เกิดใหม่คราวนี้ ขอให้นายตามตื้อ ชาติที่แล้วเราตื้อนาย
เกิดใหม่คราวนี้ ขอให้นายตามตื้อ ชาติที่แล้วเราตื้อนาย
บอมบอมนั่งรถสุดหรูมาจากที่บ้าน เพื่อมาเซอร์ไพร์สพ่อกับแม่ ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์พันล้าน ทางไปบริษัทของพ่อบอมบอมต้องผ่านหน้า มหาวิทยาลัยพิพัฒนเมธา พอถึงทางม้าลายคนขับรถของบอมบอมก็หยุดให้นักศึกษาข้าม แต่แล้วมีรถสปอร์ตคันงามมาชนท้ายรถของบอมบอม จนตัวโยกไปข้างหน้าศีรษะชนพนังเบาะนั่ง
“คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”คนขับรถรีบหันมาดูบอมบอมทันที ทั้งที่ตัวเขาเองก็เจ็บศีรษะเหมือนกัน
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับลุง”บอมบอมหันหลังไปมองรถคันที่ชน
“ดูรถก็น่าจะเป็นลูกคนรวย”
“น่าจะใช่”คนขับรถจึงขับหาที่จอดรถข้างๆทางใกล้หน้ามหาวิทยาลัย
“คุณหนูรออยู่นี่นะ เดี๋ยวลุงจะลงไปเคลียร์กับเด็กหนุ่มคนนั้นซะหน่อย”คนขับรถมองที่กระจกเห็นหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับบอมบอมสองคน ลงมาดูที่หน้ารถสปอร์ตคันหรูหลายสิบล้าน
บอมบอมนั่งกุมหน้าผากเพราะยังเจ็บศีรษะอยู่ เพราะกระแทกค่อนข้างแรงพอสมควร บอมบอมหันหลังไปดูรถอีกครั้งก็เห็นสองหนุ่มออกลีลาเยอะพอสมควร บอมบอมจึงคิดว่าตัวเองต้องไปจัดการสองหนุ่มนั่น เขาจึงรีบลงจากรถถึงแม้ศีรษะเริ่มนูนขึ้น
“จะโวยวายอะไรกันหนักหนา”บอมบอมเดินมายืนข้างคนขับรถ และมองหน้ามิคกี้กับยูโรในชุดนักฟุตบอล บอมบอมคิดในใจว่าสองคนนี้ก็หล่อดีเหมือนกัน คนแรกหล่อขาวแต่ไม่ถึงกับตี๋ซะทีเดียว ส่วนอีกคนหล่อคมเข้มผิวสีน้ำตาล แต่การพูดจาทั้งสองหนุ่มฟังไม่รื่นหูเท่าที่ควร เมื่อได้ยินมิคกี้หนุ่มหล่อผิวขาวพูดประชด
“นึกว่าจะไม่ลงมาซะแล้วคุณหนู”มิคกี้พูดเสียงสอง
“ลงมาแล้วมีปัญหาอะไรก็ว่ามาคุณชาย”
“ก็ไม่อะไรหรอก เรียกประกันมาก็จบแล้ว”มิคกี้ทำท่ายียวนกวนประสาท
“แล้วทำไมต้องโวยวายพูดจาเสียงดังยังกับอยู่ในป่า”
“อ้าว นายไม่ลงมานี่เป็นเจ้าของรถ ก็ต้องมาเคลียร์เองซิ นั่งยังกับเป็นตุ๊กตาหน้ารถ แต่หน้าตายังกับปวดตด”มิคกี้ยังมีท่าทียียวนกวนอารมณ์เหมือนเดิม
“ใครเคลียร์ก็เหมือนกันนั่นแหละ และอีกอย่างนายผิดไม่ใช่เรา ตัวเองผิดยังไม่สำนึกทำตัวยังกับคนนอกโลก ไม่รู้ไหนเป็ดไหนไก่”
