รักแล้วไม่กลัวเจ็บ แต่ต้องเก็บเป็นความลับ เพราะไม่สามารถเปิดเผยรักที่แท้จริงได้ จึงต้องฝืนทนกล่ำกลืนรักที่แสนรันทัด แต่ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ไม่กลัวที่จะได้รักกัน ถึงแม้จะเป็นรักที่เจ็บๆแต่จริงใจและห่วงใย
รักแล้วไม่กลัวเจ็บ แต่ต้องเก็บเป็นความลับ เพราะไม่สามารถเปิดเผยรักที่แท้จริงได้ จึงต้องฝืนทนกล่ำกลืนรักที่แสนรันทัด แต่ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ไม่กลัวที่จะได้รักกัน ถึงแม้จะเป็นรักที่เจ็บๆแต่จริงใจและห่วงใย
ชายหนุ่มร่างบึกบึนนอนแน่นิ่งที่ชายหาดอันขาวสะอาดดูงามตา คลื่นได้ซัดกระทบร่างครั้งแล้วครั้งเล่า แสงตะวันได้สาดส่องทั่วชายหาดและเรือนร่างของชายหนุ่มผิวสีแทน คลื่นซัดลูกแล้วลูกเล่าแต่ยังไม่มีทีท่าว่าชายหนุ่มจะรู้สึกตัว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชายหนุ่มนั้นได้รู้สึกขึ้นมา นั่นคือแสงแดดอันร้อนแรงที่แยงตา จนทำให้ชายหนุ่มเริ่มลืมตาขึ้นและขยับตัวอย่างช้าๆ
เมฆหนุ่มหล่อลูกน้ำเค็มลุกขึ้นนั่งและครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เพราะยังมึนงงอยู่ว่ามานอนตรงชายหาดได้อย่างไร เมฆพยายามทบทวนความจำที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานเท่าไรก็จำได้ในทันที ในวันเกิดเหตุนั้นออกเรือหาปลาอยู่กลางทะเล จูจู่ก็เกิดพายุโหมกระหน่ำโดยไม่มีทีท่าว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน ฝนฟ้าคะนองคลื่นซัดกระหน่ำเรือหาปลาแตกเป็นเสี่ยงๆ จนร่างของเมฆจมลงสู่ก้นทะเล เมฆพยามตะเกียดตะกายขึ้นเหนือน้ำแต่ไม่เป็นผล หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
เมฆครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งเมื่อไม่สามารถจำอะไรได้ เขาจึงลุกขึ้นยืนและเดินโซซัดโซเซลัดเลาะชายหาดไปเรื่อยๆ ได้เจอชาวบ้านหลายคนที่มองดูเขาอย่างกับสัตว์ประหลาด และถามเป็นเสียงเดียวกัน
“มึงรอดมาได้อย่างไร”
“กูไม่รู้ พอกูตื่นขึ้นมาก็อยู่บนชายหาดนี่แล้ว”เมฆตอบอย่างมึนงงและสับสนตัวเอง ในส่วนลึกเมฆก็คิดอย่างเดียวกับชาวบ้าน เขารอดมาได้อย่างไรเพราะเรือล่มอยู่กลางทะเล
“มึงโชคดีว่ะ มีพระดีอะไรหรือเปล่า”ชายหนุ่มคนเดิมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ไม่มี”เมฆส่ายหัว
“เอ่อ ถ้าอย่างงั้นถือว่าดวงยังไม่ถึงฆาต”ชายหนุ่มพูดขึ้นและได้เดินจากไป
เมฆพยายามที่จะไม่พูดและโต้ตอบกับชาวบ้านมากนัก เพราะยังจำเรื่องราวหลังจากเรือล่มไม่ได้ ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ไม่สามารถพูดอะไรได้นอกจากคำว่าไม่รู้เหมือนกัน เมฆจีงรีบเดินกลับบ้านอย่างโดยเร็ว เพราะเมฆเป็นห่วงพ่อแม่และน้องสาวสุดที่รัก
เมฆใช้เวลาเดินมาที่บ้านไม่นานนัก ก็มาถึงบ้านที่เป็นกระท่อมหลังเล็กๆ เมฆยืนนิ่งมองเข้าไปภายในกระท่อมหลังเล็กของครอบครัวเขา เมื่อเมฆได้เห็นพ่อแม่และน้องสาว จึงรีบเดินเข้าไปในทันทีพร้อมตะโกนเรียกจนเสียงดังกังวาน
“พ่อ แม่ ผมกลับมาแล้ว”
สมบุญกับกุหลาบซึ่งเป็นพ่อแม่ของเมฆ และอีกคนหนึ่งคือฟ้าน้องสาวสุดที่รักต่างหันหน้ามาพร้อมกัน ทุกคนต่างตกตะลึงและดีใจแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน
“ลูกแม่มึงรอดมาได้อย่างไง”กุหลาบถามขึ้นพร้อมกับเช็ดน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ผมก็ไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ตรงชายหาดแล้ว”
“แล้วมึงอยู่บนชายหาดได้อย่างไรว่ะ มีแต่คนบอกว่ามึงตายไปแล้ว แต่เมื่อมึงกลับมาได้พ่อก็ดีใจว่ะ”สมบุญพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไห้ไหลออกมา
“ผมไม่รู้จริงๆ”เมฆส่ายหน้าและนั่งลงข้างๆน้องสาวแสนสวย
เมฆพยายามย้อนนึกเหตุการณ์อีกครั้งหลังจากเรือแตก ก็พอจำได้ลางๆว่า เห็นหญิงสาวผมยาวแวกว่ายน้ำอยู่ใกล้ๆ พอหลังจากนั้นเมฆก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
“พี่เมฆรู้ไหมว่าฟ้าภาวนาบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พี่รอดปลอดภัยด้วยแหละ”
“ขอบใจฟ้ามากนะ อาจเป็นแรงอธิฐานของน้องก็ได้”เมฆยิ้มให้ฟ้าน้องสาวอย่างเบิกกว้าง
“เอาเถอะ ไหนๆมึงก็ปลอดภัยแล้ว อย่าไปพูดอะไรให้มากความ”กุหลาบเอ่ยขึ้นและจับมือเมฆไว้แน่น
“พี่เมฆรู้ไหมว่าพี่หวานเป็นห่วงพี่มากไม่เป็นอันกินอันนอนเลย”ฟ้ามองตาพี่ชาย เพราะเธอก็อยากรู้ว่าเมฆจะรู้สึกได้อย่างไร เมื่อพูดถึงคนรักของพี่ชาย
เมฆอมยิ้มและไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะรู้สึกดีใจอย่างมากที่หวานคนรักได้เป็นห่วงเป็นใยเขาอย่างมากตามคำบอกของฟ้า
“เมฆ เมฆ เมฆ”หวานตะโกนพร้อมวิ่งมาอย่างรวดเร็วจนเกือบล้ม เมื่อเธอมาถึงตรงร่างของเมฆ แต่หวานก็ไม่กล้าเข้าไปกอดเพราะสมบุญกับกุหลาบนั่งมองอยู่ เธอจึงรู้สึกเกรงใจและยังมีความอายที่จะกระทำเช่นนั้น
“หวานดีใจมากเลยที่เมฆกลับมาอย่างปลอดภัย”หวานนั่งลงข้างๆใกล้ๆเมฆ
“หวานรู้ได้อย่างไงว่าเมฆกลับมาแล้ว”เมฆถามด้วยความสงสัย
“ข่าวของเมฆดังไปทั่วหมด มีแต่คนพูดถึงหวานจึงมาหาเมฆเพื่อความแน่ใจไง”
“ข่าวไวจังเลยนะ ต่อไปพี่เมฆต้องเตรียมตอบคำถามชาวบ้านแล้วแหละว่ารอดมาได้อย่างไง”ฟ้าพูดขึ้น
“หวานก็มัวแต่ดีใจ จนลืมถามเมฆไปเลยว่ารอดมาได้อย่างไร”
“เมฆก็ไม่รู้พอตื่นขึ้นมาก็นอนอยู่บนชายหาดแล้วนั่นแหละ”
“แปลกนะ สงสัยคลื่นคงซัดเมฆเข้าฝั่งมาอย่างแน่นอน”หวานมองหน้าเมฆและยิ้มอย่างสุขใจ
“อย่าไปพูดถึงมันเลย เพราะเมฆคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก”เมฆถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่เขาก็ยังไม่วายคิดถึงหญิงผมยาวที่แวกว่ายอยู่กลางทะเล เมฆยังสงสัยไม่หายว่าคนหรือผี หรือสิ่งใดที่อาศัยอยู่ในท้องเทะเลอันแสนกว้าง
“ถ้างั้นพวกเอ็งคุยกันไปก่อนนะเดี๋ยวแม่จะไปทำกับข้าวให้กิน”กุหลาบพูดจบก็ลุกขึ้นออกไปนอกบ้านเพื่อก่อไฟทำกับข้าวให้ลูกชายได้กิน
“พี่สองคนคุยกันไปก่อนนะ ฟ้าจะไปบอกข่าวดีกับพี่มะขาม”เมื่อฟ้าพูดจบเธอก็รีบวิ่งออกจากบ้านทันที เพื่อไปหามะขามและบอกกล่าวเรื่องราวของเมฆที่รอดชีวิตมาจากท้องทะเล
เมื่อฟ้าวิ่งออกจากบ้านไปจนสุดลูกตา เมฆจึงชวนหวานเดินไปยังริมทะเลในมุมที่เขาทั้งสองพบหาพูดคุยกันเป็นประจำ สาเหตุที่ทั้งสองต้องคอยหลบอยู่ในมุมเมื่อพบเจอกัน เพราะพ่อของหวานกับพ่อของเมฆไม่ถูกกันเป็นคู่อริตั้งแต่หนุ่มๆ
ทั้งคู่เดินได้ลัดเลาะริมชายหาดและเดินไปจนห่างไกลสายตาผู้คน เมื่อถึงในที่แห่งรักในมุมสงบ สองร่างได้นั่งเคียงคู่กันตรงซอกหินอันเงียบสงบ มีเพียงเสียงคลื่นที่ซัดกระทบหินดังเป็นระยะๆ ดั่งเสียงเพลงอันโรแมนติกท่ามกลางธรรมชาติ
เมฆหันหน้ามามองหวานด้วยสายตาอันหยาดเยิ้มเป็นประกาย ด้วยความคิดถึงและรักใคร่ในตัวหวานอย่างเหลือล้น เขาจึงเอื่อมมือไปกุมมือของหวานไว้อย่างหลวมๆ พร้อมกับยกขึ้นมาบริเวณใกล้ริมฝีปาก จนทำให้หวานรู้สึกเขินอายแต่ก็ยินดีและเต็มใจ
“ไม่เอาน่าเมฆเดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้าจะทำไง”หวานเหล่สายตามองเมฆแล้วค่อยๆดึงมือกลับ
“เมฆรักหวานมากเลยนะ”เมฆดึงมือหวานกลับมาใหม่แล้วกระทำตามความคิดเดิม เขาค่อยๆโน้มริมฝีปากลงมาจุมพิตที่หลังมือของหวาน
“อย่าอายผีสางบ้าง”หวานพยายามผลักร่างของเมฆให้ออกห่าง ในขณะเดียวกันเมฆก็ไม่ยอมแพ้โอบกอดหวานไว้ในวงแขนอย่างรวดเร็ว หวานพยายามออกแรงดิ้นนิดหน่อยเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดของเมฆแต่ไม่เป็นผล หวานจึงจำยอมด้วยใจจริงให้เมฆโอบกอดอยู่อย่างนั้น ยิ่งเมฆกอดนานเท่าไรยิ่งทำให้หวานคล้อยตามอารมณ์ ที่เมฆส่งมาให้อย่างเหลือล้นไม่มีวันหมดสิ้น แต่แล้วความรู้สึกและความต้องการ ที่ทั้งสองมีให้กันต้องหยุดชะงักในทันใด เมื่อมีเสียงดังตูมพร้อมน้ำที่กระจายกระเด็นจนเปียกชุ่มร่างของสอง ทั้งคู่จึงรีบหันไปมองในทันทีและต้องตะลึงกับสิ่งที่เห็น
“ปลาอะไรขนาดหางยังใหญ่ขนาดนี้”หวานตาโตด้วยความตะลึง
เมฆรีบลุกขึ้นยืนดูและมองอยู่นานสองนาน แต่ก็ไร้ร่องรอยปลาตัวที่หวานเห็น เมฆจึงครุ่นคิดและใคร่สงสัยว่าเป็นปลาหรือว่าตัวอะไรกันแน่
“เมฆคิดอะไรยืนนิ่งไปเลย”หวานเอ่ยขึ้น
“คิดถึงหวานนั่นแหละ”พอเมฆได้สติจึงเปลื่ยนเรื่องมาใช้คำหวานแทน
“ไม่เชื่อหรอก หรือว่าที่รอดมาได้เพราะมีนางเงือกมาช่วยแน่เลยตัวเมื่อกี้ใช่ไหม”หวานหัวเราะกับความคิดของตัวเอง เพราะหวานพูดไปเรื่อยแหย่เมฆเล่นเฉยๆ
เมฆสะดุ้งกับคำพูดและความคิดของหวานอย่างมาก จึงทำให้ยืนนิ่งไปอีกครั้งหนึ่ง เมฆจึงครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เรือแตก เขาพยายามนึกคิดแต่ก็คิดไม่ออกว่าหลังจากนั้นมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
“หรือว่านางเงือกมาช่วยเมฆไว้จริงๆบอกมาเดี๋ยวนี้นะ”หวานแกล้งพูดหยอกล้ออีกครั้งหนึ่ง
“เมฆรักหวานคนเดียว ถึงมีสิบนางเงือกเมฆก็ไม่สนหรอก”เมื่อเมฆได้สติจึงรีบก้มลงพรหมจูบทั่วใบหน้าของหวานอย่างคนหื่นกระหาย ซึ่งในครั้งนี้หวานไม่ได้ปฏิเสธอย่างใด เธอตอบรับแรงปราถนาของเมฆและของตัวเองอย่างเต็มใจ
“ไอ้เมฆมึงทำอะไรลูกสาวกู”
เสียงชายแก่ๆดังขึ้นกระหึ่มด้วยความดุดัน จึงทำให้ทั้งเมฆและหวานต่างถอยห่างร่างออกจากกัน แต่แล้วหวานต้องมายืนบังร่างของเมฆไว้เพราะจอมพ่อของเธอหันกระบอกปืนมายังเมฆ
“พ่ออย่าทำอะไรเมฆนะ ถ้าพ่อจะยิงเมฆก็ผ่านศพหวานไปก่อน”หวานจ้องมองสู้สายตาผู้เป็นพ่ออย่างองอาจ
“หวานถอยไป”จอมตะโกนเสียงดังอีกครั้ง
“พ่อของหวานไม่กล้ายิงหรอก”หวานกระซิบข้างๆหู เมื่อเธอเห็นเมฆกำลังจะออกมายืนอยู่หน้าเธอ เพราะกลัวจอมจะยิงหวานจริงๆ
“นังหวานผู้ชายหมู่บ้านเรามีตั้งมากมายทำไมไม่เลือก ดันไปชอบพอกับไอ้เมฆบ้านมันมีอะไรบ้าง”จอมกัดฟันแน่นด้วยความโมโห
“เมฆหนีไปเร็ว ถ้าเมฆรักหวานก็ต้องเชื่อหวาน”หวานกระซิบที่ข้างหูของเมฆอีกครั้ง
“ได้”เมฆรับคำ
“ไปเลย”หวานค่อยๆกระซิบให้เมฆได้ยิน
เมื่อหวานส่งสัญญาณให้เมฆได้หลบหนี เมฆจึงรอจอมพ่อของหวานเผลอ หลังจากนั้นจึงรีบวิ่งหลบหนีหายไปในทันที
สุดท้ายเราก็รักกันไม่ได้ ถึงแม้ถ่ายไฟเก่าจะลุกขึ้นจนมอดไหม้ ไม่มีเหลือชิ้นดี
ชายหนุ่มผู้เดินตามความฝัน ซึ่งในระหว่างทางต้องพบเจออุปสรรคมากมาย กว่าจะเจอรักแท้ที่โหยหามานาน
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
เพราะความเข้าใจผิด ทำให้ต่างคนต่างก็แสดงท่าทีเย็นชาใส่กัน ทำให้ต่างคนต่างก็พลาดช่วงเวลาแห่งความสุขไป กว่าจะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายมีความสำคัญในชีวิตของตนมากแค่ไหน อีกฝ่ายก็ได้จากไปตลอดกาลเสียแล้ว...
“ฉันไม่ชอบเธอ! อย่าเข้ามายุ่งกับฉันอีก” “ชะเอมก็ไม่เคยคิดที่จะชอบคนอย่างพี่เหมือนกัน แต่ที่ทำก็เพราะ..”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY