เซียวหรูอวี้กับโอวหยางหลิงหลง เรื่องข้ามภพข้ามชาติมาเป็นชายาอ๋อง เรื่องข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า เป็นเรื่องบุตรสาวของเซียวหรูอวี้ คือท่านหญิงเปยเปยกับอวครักษ์จาง เรื่องราวระหว่างท่านหญิงกับองครักษ์ที่มีความรักให้กัน คนทั้งคู่จะได้มีวาสนาได้ครองรักกันหรือไม่? ................................................................................................................................................................ ใต้น้ำ ชายหนุ่มกอดหญิงสาวไว้ ริมฝีปากรีบประกบปากนาง ทั้งคู่มองหน้ากันแม้จะอยู่ใต้น้ำ เขาต้องต่อลมหายใจให้นาง ถ้าขืนโผล่หน้าขึ้นไปพวกมันอาจซุ่มอยู่ก็เป็นได้ การประกบริมฝีปากอยู่ใต้น้ำช่างเนิ่นนานเหลือเกิน พรึ่บ! ในที่สุดทั้งคู่ก็โผล่หัวออกมาจากใต้น้ำ หญิงสาวหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าหนาว พาข้าขึ้นฝั่งที” ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาพานางขึ้นฝั่ง เขาพานางขึ้นฝั่งแล้วเข้าไปในถ้ำ โชคดีในถ้ำเหมือนจะมีคนเคยมาพักที่นี่ ทิ้งฟืนไว้จำนวนมาก หญิงสาวนั่งตัวสั่น นางหนาวเหลือเกิน “เจ้าถอดเสื้อผ้าออกเถอะ” ชายหนุ่มหันไปบอกหญิงสาว แต่ในมือยังคงก่อไฟ เป่ยเป่ยได้ยินดังนั้นก็ปลดอาภรณ์สีแดงเพลิงออกเหลือเพียงแค่เอี๊ยมสีชมพู หญิงสาวนั่งผิงไฟอย่างเขินอาย จีนโบราณ
สตรีร่างบางมองใบหน้าเล็กเรียวของนางที่หน้าคันฉ่องสีเหลืองทอง ดวงตานางกลมโตดุจกวางน้อย คิ้วโค้งราวพระจันทร์เสี้ยว ริมฝีปากบางอวบอิ่มด้วยสีชาด จมูกนิดรับกับใบหน้าเรียวชวนมองให้หลงใหล หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ ขนตานางงอนงามราวกับปีกผีเสื้อ มวยผมม้วนขึ้นเป็นทรงไป๋เหอประดับด้วยปิ่นเงินสวยงาม
“ท่านหญิงเพคะ องครักษ์จางรอท่านหญิงอยู่ที่หน้าวังแล้วเพคะ” เสี่ยวสี่เข้ามารายงานให้ผู้เป็นนายทราบทันที
หญิงสาวได้ยินสาวใช้เอ่ยถึงองครักษ์ประจำตัวนาง โอวหยางเป่ยเป่ยถึงกับเบะปาก ไม่รู้จางอวี้หวายจะรีบไปไหนกะอีแค่งานล่าสัตว์ที่ท่านลุงฮ่องเต้โอวหยางเซี่ยเฟิงจัดขึ้นทุกปี
นางเป็นญาติกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเพราะบิดานางเป็นพระอนุชาฮ่องเต้หรือน้องชายร่วมอุทรนั่นเอง
แต่ละปีก็ไม่เห็นมีอะไรแค่ล่าสัตว์แข่งกัน ใครได้เยอะที่สุดคนนั้นเป็นฝ่ายชนะ นางจำได้ว่าปีที่แล้วองค์รัชทายาทโอวหยางเซียวอี้เป็นผู้ชนะในการล่าสัตว์ครั้งนั้น ฮ่องเต้ก็ประทานรางวัลให้เป็นเงินหลายร้อยตำลึง องค์รัชทายาทยังขอคุณหนูใหญ่ตระกูลห่านเป็นพระชายาเอกอีกด้วย
แล้วปีนี้นางไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ
ช่างน่าเบื่อเสียจริง
“เจ้าไปบอกองครักษ์จางให้รอก่อน” นางสั่งเสี่ยวสี่
สาวใช้รับคำสั่งรีบสาวเท้าออกไปทันที
พระชายาโอวหยางเดินเข้ามาในห้องของบุตรสาว เซียวหรูอวี้มองบุตรสาวที่แต่งชายด้วยอาภรณ์สีแดง
นี่อย่าบอกนะว่าบุตรสาวจะใส่ชุดแบบนี้ไปล่าสัตว์
“เป่ยเป่ย เจ้าจะใส่ชุดนี้ออกไปล่าสัตว์หรือ” พระชายาเอ่ยถามบุตรสาว
“ท่านแม่ข้าชอบนี่เพคะ มันงดงาม” โอวหยางเป่ยเป่ยรีบกอดมารดาทันที เป่ยเป่ยแม้จะโตเป็นสาวถึงวัยออกเรือนแล้วแต่นางก็ยังอ้อนมารดาเหมือนตอนเด็กๆ ไม่มีผิด
“เจ้าโตเป็นสาวแล้วนะยังจะมากอดแม่อีก” เซียวหรูอวี้มองบุตรสาวออดอ้อนตัวเอง
“ข้ารักท่านแม่นี่นา” เป่ยเป่ยบอก
“ช่างเถอะ เจ้าจะใส่ชุดอะไรก็ช่าง ควรรีบไปได้แล้ว มันถึงยามแล้ว” พระชายาโอวหยางบอกบุตรสาว
“แล้วท่านพ่อล่ะเพคะ” หญิงสาวถามหาบิดาทันที
“พ่อเจ้าไปตั้งแต่ยามเหม่า” พระชายาโอวหยางบอกบุตรสาว
“ข้าไปก่อนะเพคะท่านแม่” หญิงสาวบอกมารดาแล้วเดินออกไปทันที
สายตาพระชายาโอวหยางมองบุตรสาวแล้วส่ายหน้า โตจนจะออกเรือนแล้วบุตรสาวยังปฏิเสธบุตรชายที่จะมาสู่ขอ เซียวหรูอวี้อยากจะให้บุตรสาวเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที เห็นทีจะอยากงานเย็บปักถักร้อยเป่ยเป่ยก็ไม่ทำหาได้ใส่ใจ
“พระชายาทรงเป็นห่วงท่านหญิงหรือเพคะ” เสี่ยวลู่เอ่ยถามผู้เป็นนายหลังเห็นพระชายาโอวหยางมองแผ่นหลังบุตรสาวแล้วมีสีหน้าเป็นกังวล
“ข้าเป็นห่วงนางเป็นอย่างมาก เจ้าก็ดูสิข้ามาถึงนางก็กอดข้า นางโตจนจะออกเรือนแล้วแต่นางก็เล่นตัวเสียเหลือเกิน ข้ากลัวนางจะเป็นสาวเทื้อคาเรือน”
เสี่ยวลู่ได้ฟังแล้วเข้าใจทันที เดิมทีท่านหญิงจะออกเรือนตอนอายุสิบห้าปี แต่พอมาถึงวันแต่งงานท่านหญิงกลับหนีไปเสียดื้อๆ จนย่างเข้าอายุสิบหก ทั้งคุณชายแต่ละตระกูลส่งแม่สื่อมาทาบทามท่านหญิงก็ไม่สนใจ ใครเป็นมารดาก็อดที่จะเป็นห่วงบุตรสาวไม่ได้
“พระชายาเพคะ บางทีท่านหญิงอาจจะยังไม่มีคนที่ถูกใจก็ได้นะเพคะ”
ภายในรถม้าหญิงสาวนั่งข้างในอย่างเบื่อหน่าย เมื่อไรจะถึงป่าที่ท่านลุงฮ่องเต้จัดงานี้ นั่งจนปวดก้นแล้ว
หญิงสาวเปิดผ้าม่านออก สายตามองที่องครักษ์จางนั่งบนหลังม้าอย่างงดงามราวกับเทพบุตร ดวงหน้าสี่เหลี่ยม จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วดุจกระบี่
ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนมีคนแอบมองจึงหันไปเห็นท่านหญิงเป่ยเป่ยกำลังมองเขาอยู่ ทั้งคู่สบตากันพอดี เป่ยเป่ยรีบปิดม่านลงทันที ใบหน้าของนางร้อนและมีสีแดงจัด
ด้านจางอวี้หวายเขารู้ท่านหญิงเป่ยเป่ยคิดอย่างไรกับเขา เขาได้แต่บอกตัวเองว่ามันเป็นไปไม่ได้ เขามีหน้าที่ต้องดูแลท่านหญิงตลอดไป ไม่สามารถเป็นอย่างอื่นไปได้เพราะฐานะเขาไม่คู่ควร
เมื่อครั้งท่านหญิงจะออกเรือนตอนอายุสิบห้า นางไม่ยอม ขบวนเจ้าบ่าวมาแล้วแต่นางหนีออกไปข้างนอกจนเขาไปตามกลับมา นางร้องไห้ นางไม่อยากแต่ง ชินอ๋องโกรธมากจึงทำโทษนางโดยให้นางคุกเข่าต่อศาลบรรพชนเป็นเวลาหนึ่งเดือน
ต่อมาอายุย่างเข้าสิบหกเมื่อไม่นานมานี้ แม่สื่อได้มาทาบทามนางให้คุณชายตระกูลต่างๆ แต่เป่ยเป่ยก็ปฏิเสธไป คนนอกอาจจะมองว่านางอยากจะสนุกกับชีวิต แต่เขาผู้เป็นองครักษ์นางมาสิบกว่าปีทำไมเขาจะไม่รู้เพราะนางไม่ออกเรือนเสียที เพราะ…
ไม่นานรถม้าก็มาถึงสถานที่จัดงานแข่งล่าสัตว์ จางอวี้หวายลงจากอาชาคู่ใจ หญิงสาวเปิดม่านออกกระโดดลงจากรถม้าทันทีไม่รอให้จางอวี้หวายมาช่วย
เป่ยเป่ยเป็นอย่างนี้ประจำ นางไม่ต้องการให้เขาช่วยหรือเพราะเขินอาย ทั้งสามคนจึงเดินไปที่แท่นพิธีโดยมีหญิงสาวชุดแดงเพลิงนำหน้า ทำให้แขกที่มางานในวันนี้ต่างตกตะลึง นางช่างงดงามราวกับเทพธิดาเสียจริง ใบหน้าขาวราวกับหิมะบวกกับริมฝีปากแดงด้วยสีชาด ดวงตากลมโตดุจกวางน้อย ท่วงท่าที่เดินช่างสมกับเป็นท่านหญิงบุตรสาวของชินอ๋องเหลือเกิน
“เจ้าดูบุตรสาวเจ้าสิหลิงหลง นางช่างงดงามเหมือนมารดาไม่มีผิด” ฮ่องเต้ตรัสชมหลานสาวสุดที่รักของเขาต่อหน้าพระอนุชา โอวหยางเป่ยเป่ยช่างเหมือนกับมารดาเจ็ดส่วน ทำให้ผู้เป็นบิดาอย่างชินอ๋องริมฝีปากแทบจะฉีกถึงรูหูเมื่อพระเชษฐาเอ่ยชมบุตรสาว
แน่นอนบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนย่อมงดงามเหมือนพระชายาของเขา ในเมืองต้าฉินไม่มีใครงดงามเท่าบุตรีเขาอีกแล้ว บุตรีเขานับเป็นโฉมสะคราญนางหนึ่งก็ว่าได้ คุณชายบ้านไหนเห็นก็อยากจะสู่ขอที่หน้าวังอ๋อง ดูอย่างตอนนี้สิ นางย่างเท้าเข้ามาในงานจะเดินหาเขาผู้เป็นบิดาด้วยท่าทางแช่มช้อย คุณชายแต่ละตระกูลก็มองตาเป็นมันทำอย่างกับว่าบุตรสาวเขาเป็นอาหารอันโอชะให้พวกบุรุษเขมือบกิน
เปาเปา เปยเปยมีรึจะยอมให้อ๋องปากสุนัขมายุ่งกับมารดาของพวกเขามิสู้ หาบิดาหล่อๆ ให้มารดาสักคนเสียดีกว่า 55555 สมหน้าบิดาสมองสุนัข
หลีซินแพทย์ศัลยกรรมในยุคปัจจุบันได้ทะลุมิติเข้าร่างสตรีลูกขุนนาง ที่มีความเอาแต่ใจ อารมณ์ร้ายเป็นใหญ่ แต่ทว่าสตรีนางนี้ ต้องแต่งงานกับหยางอ๋องผู้มีลูกติดฝาแฝดชายหญิง
นางหนีความยากลำบากเข้ามาในเมืองหลวงฉางอัน เพื่อขายตัวเองเป็นสาวใช้ในจวนท่านแม่ทัพ แต่ทว่า ท่านแม่ทัพผู้นี้เมตตาสาวใช้อย่างนางยิ่งนัก จนกระทั่งทำให้ฮูหยินใหญ่ในจวนมิพอใจสาวใช้อย่างนาง จูจูจะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่ปลอดภัยในจวนท่านแม่ทัพนี้ ร่วมเป็นกำลังใจให้จูจูนะเจ้าคะ
อวี้เหมยหรู แพทย์สาวยุคปัจจุบัน ได้ทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่เธออ่าน เธอนั้นดันชอบพระรองอย่างท่านแม่ทัพซือเหยียน มากกว่าพระเอกอย่างองค์ชายสามจีเสวียน
"ท่านเป็นอย่างไรบ้าง" เซียวหยามองหน้าชายคนรักที่โดนพิษยาปลุกกำหนัดในใจก็นึกโกรธเซียวเหยียนขึ้นมาทันที "ข้าร้อนยิ่งนักอยากจะปลดปล่อย" น้ำเสียงกระเซ้าบอกชายคนรัก ในใต้หล้านี้ เสิ่นจ้านไม่ต้องการสตรีแม้แต่คนเดียว เขาต้องการบุรุษอย่างเซียวหยาเท่านั้น
เกาเหมียวหรงบุตรสาวนายอำเภอโจว ไม่เป็นที่รักของขอบิดา เกาเซิง นางเป็นบุตรภรรยาเอกที่ตายไปแล้ว กระนั้นบิดาจึงให้นางออกเรือนกับพ่อค้าคารวานแห่งทุ่งหญ้า มีอายุคราวบิดา นางจึงตัดสินใจเป็นอนุของแม่ทัพหนานอ๋อง
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"