เขาคิดว่าตัวเองแน่ แต่กลับเอาชนะ 'เธอ' ไม่ได้สักครั้ง
เขาคิดว่าตัวเองแน่ แต่กลับเอาชนะ 'เธอ' ไม่ได้สักครั้ง
ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำมาในยามค่ำคืน มีใครบางคนยืนทอดสายตามองหยดน้ำด้วยความเจ็บปวด ฝนมาพร้อมกับความทรงจำอันเลวร้ายที่ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่อาจลบมันออกจากจิตใจได้ ทว่ามีแต่ยิ่งตอกย้ำให้นึกถึงเรื่องราวที่ยากจะลืมเลือน แต่รวดร้าวที่จะจดจำ
หญิงสาวหันหลังกลับเนื่องด้วยไม่มีความกล้าพอที่จะขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าห่าฝนไปได้ หล่อนกลัวเหลือเกินว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ภายในร้านอาหารที่บัดนี้มีเพียงเพื่อนพนักงานด้วยกันคอยเก็บร้านตามหน้าที่เท่านั้น ตนเป็นเพียงพนักงานเสิร์ฟอาหาร เมื่อร้านปิดจึงไม่มีหน้าที่อื่นที่ต้องทำอีก และเหนือสิ่งอื่นใดเธอเองก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานๆ หากเวลาเลิกงานมาถึง เพราะต้องไปทำงานอีกที่หนึ่ง ซึ่งตอนนี้การไปที่นั่นก็ติดอุปสรรคคือฝน
เวลาเดินหน้าไปเรื่อยๆ จวนจะถึงเวลาที่ควรออกไปจากที่แห่งนี้ได้แล้ว แต่ฝนไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตกเลย ซ้ำยังโหมกระหน่ำมากกว่าเมื่อครู่ เป็นเหตุให้เจ้าตัวเริ่มกังวลว่าอาจจะเข้างานสาย เท่าที่อีกฝ่ายยอมให้เธอได้ทำงานก็ถือว่าเมตตามากแล้ว จึงไม่อยากทำให้ใครต้องเดือดร้อน แต่เธอก็เอาชนะการฝ่าฝนไม่ได้ เพียงแค่คิด มือไม้ก็สั่น
ชีวิตเธออาจไม่ได้ดีนัก แต่มั่นใจได้ว่าไม่พร้อมจะตายไปในตอนนี้แน่ๆ
พนักงานหญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องครัวก่อนจะเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าคนที่ไม่ควรอยู่ที่นี่ ณ เวลานี้ยังนั่งอยู่ “อ้าว ยังไม่ไปที่ร้านอีกเหรออัส มันจะสองทุ่มครึ่งแล้วนะ”
คนถูกทักหันกลับไปมองตามเสียงก็เห็นว่าเป็นสุวพิชชา เนื่องจากอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอและยังพูดจาถูกคอ จึงมีสถานะต่างกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น เพราะหล่อนเป็นคนที่เธอสามารถเรียกได้เต็มปากว่าเป็นเพื่อน
อัสมาส่ายหน้าให้คนถาม ใบหน้าปนเปไปด้วยความเหนื่อยล้าและวิตก “ฝนตกหนักเกิน ไม่กล้าไป”
ได้ฟังเช่นนั้นสุวพิชชาก็ไม่ถามอะไรต่อ เพราะเข้าใจถึงเหตุผลของเพื่อนดี “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราวนไปส่งที่ร้านก็ได้ แล้วเสร็จงานก็วนกลับมาเอารถเอง โอเคไหม”
เพราะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ หากรอให้ฝนหยุดตกก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน สุดท้ายเธอจึงขึ้นรถของเพื่อนแล้วตรงไปยังร้านเหล้าซึ่งเป็นที่ทำงานช่วงกลางคืนของตน ที่นั่นอัสมามีหน้าที่เป็นนักร้อง ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะจึงทำให้ได้งานนี้ ทว่ามันไม่ได้ดีจนสามารถเป็นนักร้องมืออาชีพได้ น่าเสียดายทีเดียว เธออยากหาเงินได้เยอะๆ และอาชีพนั้นก็น่าจะตอบโจทย์ แต่ในเมื่อเป็นได้แค่นี้หล่อนก็ไม่เกี่ยง อะไรที่ขึ้นชื่อว่างาน อัสมาทำหมด
