เกิดใหม่คราวนี้ ขอให้นายตามตื้อ ชาติที่แล้วเราตื้อนาย
เกิดใหม่คราวนี้ ขอให้นายตามตื้อ ชาติที่แล้วเราตื้อนาย
บอมบอมนั่งรถสุดหรูมาจากที่บ้าน เพื่อมาเซอร์ไพร์สพ่อกับแม่ ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์พันล้าน ทางไปบริษัทของพ่อบอมบอมต้องผ่านหน้า มหาวิทยาลัยพิพัฒนเมธา พอถึงทางม้าลายคนขับรถของบอมบอมก็หยุดให้นักศึกษาข้าม แต่แล้วมีรถสปอร์ตคันงามมาชนท้ายรถของบอมบอม จนตัวโยกไปข้างหน้าศีรษะชนพนังเบาะนั่ง
“คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”คนขับรถรีบหันมาดูบอมบอมทันที ทั้งที่ตัวเขาเองก็เจ็บศีรษะเหมือนกัน
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับลุง”บอมบอมหันหลังไปมองรถคันที่ชน
“ดูรถก็น่าจะเป็นลูกคนรวย”
“น่าจะใช่”คนขับรถจึงขับหาที่จอดรถข้างๆทางใกล้หน้ามหาวิทยาลัย
“คุณหนูรออยู่นี่นะ เดี๋ยวลุงจะลงไปเคลียร์กับเด็กหนุ่มคนนั้นซะหน่อย”คนขับรถมองที่กระจกเห็นหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับบอมบอมสองคน ลงมาดูที่หน้ารถสปอร์ตคันหรูหลายสิบล้าน
บอมบอมนั่งกุมหน้าผากเพราะยังเจ็บศีรษะอยู่ เพราะกระแทกค่อนข้างแรงพอสมควร บอมบอมหันหลังไปดูรถอีกครั้งก็เห็นสองหนุ่มออกลีลาเยอะพอสมควร บอมบอมจึงคิดว่าตัวเองต้องไปจัดการสองหนุ่มนั่น เขาจึงรีบลงจากรถถึงแม้ศีรษะเริ่มนูนขึ้น
“จะโวยวายอะไรกันหนักหนา”บอมบอมเดินมายืนข้างคนขับรถ และมองหน้ามิคกี้กับยูโรในชุดนักฟุตบอล บอมบอมคิดในใจว่าสองคนนี้ก็หล่อดีเหมือนกัน คนแรกหล่อขาวแต่ไม่ถึงกับตี๋ซะทีเดียว ส่วนอีกคนหล่อคมเข้มผิวสีน้ำตาล แต่การพูดจาทั้งสองหนุ่มฟังไม่รื่นหูเท่าที่ควร เมื่อได้ยินมิคกี้หนุ่มหล่อผิวขาวพูดประชด
“นึกว่าจะไม่ลงมาซะแล้วคุณหนู”มิคกี้พูดเสียงสอง
“ลงมาแล้วมีปัญหาอะไรก็ว่ามาคุณชาย”
“ก็ไม่อะไรหรอก เรียกประกันมาก็จบแล้ว”มิคกี้ทำท่ายียวนกวนประสาท
“แล้วทำไมต้องโวยวายพูดจาเสียงดังยังกับอยู่ในป่า”
“อ้าว นายไม่ลงมานี่เป็นเจ้าของรถ ก็ต้องมาเคลียร์เองซิ นั่งยังกับเป็นตุ๊กตาหน้ารถ แต่หน้าตายังกับปวดตด”มิคกี้ยังมีท่าทียียวนกวนอารมณ์เหมือนเดิม
“ใครเคลียร์ก็เหมือนกันนั่นแหละ และอีกอย่างนายผิดไม่ใช่เรา ตัวเองผิดยังไม่สำนึกทำตัวยังกับคนนอกโลก ไม่รู้ไหนเป็ดไหนไก่”
“ยอมรับว่าผิด แต่นายไม่คิดที่จะลงจากรถมาเคลียร์เลยเหรอ ทำตัวอย่างกับนกพึ่งเกิดใหม่”
“จะลงมาทำไมมลภาวะเป็นพิษ มีแต่เชื่อโรคที่มองไม่เห็นว่อนตามอากาศ”บอมบอมเริ่มโมโหฉุนเฉียวขึ้นทันที ถึงแม้มิคกี้จะหล่อเทพก็ตามที
“พอเถอะ นายเป็นลูกรัฐมนตรีเชียวนะ คนเริ่มมองแล้ว และอีกอย่างเราผิด ดูจากการแต่งตัวและรถ ก็น่าจะไม่ธรรมดา ก็คงเป็นลูกคนรวยเหมือนนายนั่นแหละ เราว่าพอเถอะอย่าไปต่อล้อต่อเถียงเลย”ยูโรกระซิบข้างๆหูของมิคกื้
“ก็ได้รอประกันมาก่อน”มิคกี้พูดขึ้นลอยๆ
“ก็แค่นี้แหละ”บอมบอมมองมิคกี้แวบหนึ่งแล้วเดินไปที่รถทันที
เมื่อบอมบอมขึ้นรถไปแล้วสองหนุ่มมองหน้ากัน ด้วยความเสียดายเพราะวันนี้นัดกันไว้ว่าจะไปเตะฟุตบอลจึงเป็นอันต้องยกเลิก ส่วนบอมบอมก็เช่นเดียวกันเปลื่ยนแผนที่จะไม่ไปหาพ่อแม่ที่บริษัท เขาจึงให้คนขับรถกลับไปที่บ้านตามเดิม
วันนี้เปิดเรียนวันแรกบอมบอมมาแต่เช้าด้วยความตื่นเต้น แต่ก็หมดความมั่นใจไปนิดนึงเพราะหน้าผากซ้ำเป็นจ้ำๆ เมื่อบอมบอมเข้ามาในมหาวิทยาลัยพัฒนเมธา เขาก็มองหาบิวเพื่อนรักที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่เตรียมอนุบาล จนถึงมหวิทยาลัยยังเรียนคณะบริหารธุรกิจเหมือนกันอีก
“บอมบอมเราอยู่นี่”เสียงบิวดังขึ้น และกวักมือเรียกบอมบอมตรงซุ้มที่นั่งสำหรับนักศึกษา
บอมบอมหันไปมองและอมยิ้ม เขาจึงรีบเดินไปหาบิวที่นั่งยิ้มอย่างอารมณ์ดี เมื่อบอมบอมไปถึงก็นั่งฝั่งตรงข้ามบิว
“หน้านายไปโดยอะไรมา”บิวมีสีหน้าที่ตกใจ
“มีอุบัติเหตุนิดหน่อยรถสปอร์ตมาชนท้ายหน้ามหาวิทยาลัย เมื่อวานนี้เองเรากำลังจะไปหาพ่อที่บริษัทพอดี ก็เลยไม่ได้ไปก็เพราะพวกลูกหลานไอโซนั่นแหละ”
“แล้วนายล่ะ”บิวอมยิ้ม
“อะไร”
“นายก็ไอโซไม่ใช่เหรอ”บิวอมยิ้ม
“ไม่ต้องมาพูดเลย นายก็เหมือนกันนั่นแหละ แต่พวกเรามีคุณภาพ ไม่ใช่อย่างสองคนนั้น รุ่นนี้ผลิตมาเยอะซะด้วย อย่าพูดถึงเลยอารมณ์เสีย”
“จร้า ไม่พูดแล้ว เมื่อกี้รุ่นพี่มาบอกว่า เดี๋ยวสายๆให้ไปประชุมต้อนรับน้องใหม่”
“เหรอ ตื่นเต้นจังเลยหนอ จะได้ใครเป็นพี่รหัสเนี่ย”
“เราเฉยๆนะ”
“จร้า”บอมบอมลากเสียงยาว
“อุ๊ย รุ่นพี่เรียกแล้วไปเร็วเข้า ไป ช้าเดี๋ยวโดนแกล้งหรอก พวกเราสองคนยิ่งน่ารักกันอยู่”บิวลุกขึ้นยืนเตรียมจะไปทันที
“น่ารักจริงเหรอ”บอมบอมยืนขึ้นมองบิว
“ก็ตอนเรียนมัธยมมีแต่คนบอกว่าเราสองคนน่ารัก”
“ตอนไหน”
“ตอนที่นายไม่อยู่ นายเลยไม่ได้ยิน ไปกันเถอะ”บิวรีบเดินนำหน้า
“เหรอ ตามนั้น เอาที่นายสะดวก” บอมบอมอดขำบิวไม่ได้
บอมบอมและบิวมาช้าได้นั่งหลังสุด แต่ก็ยังมีคนมาช้ากว่า ที่เดินมามาหลังสุดและนั่งลงข้างบอมบอม
“นายชื่ออะไร”มิคกี้หันหน้าไปถามบอมบอม
“บอมบอม”บอมบอมหันไปมองหน้ามิคกี้
“นาย”มิคกี้มองตาค้างด้วยความแปลกใจ ทำไมถึงมาเจอกันที่นี่ได้อีก
“นาย”บอมบอมอ้าปากค้าง บอมบอมไม่อยากที่จะเชื่อสายตาเลยว่าจะเจอมิคกี้
บอมบอมและมิคกี้มองหน้ากัน พอมิคกี้กี้ตั้งสติได้จึงหันหน้าไปทางอื่น ส่วนบอมบอมยังมองอยู่ แต่ปลายสายตาของมิคกี้เห็นบอมบอมมองตัวเขาอยู่ มิคกี้จึงหันหน้ากลับมามองกลับ
“มองทำไม ไม่เคยเห็นคนหล่อกว่าคนอื่นเหรอ”
“ไม่เห็นหล่อเลย ก็มีหู มีตา มีจมูก มีปาก มีหัว เหมือนกันกับคนอื่น”
“แต่หล่อกว่าใช่ไหม”
“หล่อปูน หล่อลื่น หล่อไม่เสร็จ”บอมบอมพูดจบหันหน้ากลับมามองบิว เพราะบิวกำลังสะกิดที่เอว
“สองคนนั่นคุยอะไรกัน อยากคุยกันออกมานี่เลย”
ก็อตรุ่นพี่ที่กำลังพูดอธิบายการใช้ชีวิตในมหาวิทยาให้น้องๆฟัง ซึ่งทุกคนก็ฟังอย่างตั้งใจ มีเพียงมิคกี้และบอมบอมเท่านั้นที่ไม่ได้ฟัง เพราะทั้งสองมัวแต่โต้เถียงกันด้วยเรื่องไร้สาระ
“เป็นเพราะนายทีเดียวตัวซวย”บอมบอมพูดขึ้น
“นายนั่นแหละไม่ต้องมาโทษเราเลย ตัวอัปมงคล”มิคกี้มองตาขวางใส่บอมบอม
“ทั้งคู่ออกมาเร็วๆ”ก็อตตะโกนอีกครั้ง
มิคกี้กับบอมบอมจึงจำเป็น ต้องเดินออกไปข้างหน้าเพื่อนๆร่วมคณะที่นั่งกันอยู่นับสิบ เมื่อไปถึงทั้งสองยืนนิ่งตัวเกร็งนิดหน่อย
“เดี๋ยวพี่จะถามนะ เมื่อสักครู่พี่พูดเรื่องอะไร ถ้าใครคนหนึ่งตอบได้ ก็เข้าไปข้างในได้เลยทั้งสองคน ถ้าตอบไม่ได้ต้องโดนลงโทษ โดยการเล่นเกมส์ที่พี่เตรียมไว้ให้พวกน้อง”ก็อตพูดจบก็หันมองสองหนุ่ม
“ไม่รู้ครับ”ทั้งมิคกี้และบอมบอมพูดพร้อมกัน เพราะทั้งสองไม่ได้ฟังมัวแต่โต้เถียงกัน
“ถ้าไม่ใครรู้ก็ไม่เป็นไร ถ้างั้นมาเล่นเกมส์เลย”ก็อตแอบมองบอมบอมแวบหนึ่ง เพราะเขารู้สึกถูกชะตากับบอมบอมอย่างบอกไม่ถูก
ก็อตแกะถุงขนมมันฝรั่งและหยิบออกมาหนึ่งชิ้น เขามองหน้ามิคกี้และบอมบอม ซึ่งทั้งสองอยากรู้ว่าก็อตจะให้ทำอะไร
“ในเมื่อคุยกันดีนักก็ต้องกินขนมนี้ชิ้นเดียวกัน”ก็อตพูดขึ้น
“แต่ว่าต้องรู้จักชื่อก่อน แนะนำตัวให้พี่ๆเพื่อนๆได้รู้จักหน่อย”
“ผมชื่อมิคกี้ครับ”มิคกี้พูดจบ เพื่อนๆปรบมือกันทุกคน โดยเฉพาะสองหนุ่มฝาแผด สุก้าแฝดผู้พี่ที่แสนดีและเรียบร้อย กับสุกี้แฝดผู้น้องที่นิสัยแรงกเอาแต่ใจ ทั้งสองมองมิคกี้ไม่วางสายตา เพราะความหล่อหุ่นดีเลยกระชากใจแฝด
“ผมชื่อบอมบอมครับ”บอมบอมยิ้มอย่างสดใจ จนก็อตไม่อยากจะให้เล่นเกมส์นี้แล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะพูดออกไปแล้ว ถ้าขืนยกเลิกคงจะโดนโห่อย่างแน่นอน เขาต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่อยากให้ทำเมื่อครู่
ก็อตมองมิคกี้ทีมองบอมบอมที สักพักเขาจึงตัดสินใจยื่นมันฝรั่งที่มือ ไว้ตรงริมฝีปากของบอมบอม มิคกี้ยืนนิ่งมองบอมบอมว่าจะกัดมันฝรั่งไว้ไหม ซึ่งบอมบอมไม่มีทางเลือกเขาจึงกัดปลายมันฝรั่ง
“เอาเลย เอาเลย เอาเลย”เสียงเพื่อนๆร่วมคณะบริหารธุรกิจตะโกนเชียร์สุดเสียง
ในเมื่อมิคกี้ไม่มีทางเลือก เขาจึงเดินเข้ามาใกล้บอมบอม สายตาของมิคกี้มองไปที่มันฝรั่งและเลยที่ไปที่สายตาของบอมบอม เขาอมยิ้มที่มุมปากและส่งสายตาที่เย้ยหยัน
“มองตากันอยู่นั่นแหละ”รุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้น
มิคกี้ประคองศีรษะด้านซ้ายของบอมบอมไว้ และโน้มเข้ามาหาใบหน้า ส่วนริมฝีปากเลื่อนใกล้เข้ามาที่มันฝรั่ง มิคกี้อ้าปากเล็กน้อยกัดมันฝรั่งไว้ จนปลายจมูกทั้งสองชนกัน ในส่วนของบอมบอมก็ใช้สองมือดันหน้าอกของมิคกี้ไว้
รักแล้วไม่กลัวเจ็บ แต่ต้องเก็บเป็นความลับ เพราะไม่สามารถเปิดเผยรักที่แท้จริงได้ จึงต้องฝืนทนกล่ำกลืนรักที่แสนรันทัด แต่ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ไม่กลัวที่จะได้รักกัน ถึงแม้จะเป็นรักที่เจ็บๆแต่จริงใจและห่วงใย
สุดท้ายเราก็รักกันไม่ได้ ถึงแม้ถ่ายไฟเก่าจะลุกขึ้นจนมอดไหม้ ไม่มีเหลือชิ้นดี
ชายหนุ่มผู้เดินตามความฝัน ซึ่งในระหว่างทางต้องพบเจออุปสรรคมากมาย กว่าจะเจอรักแท้ที่โหยหามานาน
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
เมื่อความสัมพันธ์ลับๆ จบลง เพราะเขาต้องไปแต่งงานมีครอบครัว หล่อนจึงต้องหอบใจช้ำๆ และอีกชีวิตหนึ่งในครรภ์เดินจากไปอย่างไม่มีทางเลือก “ทำไมโลกมันกลมแบบนี้คะคุณภูมิ... ทำไมเราต้องเจอกันอีกด้วยคะ... ฮือออ” มือเล็กยกขึ้นปิดหน้าร่ำไห้ปิ่มจะขาดใจ ร่างกายสั่นเทิ้มน่าเวทนา การได้พบเจอกับภูมิระพีอีกครั้ง มันยิ่งทำให้แผลใจหัวใจขยายใหญ่มากยิ่งขึ้น นี่หล่อนจะทำยังไงดี... จะรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ยังไง แล้วไหนจะยังลูกชายอีก หากภูมิระพีรู้ว่าหล่อนมีลูกของเขาติดท้องมา เขาอาจจะทำยังไง จะแย่งลูกไปจากหล่อนไหม
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น
© 2018-now MeghaBook
บนสุด