“ยอมรับว่าผิด แต่นายไม่คิดที่จะลงจากรถมาเคลียร์เลยเหรอ ทำตัวอย่างกับนกพึ่งเกิดใหม่”
“จะลงมาทำไมมลภาวะเป็นพิษ มีแต่เชื่อโรคที่มองไม่เห็นว่อนตามอากาศ”บอมบอมเริ่มโมโหฉุนเฉียวขึ้นทันที ถึงแม้มิคกี้จะหล่อเทพก็ตามที
“พอเถอะ นายเป็นลูกรัฐมนตรีเชียวนะ คนเริ่มมองแล้ว และอีกอย่างเราผิด ดูจากการแต่งตัวและรถ ก็น่าจะไม่ธรรมดา ก็คงเป็นลูกคนรวยเหมือนนายนั่นแหละ เราว่าพอเถอะอย่าไปต่อล้อต่อเถียงเลย”ยูโรกระซิบข้างๆหูของมิคกื้
“ก็ได้รอประกันมาก่อน”มิคกี้พูดขึ้นลอยๆ
“ก็แค่นี้แหละ”บอมบอมมองมิคกี้แวบหนึ่งแล้วเดินไปที่รถทันที
เมื่อบอมบอมขึ้นรถไปแล้วสองหนุ่มมองหน้ากัน ด้วยความเสียดายเพราะวันนี้นัดกันไว้ว่าจะไปเตะฟุตบอลจึงเป็นอันต้องยกเลิก ส่วนบอมบอมก็เช่นเดียวกันเปลื่ยนแผนที่จะไม่ไปหาพ่อแม่ที่บริษัท เขาจึงให้คนขับรถกลับไปที่บ้านตามเดิม
วันนี้เปิดเรียนวันแรกบอมบอมมาแต่เช้าด้วยความตื่นเต้น แต่ก็หมดความมั่นใจไปนิดนึงเพราะหน้าผากซ้ำเป็นจ้ำๆ เมื่อบอมบอมเข้ามาในมหาวิทยาลัยพัฒนเมธา เขาก็มองหาบิวเพื่อนรักที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่เตรียมอนุบาล จนถึงมหวิทยาลัยยังเรียนคณะบริหารธุรกิจเหมือนกันอีก
“บอมบอมเราอยู่นี่”เสียงบิวดังขึ้น และกวักมือเรียกบอมบอมตรงซุ้มที่นั่งสำหรับนักศึกษา
บอมบอมหันไปมองและอมยิ้ม เขาจึงรีบเดินไปหาบิวที่นั่งยิ้มอย่างอารมณ์ดี เมื่อบอมบอมไปถึงก็นั่งฝั่งตรงข้ามบิว
“หน้านายไปโดยอะไรมา”บิวมีสีหน้าที่ตกใจ
“มีอุบัติเหตุนิดหน่อยรถสปอร์ตมาชนท้ายหน้ามหาวิทยาลัย เมื่อวานนี้เองเรากำลังจะไปหาพ่อที่บริษัทพอดี ก็เลยไม่ได้ไปก็เพราะพวกลูกหลานไอโซนั่นแหละ”
“แล้วนายล่ะ”บิวอมยิ้ม
“อะไร”
“นายก็ไอโซไม่ใช่เหรอ”บิวอมยิ้ม
“ไม่ต้องมาพูดเลย นายก็เหมือนกันนั่นแหละ แต่พวกเรามีคุณภาพ ไม่ใช่อย่างสองคนนั้น รุ่นนี้ผลิตมาเยอะซะด้วย อย่าพูดถึงเลยอารมณ์เสีย”
“จร้า ไม่พูดแล้ว เมื่อกี้รุ่นพี่มาบอกว่า เดี๋ยวสายๆให้ไปประชุมต้อนรับน้องใหม่”
“เหรอ ตื่นเต้นจังเลยหนอ จะได้ใครเป็นพี่รหัสเนี่ย”
“เราเฉยๆนะ”
“จร้า”บอมบอมลากเสียงยาว
“อุ๊ย รุ่นพี่เรียกแล้วไปเร็วเข้า ไป ช้าเดี๋ยวโดนแกล้งหรอก พวกเราสองคนยิ่งน่ารักกันอยู่”บิวลุกขึ้นยืนเตรียมจะไปทันที
“น่ารักจริงเหรอ”บอมบอมยืนขึ้นมองบิว
“ก็ตอนเรียนมัธยมมีแต่คนบอกว่าเราสองคนน่ารัก”
“ตอนไหน”
“ตอนที่นายไม่อยู่ นายเลยไม่ได้ยิน ไปกันเถอะ”บิวรีบเดินนำหน้า
“เหรอ ตามนั้น เอาที่นายสะดวก” บอมบอมอดขำบิวไม่ได้
บอมบอมและบิวมาช้าได้นั่งหลังสุด แต่ก็ยังมีคนมาช้ากว่า ที่เดินมามาหลังสุดและนั่งลงข้างบอมบอม
“นายชื่ออะไร”มิคกี้หันหน้าไปถามบอมบอม
“บอมบอม”บอมบอมหันไปมองหน้ามิคกี้
“นาย”มิคกี้มองตาค้างด้วยความแปลกใจ ทำไมถึงมาเจอกันที่นี่ได้อีก
“นาย”บอมบอมอ้าปากค้าง บอมบอมไม่อยากที่จะเชื่อสายตาเลยว่าจะเจอมิคกี้
บอมบอมและมิคกี้มองหน้ากัน พอมิคกี้กี้ตั้งสติได้จึงหันหน้าไปทางอื่น ส่วนบอมบอมยังมองอยู่ แต่ปลายสายตาของมิคกี้เห็นบอมบอมมองตัวเขาอยู่ มิคกี้จึงหันหน้ากลับมามองกลับ
“มองทำไม ไม่เคยเห็นคนหล่อกว่าคนอื่นเหรอ”
“ไม่เห็นหล่อเลย ก็มีหู มีตา มีจมูก มีปาก มีหัว เหมือนกันกับคนอื่น”
“แต่หล่อกว่าใช่ไหม”
“หล่อปูน หล่อลื่น หล่อไม่เสร็จ”บอมบอมพูดจบหันหน้ากลับมามองบิว เพราะบิวกำลังสะกิดที่เอว
“สองคนนั่นคุยอะไรกัน อยากคุยกันออกมานี่เลย”
ก็อตรุ่นพี่ที่กำลังพูดอธิบายการใช้ชีวิตในมหาวิทยาให้น้องๆฟัง ซึ่งทุกคนก็ฟังอย่างตั้งใจ มีเพียงมิคกี้และบอมบอมเท่านั้นที่ไม่ได้ฟัง เพราะทั้งสองมัวแต่โต้เถียงกันด้วยเรื่องไร้สาระ
“เป็นเพราะนายทีเดียวตัวซวย”บอมบอมพูดขึ้น
“นายนั่นแหละไม่ต้องมาโทษเราเลย ตัวอัปมงคล”มิคกี้มองตาขวางใส่บอมบอม
“ทั้งคู่ออกมาเร็วๆ”ก็อตตะโกนอีกครั้ง
มิคกี้กับบอมบอมจึงจำเป็น ต้องเดินออกไปข้างหน้าเพื่อนๆร่วมคณะที่นั่งกันอยู่นับสิบ เมื่อไปถึงทั้งสองยืนนิ่งตัวเกร็งนิดหน่อย
“เดี๋ยวพี่จะถามนะ เมื่อสักครู่พี่พูดเรื่องอะไร ถ้าใครคนหนึ่งตอบได้ ก็เข้าไปข้างในได้เลยทั้งสองคน ถ้าตอบไม่ได้ต้องโดนลงโทษ โดยการเล่นเกมส์ที่พี่เตรียมไว้ให้พวกน้อง”ก็อตพูดจบก็หันมองสองหนุ่ม
“ไม่รู้ครับ”ทั้งมิคกี้และบอมบอมพูดพร้อมกัน เพราะทั้งสองไม่ได้ฟังมัวแต่โต้เถียงกัน
“ถ้าไม่ใครรู้ก็ไม่เป็นไร ถ้างั้นมาเล่นเกมส์เลย”ก็อตแอบมองบอมบอมแวบหนึ่ง เพราะเขารู้สึกถูกชะตากับบอมบอมอย่างบอกไม่ถูก
ก็อตแกะถุงขนมมันฝรั่งและหยิบออกมาหนึ่งชิ้น เขามองหน้ามิคกี้และบอมบอม ซึ่งทั้งสองอยากรู้ว่าก็อตจะให้ทำอะไร
“ในเมื่อคุยกันดีนักก็ต้องกินขนมนี้ชิ้นเดียวกัน”ก็อตพูดขึ้น
“แต่ว่าต้องรู้จักชื่อก่อน แนะนำตัวให้พี่ๆเพื่อนๆได้รู้จักหน่อย”
“ผมชื่อมิคกี้ครับ”มิคกี้พูดจบ เพื่อนๆปรบมือกันทุกคน โดยเฉพาะสองหนุ่มฝาแผด สุก้าแฝดผู้พี่ที่แสนดีและเรียบร้อย กับสุกี้แฝดผู้น้องที่นิสัยแรงกเอาแต่ใจ ทั้งสองมองมิคกี้ไม่วางสายตา เพราะความหล่อหุ่นดีเลยกระชากใจแฝด
“ผมชื่อบอมบอมครับ”บอมบอมยิ้มอย่างสดใจ จนก็อตไม่อยากจะให้เล่นเกมส์นี้แล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะพูดออกไปแล้ว ถ้าขืนยกเลิกคงจะโดนโห่อย่างแน่นอน เขาต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่อยากให้ทำเมื่อครู่
ก็อตมองมิคกี้ทีมองบอมบอมที สักพักเขาจึงตัดสินใจยื่นมันฝรั่งที่มือ ไว้ตรงริมฝีปากของบอมบอม มิคกี้ยืนนิ่งมองบอมบอมว่าจะกัดมันฝรั่งไว้ไหม ซึ่งบอมบอมไม่มีทางเลือกเขาจึงกัดปลายมันฝรั่ง
“เอาเลย เอาเลย เอาเลย”เสียงเพื่อนๆร่วมคณะบริหารธุรกิจตะโกนเชียร์สุดเสียง
ในเมื่อมิคกี้ไม่มีทางเลือก เขาจึงเดินเข้ามาใกล้บอมบอม สายตาของมิคกี้มองไปที่มันฝรั่งและเลยที่ไปที่สายตาของบอมบอม เขาอมยิ้มที่มุมปากและส่งสายตาที่เย้ยหยัน
“มองตากันอยู่นั่นแหละ”รุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้น
มิคกี้ประคองศีรษะด้านซ้ายของบอมบอมไว้ และโน้มเข้ามาหาใบหน้า ส่วนริมฝีปากเลื่อนใกล้เข้ามาที่มันฝรั่ง มิคกี้อ้าปากเล็กน้อยกัดมันฝรั่งไว้ จนปลายจมูกทั้งสองชนกัน ในส่วนของบอมบอมก็ใช้สองมือดันหน้าอกของมิคกี้ไว้
รักแล้วไม่กลัวเจ็บ แต่ต้องเก็บเป็นความลับ เพราะไม่สามารถเปิดเผยรักที่แท้จริงได้ จึงต้องฝืนทนกล่ำกลืนรักที่แสนรันทัด แต่ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ไม่กลัวที่จะได้รักกัน ถึงแม้จะเป็นรักที่เจ็บๆแต่จริงใจและห่วงใย
สุดท้ายเราก็รักกันไม่ได้ ถึงแม้ถ่ายไฟเก่าจะลุกขึ้นจนมอดไหม้ ไม่มีเหลือชิ้นดี
ชายหนุ่มผู้เดินตามความฝัน ซึ่งในระหว่างทางต้องพบเจออุปสรรคมากมาย กว่าจะเจอรักแท้ที่โหยหามานาน
เมื่อความเสียใจมันทำให้เธออยากลอง!!! "เรามาลอง...กันไหมค่ะ" ประโยคบ้าระห่ำที่ฉันพูดกับคนแปลกหน้าในคืนนั้น ฉันไม่นึกว่ามันจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิต... เส้นทางชะตาชีวิตที่เล่นตลก เพราะคำพูดเพียงประโยคเดียว... การโดนทรยศ และ การเจอกันโดยบัญเอิญ จนทำให้เกิดการเดิมพันท้าทายเล่นเกมบ้าๆ กันขึ้นมา โดยที่สาวเจ้าไม่รู้ตัวเลยว่า...มันจะนำพาให้ชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล!!! ------------------------------------------------------------------------------------------------ ...เธอจำต้องอยู่ต่อไป หรือ ตายเพื่อชดใช้เวรกรรม...ที่ตัวเองเป็นคนสร้างขึ้น ------------------------------------------------------------------------------------------------ เรื่องย่อ: เอลิซ : หญิงสาวแสนสวยที่แสนซื่อจนถูกคนที่รัก "หักหลัง" จนทำให้ชีวิตของเธอปัดเป๋ และเพียงเพราะเธอแค่ต้องการที่จะประชดชีวิตเท่านั้น แต่การกระทำนั้นก็ดันพาเธอหลงเข้าไปยังเกมสวาทที่เธอเป็นผู้เดิมพัน เซฟ : ชายหนุ่มผู้มั่งคั่งร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ เจ้าของธุรกิจทั้งขาวและเทา เบื้องหลังเขาคือมาเฟียอันดับหนึ่ง เขาที่โชคชะตานำพามาให้เจอกับหญิงสาวคนนั้นแถมยังถูกท้าทายจากเกมเดิมพันอันล่อแหลม และมีหรือที่ผู้ชายอย่างเขาจะยอมปฏิเสธ ฝากกดติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ⚠️คำเตือน⚠️ เนื้อเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป มีฉากติดเรท เนื้อหาไม่เหมาะสม ความรุนแรงเพศ และการใช้ภาษา ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น!!!
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
ในคืนแต่งงาน เธอไม่ได้พบเจ้าบ่าว ชายแปลกหน้าที่บุกเข้ามา ทำลายทุกอย่างของเธอ แม่สามีทั้งทุบตีและดูหมิ่น สามีเย็นชาและไร้ความปรานี อีกทั้งยังมีหญิงอื่นหัวเราะเยาะและอวดโอ้ เธอจึงถูกไล่ออกไปจากบ้าน ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นทนายความมือหนึ่ง ที่สามารถใช้เอกสารฟ้องร้องชายที่ทำลายชีวิตเธอได้ แต่เธอไม่รู้ว่าชายคนนั้นคือเศรษฐีที่มีชื่อเสียงในเมืองใหญ่ คนผู้นี้ผ่านผู้หญิงมาหลายคนแต่ไม่เคยผูกพันกับใครเลย มีความสะอาดอย่างมาก อารมณ์แปรปรวน เป็นคนดื้อรั้นและเผด็จการ บังคับให้เธอแต่งงานกับเขา ทำทุกวิธีทางที่เขาจะทำได้ เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม...
หลินหลั่งเยี่ยน เป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ จากรัฐ เป็นสาวอัจฉริยะที่ทุกคนในองค์กรอิจฉา มีความสามารถทางการต่อสู้สูงและไม่ยอมใคร แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวฝาแฝดของเธอเพียงลำพัง หลังจากผ่านไปเจ็ดปี ในที่สุดรัฐก็อนุมัติอิสรภาพให้เธอ หัวใจของหลินเหลิงเหยียนเต้นระรัวด้วยความคาดหวัง ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับบ้าน แต่เธอกลับต้องพบว่าป้าของเธอใช้ชีวิตอย่างหรูหราในบ้านพักของพ่อแม่ผู้ล่วงลับ ขณะที่น้องสาวของเธอเองกลับถูกบังคับให้นอนในคอกสุนัขและกินของเหลือ ทันใดนั้น เธอพลิกโต๊ะอาหารด้วยความโกรธ ป้าข่มขู่? เธอใช้วิธีการที่เด็ดขาดถอนตัวจากการร่วมมือ จนบริษัทของป้าพังทลายลงอย่างรวดเร็ว! การกลั่นแกล้งในโรงเรียน? เธอปลอมตัวเป็นน้องสาว เข้าไปในโรงเรียนและตัดสินใจสู้ไฟด้วยไฟ จากนั้นเธอก็ถ่ายทอดสดตอนพวกอันธพาลคุกเข่าร้องขอความเมตตา ถูกเยาะเย้ยเรื่องตัวตน? หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา“ใช่ ฉันก็แค่คนธรรมดา” ในวินาทีถัดมา ครอบครัวที่มีชื่อเสียงมายืนยันว่า“เธอคือลูกสาวคนโตของเรา!” สถาบันวิจัยแห่งชาติ “พวกเราคือเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ!” …… ซือฮานเฟิง ผู้เป็นผู้นำของตระกูลลึกลับ ไม่เคยปรากฏตัวในสายตาสาธารณชน ข่าวลือว่าเขาเป็นคนเยือกเย็นและไร้ความปรานี บางคนเคยเห็นเขายืนสูบบุหรี่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว และบางคนก็เห็นเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา แต่ต่อมากลับมีคนเห็นว่าเขาไล่ตามหลินหลั่งเยี่ยนจนถึงมุมกำแพง ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าและความไม่พอใจ “หลั่งเยี่ยน ฉันช่วยเธอจัดการพวกนั้นแล้ว เธอควรจะอยู่เป็นเพื่อนกับฉันบ้างไหม?” “เราไม่ใช่แค่พันธมิตรหรือ?” หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างงงงวย ซือฮานเฟิงถอนหายใจลึกๆ แล้วจูบเบาๆ บนริมฝีปากของเธอ “ตอนนี้ล่ะ”
ตอนเด็กถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยว แม่ถูกทำร้าย ฉือเนี่ยนสาบานว่าจะเอาทุกอย่างที่เป็นของตัวเองกลับคืนมา!ครั้งแรกที่กลับมาที่เมืองจิง เธอถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ไร้การศึกษาและสำส่อนหลายคนบอกว่าลู่เหยียนสือต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้มาสนใจฉือเนี่ยนแต่มีแค่ลู่เหยียนสือเท่านั้นที่รู้ ว่าเธอที่เขารักและทะนุถนอมนั้นมากความสามารถ สามารถสร้างความวุ่นวายให้ทั้งเมืองจิงได้ด้วยตัวคนเดียวเธอคือหมอมือหนึ่ง เธอคือแฮ็กเกอร์มือทอง และยังเป็นนักปรุงน้ำหอมชั้นยอดที่ได้รับการยกย่องจากบุคคลสำคัญคนภายนอก: "คุณลู่ คุณจะเอาใจภรรยาจนไม่มีขอบเขตเลยเหรอ ทำไมแม้แต่ประชุมยังต้องอุ้มเธอไว้ด้วย!"ลู่เหยียนสือ "ต้องเอาใจภรรยาถึงจะรุ่งเรืองเฟื่องฟู"ต่อมาความลับของเธอถูกเปิดเผย ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนหันมาชื่นชมและยกย่องเธอ...
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY