นางถูกขับไล่ออกจากสกุลสามี คนพวกนั้นให้เหตุผลว่านางเป็นตัวซวยทำให้สามีสอบไม่ผ่าน หากแต่ออกมาได้สามวัน เขากลับแขวนโคมไฟสีแดง รับเกี้ยวเจ้าสาวเข้าจวน!!
นางถูกขับไล่ออกจากสกุลสามี คนพวกนั้นให้เหตุผลว่านางเป็นตัวซวยทำให้สามีสอบไม่ผ่าน หากแต่ออกมาได้สามวัน เขากลับแขวนโคมไฟสีแดง รับเกี้ยวเจ้าสาวเข้าจวน!!
“แง ๆ”
ค่ำคืนนี้มีสายฝนโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า คล้ายกับว่าสวรรค์กำลังร่ำไห้ให้กับชะตากรรมของแม่นางผู้หนึ่งที่อุ้มลูกน้อยวัยสามเดือนไว้แนบอก เสียงร่ำไห้ของนางและลูกดังก้องแข่งกับเสียงของฝนที่กำลังตกพรำ ๆ
และแม่นางผู้นี้มีนามว่า หลิวเจียหรู ยืนอุ้มลูกน้อยอยู่หน้าประตูจวนสกุลจ้าว เนื้อตัวของนางและลูกเปียกโชกด้วยน้ำฝน ร่างกายสั่นเทาด้วยความเหน็บหนาว แต่ไม่มีสิ่งใดจะเจ็บปวดไปกว่าหัวใจของนางที่กำลังบอบช้ำ
“นางเป็นตัวซวย! หากมิใช่นาง ฮุยเผิงย่อมสอบผ่านอย่างแน่นอน!”
เสียงของ ฮูหยินเมิ่งเฟย ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมารดาของสามีเจียหรูนั้นเต็มไปด้วยโทสะ และดวงตาเต็มไปด้วยความชิงชัง เพราะนางปักใจว่าเป็นเพราะเจียหรู ที่ทำให้บุตรชายของนาง จ้าวฮุยเผิง ไม่สามารถสอบคัดเลือกขุนนางผ่านเสียที
“ใช่! นางเป็นกาฝาก ตั้งแต่แต่งนางเข้าจวนมาข้าก็มีแต่เคราะห์กรรม!”
จ้าวฮุยเผิงบุรุษผู้เป็นสามีเอ่ยเสริมด้วยสีหน้ารังเกียจพร้อมกับผลักร่างบางให้ออกไปให้ไกลอย่างไม่คิดใยดี ทั้งที่เจียหรูกำลังอุ้มเลือดเนื้อเชื้อไขแท้ ๆ ของเขาอยู่แนบอก
เจียเหม่ย แม่นางน้อยวัยสามเดือยผู้น่าสงสาร ที่ถูกท่านพ่อและท่านย่าไม่ยอมรับว่าเป็นสายเลือดของตระกูลจ้าวตั้งแต่ยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลกเลยด้วยซ้ำ
“เจ้าและลูกออกไปจากจวนของข้า! อย่าได้มาให้ข้าเห็นหน้าอีก!”
ปัง!
เสียงประตูจวนปิดดังสะท้อนอยู่ในหูของเจียหรู นางถูกขับไล่ออกมาเหมือนหมูเหมือนหมา แม้แต่ลูกน้อยก็ไม่ได้รับความเมตตาใด ๆ ความอดสูทำให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
สายฝนกระหน่ำลงมาจนเสื้อผ้าของหลิวเจียหรูและเจียเหม่ยเปียกชุ่มจนแทบหลุด นางอุ้มลูกแนบอกแน่นขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้หยดฝนเย็นเฉียบกระทบผิวบางของทารกน้อยไปมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าร่างกายของนางสั่นสะท้าน แต่ไม่อาจเทียบได้กับหัวใจที่แตกสลาย
“ได้โปรดเถิด…ข้าไม่มีที่ไป อาเหม่ยยังเล็กนัก เขาจะทนหนาวไม่ไหว ได้โปรดเมตตาพวกเราเพียงสักนิดด้วยเถิด”
เจียหรูเอื้อมมือไปเคาะประตูจวนพลางพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนสั่นเครือ แต่ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ กลับมาจากข้างในทั้งนั้น มีเพียงเสียงฟ้าร้องคำรามและเสียงหยดน้ำกระทบพื้นกับดิน
หลิวเจียหรูรู้ว่าบ่าวไพร่หลายคนยังคงยืนอยู่หลังประตู บางคนอาจกำลังฟังเสียงร้องขอของนาง แต่ก็ไม่มีผู้ใดคิดริอาจจะช่วยเหลือ
“ฮุยเผิง! ท่านเคยบอกว่าจะดูแลข้าตลอดไป ท่านจะปล่อยให้ข้ากับลูกตากฝนเช่นนี้หรือ ทำไมเจ้าใจร้ายใจดำได้ถึงเพียงนี้”
หลิวเจียหรูกัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะเคาะประตูแรงขึ้น แต่ด้านในก็ยังคงเงียบงัน เงียบจนหัวใจของนางปวดร้าวกว่าได้ยินคำด่าทอใด ๆ กลับมาเสียอีก
จนกระทั่งมีเสียงของฮูหยินเมิ่งเฟยดังขึ้นพร้อมเงาของนางที่ปรากฏบนระเบียงสูง ฮูหยินใหญ่ของจวนจ้องมองลงมา ดวงตาเต็มไปด้วยความเย็นชา
“หึ! สะใภ้ต่ำต้อยเช่นเจ้ากล้าดีอย่างไรถึงคิดอยากจะกลับเข้ามาในจวนของข้า! เจ้าเป็นตัวซวย! หากยังไม่ไปก็อย่ามาหาว่าข้าใจดำอำมหิตก็แล้วกัน!”
“ข้าไม่ใช่ตัวซวย! ข้าเป็นภรรยาของจ้าวฮุยเผิง เป็นแม่ของลูกเขา ทำไมท่านถึงใจร้ายกับข้าและลูกเช่นนี้!”
“เจ้ามันก็แค่หญิงไร้ค่าที่ข้าผิดพลาดให้เข้ามาในจวน!”
เสียงนี้มิใช่ของผู้ใดอื่น นอกจาก จ้าวฮุยเผิง บุรุษที่ครั้งหนึ่งเจียหรูเคยรักสุดหัวใจ บัดนี้เขากลับยืนกอดอกมองนางด้วยสายตารังเกียจ ท่าดอด้วยถ้อยคำที่เหยียบย่ำหัวใจดวงน้อย ๆ ของเจียหรูเป็นอย่างมาก
“เจ้าเป็นแค่ตัวถ่วง! เสียงร้องของเด็กคนนั้นทำให้ข้าสอบตก เจ้าจะชดใช้ให้ข้าได้หรือไม่!”
“แต่อาเหม่ยเป็นลูกของท่าน!”
“หึ! ลูกของข้าอย่างนั้นหรือ จำใส่หัวของเจ้าเอาไว้เลยนะ ข้าไม่ต้องการทั้งเจ้าและลูกของเจ้า!”
คำพูดนี้ราวกับฟ้าผ่าลงกลางใจของหลิวเจียหรู นางยืนนิ่ง มือเย็นเฉียบ ไม่อาจเชื่อได้ว่าบุรุษที่เคยอ่อนโยนกับนางจะพูดเช่นนี้กับเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองได้
“ถ้าเจ้ายังไม่ไป ข้าจะให้คนมาลากเจ้าออกไป!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิวเจียหรูก็รู้ว่าตัวเองหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง นางหมดหวังแล้วจริง ๆ ในตัวของจ้าวฮุยเผิง บุรุษที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทั้งสามีของนางและบิดาแท้ ๆ ของเจียเหม่ย
หลิวเจียหรูก้มลงมองลูกน้อยที่ตอนนี้ได้หลับใหลไปกับความอ่อนเพลียและความเหน็บหนาวท่ามกลางสายฝน เจียเหม่ยไม่รับรู้เลยว่าชีวิตของตัวเองถูกปฏิเสธตั้งแต่ยังไม่รู้ความ
มือของเจียหรูที่เคยวอนขอความเมตตา ตอนนี้กำแน่นจนเล็บจิกลงบนฝ่ามือ นางเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยน้ำตาเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชา
“ข้าจะไป…ข้าเองก็ไม่ต้องการอยู่ในจวนที่ไร้หัวใจเช่นนี้อีกต่อไปเช่นกัน ข้าจะไม่ร้องขอความเมตตาจากพวกท่านอีก”
พูดจบ หลิวเจียหรูก็กอดบุตรสาวเอาไว้แน่น ก่อนจะค่อย ๆ หันหลังให้กับประตูที่ปิดตาย และก้าวเดินออกไปในความมืดของคืนฝนตก
หลิวเจียหรูยังคงกอดเจียเหม่ยเอาไว้แนบอก ร่างกายของนางสั่นสะท้านทั้งจากความเหน็บหนาวและความหวาดหวั่น น้ำตาไหลรินปะปนไปกับสายฝนที่ยังคงตกหนักไม่หยุด ทารกน้อยในอ้อมแขนเริ่มกระสับกระส่ายอีกครั้ง ร่างเล็ก ๆ ที่ยังอ่อนแอทำให้นางรู้สึกหวาดกลัว
“อาเหม่ย…เจ้าอย่าเป็นอะไรนะ”
เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน
ชมดาวต้องทนรับสภาพสถานะเลขาของเจ้านายและสถานะบนเตียงมาตลอดห้าปี เธอคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะขอเธอแต่งงาน หากแต่ว่าเขากลับเห็นเธอเป็นเพียงสถานะรองเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งงาน ไม่ใช่กับเธอแต่เป็นคนอื่น เธอจะเลือกจำยอมอยู่ในความลับต่อไป หรือเลือกที่จะเดินออกมาพร้อมกับเด็กในท้อง!!
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
จ้าวเหม่ยซื้อนิยายมาอ่าน พระเอกของเรื่องเป็นทรราชที่ได้รับการยกย่อง บ้าไปแล้วเป็นทรราชจะดีได้อย่างไร ปากบ่นไปสมองก็ด่าไปดันถูกเครื่องทำน้ำอุ่นช็อตตายไป ฟื้นมาอีกทีก็กลายเป็นสนมของทรราชผู้นั้น!! งานนี้เธอจะสามารถกลับออกจากนิยายได้ไหม หรือว่าต้องอุ้มให้ทรราชผู้นั้นตลอดไป ไปลุ้นกันค่ะ ****************** จบดีมีความสุขค่ะ
นราเป็นเพียงหญิงสาวยากชน ต้องทำงานแลกเงินแต่เธอก็มีตุลย์แฟนหนุ่มที่มีฐานะดีคอยช่วยเหลือตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็มีคนที่ดีพร้อมไว้ข้างกายเช่นกัน เพราะรักจึงยอมเลิก เธอจึงเลือกที่จะหอบลูกในท้องจากไปเพื่อให้เขามีอนาคตที่ดีขึ้น ดีกว่าที่จะอยู่กับคนแบบเธอแม้หัวใจจะเจ็บปวดมากเท่าไรก็ตาม
ธัญญ์... ชายหนุ่มที่เจ็บช้ำกับความรักเมื่อครั้งอดีต วิธาดา... หญิงสาวร้ายกาจที่แอบรักเขาหมดหัวใจ หญิงสาวมองสบตากับเขาในระยะกระชั้นชิด หัวใจบอบบางเรียกร้องให้เธอเปิดเผยความจริงในส่วนลึกของจิตใจ “ฉันรักนายนะธัญญ์ รักนายมานานแล้ว” หล่อนคิดเอาไว้ไม่มีผิดว่าเขาจะต้องทำหน้าตกใจ แม้จะทำใจเอาไว้แล้ว แต่เธอรู้สึกเจ็บปวด มีผู้ชายหลายคนอยากสานสัมพันธ์กับเธอ แต่เธอก็สลัดทิ้ง แต่เขา... คนที่เธอแอบรัก เขากลับมีใจให้น้องสาวของเธอ เขากลับไม่ต้องการความรักของเธอ เขากลับตกใจและมองเธอเหมือนตัวประหลาด “เธอพูดอะไรของเธอ” ธัญญ์ทั้งมึนงง ทั้งตกใจในคำพูดของหญิงสาว “พูดความจริง นายคงไม่เคยรู้มาก่อน นายเป็นผู้ชายคนแรกของฉัน คืนนั้น...” เธอพูดอย่างหมดเปลือก เขาจะดูถูกยังไงก็ช่าง แต่เธอเป็นคนพูดตรงๆ เธออยากให้เขารับรู้และเข้าใจ “แต่ฉันไม่ได้รักเธอ ไม่แม้แต่จะคิด”
เรื่องของอารียาคุณครูสาวใหญ่วัย35กับหนุ่มน้อยลูกติดผัววัย19ที่ชื่อโจ โจเป็นเด็กช่างอาชีวะสายโหดและหื่นกาม เธอมักจะโดนลูกชายแอบลวนลามอยู่บ่อยๆ ทว่าเธอกลับเป็นสาวหัวโบราณที่ไม่กล้าแม้ปริปากบอกสามี ด้วยความกลัวว่าบ้านจะแตกสาแหรกขาดอารียาเลยปล่อยเลยตามเลย แค่คำพูดห้ามปรามทำให้คุณแม่พลาดท่าเสียทีให้ลูกเลี้ยงไปจนได้ เธอโดนโจจับกดจนเสร็จสมอารมณ์หมายไปหลายหนจนตัวเองก็ติดใจเสียดื้อๆ ในที่สุดอารียาก็ต้องจำใจมีผัวถึงสองคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน คนแรกคือผัวที่ถูกต้องตามกฏหมาย อีกคนคือลูกติดผัวที่หื่นเสียเหลือเกิน
หลังจากที่แฟนหนุ่มประสบอุบัติเหตุรถชนและหมดสติไปหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ฟื้นคืนความทรงจำขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาจำได้ว่ามีคนที่เขารักมายาวนาน ดังนั้น สิ่งแรกที่เซิ่งหลินชวนทำเมื่อฟื้นจากอาการโคม่า คือการขอเลิกกับฉินเวย “เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ฉันความจำเสื่อม ไม่ได้เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจทำจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราตัดขาดความสัมพันธ์ ความรักของเราก็ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย ” ฉินเวยไม่ได้ว่าอะไร บัญเอิญว่าการวิจัยยาใหม่ในห้องทดลองสำเร็จ ฉินเวยจึงขอเข้าร่วมการทดลองยา “เมื่อคุณรับประทานยาเม็ดนี้ ความทรงจำส่วนนี้จะถูกลบไปอย่างถาวร คุณฉินเวย คุณตัดสินใจดีแล้วหรือ?”
ด้วยภาระหนี้สินก้อนโตของบิดา ทำให้เคียงเดือนต้องวิ่งรอกรับงานทั่วราชอาณาจักรเพื่อหาเงิน นางแบบสาวต้องวิ่งรอกรับงานจนไปถึง เบเดน ดินแดนแห่งทะเลทราย หล่อนไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับคนที่ปากร้าย บ้าอำนาจ ชอบยัดเยียด จอมใส่ร้ายเป็นที่สุดอย่างนาคินเลย แค่เขาหลงคิดเข้าใจผิดว่าหล่อนเป็นคนใช้ ก็น่าโมโหพออยู่แล้ว... แต่เขาก็อาจหาญหาว่าหล่อนเป็นนางนกต่อของผู้ก่อการร้าย และยังจับหล่อนไปขังเพื่อสอบสวน... เขาชักจะทำกับหล่อนมากเกินไปแล้ว... เคียงเดือนจะไม่ขอทน !
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
© 2018-now MeghaBook
บนสุด