ไม่เลือกงานไม่ยากจน...ไม่จริง เธอทำงานเจ็ดวันต่อสัปดาห์ ทำตั้งแต่เช้าจนดึกดื่น เวลาพักมีไม่ถึงห้าชั่วโมง โหมงานหนักเช่นนี้มาสี่เดือนเต็มๆ แต่ไม่เคยเฉียดคำว่ารวย อันที่จริงเธอหนีคำว่าจนไม่ได้ด้วยซ้ำ สภาพร่างกายก็ซูบผอมไปปริยายเนื่องจากไม่ค่อยมีอะไรดีๆ ตกถึงท้อง วันหนึ่งได้กินข้าวแค่หนึ่งถึงสองมื้อ บางวันเครียดจนกินอะไรไม่ลง น้ำหนักจากห้าสิบเศษๆ ในวันนั้น วันนี้เหลือแค่สี่สิบต้นๆ เธอไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ แต่ชีวิตก็บีบเสียทุกทาง
อัสมาก้มมองหน้าจอมือถือที่มีข้อความจากผู้จัดการของร้าน ก่อนจะตอบไปสั้นๆ ว่าใกล้ถึงแล้ว หลังจากนั้นก็ปิดเปลือกตาลงเพื่อพักผ่อน แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่การได้พักถือเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต
“งีบไปเถอะ แต่ฝนไม่ตกทุกวันหรอก”
อัสมาไม่ได้ตอบอะไร แต่โลกก็ไม่อนุญาตให้เธอได้พักนานขนาดนั้น ให้หลังเพียงสิบนาทีก็มาถึงที่หมาย ผนวกกับใกล้ถึงเวลาเข้างาน เธอจึงตรงดิ่งไปด้านในทันทีหลังกล่าวคำขอบคุณกับเพื่อนเป็นที่เรียบร้อย นักร้องสาววัยยี่สิบหกรีบจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นกว่าเดิมก่อนจะรีบขึ้นไปบนเวทีที่บัดนี้ทุกคนอยู่ประจำตำแหน่งกันหมดแล้ว คนเด็กกว่าก้มหัวให้สมาชิกในวงอย่างนอบน้อมและได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา
ทุกคนล้วนรักและเอ็นดูอัสมาเหมือนน้องสาวด้วยรู้ว่าชีวิตของเธอต้องเจอกับเรื่องอะไรมาบ้าง อีกอย่างเจ้าตัวก็เป็นคนน่ารัก นิสัยดี มีหรือใครที่ได้รู้จักแล้วจะไม่รัก
“ยังคิดอยู่เลยว่าจะมาได้ไหม เพราะฝนตกหนักมาก” หนุ่มมือกลองเอ่ยถามขึ้น
“หนูติดรถวาดมาค่ะ”
“แล้วมอ’ไซค์เราล่ะ”
“อยู่ที่ร้าน เดี๋ยวเสร็จตรงนี้ค่อยกลับไปเอาค่ะ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนุ่มมือกลองก็อาสาที่จะพาน้องสาวนอกไส้ย้อนกลับไปที่ร้านอาหาร ด้านอัสมาที่คิดว่าจะต้องรบกวนใครสักคนอยู่แล้วจึงไม่ปฏิเสธ แต่เลือกที่จะก้มหัวพร้อมเอ่ยคำขอบคุณอย่างมีมารยาท “ขอบคุณนะคะพี่หล้า”
เพลงที่อัสมานำมาร้องก็มักจะเป็นเพลงที่ทุกๆ คนต่างคุ้นหู หลายๆ คนจึงร้องคลอไปด้วยได้ บ้างก็ร้องเพลงตามใจลูกค้า ไม่ว่าขอเพลงไหนมาก็จัดให้ไม่เคยเกี่ยง เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำตัวให้ถูกใจทุกคน เพื่อที่จะได้มีงานทำ หากลูกค้าชื่นชอบในเสียงและนิสัยใจคอของเธอ ก็จะมีลูกค้ามาที่ร้านเยอะขึ้น เธอเองก็จะได้มีงานทำไปตลอดรอดฝั่ง
