อวี้เหมยหรู แพทย์สาวยุคปัจจุบัน ได้ทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่เธออ่าน เธอนั้นดันชอบพระรองอย่างท่านแม่ทัพซือเหยียน มากกว่าพระเอกอย่างองค์ชายสามจีเสวียน
อวี้เหมยหรู แพทย์สาวยุคปัจจุบัน ได้ทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่เธออ่าน เธอนั้นดันชอบพระรองอย่างท่านแม่ทัพซือเหยียน มากกว่าพระเอกอย่างองค์ชายสามจีเสวียน
"นิยายเรื่องนี้สนุกดีนี่" อวี้เหมยหรูแพทย์สาวในยุคปัจจุบัน ตอนนี้เธอเพิ่งจะออกเวร มาเหนื่อย ๆ กำลังอ่านนิยาย เรื่อง เมียพระรอง เดิมทีหญิงสาวทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในปักกิ่ง ทำงานก็หนัก จึงต้องหาอะไรมาผ่อนคลาย คือการอ่านนิยาย นิยายเรื่องนี้ มีเนื้อหาทำนองว่า พระรองน่าสงสารมากกว่าพระเอก พระรองคือท่านแม่ทัพสุดหล่อเเห่งเเว่นแคว้นมู่อัน
เขาโดนนางเอกอย่างม่อหลันทิ้งอย่างไม่ไยดี เพราะม่อหลันต้องการแต่งงานกันกับองค์ชายสามจีเสวียนเพื่อนำอำนาจความมั่งมีมาให้สกุลม่อ ซือเหยียนคือคนที่รักม่อหลันเเละเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก แต่ม่อหลันเลือกสลัดความรักทิ้งอย่างไม่ไยดี
"งื้อ พระรองของฉัน ท่านช่างน่าสงสารนัก" อวี้เหมยหรูปิดหนังสือนิยาย
แหงนมองนาฬิกาบนผนังนี่เที่ยงคืนเเล้ว วันพรุ่งเข้าเวรแต่เช้าด้วย ตายล่ะ จะอ่านต่อก็มิได้ดึกมาเเล้ว หญิงสาวพลันเช็ดน้ำตาบนใบหน้า ในระหว่างที่เธอกำลังจะนำหนังสือนิยายไปเก็บที่ชั้นหนังสือ
จังหวะนั้นเท้าขอเธอดันลื่นทำให้ร่างบางหงายขาชี้ฟ้า สมองกระทบกระเทือนอย่างเเรง
แย่เเล้วเธอต้องตายเเล้วเเน่ ๆ ไม่ได้นะ จะตายไม่ได้ ยังอ่านนิยายยังไม่จบเลย...
"คุณหนูอวี้เหมยหรู ท่านตื่นได้เเล้ว ท่านจะนอนขี้เกียจได้อย่างไร มาอาศัยบ้านคนอื่นเขาอยู่" เสียงนี้ตะโกนขึ้นอย่างดัง ทำให้คนร่างบางพลันขยับเรือนกายทั้งกะพริบตาถี่ ๆ มองไปโดยรอบ
"นี่หวังมามา คุณหนูของข้าป่วยไข้ ท่านจะใช้อะไรนักหนา" เสี่ยวหลีมองหวังมามาคนของฮูหยินใหญ่สกุลซือ
หลายวันก่อนคุณหนูของนางโดนไอเย็นจนไม่สบายนอนป่วยในเรือนมาหลายวันเเล้ว คนจวนซือนี่ก็กระไรโหดร้ายกับคุณหนูโดยเเท้ ทั้งที่เป็นญาติกัน ท่านยายของอวี้เหมยหรูเป็นน้องสาวของฮูหยินผู้เฒ่าซือ กระนั้นในตอนนี้สกุลอวี้ประสบภัยพิบัติในสงคราม คนสกุลอวี้ตายหมด เหลือเพียงอวี้เหมยหรูกับสาวใช้มาพึ่งพิงสกุลซือในแคว้นมู่อัน ตามคำสั่งของมารดาก่อนตายในสงครามเมื่อปีก่อน
อวี้เหมยหรูอึ้งงันไปมากกว่าเดิม อย่าบอกนะว่า นางทะลุมิติเข้ามาในนิยายเรื่องเมียพระรอง บ้าไปแล้วเเน่ ๆ
"นั่นตื่นเเล้ว" หวังมามามองสตรีหน้าขาวซีดถึงแม้ว่าจะป่วยแต่ใบหน้าก็แฝงไปด้วยความงามอย่างมากล้น
"ท่านต้องไปทำงานที่โรงครัว เป็นคำสั่งของซือฮูหยิน ท่านเข้าใจหรือไม่" น้ำเสียงของหวังมามาเสียงดังฟังชัด
อวี้เหมยหรูพลันพยักหน้า นางเข้าใจเเล้วเหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นิยายที่อ่านไปได้ไม่กี่หน้า ดันทะลุมิติเข้ามาในเรื่องนี้ เเล้วนางจะกลับไปโลกปัจจุบันยังไงดีเล่า
"คุณหนู ในที่สุดท่านก็ฟื้นเสียที" เสี่ยวหลีดีใจไม่น้อยที่เจ้านายหายจากพิษไข้เสียที
อี้เหมยหรูจำตัวละครตัวที่มีชื่อคล้ายกันกับนางได้ ว่าเป็นญาติผู้น้องของพระรอง ที่มาอาศัยพึ่งใบบุญสกุลซือ เพราะสกุลอวี้ได้ตายในสงครามเมื่อปีก่อน อวี้เหมยหรูผู้นี้ น่าสงสารนัก มีอายุเพียงสิบห้าปีก็ไร้ที่พึ่งพิง เข้ามาเมืองหลวงอาศัยใบบุญสกุลซือ
แต่ซือฮูหยินรังเกียจนางมาก ถ้ามิใช่เพราะความเมตตาที่ฮูหยินผู้เฒ่าซือมีให้ต่ออวี้เหมยหรู ป่านนี้นางคงได้เป็นขอทานเป็นแน่แท้
มิได้ นางคือแพทย์หญิงแห่งยุคปัจจุบัน นางจะให้ท่านป้าของนางโขกสับมิได้เป็นอันขาด ถ้าหาทางกลับโลกปัจจุบันมิได้ นางก็ต้องอยู่ในโลกนิยายแห่งนี้ต่อไป
ทั้งสองคนทำงานที่โรงครัวอย่างเเข็งขันอวี้เหมยหรูฝ่าฟืนไม้จนมือแดงเถือกแล้ว ส่วนเสี่ยวหลีต้องขนฟืนไปไว้ห้องเก็บฟืน บัดนี้ฝนห่าใหญ่ตกลงมาฟืนที่สองนายบ่าวฝ่านั้นเก็บมิทันโดนฝนเปียกหมด
ความนี้ไปถึงหูซือฮูหยิน แน่นอนคนที่คาบข่าวไปบอก คือหวังมามานั่นเอง ทำให้พวกนางสองนายบ่าวกำลังจะโดนทำโทษ
ไม่ได้อวี้เหมยหรูไม่ยอม
"ข้าทำตามคำสั่งท่านแล้ว แต่ฝนมันตกลงมาพวกเราสองนายบ่าวเก็บไม่ทัน เหตุใดท่านป้าจึงใจร้ายกับข้านัก ข้าเป็นหลานท่านป้านะเจ้าคะ" อวี้เหมยหรูเถียงซือฮูหยินในห้องโถงรับรอง
"เจ้ากล้าเถียงข้าอย่างนั้นรึ" ซือฮูหยินอายุจะสี่สิบปีเเล้ว ไม่เคยมีผู้ใดกล้าเถียงความกับนางมาก่อน อวี้เหมยหรูเป็นคนแรกที่เถียงความกับซือฮูหยิน
"ใช่ !!! อย่างน้อยข้าก็เป็นหลานของฮูหยินผู้เฒ่าซือ ท่านยายข้าเป็นน้องสาวของนาง แล้วท่านเล่าเป็นแค่สะใภ้ มีสิทธิ์อะไรมาด่าข้า"
การทะลุมิติมาวันแรกก็มาเถียงกับเเม่พระรองเสียเเล้ว
"ไปตามท่านยายมา วันนี้ข้าจะให้ท่านยายดู ว่าซือฮูหยินดูเเลข้าอย่างไร"
ในเมื่อมาอยู่ในร่างของอวี้เหมยหรูเเล้ว กระนั้นเเพทย์สาวเยี่ยงนางจำต้องหาที่พึ่ง เสี่ยวหลีที่ไวกว่ารีบวิ่งไปที่เรือนใหญ่ของฮูหยินผู้เฒ่าซือทันที
"เจ้ากล้ามากที่เป็นปรปักษ์กับข้า" ซือฮูหยินไม่คิดว่านังเด็กสมควรตายจะกล้านำเรื่องนี้ไปบอกฮูหยินผู้เฒ่าซือ
ไม่นานนักฮูหยินผู้เฒ่าซือก็เดินเข้ามาในห้องโถงหลักเรือนรอง โดยมีสาวใช้คนสนิทอย่างไฉ่หนีประคองเจ้านาย
"เหตุใดจึงเป็นเยี่ยงนี้ ซือฮูหยินข้าสั่งให้เจ้าดูแลหรูหรูอย่างดีมิใช่รึ ทำไมเจ้าถึงกล้าทำกับหลานสาวข้าเยี่ยงนี้" ทันทีที่ฮูหยินผู้เฒ่าซือรู้ความจริงว่าหลานสาวของน้องสาว โดนสะใภ้กลั่นแกล้งมาตลอดหนึ่งปีเต็ม ก็อดต่อว่าสะใภ้อย่างซือฮูหยินมิได้
เรื่องนี้จบลงที่ให้อวี้เหมยหรูย้ายไปอยู่เรือนนกยูงไม่ห่างจากเรือนใหญ่ของฮูหยินผู้เฒ่าซือนัก อีกอย่างนับจากนี้ไป อวี้เหมยหรูได้รับเบี้ยเพิ่มเป็นห้าตำลึงต่อเดือน และยังได้รับผ้าต่วนในการตัดชุดในแต่ละฤดูอีกด้วย เรื่องนี้นับว่าเหนือความคาดหมายของอวี้เหมยหรูนัก
"คุณหนูในที่สุดพวกเราก็มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น" เสี่ยวหลีเอ่ยทั้งน้ำตาด้วยความดีใจ
เปาเปา เปยเปยมีรึจะยอมให้อ๋องปากสุนัขมายุ่งกับมารดาของพวกเขามิสู้ หาบิดาหล่อๆ ให้มารดาสักคนเสียดีกว่า 55555 สมหน้าบิดาสมองสุนัข
หลีซินแพทย์ศัลยกรรมในยุคปัจจุบันได้ทะลุมิติเข้าร่างสตรีลูกขุนนาง ที่มีความเอาแต่ใจ อารมณ์ร้ายเป็นใหญ่ แต่ทว่าสตรีนางนี้ ต้องแต่งงานกับหยางอ๋องผู้มีลูกติดฝาแฝดชายหญิง
นางหนีความยากลำบากเข้ามาในเมืองหลวงฉางอัน เพื่อขายตัวเองเป็นสาวใช้ในจวนท่านแม่ทัพ แต่ทว่า ท่านแม่ทัพผู้นี้เมตตาสาวใช้อย่างนางยิ่งนัก จนกระทั่งทำให้ฮูหยินใหญ่ในจวนมิพอใจสาวใช้อย่างนาง จูจูจะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่ปลอดภัยในจวนท่านแม่ทัพนี้ ร่วมเป็นกำลังใจให้จูจูนะเจ้าคะ
เซียวหรูอวี้กับโอวหยางหลิงหลง เรื่องข้ามภพข้ามชาติมาเป็นชายาอ๋อง เรื่องข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า เป็นเรื่องบุตรสาวของเซียวหรูอวี้ คือท่านหญิงเปยเปยกับอวครักษ์จาง เรื่องราวระหว่างท่านหญิงกับองครักษ์ที่มีความรักให้กัน คนทั้งคู่จะได้มีวาสนาได้ครองรักกันหรือไม่? ................................................................................................................................................................ ใต้น้ำ ชายหนุ่มกอดหญิงสาวไว้ ริมฝีปากรีบประกบปากนาง ทั้งคู่มองหน้ากันแม้จะอยู่ใต้น้ำ เขาต้องต่อลมหายใจให้นาง ถ้าขืนโผล่หน้าขึ้นไปพวกมันอาจซุ่มอยู่ก็เป็นได้ การประกบริมฝีปากอยู่ใต้น้ำช่างเนิ่นนานเหลือเกิน พรึ่บ! ในที่สุดทั้งคู่ก็โผล่หัวออกมาจากใต้น้ำ หญิงสาวหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าหนาว พาข้าขึ้นฝั่งที” ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาพานางขึ้นฝั่ง เขาพานางขึ้นฝั่งแล้วเข้าไปในถ้ำ โชคดีในถ้ำเหมือนจะมีคนเคยมาพักที่นี่ ทิ้งฟืนไว้จำนวนมาก หญิงสาวนั่งตัวสั่น นางหนาวเหลือเกิน “เจ้าถอดเสื้อผ้าออกเถอะ” ชายหนุ่มหันไปบอกหญิงสาว แต่ในมือยังคงก่อไฟ เป่ยเป่ยได้ยินดังนั้นก็ปลดอาภรณ์สีแดงเพลิงออกเหลือเพียงแค่เอี๊ยมสีชมพู หญิงสาวนั่งผิงไฟอย่างเขินอาย จีนโบราณ
"ท่านเป็นอย่างไรบ้าง" เซียวหยามองหน้าชายคนรักที่โดนพิษยาปลุกกำหนัดในใจก็นึกโกรธเซียวเหยียนขึ้นมาทันที "ข้าร้อนยิ่งนักอยากจะปลดปล่อย" น้ำเสียงกระเซ้าบอกชายคนรัก ในใต้หล้านี้ เสิ่นจ้านไม่ต้องการสตรีแม้แต่คนเดียว เขาต้องการบุรุษอย่างเซียวหยาเท่านั้น
เกาเหมียวหรงบุตรสาวนายอำเภอโจว ไม่เป็นที่รักของขอบิดา เกาเซิง นางเป็นบุตรภรรยาเอกที่ตายไปแล้ว กระนั้นบิดาจึงให้นางออกเรือนกับพ่อค้าคารวานแห่งทุ่งหญ้า มีอายุคราวบิดา นางจึงตัดสินใจเป็นอนุของแม่ทัพหนานอ๋อง
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
อริสา คุณแม่คนสวยเธอพลาดท่าไปมีอะไรกับชายที่ไม่ใช่สามีจนเกิดติดใจรสชาติความตื่นเต้นของการมีชู้ เธอจึงแอบสามีออกไปสนุกกับชายชู้มากหน้าหลายตาจนหยุดไม่อยู่
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ครอบครัวเสิ่นเลี้ยงดูเซี่ยซางหนิงเป็นเวลา 20 ปี และเธอเองก็ถูกเอาเปรียบมาเป็นเวลา 20 ปีเช่นกัน วันหนึ่ง พวกเขาตามหาลูกสาวตัวจริงพบ และเซี่ยซางหนิงก็ถูกไล่ออกจากตระกูลเสิ่น ได้ยินมาว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนัก แต่ความเป็นจริง พ่อแม่ทางสายเลือดของเธอเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองไห่ เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดที่ตระกูลเสิ่นไม่สามารถเอื้อมถึงได้ ตระกูลเสิ่นที่คอยดูว่าเซี่ยซางหนิงจะต้องตกอับอย่างน่าสมเพช แต่กลับต้องตกตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับตัวตนของเซี่ยซางหนิง ผู้มีอิทธิพลในการเงินระดับโลก วิศวกรระดับแนวหน้า นักแข่งรถอันดับหนึ่งของโลก... เธอยังมีความสามารถที่ซ่อนอยู่อีกกี่อย่างกันแน่ คู่หมั้นยกเลิกการหมั้นกับเซี่ยซางหนิง อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยซางหนิงไปออกเดทกับพี่ชายฝาแฝดของเขา เขากลับปรากฏตัวขึ้นและสารภาพรักกับเธอ
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
© 2018-now MeghaBook
บนสุด