เขาคิดว่าตัวเองแน่ แต่กลับเอาชนะ 'เธอ' ไม่ได้สักครั้ง
เขาคิดว่าตัวเองแน่ แต่กลับเอาชนะ 'เธอ' ไม่ได้สักครั้ง
ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำมาในยามค่ำคืน มีใครบางคนยืนทอดสายตามองหยดน้ำด้วยความเจ็บปวด ฝนมาพร้อมกับความทรงจำอันเลวร้ายที่ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่อาจลบมันออกจากจิตใจได้ ทว่ามีแต่ยิ่งตอกย้ำให้นึกถึงเรื่องราวที่ยากจะลืมเลือน แต่รวดร้าวที่จะจดจำ
หญิงสาวหันหลังกลับเนื่องด้วยไม่มีความกล้าพอที่จะขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าห่าฝนไปได้ หล่อนกลัวเหลือเกินว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ภายในร้านอาหารที่บัดนี้มีเพียงเพื่อนพนักงานด้วยกันคอยเก็บร้านตามหน้าที่เท่านั้น ตนเป็นเพียงพนักงานเสิร์ฟอาหาร เมื่อร้านปิดจึงไม่มีหน้าที่อื่นที่ต้องทำอีก และเหนือสิ่งอื่นใดเธอเองก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานๆ หากเวลาเลิกงานมาถึง เพราะต้องไปทำงานอีกที่หนึ่ง ซึ่งตอนนี้การไปที่นั่นก็ติดอุปสรรคคือฝน
เวลาเดินหน้าไปเรื่อยๆ จวนจะถึงเวลาที่ควรออกไปจากที่แห่งนี้ได้แล้ว แต่ฝนไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตกเลย ซ้ำยังโหมกระหน่ำมากกว่าเมื่อครู่ เป็นเหตุให้เจ้าตัวเริ่มกังวลว่าอาจจะเข้างานสาย เท่าที่อีกฝ่ายยอมให้เธอได้ทำงานก็ถือว่าเมตตามากแล้ว จึงไม่อยากทำให้ใครต้องเดือดร้อน แต่เธอก็เอาชนะการฝ่าฝนไม่ได้ เพียงแค่คิด มือไม้ก็สั่น
ชีวิตเธออาจไม่ได้ดีนัก แต่มั่นใจได้ว่าไม่พร้อมจะตายไปในตอนนี้แน่ๆ
พนักงานหญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องครัวก่อนจะเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าคนที่ไม่ควรอยู่ที่นี่ ณ เวลานี้ยังนั่งอยู่ “อ้าว ยังไม่ไปที่ร้านอีกเหรออัส มันจะสองทุ่มครึ่งแล้วนะ”
คนถูกทักหันกลับไปมองตามเสียงก็เห็นว่าเป็นสุวพิชชา เนื่องจากอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอและยังพูดจาถูกคอ จึงมีสถานะต่างกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น เพราะหล่อนเป็นคนที่เธอสามารถเรียกได้เต็มปากว่าเป็นเพื่อน
อัสมาส่ายหน้าให้คนถาม ใบหน้าปนเปไปด้วยความเหนื่อยล้าและวิตก “ฝนตกหนักเกิน ไม่กล้าไป”
ได้ฟังเช่นนั้นสุวพิชชาก็ไม่ถามอะไรต่อ เพราะเข้าใจถึงเหตุผลของเพื่อนดี “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราวนไปส่งที่ร้านก็ได้ แล้วเสร็จงานก็วนกลับมาเอารถเอง โอเคไหม”
เพราะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ หากรอให้ฝนหยุดตกก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน สุดท้ายเธอจึงขึ้นรถของเพื่อนแล้วตรงไปยังร้านเหล้าซึ่งเป็นที่ทำงานช่วงกลางคืนของตน ที่นั่นอัสมามีหน้าที่เป็นนักร้อง ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะจึงทำให้ได้งานนี้ ทว่ามันไม่ได้ดีจนสามารถเป็นนักร้องมืออาชีพได้ น่าเสียดายทีเดียว เธออยากหาเงินได้เยอะๆ และอาชีพนั้นก็น่าจะตอบโจทย์ แต่ในเมื่อเป็นได้แค่นี้หล่อนก็ไม่เกี่ยง อะไรที่ขึ้นชื่อว่างาน อัสมาทำหมด
ไม่เลือกงานไม่ยากจน...ไม่จริง เธอทำงานเจ็ดวันต่อสัปดาห์ ทำตั้งแต่เช้าจนดึกดื่น เวลาพักมีไม่ถึงห้าชั่วโมง โหมงานหนักเช่นนี้มาสี่เดือนเต็มๆ แต่ไม่เคยเฉียดคำว่ารวย อันที่จริงเธอหนีคำว่าจนไม่ได้ด้วยซ้ำ สภาพร่างกายก็ซูบผอมไปปริยายเนื่องจากไม่ค่อยมีอะไรดีๆ ตกถึงท้อง วันหนึ่งได้กินข้าวแค่หนึ่งถึงสองมื้อ บางวันเครียดจนกินอะไรไม่ลง น้ำหนักจากห้าสิบเศษๆ ในวันนั้น วันนี้เหลือแค่สี่สิบต้นๆ เธอไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ แต่ชีวิตก็บีบเสียทุกทาง
อัสมาก้มมองหน้าจอมือถือที่มีข้อความจากผู้จัดการของร้าน ก่อนจะตอบไปสั้นๆ ว่าใกล้ถึงแล้ว หลังจากนั้นก็ปิดเปลือกตาลงเพื่อพักผ่อน แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่การได้พักถือเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต
“งีบไปเถอะ แต่ฝนไม่ตกทุกวันหรอก”
อัสมาไม่ได้ตอบอะไร แต่โลกก็ไม่อนุญาตให้เธอได้พักนานขนาดนั้น ให้หลังเพียงสิบนาทีก็มาถึงที่หมาย ผนวกกับใกล้ถึงเวลาเข้างาน เธอจึงตรงดิ่งไปด้านในทันทีหลังกล่าวคำขอบคุณกับเพื่อนเป็นที่เรียบร้อย นักร้องสาววัยยี่สิบหกรีบจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นกว่าเดิมก่อนจะรีบขึ้นไปบนเวทีที่บัดนี้ทุกคนอยู่ประจำตำแหน่งกันหมดแล้ว คนเด็กกว่าก้มหัวให้สมาชิกในวงอย่างนอบน้อมและได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา
ทุกคนล้วนรักและเอ็นดูอัสมาเหมือนน้องสาวด้วยรู้ว่าชีวิตของเธอต้องเจอกับเรื่องอะไรมาบ้าง อีกอย่างเจ้าตัวก็เป็นคนน่ารัก นิสัยดี มีหรือใครที่ได้รู้จักแล้วจะไม่รัก
“ยังคิดอยู่เลยว่าจะมาได้ไหม เพราะฝนตกหนักมาก” หนุ่มมือกลองเอ่ยถามขึ้น
“หนูติดรถวาดมาค่ะ”
“แล้วมอ’ไซค์เราล่ะ”
“อยู่ที่ร้าน เดี๋ยวเสร็จตรงนี้ค่อยกลับไปเอาค่ะ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนุ่มมือกลองก็อาสาที่จะพาน้องสาวนอกไส้ย้อนกลับไปที่ร้านอาหาร ด้านอัสมาที่คิดว่าจะต้องรบกวนใครสักคนอยู่แล้วจึงไม่ปฏิเสธ แต่เลือกที่จะก้มหัวพร้อมเอ่ยคำขอบคุณอย่างมีมารยาท “ขอบคุณนะคะพี่หล้า”
เพลงที่อัสมานำมาร้องก็มักจะเป็นเพลงที่ทุกๆ คนต่างคุ้นหู หลายๆ คนจึงร้องคลอไปด้วยได้ บ้างก็ร้องเพลงตามใจลูกค้า ไม่ว่าขอเพลงไหนมาก็จัดให้ไม่เคยเกี่ยง เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำตัวให้ถูกใจทุกคน เพื่อที่จะได้มีงานทำ หากลูกค้าชื่นชอบในเสียงและนิสัยใจคอของเธอ ก็จะมีลูกค้ามาที่ร้านเยอะขึ้น เธอเองก็จะได้มีงานทำไปตลอดรอดฝั่ง
ประมาณสี่ทุ่มครึ่งก็ถึงเวลาเลิกงาน อัสมาได้รับเงินจากการร้องเพลงเป็นรายวัน วันละหนึ่งพันไม่รวมทิปจากลูกค้า ส่วนทิปวันนี้ได้มาสี่ร้อย ถือว่าเป็นงานที่เงินดีมากทีเดียว น่าเสียดายที่หามาได้เท่าไรก็ไม่เคยพอกับรายจ่าย เพราะเช่นนั้นถึงหาเงินได้เยอะก็ไม่เคยตกถึงท้อง ตัวเธอถึงได้เหลือแค่นี้ บางทีลมพัดก็จะปลิวไปกับลมอยู่แล้ว
อัคภัทรไปส่งอัสมาที่ร้านอาหารอย่างที่ได้รับปากไว้ ฝนหยุดตกแล้ว หยุดไปตั้งแต่ช่วงสามทุ่ม การกลับบ้านของเธอจึงไม่มีอุปสรรคใดอีก และดีที่ร้านอาหารกับบ้านอยู่ไม่ไกลกันนักจึงใช้เวลาไม่นาน อันที่จริงเธอเลือกทำงานที่นี่เพราะระยะทาง ใช่ความชื่นชอบ แต่นาทีนี้ความชื่นชอบมาทีหลัง เธอแค่ต้องการงานเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวก็เท่านั้น
เป็นเวลาห้าทุ่มเศษๆ แต่ไฟในบ้านยังสว่างเป็นบางดวง เมื่อเปิดประตูเข้าไปในบ้านชั้นเดียวสภาพกลางเก่ากลางใหม่ก็เห็นว่าป้าติ๋มกำลังช่วยพลิกตัวให้แม่ที่นอนป่วยติดเตียงอยู่ เห็นดังนั้นเท้าของอัสมาก็ก้าวเข้าไปช่วยอย่างไม่ลังเล
“แม่ตื่นกลางดึกเหรอคะ”
ผู้มีหน้าที่ดูแลคนป่วยโดยการจ้างวานของอัสมาก็พยักหน้ารับ “มันเต็ม ป้าเพิ่งเปลี่ยนแพมเพิสให้เสร็จ ก็เลยพลิกตัวให้แก”
เธอพยักหน้ารับก่อนจะหันไปพูดคุยกับผู้เป็นแม่ แม้ว่าแม่จะไม่อาจตอบคำถามของเธอได้ มีแค่สายตาที่ทอดมองกันและกันเท่านั้น เธอคุยกับมารดาอยู่ฝ่ายเดียว ยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง ทำทีเป็นว่าชีวิตนี้มันเต็มไปด้วยความสนุก ก่อนจะส่งแม่เข้านอนแล้วตัวเองก็เข้าไปอาบน้ำเพื่อนอนพักผ่อนหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน และเมื่อได้อยู่คนเดียว ความเครียด ความเหนื่อยและความกดดันที่ได้แบกไว้ก็พังทลายลงมาเป็นน้ำตาจนเหมือนทำนบแตก ทว่ากลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาเพราะเธอกลั้นไว้สุดความสามารถ
จุดเปลี่ยนของชีวิตมันเริ่มจากวันนั้น วันที่ฝนตกหนัก พ่อและแม่เดินทางกลับจากไปทำธุระที่ต่างจังหวัด แต่เพราะถนนลื่นจึงพุ่งไปชนกับรถคันอื่นจนมีผู้เสียชีวิตถึงสามคน และเจ็บสาหัสอีกหนึ่ง นั่นคือแม่ของเธอที่ปัจจุบันนอนป่วยติดเตียงอยู่ หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือพ่อของเธอ อีกสองเป็นคู่กรณี และอุบัติเหตุครั้งนี้พ่อของเธอเป็นฝ่ายผิด การสูญเสียครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก
เธอที่ทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศอยู่กรุงเทพฯ จึงต้องบึ่งกลับบ้านเกิดทันทีที่มีสายโทร. เข้าจากทางอาสากู้ภัย เธอยังจำเสียงนั้นได้เหมือนอีกฝ่ายพูดกรอกหูอยู่ทุกวัน ประโยคที่บอกกับเธอว่าได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับพ่อและแม่ และแม้จะตกใจ แต่ด้วยเป็นพี่สาวคนโตจึงต้องประคองสติแล้วนั่งรถกลับบ้าน พยายามทำใจให้นิ่งที่สุดแล้วโทร. ไปแจ้งข่าวร้ายกับน้องสาวฝาแฝดอีกสองคนที่เรียนอยู่ที่พะเยา โอนเงินค่าเดินทางให้ทั้งสองกลับมายังนครนายกเพื่อมาช่วยกันจัดการเรื่องที่เกิดขึ้น
ค่าเสียหายทุกอย่างอยู่ในความรับผิดชอบของอัสมาในวัยเพียงยี่สิบห้าย่างยี่สิบหก ทั้งฝั่งตัวเองที่ต้องจัดการเรื่องงานศพของพ่อ และดูแลแม่ที่อาการสาหัส รวมถึงฝั่งคู่กรณีที่เธอต้องรับผิดชอบทุกอย่าง หลังขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นที่เรียบร้อยก็ได้ข้อสรุปว่าต้องจ่ายให้อีกฝ่ายเดือนละสองหมื่นบาทเป็นระยะเวลาสิบปี เพราะหากให้หาเงินก้อนเป็นล้านๆ มาจ่ายทีเดียว เธอก็อับจนหนทาง ไหนยังต้องจ่ายค่าจ้างให้คนดูแลแม่ที่นอนป่วยติดเตียงอีกเดือนละหนึ่งหมื่นแปด เพราะเงินถึง เขาถึงได้ย้ายมาอยู่ในบ้านเพื่อดูแลแม่ เธอจึงได้ปลีกตัวออกไปทำงาน ไม่เช่นนั้นแล้วก็คิดไม่ออก ยังไม่รวมค่าเทอมค่ากินค่าอยู่ของน้องสาวฝาแฝด ไหนยังค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก
ชีวิตที่เจอปัญหาหนักขนาดนี้จะไม่ให้เธอเครียดก็กระไรอยู่
หลังจากร้องจนหมดน้ำตาก็สำนึกได้ว่าควรรีบอาบน้ำและรีบเข้านอน เพราะหากยังลีลาสวมบทเป็นนางเอกเอ็มวีพรุ่งนี้เธอได้เป็นหมีแพนด้าแน่นอน ทุกวันนี้สภาพก็ดูไม่ค่อยดีอยู่แล้ว อย่าได้ทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้เลยยายอัสมาเอ๊ย!
✿✿✿✿✿✿✿
นิยายชุด ‘เธอ...’ ที่เกี่ยวข้องกัน
➊ เธอ...ที่ไม่น่าไปหลงรัก (จัด X ผักกาด)
↬Status :: จบแล้ว
➋ เธอ...ที่ไม่โปรดปราน (โปรด X อัสมา)
↬Status :: จบแล้ว
➌ เธอ...ที่ไม่เข้าตา (เฉื่อย X ก้าน)
↬Status :: จบแล้ว
➍ เธอ...ที่ไม่คิดจะรัก (อาร์ม X ตี้)
↬Status :: จบแล้ว *มี EBOOK*
➎ เธอ...ที่ใจมิใฝ่หา (ดิน X มิ้ม)
↬Status :: จบแล้ว *มี EBOOK*
➏ เธอ...ที่ต้องสงสัยว่าจะไม่ถูกรัก (ใบ X เอื้อ)
↬Status :: จบแล้ว *มี EBOOK*
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด