คนรักของเธอหน้าคล้ายอาจารย์สุดเนิร์ด แต่เพราะเวลาอยู่ด้วยกันเขาเร่าร้อน จนเธอคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยทั้งสองคนจะเป็นคนเดียวกัน ******* "พี่รักพีชนะ" "พีชก็รักพี่ที่สุดรักทั้งพี่วรรธและอาจารย์สุดเนิร์ด" "วันนี้อาจารย์สุดเนิร์ดจะทำให้รู้ว่าฉายามันก็แค่ภาพลวงตา"
บรรยากาศการเรียนการสอนวิชาเคมีของคณะวิทยาศาสตร์ภาควิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งค่อนข้างจะตึงเครียด อาจารย์ประจำวิชาเป็นชายหนุ่มตัวสูงใบหน้าเคร่งขรึม สวมแว่นตากรอบดำแต่งกายภูมิฐาน กางเกงสแล็คกับเสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเดียวกับกางเกงและยังสวมสูทพอดีตัวเข้าชุดกันอีกด้วย
เขาเป็นคนพูดน้อยและมีฉายาว่าอาจารย์สุดเนิร์ดเนื่องจากการแต่งตัวและการวางตัวของเขา ที่ไม่สนใจสังคมและคนรอบข้างมาทำงานก็อยู่แต่ในห้องส่วนของตัวเอง แม้แต่อาจารย์ในภาควิชาเดียวกันก็ไม่ค่อยสนิทกับใครเท่าไหร่ แต่ในเรื่องของการเรียนการสอนและประสบการณ์ที่ถ่ายทอดให้กับนักศึกษานั้นเขาไม่เป็นสองรองใครเพราะนอกจากจบการศึกษามาจากต่างประเทศและมีประสบการณ์ทางด้านการสอนและมีประสบการณ์ในการทำงานอื่นนอกจากเป็นอาจารย์เลยทำให้เขาได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกนักศึกษาชั้นปีสี่ที่ลงเรียนวิชานี้กับเขามีเกือบหกสิบคนซึ่งนอกจากนักศึกษาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางแล้วยังมีนักศึกษาวิชาเคมีและเภสัชฯมาลงทะเบียนเรียนอีกด้วย แต่ถึงแม้จะมีนักศึกษาเกินครึ่งร้อยทั้งห้องก็ไม่มีเสียงคุยกันเลย นักศึกษานั่งเงียบฟังอาจารย์หนุ่มอธิบายอย่างตั้งใจจนกระทั่งเหลือเวลาจนกระทั่งหมดเวลาเรียนในเวลาเที่ยงพอดี
“ผมหวังว่าตลอดภาคเรียนนี้ทุกคนจะตั้งใจเรียนเหมือนวันนี้ทุกวันนะครับ ขอให้ทุกคนเรียนด้วยกันอย่างมีความสุขนะ ใครมีปัญหาอะไรสงสัยทิ้งคำถามไว้ในอีเมลผมได้เลยนะครับ”
“อาจารย์ไม่มีไลน์เหรอคะ หนูว่าติดต่อกันทางไลน์น่าจะสะดวกกว่า”
“ผมไม่มีครับ”
“แล้วพวกไอจี Facebook ล่ะคะ อินบ็อกซ์ถามในนั้นก็ได้ ไม่เห็นต้องส่งอีเมลให้ยุ่งยาก อาจารย์เขาเอาคิวอาร์โค้ดขึ้นจอเลยก็ได้ค่ะพวกเราจะได้สแกน”
“ผมไม่มีอะไรพวกนั้นหรอกครับถ้าอยากติดต่อผมก็ติดต่อผ่านทางอีเมลหรือไม่ก็ไปหาผมที่คณะได้ เอาล่ะวันนี้ผมขอตัวก่อนยินดีที่ได้รู้จักนักศึกษาทุกคนนะครับ สวัสดีครับ”
อาจารย์ปัณณวรรธเดินออกจากห้องไปแล้วเสียงพูดคุยกันก็เซ็งแซ่ไปหมด
“เคยได้ยินแต่เขาว่าอาจารย์ปัณณวรรธเนิร์ดและโหดมากเพิ่งมาเจอตัวจริงวันนี้แหละ ดูท่าทางจะเนิร์ดจริงๆ ด้วย คิดเหมือนฉันไหมปูเป้” พิชญาภาหันไปถามดลยาหรือปูเป้เพื่อนสนิท
“เป้ก็คิดเหมือนพีชนั่นแหละ หน้าอาจารย์แกนิ่งมากเลยนะแต่เขาบอกกันว่าอาจารย์สอนดีสอนเข้าใจ”
“ใช่ ไอย์ก็ได้ยินมาเหมือนแบบนั้นเหมือนกัน” ไอริณหรือไอยวริญหันก็เห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อน
“ถ้าเรียนกับอาจารย์ทั้งเทอมแบบนี้สงสัยเซ็งแย่เลยเนอะ คนอะไรไม่เล่นไลน์ ไม่เล่นไอจี ไม่เล่น Facebook ติดต่อกันทีก็ต้องติดต่อทางอีเมลคร่ำครึเป็นบ้าเลย” พิชญาภาถอนหายใจ
“เราว่าพักเรื่องอาจารย์สุดเนิร์ดไปดีกว่า ไปหาข้าวกินกันดีไหม” ดลยาสาวหุ่นอวบชวนเพราะเลยเวลาอาหารกลางวันมาเกือบสิบนาทีแล้ว
“กินที่โรงอาหารหรือจะไปกินที่หน้ามหาลัยดีล่ะพีช”
“ไปร้านประจำของพวกเราหน้ามหาวิทยาลัยดีไหม เอารถพีชไปก็ได้ ไปคันเดียวกันจะได้ไม่ต้องแย่งกันจอดรถ”
“งั้นก็ได้”
พิชญาภา ดลยาและไอยวริญทั้งสามเป็นเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยมปลาย เวลาไปไหนพวกเธอก็จะไปด้วยกันทั้งสามคน
ดลยาหรือปูเป้อาศัยอยู่หอพักด้านหลังมหาวิทยาลัย ส่วนไอยวริญหรือไอริณนั้นขับรถมาเรียนเพราะบ้านของเธออยู่ไม่ไกลมากนักคุณสุดท้ายพิชญาภาหรือลูกพีชหญิงสาวอยู่คนเดียวที่คอนโดมิเนียมใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยเช่นกัน
ทั้งสามคนมาถึงร้านอาหารที่พวกเธอมักจะมาทานกันเป็นประจำ แต่พอมาถึงโต๊ะก็ไม่ว่างจึงคิดจะเปลี่ยนไปทานร้านอื่น
“เดี๋ยวสิพีชนั่งกับพวกเราก็ได้” เสียงหนึ่งเอ่ยเรียกทำให้ทั้งสามคนหันกลับมามอง แล้วก็เห็นว่าตอนนี้โต๊ะด้านริมสุดมีผู้ชายนั่งอยู่กันเพียงสองคนเธอและเพื่อนอีกสองคนจึงเดินเข้าไปสมทบด้วยนั่งด้วยกัน
“ขอบใจนะโจ้”
สรวิชญ์และเพื่อนอีกคนขยับเก้าอี้ให้กับสามสาวนั่ง ทั้งสองคนที่นั่งอยู่ก่อนหน้านั้นเป็นเพื่อนจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่รู้จักกันดีเพราะครั้งหนึ่งโจ้หรือสรวิชญ์เคยคบกับพิชญาภาอยู่เกือบปีแต่ก็ไปกันมีรอดเพราะไลฟ์สไตล์ต่างกันจึงลดสถานะเหลือแค่เพื่อน
เมื่อนั่งกันครบแล้วพิชญาภาและเพื่อนก็สั่งอาหารกับพนักงานจากนั้นก็หันมาคุยกับสรวิชญ์ที่ไม่เคยได้เจอกันเลยตั้งแต่ปิดเทอม
“สบายดีนะโจ้”
“อือ สบายดีพีชล่ะ”
“ก็เรื่อยๆ นะ”
“เปิดเทอมวันแรกเป็นไงบ้างล่ะ เทอมนี้เรียนกี่ตัว”
“เหลือเรียนอีกไม่กี่ตัวแล้วโจ้ล่ะ”
“เราก็เหลืออีกไม่กี่ตัว เทอมหน้าต้องไปฝึกงานที่โรงงานน่ะแล้วพีชกับเพื่อนต้องไปฝึกงานไหม”
“ก็ฝึกที่ห้องแล็บของมหาวิทยาลัยแล้วอาจารย์จะให้ไปฝึกที่โรงงานผลิตเครื่องสำอางน่ะ แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะได้ไปฝึกที่ไหนแล้ว โจ้ล่ะ”
“พวกเราน่าจะไปฝึกกันที่ระยอง แถวนั้นโรงงานอุตสาหกรรมเยอะ”
“แบบนี้ก็ดีเลยสิ อยู่ติดทะเลจะได้กินอาหารทะเลสด” ดลยาที่ชอบการทานอาหารทะเลก็พูดขึ้น
“เอาไว้ถึงเวลาที่เราไปฝึกงานจริงๆ พวกเธอก็ไประยองสิ จะได้เที่ยวและหาอาหารทะเลกิน”
“นี่ยังไม่ได้เริ่มไปฝึกงานคิดเรื่องเที่ยวกันแล้วเหรอโจ้”
“อีกหน่อยเราก็เรียนจบทำงานก็คงไม่มีเวลาเที่ยวแล้วแหละ แล้วไอริณจะไปด้วยไหมล่ะ”
“ก็ต้องไปสิ”
“นั่นไงตกลงเรานัดกันเที่ยวนะ”
“นี่เรานัดกันตอนไหนเหรอ” พิชญาภาหันไปถาม
“ก็เมื่อกี้ไงเอาเป็นว่าตกลงทั้งสามคนจะไปเที่ยวที่ระยองตอนที่เราไปฝึกงานตกลงไหม”
“ใครจะให้คำตอบได้นะโจ้ ถ้าเกิดพวกเราได้ไปฝึกงานที่อื่น ก็คงไม่มีเวลาไปเที่ยวหรอก” ดลยาแย้งขึ้นมา
“เอางี้มั้ยก่อนเรียนจบพวกเราชวนเพื่อนไปอีกเยอะๆ เที่ยวทิ้งท้ายก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงาน” เพื่อนอีกคนที่นั่งเงียบเสนอ
“พีชเห็นด้วยนะ นายกับโจ้จัดการเรื่องนี้ได้ไหมล่ะ”
“ได้ไม่มีปัญหาเราว่าจะชวนให้ครบทุกคณะเลย”
“อันนี้เป้เห็นด้วยนะไม่รู้ว่าเรียนจบไปแล้วต่างคนจะแยกย้ายกันไปที่ไหนบ้าง ก่อนจบเที่ยวกันให้เต็มที่ก็ดีเหมือนกันนะ”
เมื่อได้ข้อสรุปแล้วทั้งห้าคนก็เริ่มทานอาหารกลางวันซึ่งพนักงานของร้านเอามาเสิร์ฟพอดี
ความสัมพันธ์ระหว่างนายหัวหนุ่มและนักศึกษาสาว ที่ห่างกันทั้งอายุและระยะทางนายหัวหนุ่มจะทำให้เธอรักเขาได้อย่างที่เขารักเธอหรือไม่คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ในคืนที่โดนแฟนเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่เครื่องดื่ม เธอขอให้ชายคนหนึ่งช่วย พอเช้ามาถึงได้รู้ว่าเขาคือเพื่อนสมัยเรียนเขาขู่ให้เธอยอมเป็นคู่นอนของเขาโดยบอกว่ามีคลิปในคืนนั้นเธอยอมเพราะคำขู่แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่มีคลิปทุกอย่างระหว่างเขากับเธอก็จบแต่เขาไม่ยอมจบเพราะตอนนี้คิดกับเธอมากไปกว่าคู่นอนไปแล้ว
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
ใครจะคิดว่าคนที่เธอเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวในคืนนั้นจะกลายมาเป็นคนรักในวันนี้ แต่เขาไม่ใช่แค่คนรักธรรมดาเพราะเขาคือเจ้าของบริษัทที่เธอเพิ่งเข้าทำงานได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ แต่เธอต้องเก็บเป็นความลับก่อนจะผ่านช่วงทดลองงาน
เพราะชอบเธอเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนเธอความจำเสื่อม โดยมีตนเองเป็นต้นเหตุ หมออย่างเขาก็ไม่รีรอที่จะรับเธอไปดูแลในฐานะคนรัก
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"