ประมาณสี่ทุ่มครึ่งก็ถึงเวลาเลิกงาน อัสมาได้รับเงินจากการร้องเพลงเป็นรายวัน วันละหนึ่งพันไม่รวมทิปจากลูกค้า ส่วนทิปวันนี้ได้มาสี่ร้อย ถือว่าเป็นงานที่เงินดีมากทีเดียว น่าเสียดายที่หามาได้เท่าไรก็ไม่เคยพอกับรายจ่าย เพราะเช่นนั้นถึงหาเงินได้เยอะก็ไม่เคยตกถึงท้อง ตัวเธอถึงได้เหลือแค่นี้ บางทีลมพัดก็จะปลิวไปกับลมอยู่แล้ว
อัคภัทรไปส่งอัสมาที่ร้านอาหารอย่างที่ได้รับปากไว้ ฝนหยุดตกแล้ว หยุดไปตั้งแต่ช่วงสามทุ่ม การกลับบ้านของเธอจึงไม่มีอุปสรรคใดอีก และดีที่ร้านอาหารกับบ้านอยู่ไม่ไกลกันนักจึงใช้เวลาไม่นาน อันที่จริงเธอเลือกทำงานที่นี่เพราะระยะทาง ใช่ความชื่นชอบ แต่นาทีนี้ความชื่นชอบมาทีหลัง เธอแค่ต้องการงานเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวก็เท่านั้น
เป็นเวลาห้าทุ่มเศษๆ แต่ไฟในบ้านยังสว่างเป็นบางดวง เมื่อเปิดประตูเข้าไปในบ้านชั้นเดียวสภาพกลางเก่ากลางใหม่ก็เห็นว่าป้าติ๋มกำลังช่วยพลิกตัวให้แม่ที่นอนป่วยติดเตียงอยู่ เห็นดังนั้นเท้าของอัสมาก็ก้าวเข้าไปช่วยอย่างไม่ลังเล
“แม่ตื่นกลางดึกเหรอคะ”
ผู้มีหน้าที่ดูแลคนป่วยโดยการจ้างวานของอัสมาก็พยักหน้ารับ “มันเต็ม ป้าเพิ่งเปลี่ยนแพมเพิสให้เสร็จ ก็เลยพลิกตัวให้แก”
เธอพยักหน้ารับก่อนจะหันไปพูดคุยกับผู้เป็นแม่ แม้ว่าแม่จะไม่อาจตอบคำถามของเธอได้ มีแค่สายตาที่ทอดมองกันและกันเท่านั้น เธอคุยกับมารดาอยู่ฝ่ายเดียว ยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง ทำทีเป็นว่าชีวิตนี้มันเต็มไปด้วยความสนุก ก่อนจะส่งแม่เข้านอนแล้วตัวเองก็เข้าไปอาบน้ำเพื่อนอนพักผ่อนหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน และเมื่อได้อยู่คนเดียว ความเครียด ความเหนื่อยและความกดดันที่ได้แบกไว้ก็พังทลายลงมาเป็นน้ำตาจนเหมือนทำนบแตก ทว่ากลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาเพราะเธอกลั้นไว้สุดความสามารถ
จุดเปลี่ยนของชีวิตมันเริ่มจากวันนั้น วันที่ฝนตกหนัก พ่อและแม่เดินทางกลับจากไปทำธุระที่ต่างจังหวัด แต่เพราะถนนลื่นจึงพุ่งไปชนกับรถคันอื่นจนมีผู้เสียชีวิตถึงสามคน และเจ็บสาหัสอีกหนึ่ง นั่นคือแม่ของเธอที่ปัจจุบันนอนป่วยติดเตียงอยู่ หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือพ่อของเธอ อีกสองเป็นคู่กรณี และอุบัติเหตุครั้งนี้พ่อของเธอเป็นฝ่ายผิด การสูญเสียครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก
เธอที่ทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศอยู่กรุงเทพฯ จึงต้องบึ่งกลับบ้านเกิดทันทีที่มีสายโทร. เข้าจากทางอาสากู้ภัย เธอยังจำเสียงนั้นได้เหมือนอีกฝ่ายพูดกรอกหูอยู่ทุกวัน ประโยคที่บอกกับเธอว่าได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับพ่อและแม่ และแม้จะตกใจ แต่ด้วยเป็นพี่สาวคนโตจึงต้องประคองสติแล้วนั่งรถกลับบ้าน พยายามทำใจให้นิ่งที่สุดแล้วโทร. ไปแจ้งข่าวร้ายกับน้องสาวฝาแฝดอีกสองคนที่เรียนอยู่ที่พะเยา โอนเงินค่าเดินทางให้ทั้งสองกลับมายังนครนายกเพื่อมาช่วยกันจัดการเรื่องที่เกิดขึ้น
ค่าเสียหายทุกอย่างอยู่ในความรับผิดชอบของอัสมาในวัยเพียงยี่สิบห้าย่างยี่สิบหก ทั้งฝั่งตัวเองที่ต้องจัดการเรื่องงานศพของพ่อ และดูแลแม่ที่อาการสาหัส รวมถึงฝั่งคู่กรณีที่เธอต้องรับผิดชอบทุกอย่าง หลังขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นที่เรียบร้อยก็ได้ข้อสรุปว่าต้องจ่ายให้อีกฝ่ายเดือนละสองหมื่นบาทเป็นระยะเวลาสิบปี เพราะหากให้หาเงินก้อนเป็นล้านๆ มาจ่ายทีเดียว เธอก็อับจนหนทาง ไหนยังต้องจ่ายค่าจ้างให้คนดูแลแม่ที่นอนป่วยติดเตียงอีกเดือนละหนึ่งหมื่นแปด เพราะเงินถึง เขาถึงได้ย้ายมาอยู่ในบ้านเพื่อดูแลแม่ เธอจึงได้ปลีกตัวออกไปทำงาน ไม่เช่นนั้นแล้วก็คิดไม่ออก ยังไม่รวมค่าเทอมค่ากินค่าอยู่ของน้องสาวฝาแฝด ไหนยังค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก
ชีวิตที่เจอปัญหาหนักขนาดนี้จะไม่ให้เธอเครียดก็กระไรอยู่
หลังจากร้องจนหมดน้ำตาก็สำนึกได้ว่าควรรีบอาบน้ำและรีบเข้านอน เพราะหากยังลีลาสวมบทเป็นนางเอกเอ็มวีพรุ่งนี้เธอได้เป็นหมีแพนด้าแน่นอน ทุกวันนี้สภาพก็ดูไม่ค่อยดีอยู่แล้ว อย่าได้ทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้เลยยายอัสมาเอ๊ย!
✿✿✿✿✿✿✿
นิยายชุด ‘เธอ...’ ที่เกี่ยวข้องกัน
➊ เธอ...ที่ไม่น่าไปหลงรัก (จัด X ผักกาด)
↬Status :: จบแล้ว
➋ เธอ...ที่ไม่โปรดปราน (โปรด X อัสมา)
↬Status :: จบแล้ว
➌ เธอ...ที่ไม่เข้าตา (เฉื่อย X ก้าน)
↬Status :: จบแล้ว
➍ เธอ...ที่ไม่คิดจะรัก (อาร์ม X ตี้)
↬Status :: จบแล้ว *มี EBOOK*
➎ เธอ...ที่ใจมิใฝ่หา (ดิน X มิ้ม)
↬Status :: จบแล้ว *มี EBOOK*
➏ เธอ...ที่ต้องสงสัยว่าจะไม่ถูกรัก (ใบ X เอื้อ)
↬Status :: จบแล้ว *มี EBOOK*
ทั้งวัยเยาว์และตอนนี้...เธอเป็นคนสำคัญสำหรับเขาเสมอ เช่นเดียวกับเขา...ที่เป็นแค่คนอื่นในสายตาของเธอมาตลอดเช่นกัน
"พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน ""เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก"" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง ""ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า""" พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน "เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง "ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า"
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เพราะว่า...การช่วยตัวเอง...ในที่ทำงานมันผิด!! “โดนของจริงดีกว่าไหมครับ...แค่นิ้ว...มันคงไม่อาจจะสนองความต้องการของคุณได้” นี่จึงเป็นบทลงโทษที่เธอต้องรับมันไป...โทษฐานที่ทำให้ท่านประธานอย่างเขาจับได้...!!
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด