ไม่ว่าท่านหรือข้า ก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ท่านอยู่ไหน ข้าอยู่นั่น ข้าจะตามหลอกหลอนท่านไม่สิ้นสุด ขอเลือดในกายข้าจงฟื้นคืนชีพ แล้วลากพวกมันลงไปนรกพร้อมกับข้า ข้าขอสาบาน.... คนอื่นย้อนเวลากลับมาแก้แค้นใหม่ แต่นางไม่ใช่ เพราะนางจะขึ้นจากหลุมแล้วลากพวกมันลงไปด้วยกัน ************* ปีศาจวิญญาณหันมองบั้นท้ายนาง เห็นรูปร่างกลมได้ส่วนก็รู้สึกพอใจกับสิ่งที่ตัวเองสร้างมา จากนั้นก็หายมายังด้านหน้าห้องหยิบน้ำชาขึ้นมาดื่ม “เจ้ามีแผนจะทำยังไงต่อ” เฟิ่งหวงหันมองคนถามนางสวมใส่เสื้อผ้าบางแล้วนั่งลงข้างกายเขา เสื้อผ้าบางไม่ได้ปกปิดหน้าอกนางเลย ส่วนเขาก็กำลังมองยอดอกอย่างมีความสุข “ก็แค่เป็นสตรีโง่งมอีกคนหนึ่งท่านว่าดีไหม” สตรีโง่งมคนเก่าหันมองเขา สีหน้าอีกฝ่ายเหมือนกำลังรอนางอธิบาย “ข้าจะทำทีเป็นบุตรสาวตระกูลเศรษฐีที่เข้ามาทำกิจการในเมืองนี้ จากนั้นก็ก่อไฟให้เพิ่มไปอีกเพื่อจะได้ให้แมลงเม่าบินเข้ากองไฟที่ข้าก่อเอาไว้” “ก็ดี แต่ดูเหมือนวิธีนี้จะช้าเกินไป ข้ามีอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้เจ้าหวังนั้นรีบกระโดดลงเข้ากองไฟ” เฟิ่งหวงกระพริบตาเพียงครั้งเดียวตัวนางก็มาอยู่ป่าแห่งหนึ่ง จากนั้นไม่นานก็มีเสียงม้าวิ่งมาด้วยความเร็ว ซ้ำร้ายคนที่ไม่ทันตั้งตัวก็ถูกปีศาจตนนั้นถีบ นางต้องใช้คำว่าถีบจริงๆ ร่างนางกระเด็นออกไปบนถนนเกือบจะถูกม้าเหยียบแล้วได้ตายอีกรอบ เสียงนางก็กรีดร้องด้วยความตกใจสมจริงเสียยิ่งกว่าอะไร สองมือยกขึ้นแล้วปิดตาตัวเองนอนคุดคู้อยู่บนพื้น เสียงม้าก็ดังก้องป่าจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงเบรกดัง มีเสียงฝีเท้าลงจากม้า เฟิ่งหวงลืมตาขึ้นมองฝีเท้าที่ตรงเข้ามา ส่วนอีกฝ่ายก็มองสตรีในชุดร่างบางสีแดงแล้วย่อตัวลงใช้เสื้อคลุมห่มกายสตรีที่เกือบจะไม่มีเสื้อ “แม่นางเจ้ามาทำอะไรกลางป่าเช่นนี้” เสียงนั้น!! เฟิ่งหวงมองคนตรงหน้าไม่ใช่ว่าปีศาจตนนั้นพานางไปหาหวังเหยี่ยนเฉินหรอกหรือ เหตุใดถึงกลายเป็นเทียนเหิงไปได้!! เอาสินางต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน มองเห็นปีศาจตนนั้นไกลๆ แล้วไม่เข้าใจ จากนั้นก็ถูกคนช่วยถามอีกครั้ง “ข้าถูกโจรปล้นชิงทรัพย์สิน จากนั้นพวกมันก็จับตัวข้าไป โชคดีที่ข้าหนีออกมาได้” นางทำเสียงน่าสงสารจับใจ น้ำตาโรยรินเหมือนจะเสียสติ เลยทำให้เทียนเหิงนึกถึงสตรีอีกคนที่จากไป “ถ้าเช่นนั้นก็ขึ้นรถม้าเถิด หากอยู่นานเกรงว่าโจรป่าพวกนั้นจะตามมาทัน” เฟิ่งหวงพยักหน้า จากนั้นก็ถูกเทียนเหิงประคองขึ้นรถม้าแล้วขับออกจากป่า เพื่อเข้าเมืองหลวง
เสียงกรีดร้องของคนในโลงศพดังลั่น ใช้มือตะเกียกตะกายกรีดไปยังโลงศพที่อยู่เบื้องหน้า น้ำตาไหลรินไม่ขาดสายวิงวอนให้คนที่กำลังใช้จอบตักดินฝังนางทั้งเป็นให้หยุดมือ
แต่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้คนอันชั่วร้ายเหล่านั้นต่างเร่งรีบช่วยกันฝังร่างที่ฟื้นขึ้นมาจากฤทธิ์ยาโดยไม่คาดคิด
ไหนบอกว่าตายแล้ว!! ไหนบอกว่าจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก!! ไม่ได้การ!! อย่างไรพวกเราก็ต้องฝังคนทั้งเป็น
หลินเฟยจิวกรีดร้อง ใช้มือทุบฝาโลงที่ว่า “ปล่อยข้า ใครก็ได้ปล่อยข้า ข้ายังไม่ตาย”
นางยังไม่ตายแต่ถูกฝังทั้งเป็น “พวกท่านโปรดปล่อยข้าไปได้โปรด” เสียงสะอื้นน้ำตาไหลริน พยายามใช้มือเคาะฝาโลง แต่ด้านบนก็ยังมีเสียงดินที่ฝังกลบลงมา
นางไปทำอะไรให้พวกเขา ที่ผ่านมานางทุ่มเทกับสกุลหวังอย่างสุดหัวใจ รักและเทิดทูนผู้เป็นสามี ไม่เคยทำอะไรผิดประเพณี แต่แล้วสิ่งที่นางได้รับ คือความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส พวกเขามอบความตายให้นาง ทั้งที่นางยังหายใจ
เจ็บจนแค้นอย่างสุดฝังลึกในใจนางอย่างที่ไม่เคยมีมา หากแต่นางก็ยังมีหวัง หวังเพียงว่าคนที่กำลังลงมือฝังนางจะหยุด
“ท่านพี่ ท่านเคยรักข้าบ้างหรือไม่”
เสียงของนางนั้น ข้างโลงได้ยินชัดเจน หากแต่คนที่ยืนมองอยู่กลับยกยิ้มเหยียดทางมุมปาก “รักอย่างนั้นหรือโง่งมสิ้นดี หากสกุลหลินไม่เป็นก้างขวางคอชิ้นโตของตระกูลข้า อย่าหวังว่าสตรีเช่นเจ้าจะได้แต่งเข้ามา”
ไม่เคยรักนาง ไม่เคยคิดแต่งงาน แต่หวังเพียงสมบัติของตระกูลนาง บัดนี้ตระกูลหลินสิ้นแล้ว บิดามารดานางต้องตายอย่างมีเงื่อนงำ คนทั้งตระกูลสูญสิ้น ล้วนเป็นฝีมือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีนาง
พวกท่านโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว เหตุใดจึงได้ทำกับนางเช่นนี้ มือที่ทุบฝาโลงหยุดนิ่ง ไม่ใช่เพราะหมดแรง แต่เพราะรู้ว่าถึงทุบไปอย่างไร พวกเขาก็ไม่เปิดมันให้นางแน่
จบสิ้นแล้วชีวิตในภพนี้ แต่นางก็ไม่อาจตายได้ อย่างไรนางก็ ไม่ตายและไม่อาจจะปล่อยให้พวกมันสงบสุขได้
สวรรค์หากท่านยังฟังข้าอยู่ ได้โปรดช่วยข้าแล้วข้าจะตอบแทนด้วยวิญญาณนี้
สวรรค์หากท่านช่วยข้า ชีวิตที่เหลือข้าจะตอบแทนด้วยการช่วยเหลือคนทุกข์ยาก
นรกหากท่านช่วยข้า ชีวิตที่เหลือข้าจะขายวิญญาณนี้ให้ท่าน แล้วลากคนชั่วพวกนั้นไปสังเวยให้พวกท่านในนรก รับรองว่าท่านจะ ไม่เหนื่อยที่จะต้องวุ่นวายกับพวกมันอีก
สวรรค์หรือนรกใครกันที่จะช่วยนาง?
เสียงด้านบนเหมือนจะเงียบไปแล้ว อากาศที่จะหายใจก็เช่นกัน นั่นหมายความว่านางกำลังจะตาย แต่ดูเหมือนสวรรค์จะยังลงโทษนาง ไม่พอ นางต้องทรมานกับการใกล้ตายถึงสามวันสามคืน
ต้องทรมานกับความหิว ต้องทนมองร่างตัวเองถูกหนูแทะกินทั้งที่ยังรู้สึกตัว ดวงตานางมองไปยังชิ้นเนื้อตัวเองที่หลุดร่อนไม่เหลือสภาพ มองพวกสัตว์ร้ายกัดกินเนื้อนางราวกับเป็นเนื้อสวรรค์
เลือดทุกหยดที่ไหลออกมา ตลอดจนกระดูกที่เหลือโผล่ให้เห็น ต่อตานาง
เรี่ยวแรงสุดท้ายของนาง มือนางมองไปยังกำไลหยกสีเหลืองตรงหน้า จำได้ว่าเป็นของขวัญชิ้นแรกที่บุรุษที่ชื่อว่า หวังเยี่ยนเฉิน มอบให้นาง
หลินเฟยจิวถอดมันออกมาจากนั้นก็วางไว้บนหน้าท้องนาง มือบางหยิบปิ่นปักผมจากนั้นก็ยกมือขึ้นกรีดข้อมือให้เลือดในกายนางหยดลงไปในกำไลหยก
จะนรกก็ช่าง จะปีศาจก็ได้ หรือจะเป็นวิญญาณชั่วร้ายที่สิงสถิตอยู่แถวนี้ นางไม่อยากเป็นคนดีแล้ว แต่อยากเป็นปีศาจที่จะลากพวกมัน ลงนรกไปอยู่พร้อมกับพวกท่าน
เสียงกรีดร้องดังขึ้นเสียงนั้นไม่ใช่นาง แต่เป็นวิญญาณปีศาจที่อยู่รอบตัวนาง ดวงตานางมองไปยังแสงสีทองที่ส่องเข้ามาจากนั้นฝาโลงที่ว่าก็ถูกเปิดออก
นางตายไปแล้วใช่ไหม ดวงตานางมองไปยังคนที่โน้มตัวลงมาบุรุษผู้นั้นไม่ใช่สามีนาง ไม่ใช่คนที่นางคาดหวังให้มาช่วย
แต่เป็นบุรุษที่แต่งกายด้วยชุดสีดำ ใบหน้าแต่งเติมด้วยเครื่องชาดสีแดงเหมือนสตรี หากแต่น้ำเสียงเป็นบุรุษ
“เจ้ายินยอมจะขายวิญญาณใช่หรือไม่”
หรือเขาจะเป็นปีศาจอย่างที่นางร้องขอ เสียงนางไม่อาจพูดออกมาได้ จึงได้แต่ตอบปีศาจตรงหน้าในใจ
“ข้ายอมแลกวิญญาณเพื่อแลกกับชีวิตของพวกมันที่ทำกับข้า”
เสียงหัวเราะของปีศาจตรงหน้านางดังขึ้น มือปีศาจนั้นยกคลี่พัดแล้วโบกเดินรอบโลงของนาง
“งานพวกนี้ข้าทำเองได้คงไม่ต้องรบกวนมนุษย์เช่นเจ้า แต่บังเอิญว่าข้าต้องการสิ่งหนึ่งจากเจ้าต่างหาก”
เขาหมายถึงสิ่งใด ฝีเท้าของเขาหยุดที่ปลายโลงของนาง มุมปากยกขึ้นแสยะยิ้มมีเลศนัย “ความแค้นกับชะตาของเจ้ามีราคา”
สิ้นคำมือเขาก็หุบพัดลงแสงสีทองก็สาดส่องมายังตัวนางอีกครั้งจากนั้นความเจ็บปวดที่นางมีก็หายไป...
หรือว่าชะตานี้จะไม่ยังจบลงแต่กำลังจะเริ่มขึ้นต่างหาก
พวกท่านห้ามตายก่อนเพราะข้ากำลังจะกลับมาแล้ว...
เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน
ชมดาวต้องทนรับสภาพสถานะเลขาของเจ้านายและสถานะบนเตียงมาตลอดห้าปี เธอคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะขอเธอแต่งงาน หากแต่ว่าเขากลับเห็นเธอเป็นเพียงสถานะรองเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งงาน ไม่ใช่กับเธอแต่เป็นคนอื่น เธอจะเลือกจำยอมอยู่ในความลับต่อไป หรือเลือกที่จะเดินออกมาพร้อมกับเด็กในท้อง!!
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
จ้าวเหม่ยซื้อนิยายมาอ่าน พระเอกของเรื่องเป็นทรราชที่ได้รับการยกย่อง บ้าไปแล้วเป็นทรราชจะดีได้อย่างไร ปากบ่นไปสมองก็ด่าไปดันถูกเครื่องทำน้ำอุ่นช็อตตายไป ฟื้นมาอีกทีก็กลายเป็นสนมของทรราชผู้นั้น!! งานนี้เธอจะสามารถกลับออกจากนิยายได้ไหม หรือว่าต้องอุ้มให้ทรราชผู้นั้นตลอดไป ไปลุ้นกันค่ะ ****************** จบดีมีความสุขค่ะ
นราเป็นเพียงหญิงสาวยากชน ต้องทำงานแลกเงินแต่เธอก็มีตุลย์แฟนหนุ่มที่มีฐานะดีคอยช่วยเหลือตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็มีคนที่ดีพร้อมไว้ข้างกายเช่นกัน เพราะรักจึงยอมเลิก เธอจึงเลือกที่จะหอบลูกในท้องจากไปเพื่อให้เขามีอนาคตที่ดีขึ้น ดีกว่าที่จะอยู่กับคนแบบเธอแม้หัวใจจะเจ็บปวดมากเท่าไรก็ตาม
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
ปลัมน์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อลูกครึ่ง ถูกแม่สั่งให้ทำยังไงก็ได้ ที่จะกัน พลอยหยก ออกไปจากชีวิตน้องชายของเขา แต่หารู้ไม่ว่า พอถึงคราวของตัวเอง เขากลับกันเธอออกจากชีวิตตัวเองไม่ได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ เขาไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยไม่มีเธอ ----------------------- “ปวดแผลจัง สงสัยต้องนอนพัก คุณล่ะทำอะไรตั้งหลายอย่างผมว่านอนพักก่อนดีกว่ามั้ย” เขาเอ่ยเมื่อพลอยหยกกลับจากเอาทุกอย่างไปล้างในทะเลเรียบร้อยแล้ว “ฉันยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ แต่คุณนอนก็ดี เดินไกลกว่าทุกวันแล้วค่ะ” พลอยหยกเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยเดินมาคอยประคองให้เขานอนลงได้อย่างสะดวก โดยมีเสื้อชูชีพสองตัววางซ้อนกันเป็นหมอนให้ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้วเมื่อจ้องมองใบหน้าของเขาที่หล่อเหลากว่าทุกวัน ยิ่งเขาจ้องมองมาหาด้วยแล้วก็ยิ่งเกิดอาการประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก “คุณนอนพักก่อนดีกว่านะแกว จะได้มีแรงไว้สู้กับการสอยมะพร้าวไง” มือข้างขวาของเขารั้งเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน แถมยังออกแรงกดบังคับให้เธอโน้มกายลงไปหาพื้นข้างๆ อย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะเจ็บแผลอยู่บ้างแขนข้างขวาของเขาก็ยังมีเรี่ยวแรงมาพอที่จะหยัดตัวให้นอนตะแคงไปหาเธอ ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้าที่เขาเดาว่าคงจะแดงเพราะความอายที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาเป็นแน่ และเขาก็ช่วยให้ห้วงเวลาที่เธอคงจะอึดอัดนั้นสั้นลงด้วยการก้มลงไปหาริมฝีปากนุ่มช้าๆ มอบจุมพิตอันแผ่วเบาให้เจ้าของริมฝีปากที่ไม่ได้ขัดขืนใดๆ อีกทั้งยังโอบกอดตัวเขาไว้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ใบหน้าสวยก็แหงนเงยขึ้นเพื่อให้เขาได้ดอมดมปลายคาง ลำคองามระหงอย่างสะดวก ก่อนจะกลับขึ้นไปดูดดื่มริมฝีปากอีกวาระ แขนข้างซ้ายที่เคยเจ็บบัดนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว และใช้มันยกสอดเข้าไปใต้เสื้อยืด แถมมันยังมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะถลกบราเซียออกจากสองบัวงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อไม่ใคร่ถนัดนักเขาเลยเลื่อนมือขวาลงมาช่วยด้วยการถลกเสื้อยืดขึ้น โดยเจ้าของเสื้อคอยให้ความร่วมมือพยุงกายขึ้นจากพื้น แล้วแอ่นอกให้กับอุ้งปากอุ่นของเขาได้ลิ้มลองอย่างไม่หวงแหน แม้ใจจะบอกตัวเองว่าต้องห้ามเขา แต่พลอยหยกก็ไม่อาจจะทำได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นสุขใจจนลืมทุกอย่างเพียงเพราะมีเขาอยู่แนบชิดขณะนี้ จนไม่อาจจะผลักไสเขาไปไหนได้นอกจากยินยอมพร้อมใจให้เขาได้เชยชมเพื่อชดเชยความสุขสมที่พึงมีด้วยกันนับตั้งแต่วันได้นอนแนบชิดกันโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ปลัมน์ก็ไม่คิดจะห้ามตัวเองด้วยเช่นกัน เขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ไม่มีแม้แต่ถุงยางอนามัยติดตัว และไม่แคร์ด้วยว่าเธอคืออดีตคนรักของหลานชาย ด้วยหัวใจไม่อาจจะหักห้ามความต้องการทั้งทางกายและทางใจได้อีกต่อไปแล้ว ผ่านมาหลายค่ำคืนที่เขามีสติล้วนแล้วแต่เป็นการกล้ำกลืนฝืนทนสุดๆ สำหรับเขาแล้ว แผงอกเปลือยทั้งสองบดเบียดแนบชิดกันเนิ่นนานกว่าปลัมน์จะค่อยๆ เลื่อนมือขวาลงไปหาหน้าท้องแบนราบจนพานพบตะขอกางเกงยีนส์ เขาใช้เวลาปลดไม่นานพอๆ กับการรูปซิปออก แล้วส่งนิ้วเรียวเข้าไปลูบไล้ผิวกายนุ่มนวลนอกแพนตี้สีหวานที่ชวนให้หลงใหลจนเขาปล่อยใจให้เตลิดเปิดเปิงไปเลยขั้นที่เกินจะควบคุมได้อีกต่อไป ไม่แตกต่างจากพลอยหยกนักที่เป็นสุขใจเกินคณากับการมีเขามาแนบชิดอยู่อย่างนี้ สองฝ่ามือนุ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างบึกบึนของเขาอย่างลืมตัว ริมฝีปากนุ่มก็จูบตอบเขาด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์ก็ตามที แต่การถูกเขามอบจุมพิตให้บ่อยครั้งก็คือเป็นความคุ้นเคยกับเขาในระดับหนึ่งแล้ว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกกับอุ้งปากอุ่นของเขาที่กำลังครอบครองปลายยอดชูช่อประหนึ่งรอให้เขามาเยี่ยมเยือนก็ไม่ปาน แผ่นหลังนุ่มแทบไม่ติดพื้นใบมะพร้าวเมื่อเธอเผลอแอ่นกายขึ้นเพื่อให้เขาได้ดูดดื่มอย่างสะดวก เธอรับรู้ได้ว่ากายเขาสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือบางเผลอออกแรงบีบตรงหัวไหล่ซ้ายของเขาเพราะความเจ็บร้าวไปทั่วกายจากความต้องการที่จะมีเขาเข้าครอบครอง “แกว! ตัวผมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเขาแหบพร่าอยู่ใกล้ๆ หู ก่อนจะซอกไซ้ปลายจมูกไปกับซอกคอระหงแล้วเลื่อนลงไปหาอกอวบอิ่ม อ้อยอิ่งอยู่กับปลายยอดอีกข้างอย่างหลงใหลอีกครั้ง พลอยหยกรับรู้ถึงความต้องการของเขาได้ตรงสะโพกผายตึงเมื่อความแข็งแกร่งของเขาส่งสัญญาณมาหาโดยไม่ต้องบอกกล่าวทางวาจาเพราะด้วยภาษาทางกายแจ้งอย่างชัดเจนกว่าเรียบร้อยแล้ว “คุณปลัมน์คะ!” พลอยหยกส่งเสียงติดๆ ขัดๆ ไปหาเขา สองมือบางก็พยายามจะดันอกเขาออกอย่างยากลำบาก “แกว! อย่าห้ามผมเลยนะ เราต่างก็ต้องการกันและกัน อย่าสนใจอะไรอีกเลยนะ” เขาส่งน้ำเสียงอ้อนวอนมาให้ขณะพรมจูบไปตามผิวกายขาวและกำลังเลื่อนต่ำลง พลอยหยกต้องพยายามสะกัดกลั้นความรู้สึกวาบหวานเอาไว้และพยายามใช้สองแขนหยัดกายให้ลุกขึ้น “คุณปลัมน์คะ! ฟังสิคะ” “บนเกาะนี้มีแค่เราสองคน ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเราหรือเปล่า และไม่แน่ว่าเราอาจจะต้องติดอยู่นี่ไปเป็นปีๆ ก็ได้ ถ้าถึงตอนนั้นเราก็คงไม่พ้นต้องทำเรื่องนี้ด้วยกันอยู่ดี แล้วจะให้ผมรออะไรอีกแกวคุณอยากให้ผมลงแดงตายเพราะต้องการคุณหรือไง” แต่ก็ถูกกายกำยำเขาทาบทับไว้ ส่วนมือขวาที่ใช้การได้ก็กำลังเลื่อนขอบกางเกงยีนส์ออกจากสะโพกผายตึง “แต่เสียงนั่นค่ะ คุณฟังสิคะ” แม้จะเป็นเสียงแห่งความช่วยเหลือกำลังมาถึง แต่ปลัมน์ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และอยากฆ่าคนที่กำลังมาด้วย เพราะมันไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย “คุณหูฝาดไปเอง ผมไม่เห็นได้ยินอะไรสักนิด” เขางับยอดบัวงามไว้ในอุ้งปากแล้วดูดดื่มอย่างหิวกระหายและควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่ “คุณปลัมน์คะ แต่เสียงนั่นใช่เสียงเครื่องบินหรือเปล่าคะ ฉันได้ยินค่ะ คุณฟังสิคะ”
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย