปหยิบมาให้ลูกเลยนะ” นางสวีไม่อยากลุกจากเก้าอี้ จึงสั่งสามี หลงซานผู้รักภรรยามากจึงเดินตรงไปที่ตู้ จูจูพลันมองบิดาเดินถือผ้าสีแดงออกมา
อาภรณ์หรูหราเชียวนะ หรือว่าท่านแม่จะให้นาง
“ท่านแม่”
หลงซานนั่งลงแล้งวางอาภรณ์สีแดงไว้บนโต๊ะ
“ชอบหรือไม่ ผ้าต่วนผืนนี้ แพงยิ่งนัก แม่เก็บเงินตั้งหลายเดือนกับพ่อเจ้า ซื้อของขวัญให้เจ้า” จูจูมองอย่างซึ้งใจ
“ขอบคุณท่านพ่อท่านแม่ มากเจ้าค่ะ”
นางรู้สึกชอบอาภรณ์ผืนนี้ยิ่งนัก
“เจ้าชอบก็ดีแล้ว ปีนี้เจ้าอายุสิบแปดปี แม่ขอให้ลูกแม่มีความสุข” นางสวีอวยพรบุตรสาว จูจูยิ้มให้มารดาอย่างอ่อนโยน
“พ่อก็เช่นกันนะลูก”
นางมีความสุขจริงๆ ที่บิดามารดาใส่ใจ ถึงเพียงนี้ ในคืนนั้นหิมะตกลงมาอย่างหนัก ทั้งสามคนรีบปิดประตูเรือนทันที จากนั้นก็นอนเตียงใครเตียงมัน จูจูนอนห่มผ้าห่มฟังเสียงหิมะตกด้านนอก คืนวันคล้ายวันเกิดนางหิมะตกอีก กะว่าจะคุยกับท่านพ่อท่านแม่จนถึงรุ่งสางเสียหน่อย…
เช้าวันต่อมาแสงอาทิตย์ส่องลงมาอย่างเจิดจ้า จูจูรีบตื่นขึ้นมาหุงหาอาหารไว้บิดามารดาทันที ดูเหมือนว่าวันนี้บิดาคงต้องออกไปตัดฟืนคนเดียวกระมัง
เปาเปา เปยเปยมีรึจะยอมให้อ๋องปากสุนัขมายุ่งกับมารดาของพวกเขามิสู้ หาบิดาหล่อๆ ให้มารดาสักคนเสียดีกว่า 55555 สมหน้าบิดาสมองสุนัข
หลีซินแพทย์ศัลยกรรมในยุคปัจจุบันได้ทะลุมิติเข้าร่างสตรีลูกขุนนาง ที่มีความเอาแต่ใจ อารมณ์ร้ายเป็นใหญ่ แต่ทว่าสตรีนางนี้ ต้องแต่งงานกับหยางอ๋องผู้มีลูกติดฝาแฝดชายหญิง
เซียวหรูอวี้กับโอวหยางหลิงหลง เรื่องข้ามภพข้ามชาติมาเป็นชายาอ๋อง เรื่องข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า เป็นเรื่องบุตรสาวของเซียวหรูอวี้ คือท่านหญิงเปยเปยกับอวครักษ์จาง เรื่องราวระหว่างท่านหญิงกับองครักษ์ที่มีความรักให้กัน คนทั้งคู่จะได้มีวาสนาได้ครองรักกันหรือไม่? ................................................................................................................................................................ ใต้น้ำ ชายหนุ่มกอดหญิงสาวไว้ ริมฝีปากรีบประกบปากนาง ทั้งคู่มองหน้ากันแม้จะอยู่ใต้น้ำ เขาต้องต่อลมหายใจให้นาง ถ้าขืนโผล่หน้าขึ้นไปพวกมันอาจซุ่มอยู่ก็เป็นได้ การประกบริมฝีปากอยู่ใต้น้ำช่างเนิ่นนานเหลือเกิน พรึ่บ! ในที่สุดทั้งคู่ก็โผล่หัวออกมาจากใต้น้ำ หญิงสาวหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าหนาว พาข้าขึ้นฝั่งที” ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาพานางขึ้นฝั่ง เขาพานางขึ้นฝั่งแล้วเข้าไปในถ้ำ โชคดีในถ้ำเหมือนจะมีคนเคยมาพักที่นี่ ทิ้งฟืนไว้จำนวนมาก หญิงสาวนั่งตัวสั่น นางหนาวเหลือเกิน “เจ้าถอดเสื้อผ้าออกเถอะ” ชายหนุ่มหันไปบอกหญิงสาว แต่ในมือยังคงก่อไฟ เป่ยเป่ยได้ยินดังนั้นก็ปลดอาภรณ์สีแดงเพลิงออกเหลือเพียงแค่เอี๊ยมสีชมพู หญิงสาวนั่งผิงไฟอย่างเขินอาย จีนโบราณ
อวี้เหมยหรู แพทย์สาวยุคปัจจุบัน ได้ทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่เธออ่าน เธอนั้นดันชอบพระรองอย่างท่านแม่ทัพซือเหยียน มากกว่าพระเอกอย่างองค์ชายสามจีเสวียน
"ท่านเป็นอย่างไรบ้าง" เซียวหยามองหน้าชายคนรักที่โดนพิษยาปลุกกำหนัดในใจก็นึกโกรธเซียวเหยียนขึ้นมาทันที "ข้าร้อนยิ่งนักอยากจะปลดปล่อย" น้ำเสียงกระเซ้าบอกชายคนรัก ในใต้หล้านี้ เสิ่นจ้านไม่ต้องการสตรีแม้แต่คนเดียว เขาต้องการบุรุษอย่างเซียวหยาเท่านั้น
เกาเหมียวหรงบุตรสาวนายอำเภอโจว ไม่เป็นที่รักของขอบิดา เกาเซิง นางเป็นบุตรภรรยาเอกที่ตายไปแล้ว กระนั้นบิดาจึงให้นางออกเรือนกับพ่อค้าคารวานแห่งทุ่งหญ้า มีอายุคราวบิดา นางจึงตัดสินใจเป็นอนุของแม่ทัพหนานอ๋อง
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน