ใครๆก็บอกว่าคุณสส. น่ะใจร้าย
ใครๆก็บอกว่าคุณสส. น่ะใจร้าย
ใจคุณร้ายดังเขาว่า
บทนำ
ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์คับคั่งไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาจากหลากหลายประเทศ ที่ล้วนหลั่งไหลเข้ามาเพื่อร่วมงาน ASEAN Ceramics Expo Bangkok 2024 ซึ่งเป็นงานด้านเซรามิกที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยงานนี้ได้รับความร่วมมือจากบริษัทยักษ์ใหญ่ของทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงฟากรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศษฐกิจและยกระดับสินค้าจากฝีมือชาวไทย
มีสินค้าเข้าร่วมโครงการมากกว่าหนึ่งพันแบรนด์ โดยคิดเป็นของคนไทยห้าสิบเปอร์เซ็นต์และต่างชาติอีกห้าสิบ ผู้ประกอบการต่างเข้ามาร่วมงานเพื่ออวดโฉมสินค้าจากฝีมือของตน ทั้งยังเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่สนใจจับจ่ายเลือกซื้อ
เสียงของพิธีกรหญิงดังเข้าโสตประสาทอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนมันจะกลายเป็นเสียงที่เรียกให้ร่างกำยำในชุดสูทสุภาพจำต้องลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“ขอเรียนเชิญท่านสัตรา เจียรโณทัย ประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญาให้เกียรติกล่าวเปิดพิธีด้วยค่ะ”
เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมเจ้าของชื่อที่ก้าวขาตรงไปยังเวทีด้านหน้า ทุกการก้าวเดินของนักการเมืองหนุ่มล้วนสะกดสายตาแขกเหรื่อให้มองราวถูกต้องมนตร์ ด้วยมาพร้อมใบหน้าคมเข้ม นัยน์ตาดำขลับรับกับจมูกโด่ง ผิวสีแทนอย่างคนชอบกิจกรรมกลางแจ้งเสริมให้มาดเข้มขรึมแสนสุขุมนั่นถูกกระตุ้นจนเตะตาใครหลายคน ผนวกกับความสูงร้อยแปดสิบกลางๆ ยิ่งส่งให้ดูสง่าทุกอิริยาบถ
หากไม่อยู่ในแวดวงการเมือง คนคนนี้ควรไปโลดแล่นบนหน้านิตยสาร
ไม่พอเท่านั้น เจ้าตัวยังพ่วงมาด้วยตำแหน่งหน้าที่ระดับประเทศในขณะที่มีอายุเพียงสามสิบหกปีเท่านั้น ทั้งเป็นสส. บัญชีรายชื่อลำดับที่เก้าของพรรคการเมืองที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งจนได้จัดตั้งรัฐบาล บทบาทในพรรคก็ยังได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการ แม้ว่าจะมีผู้อาวุโสอยู่มากก็ตาม แต่เขาก็สามารถคว้าตำแหน่งสูงๆ รวมถึงปาร์ตี้ลิสต์ลำดับต้นๆ มาได้ และยังได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย
ทั้งหมดนั่นนอกจากความสามารถแล้ว เขาก็ยอมรับว่ามีเส้นสายที่ดีอย่างบิดา ซึ่งเป็นคนเก่าแก่ของพรรคที่หลังส่งลูกชายคนโตลงสนามเลือกตั้งได้สำเร็จในสมัยแรก พอสมัยที่สองเขาก็หายห่วง ปัจจุบันจึงเกษียณตัวเองอยู่บ้านเฉยๆ ใช้เงินที่โหมหามาทั้งชีวิตกับการพาภรรยาคู่บุญท่องเที่ยวไปตามต้องการ
สัตรากล่าวตามสคริปต์ที่ได้รับก่อนหน้าด้วยท่าทีแสนสุภาพและสุขุมไปในที ใช้เวลาชั่วครู่ก็มาถึงการตัดริบบิ้นโดยมีผู้เกี่ยวข้องขึ้นมายืนขนาบข้างร่วมสิบคน เสร็จสรรพแล้วจึงพากันลงไปนั่งที่เดิมเพื่อชมการแสดงเปิดงานซึ่งเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่ค่อนข้างสำคัญของเมืองไทยอย่างนาฏศิลป์
เสียงดนตรีไทยถูกบรรเลงพาคนฟังจรรโลงใจ ก่อนนางรำจะสืบเท้าเดินออกมาจากหลังม่าน ก้าวขึ้นบันไดฝั่งละหนึ่งคนจนพาตัวเองมายืนโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนเวที ก่อนมีนางรำมาอีกหนึ่งคู่ ประกบกันเป็นฝั่งละสองคน ทว่าพวกหล่อนก็ทำเพียงตั้งท่าแต่ไม่เริ่มทำการแสดงเสียที
และแล้วนางรำคนสุดท้ายก็ออกมาจากหลังม่านก่อนไปหยุดยืนประจำตำแหน่งของตน
ก็ถ้าสี่คนก่อนหน้าเปรียบดังนางฟ้า คนสุดท้ายคงเป็นถึงราชินีแห่งสรวงสวรรค์กระมัง
นักการเมืองหนุ่มรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจยามได้มองสาวงามร่ายรำขยับร่างกายด้วยท่วงท่าที่อ่อนช้อย ใบหน้าขาวผ่องตัดกับริมฝีปากสีแดงระเรื่อ ชฎาที่ถูกสวมส่งให้เจ้าหล่อนแลดูงดงามราวกับเป็นนางฟ้านางสวรรค์มาโปรดมวลมนุษย์ก็ไม่ปาน ชุดสีทองอร่ามกับผิวขาวผ่องยิ่งขลับกันได้อย่างลงตัว
ภายใต้ใบหน้าเรียบสนิทนั้น สัตราค่อนข้างพึงพอใจที่ได้เชยชมการแสดงชุดนี้
ผู้คนต่างก็ยกมือถือขึ้นมาบันทึกภาพความสวยงามอันน่าประทับใจ แต่เขาเพียงแค่นั่งมองหล่อนด้วยตาเนื้อ เก็บกักความสวยงามไว้ด้วยดวงตาคู่คม
จังหวะหนึ่งของการร่ายรำ นัยน์ตาสวยสบเข้ากับสายตาคู่หนึ่งที่สะกดจนเธอเกือบจะรำพลาด ก่อนรีบดึงสายตาไปทางผู้ชมท่านอื่นโดยเร็ว ที่ก็เห็นเพียงกล้องหลังของโทรศัพท์มือถือที่บันทึกวิดีโออยู่เท่านั้น
เกือบห้านาทีให้หลังรำอัปสราก็มาถึงช่วงท้ายของการแสดง ห้าสาวสวยดุจดังนางฟ้าพากันเดินลงไปยังด้านล่างก่อนรับพานขนาดเล็กที่มีกลีบกุหลาบบรรจุอยู่มาถือไว้ แล้วค่อยๆ ย่างกรายต่อแถวเดินผ่านเหล่าคนใหญ่คนโต
นางรำต่างหยิบกลีบสีแดงสดของกุหลาบมาโปรยลงพื้นอย่างเชื่องช้าและอ่อนช้อย ราวเป็นการละเล่นของนางในวรรณคดีก็ไม่ปาน ทุกอิริยาบถยังคงสง่างามดุจนางฟ้านางสวรรค์ ทว่าสาวงามทั้งสี่ไม่ได้อยู่ในความสนใจของใครคนนั้นเลย นัยน์ตาคมเข้มตวัดไปมองคนสุดท้ายอย่างไม่ปิดบัง ซึ่งเจ้าหล่อนก็จำต้องเดินผ่าน
แม้จะพยายามหลบสายตาที่พาให้คันยุบยิบในใจแต่ก็ไม่เป็นผล
กลีบกุหลาบถูกโปรยลงตรงหน้าท่านประธานในพิธีวันนี้ และมันควรลงไปนอนอยู่บนพื้นอย่างที่เคยเป็นมาตลอด สี่คนที่โปรยต่อหน้าเขาก็มีหลักฐานทนโท่ว่ามันนอนแอ้งแม้งอยู่ที่ปลายเท้า แต่กับกลีบสีแดงสดที่ร่วงหล่นลงมาจากมือของนางรำคนสุดท้าย กลับไปอยู่บนฝ่ามือหนาที่เอื้อมมารับไว้
ลมหายใจของหล่อนสะดุดไปหนึ่งห้วง รีบดึงสายตาไปหามนุษย์คนอื่นแทนที่จะมองใบหน้าไร้คลื่นอารมณ์ของฝ่ายชาย
ร่างระหงในชุดสง่าก้าวเดินขึ้นเวทีมาหยุดอยู่ตรงกลาง ร่ายรำต่ออีกนิดก็เป็นการจบการแสดง
เสียงปรบมือดังกระฉ่อนไปทั่วบริเวณ รวมถึงคนที่เก็บกลีบกุหลาบเข้ากระเป๋าเสื้อก็มิวายปรบมือให้ด้วยความชื่นชม
“จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะสำหรับการแสดงรำอัปสราจากคณะร่ายดาหลา” พิธีกรกล่าวดำเนินงานตามหน้าที่ โดยห้าสาวงามต่างพากันมุ่งหน้าลงไปจากเวที “น้องนางรำเดี๋ยวขอถ่ายรูปรวมหน่อยนะคะ”
ทั้งหมดเป็นอันชะงักเท้า แล้วจึงเดินกลับมายืนที่เดิม
“ขอเชิญท่านผู้บริหารทุกท่านขึ้นมาเก็บภาพความประทับใจกับการแสดงของน้องๆ ทั้งห้าหน่อยค่ะ”
นั่นก็คงจะรวม ‘เขา’ ด้วยกระมัง
สัตราจึงลุกขึ้นยืนอีกครั้งแล้วก้าวไปยังเวทีพร้อมกับพลพรรค เลือกที่จะหยุดยืนซ้อนอยู่ด้านหลังเจ้าของกลีบกุหลาบสีแดงสดในกระเป๋า ที่มันแดงพอๆ กับริมฝีปากบางที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติก
เจ้าหล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรงพลางเหลียวหลังมามอง
ริมฝีปากหยักขยับพอให้มีเสียงเล็ดลอดออกมา “มองกล้อง”
คนตัวเล็กไม่ตอบเป็นคำพูดแต่ปฏิบัติตามทันควัน เธอก็แค่สงสัยว่าเขาหยุดอยู่ข้างหลังเธอจริงหรือไม่ เพราะตอนเห็นชายผู้นี้เดินมา หางตายังไม่เห็นว่าเขาเดินผ่านตัวเองไป เพื่อความแน่ใจจึงชำเลืองมองซึ่งก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ
“น้องนางรำรบกวนนั่งได้ไหมคะ”
เพราะบรรดาผู้บริหารมีความหลากหลายสูงมาก ทั้งสูงลิ่วและสูงเกินหลักกิโลเมตรมานิดหน่อย หากสาวๆ ยืนอยู่แถวหน้าก็มีโอกาสที่จะบดบังคนแถวหลังจนมิด ไหนเล่าเหล่านางฟ้ายังมีชฎาสวมบนศีรษะอีกด้วย
ทั้งห้าชีวิตก็ทำตามอย่างว่าง่าย หลังได้รูปถ่ายจนพอใจสื่อมวลชนแล้วก็เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจของพวกเธอ ครั้นพอจะลุกขึ้นยืนดันทำได้ลำบากกว่าชาวบ้านชาวช่องเพราะชุดที่ใส่ค่อนข้างรัดรูป เดินเหินก็ไม่สะดวก คนที่อยู่ใกล้เคียงจึงต้องยื่นมือมาช่วยพยุง สร้างรอยยิ้มให้แก่บรรดาแขกเหรื่อที่ได้เห็นภาพบรรยากาศน่ารักน่าเอ็นดูของเหล่านางฟ้าได้เป็นอย่างดี
จะมีก็แต่นางฟ้าคนสุดท้ายที่ยิ้มไม่ออกเมื่อคนที่ให้การช่วยเหลือเธอคือเจ้าของนัยน์ตาดำขลับแสนลึกลับนั่น
สุ้มเสียงทุ้มดังทะลุโสตประสาท “ขออนุญาต”
ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร รู้อีกทีเขาก็คว้าเข้าที่ต้นแขนใกล้ๆ กับพาหุรัดสีทองอร่าม ผิวเนื้อสัมผัสกันครั้งแรกก่อนเจ้าตัวจะออกแรงดึง เธอก็รีบยันตัวลุกขึ้นแล้วจึงถดกายออกเล็กน้อย
เจ้าหล่อนหันไปค้อมศีรษะให้อีกฝ่ายตามมารยาทพลางเอ่ยเสียงแผ่ว “ขอบคุณค่ะ”
แล้วจึงสับเท้าลงจากเวทีอย่างกับเท้าเปล่าๆ นั่นสัมผัสเปลวไฟก็ไม่ปาน
/0/27920/coverbig.jpg?v=a110807fa63b7a3991ff7240088055a8) 
 นางไร้หัวใจ ไม่คิดรักองค์ฮ่องเต้แม้เพียงสักครั้ง เขายับยั้งใจ กลับตกอยู่ใต้ห้วงเสน่หาสนมเอกผู้นี้
/0/23108/coverbig.jpg?v=77677e70068eeebbb0a501ae9a715811) 
 คำโปรย : .....ใครจะไปคิด! ว่าไก่ย่างเพียงไม้เดียว มันจะทำให้ชีวิตของเธอถึงจุดจบ! และนำพาเธอย้อนเวลาไปเกิดใหม่ในร่างของคนที่อยู่ในยุคประวัติศาสตร์ และที่สำคัญ เธอได้สามีเป็นของแถม! **** อารัมภบท : .....เรื่องราวของนักศึกษาสาวที่ชีวิตพลิกผันอย่างไม่คาดฝัน เมื่อเธอหมดลมหายใจเพราะไก่ย่างเพียงไม้เดียว! แต่เธอกลับได้ย้อนเวลาเกิดใหม่ในร่างของลูกสาวเจ้าพระยาที่อยู่ในยุคก่อน แถมร่างนั้นก็ยังมีสามีแล้ว แต่เป็นสามีแสนจะเย็นชา ที่ไม่เคยสนใจหรือใส่ใจให้ความรักกับภรรยาที่เป็นเจ้าของร่างเดิมเลย แล้วใครสน? สำหรับเธอ คิดเพียงว่าได้มาเกิดใหม่อีกครั้ง ก็ดีแค่ไหนแล้ว ใครจะไม่รักก็ช่างเขาสิ ..โนสน ..โนแคร์จ้า แต่ทว่า! ยิ่งเธอไม่สนใจเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหันกลับมาสนใจเธอมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความแปลกใหม่ของเธอทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจในเวลาเดียวกัน จนกระทั่งคนที่เคยเย็นชามาตลอด จู่ๆ ก็กลายเป็นคนคลั่งรักในที่สุด.. #ตัวละครหลัก : *พระยาพิพัฒน์พงศ์ หรือ เจ้าคุณพิพัฒน์ อายุ 36 ปี มีบรรดาศักดิ์เป็นขุนนางระดับสูง รูปหน้าหล่อขั้นเทพ ฉลาด สุขุมรอบคอบ เงียบขรึม มีเสน่ห์ ผิวขาว รูปร่างกำยำ * จันทร์วรา อุษาวิบูลย์ หรือ เจ้าจันทร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบ ภายใน สวยหวาน ร่าเริง กล้าพูดกล้าทำ ตากลมโต ปากจิ้มลิ้ม ผิวขาว รูปร่างผอมเพียว อกอวบอิ่ม _____________________ นิยายเรื่องนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ห้ามทำการคัดลอด เลียนแบบ หรือดัดแปลงเนื้อหาส่วน ใดส่วนหนึ่งของงานเขียนนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่ารูปแบบหรือวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น ผู้เขียน : รดามณีนัฐฐ์ ภาพปก : Onlyboy ปรับแต่งภาพปก : Dayny_white ปกอิมเมจ : เยเรมีย์ ________💫________
/0/8649/coverbig.jpg?v=0bb2dd14ce535389e2a9de9c4606a007) 
 เกริ่น.... ....ยะ..อย่านะ..พี่กำลังเข้าใจผิดอยู่..อึก..~ ผมไม่สนใจที่เธอพูด ผู้หญิงคนนี้แสดงละครเก่งจริงๆ ผมเกือบจะเชื่อเธอแล้วว่าเธอไม่ได้ขายตัว ผม: เลิกเล่นได้แล้ว เรามามีความสุขกันดีกว่า ...ยะ..อย่า..หนูไม่ได้ขายตัวจริงๆ หนูไม่ได้แสดงละครอะไรทั้งนั้น หนูพูดเรื่องจริง ปล่อยหนูไปเถอะ !! ผมกดท่อนเอ็นเข้าไปที่ช่องเสียวสีชมพูชวนหลงไหลนั้น กึด~ “อ๊า~ เข้าอยากจังวะ” ผมก็มมองดูรอยเชื่อมระหว่างผมกับเธอ “เชี้ย...เลือด !!” ผมมองหน้าผู้หญิงคนนั้น เธอนอนน้ำตาคลอ ตัวสั่นไปหมด "อยากได้เท่าไหร่...แลกกับเซ็กส์ครั้งนี้" เธอเงียบไม่ตอบผม เอาแต่นอนสะอื้น "กูถามว่ามึงจะเอาเท่าไหร่ แลกกับความบริสุทธิ์ของมึง"
/0/20260/coverbig.jpg?v=eaff0a56179a8923235f807a29599f47) 
 “ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
/0/24327/coverbig.jpg?v=222bc67d17e60bb61200400a361aab9c) 
 เมื่อหลุดเข้าไปในนิยาย ได้เป็นถึงนางเอกของเรื่องเรื่อง การจะกลับออกไปคือต้องให้จบแบบ happy ending แต่ทำไม๊ พระเอกกลับบอกว่าฉันจืดชืด ไร้รสนิยม แต่เขาดันไปต้องใจยัยตัวร้ายซะงั้น
/0/23304/coverbig.jpg?v=0ca1a7a71ae1c2abf62bcd30db355e31) 
 เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
 
  © 2018-now MeghaBook
บนสุด
 GOOGLE PLAY
 GOOGLE PLAY
/0/20035/coverbig.jpg?v=451924d73becc4dc64da8ec32f49c907)