ชายหนุ่มผู้เดินตามความฝัน ซึ่งในระหว่างทางต้องพบเจออุปสรรคมากมาย กว่าจะเจอรักแท้ที่โหยหามานาน
ยีนส์หนุ่มวัยยี่สิบนอนเปลือยกายให้หนุ่มใหญ่อมท่อนเอ็น ซึ่งเป็นครั้งแรกของเขาที่โดนกระทำแบบนี้ และเป็นครั้งแรกที่เต็มใจทำเพื่อเงิน ยีนส์นอนหลับตาพริ้มด้วยความเสียวซ่านที่ท่อนเอ็นอันมหึมา ซึ่งเป็นท่อนเอ็นที่หนุ่มใหญ่ผู้นี้พอใจอย่างมาก เขาทั้งดูดทั้งอมทั้งเลียอย่างถึงใจยีนส์
หนุ่มใหญ่หยุดอมท่อนเอ็นของยีนส์แล้วนั่งคร่อมร่างของยีนส์ เขาจับท่อนเอ็นของยีนส์จ่อที่ช่องทางรักและกดลงทีละน้อยจนมิดสุดโคน หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆขย่มอย่างช้าๆเพื่อให้ช่องทางรักของเขาได้ขยายตัวขึ้น ซึ่งเป็นความแปลกใหม่สำหรับยีนส์อย่างมาก เขาหายใจถี่กระชั้นด้วยความเสียวท่อนเอ็น
“ทำให้พี่บ้างนะ”หนุ่มใหญ่พูดขึ้นและโน้มร่างโก้งโคงแอ่นสะโพกให้ยีนส์
“ครับ”เป็นครั้งแรกที่ยีนส์จะได้ทำแบบนี้เขาจึงลุกขึ้นนั่งคุกเขา แล้วจับท่อนเอ็นของเขาจ่อที่ช่องทางรักของหนุ่มใหญ่แล้วดันเข้าไปจนสุด
ยีนส์โยกสะโพกอย่างรวดเร็ว และซอยถี่ๆกระแทกไม่ยั้ง รัวไม่เป็นจังหวะ โหมกระหน่ำแรงเต็มที่ จนหนุ่มใหญ่ต้องร้องขอให้
“เบาๆหน่อย”
ยีนส์สุดเสียวอยากจะปล่อยน้ำในกายออกมาอย่างโดยเร็ว เขาจึงไม่รอช้ากระแทกบั้นท้ายของหนุ่มใหญ่อย่างหนักหน่วงไม่กี่ครั้งน้ำในกายของเขาก็ไหลสู่ช่องทางรักของหนุ่มใหญ่ ยีนส์โยกสะโพกไม่กี่ครั้งก็ดึงท่อนเอ็นออกและนั่งลงบนเตียงอย่างมีความสุข หลังจากนั้นเขาก็ดึงถุงยางออกทิ้งที่ถึงขยะ
“เสร็จไวไปหน่อยนะ”หนุ่มใหญ่พูดขึ้น
“ผมพึ่งครั้งแรกครับ”ยีนส์พยายามฝืนยิ้มให้หนุ่มใหญ่
“ไม่เป็นไรสำหรับครั้งแรก แต่ไอ้นั่นใหญ่แค่นี้พี่ก็โอเคแล้ว”
หนุ่มใหญ่หยุดพูดและเขาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อชำระร่างกายเอาคราบคาวสวาทออก ส่วนยีนส์ก็นั่งรอเพื่อรับเงิน สักพักหนุ่มใหญ่ก็ออกมาควักเงินหนึ่งพันบาทให้เขา
“ขอบคุณครับ”ยีนส์ยกมือไหว้
“ยืนอยู่ที่เก่าใช่ไหม”
“ก็ยังไม่รู้เลยครับ ผมพี่งมาครั้งแรกครับ”
“มีเบอร์โทรไหม”
“ไม่มีครับ”
“ถ้างั้นเอาเบอร์พี่ไปก็แล้วกัน”หนุ่มใหญ่จดเบอร์ของเขาใส่กระดาษชิ้นเล็กๆยื่นให้ยีนส์
“ครับ เดี๋ยวผมโทรหาถ้าได้มือถือใหม่”
“โอเค วันหลังว่ากันใหม่”เมื่อหนุ่มใหญ่พูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไป โดยที่ไม่ได้ปิดประตูให้สนิท ประตูนั้นจึงเปิดออกมาพอสมควร
ยีนส์เอาแบงก์พันกับเบอร์โทรใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ หลังจากนั้นเขาก็ใส่เสื้อก่อนที่จะใส่กางเกง ในระหว่างนั้นเองก็มีชายหนุ่มรุ่นเดียวกับเขายืนมองสักพักที่หน้าห้อง หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจเข้ามาในห้องที่ยีนส์นั่งอยู่
“ลีลานายไม่ค่อยดีเท่าไรเลยนะ”เกมนั่งลงข้างเตียง
“นายแอบฟังเราเหรอ”ยีนส์พูดขึ้นและหยิบกางเกงในขี้นมาใส่
“ไม่ได้แอบฟัง เราก็ทำเหมือนนายนั่นแหละ แต่นายก็มีของดีนะใหญ่จริงๆ”เกมมองไปที่ท่อนเอ็นของยีนส์
“พ่อให้มาเยอะพอสมควร”ยีนส์รีบใส่กางเกงในทันที และต่อด้วยกางเกงยีนส์ขายาว
“/ไม่ถ่อมตัวเลยนะ ได้เท่าไรล่ะ”
“หนึ่งพัน”
“น้อยไปนะสำหรับเด็กใหม่ ทีหลังเรียกซักสองพัน”
“เราไม่รู้ว่าต้องเรียกเท่าไรไง ก็ยืนๆอยู่พี่เขาก็มาจอดถามก็เลยบอกไปพันนึง”
“ก็ดี เดี๋ยวเรากลับแล้ว โชดดีนะ วันหลังเจอกัน”เกมเดินออกจากห้องได้สักพัก
ยีนส์คิดได้ทันทีว่าเขายังไม่มีห้องพัก และก็ไม่รู้ว่าจะไปหาห้องพักที่ไหน เพราะที่โรงแรมหนุ่มใหญ่เช่ารายชั่วโมงแค่นั้น ยีนส์จึงรีบลุกขึ้นคว้าเป้สะพายหลัง วิ่งออกจากห้องตามเกมไป และยีนส์ก็ตามไปทันเกมพอดี ซึ่งในตอนนั้นเกมกำลังเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ยีนส์จึงเข้าตามไปด้วยและเดินหาจนเจอเกมอยู่หน้าตู้เครื่องดื่ม
“นายพักที่ไหนล่ะ”ยีนส์ยืนข้างๆเกมแล้วพูดขึ้น
“ก็แถวนี้แหละ ถามทำไมเหรอ”เกมหยิบเบียร์ขวดใหญ่มาหนึ่งขวด และเดินไปที่เค้าท์เตอร์เพื่อคิดเงิน
เมื่อแคชเชียร์คิดเงินเสร็จเกมก็ออกจากร้านสะดวกซื้อ ซึ่งยีนส์ก็ยังเดินตามไม่ห่าง จนเกมอดสงสัยไมได้ว่าจะตามมาทำไม
“นายเป็นอะไรเดินตามเราตลอดเลย”เกมหันมามองหน้ายีนส์
“คือว่า เรายังไม่มีที่พักน่ะ ขอพักกับนายสักคืนได้ไหม ”
“ทำไมนายไม่เช่าโรงแรมล่ะ”
“มันแพงไปหน่อย คืนหนึ่งตั้งหลายร้อย”
“ได้ตั้งพันไปเสียดายทำไม”
“คืนนี้ได้พรุ่งนี้จะได้หรือเปล่าก็ไม่รู้”
“นายหน้าใหม่แบบนี้ ถ้ายืนต่อคืนนี้ก็ได้อีหลายรอบ ถ้ามีแรงนะ ไม่ต้องตามมาต่างคนต่างอยู่”เกมเดินหนียีนส์ไปเรื่อยๆแต่ยีนส์ก็ตามติดๆ จนกระทั้งมีชายหนุ่มรุ่นเดียวกับเกมยืนดักหน้าเกมไว้
ซึ่งหนุ่มสองคนนี้เป็นคู่อริเก่าและชอบข่มขู่ขอเงินเกมเป็นประจำ เกมเป็นคนไม่สู้ใครอยู่แล้วเขาจึงทำท่าควักเงินให้ หลังจากนั้นเกมวิ่งหนีไม่คิดชีวิตหยุดไม่ได้ ยีนส์ตกใจวิ่งตามสองหนุ่มที่วิ่งตามเกมไป
“นี่ไงไอ้เกมมันต้องเจอย่างนี้”ชายหนุ่มใส่หมัดเข้าที่เบ้าตาของเกมจนล้มลง เมื่อวิ่งตามเกมมาจนทัน หลังจากนั้นสองหนุ่มรุมกระทืบเกมจนตัวงอ ยีนส์วิ่งตามมาทันเห็นการณ์พอดี เขาจึงกระโดดทีบชายหนุ่มคนหนึ่งล้มลง และฟาดหมัดไปที่ปลายคางของอีกคน
หลังจากนั้นยีนส์ดึงแขนของเกมลุกขึ้น และพาวิ่งไม่คิดชีวิตโดยไม่หันมองหลังแม้แต่ครั้งเดียว จนเกมรู้สึกเหนื่อยและไปต่อไม่ไหว
“พักก่อนพวกมันไม่ตามมาแล้ว”เกมก้มหน้ามือท้าวที่ขาและหายใจอย่างหอบเหนื่อย
ชั่วเวลาไม่นานเกมก็หายเหนื่อยจึงเงยหน้าขึ้นมองยีนส์ ที่ไม่มีทีท่าจะเหน็ดเหนื่อยเหมือนเขาเลย
“นายนี่อึดจริงๆแต่เวลาทำให้ลูกค้าทำไมไม่อึดอย่างนี้”
“เวลานี้ยังมาพูดเรื่องแบบนี้อีก”ยีนส์มองหน้าเกม
“ไม่พูดแล้ว ขอบใจนายมากนะ เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนายมาพักกับเราก็ได้”
“ขอบใจนายมาก เราจะพักคืนเดียว ถ้าหาห้องเช่าถูกๆได้เราก็จะย้ายออกน่ะ”
“ไม่ต้องย้ายหรอก นายอยู่กับเราก็ได้ แต่ออกค่าห้องคนละครึ่ง จะได้ประหยัดด้วยดีไหม”
“ดีซิ ทำไมนายให้เราอยู่ด้วยล่ะ”ยีนส์มีท่าทีสงสัย
“ก็นายช่วยเรานี่ ถ้าไม่ให้นายอยู่ด้วยก็เกินคนไปหน่อยแล้วมั้ง แล้วอีกอย่างนายเก่งดีวันหลังจะได้คอยปกป้องเราไง”เกมอมยิ้ม
“ดีแค่ครึ่งเดียวเอง”ยีนส์หัวเราะ
“เอ่อน่ะ เป็นเพื่อนกันแล้วนี่ แต่ยังไม่รู้จักชื่อนายเลย”เกมถาม
“เราชื่อยีนส์ นายล่ะ”
“เราเกม ไปกันเถอะไปที่ห้องเรา”เกมพยักหน้าชวนให้ยีนส์เดินตาม
“เบียร์นายล่ะ”ยีนส์ถาม
“ล่วงตกพื้นแตกไปหมดแล้ว”
“นายจะดื่มอีกไหมเดี๋ยวเราไปซื้อให้ใหม่”
“ไม่ต้องแล้ว นายดูหน้าและปากเราซะก่อน ไม่มีอารมณ์ดื่มเบียร์หรอก”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวก็หาย”ยีนส์พูดปลอบใจ
เกมและยีนส์ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะมาถึงห้องพัก เมื่อเขามาในห้องพักของเกมแล้ว ยีนส์ยืนมองไปรอบๆห้อง ซึ่งห้องก็ไม่ได้ใหญ่มาก มีแต่ที่นอนเตียงนั้นไม่มี แต่ห้องก็จัดเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ มีราวแขวนผ้า มีโต๊ะต่ำๆพับได้ ที่เหลือก็เป็นหม้อหุงข้าว กระทะไฟฟ้า ถ้วยชามกะลังถังน้ำดื่ม
“เป็นไงบ้างห้องของเรา”เกมนั่งลงบนที่นอน แล้วมองหน้ายีนส์
“ก็น่าอยู่ดีนะ สองคนพออยู่ได้”ยีนส์ยิ้มแล้วนั่งลงข้างๆเกม
“ทำไมนายไม่ไปทำงานอื่นล่ะมายืนขายทำไม หน้าตานายก็ดีนะจัดว่าหล่อทีเดียว”เกมมองใบหน้าของยีนส์ที่คมเข้ม ผิวสีแทน รูปร่างสูงกำยำสมส่วน
“ถามแต่เรานายก็เหมือนกันนั่นแหละ หน้าตานายก็ดีนะจัดว่าหล่อทีเดียว”ยีนส์มองใบหน้าของเกมที่ขาวใสตี๋พิมพ์นิยม รูปร่างไม่สูงมากแต่ก็ไม่ถึงกับเตี้ย หุ่นสมส่วนอาจไม่บึกแต่ก็ไม่ผอมแห้ง
“ยังจะมาถามกลับอีก เราหนีออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็กแล้ว”
“นายหนีมาทำไม”
“เราไม่ชอบอยู่ในกฎเกณฑ์ เรารักอิสระไง”
“แล้วมาทำงานนี้ได้ไงล่ะ”
“ก็ไม่มีตังค์กินข้าวไง อาชีพนี้หาเงินง่ายแล้วสบาย พอทำแล้วติดใจก็เลยทำเรื่อยมา”
“นายล่ะ”เกมหันหน้ามามองยีนส์ด้วยความอยากรู้
“เราเป็นเด็กต่างจังหวัดพ่อแม่แยกทางกัน ฝากข้างบ้านเลี้ยงเราไว้ หลังจากนั้นก็หายไปเลย เราไม่ใช่ลูกเขาแท้ๆไง เขาเลยใช้เราทำงานแลกข้าว เงินก็ไม่ให้ใช้ โรงเรียนก็ไม่ให้ไป ก่อนมาเราเลยไปรับจ้างเข็นผักที่ตลาด พอได้เงินเราเลยเข้ามาในกรุงเทพนี่แหละ เราก็เดินมาเรื่อยๆว่าจะหางานทำ พอดีเราเห็นเขายืนกันเราก็ยืนดูเขา สักพักก็มีพี่คนนั้นจอดรถเรียกเราขึ้นรถ ตอนแรกเราว่าจะไม่ทำแล้วนะ แต่เงินเราหมดพอดี ยุงก็เยอะไม่รู้จะไปนอนที่ไหน เราเลยตัดสินใจทำ เป็นครั้งแรกเลยนะที่เราทำน่ะ”
“เป็นไงบ้างครั้งแรกน่ะ”เกมยิ้มนิดๆเพราะเจ็บปากอยู่พอสมควร
“พูดตามตรงน่ะก็เสียวดี ได้เงินด้วย แต่เราทำให้พี่เขาเจ็บก้น บอกให้เราหยุดแต่เราทนไม่ไหวต้องทำให้เสร็จ”
“โอ๊ย นายนี่ไม่รู้อะไร เราบริการเขาไม่ใช่เขาบริการเรา นายต้องทำตามที่เขาบอกทุกอย่างรู้ไหม”
“เราไม่รู้นี่”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราจะสอนนายเอง แต่เราว่านายไม่ต้องไปยีนตรงนั้นหรอก”
“ไม่ไปยืนแล้วจะให้เราทำงานอะไรล่ะ”
“บาร์โฮสต์มีเกรดดูดีกว่า เพราะนายยังใหม่อยู่ ไม่ต้องยืนให้ยุงกัดหรอก เรามีเพื่อนที่ทำอยู่นะ ถ้านายสนใจเราจะติดต่อให้”
“สนใจซิ เอ้า แล้วนายทำไมไม่ไปทำล่ะ”
“โธ่ เรายืนที่นี่มาตั้งหลายปีจะไปชุบตัวก็ไม่ทันแล้ว นายนั่นแหละเหมาะ รายได้ดีกว่ายืนตากลมตากฝนอีกนะ ถ้าเจอคนใจดีรับเลี้ยงดูนายสบายทั้งชาติ”
“ถ้าเป็นอย่างที่นายพูด เราจะไม่ลืมนายเลย”ยีนส์มีสีหน้าที่ตั้งมั่นจริงใจอย่างมาก
“ไม่ค่อยเชื่อหรอก เราเห็นมาหลายรายแล้ว พอได้ดีแล้วลืมตัวกันแท่บทั้งนั้น”
“แต่นั่นคนอื่นไม่ใช่เราแน่นอน”
“เราจะคอยดูว่านายจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า”เกมมองหน้ายีนส์ และคิดไปว่าอาจจะแตกต่างจากคนอื่น เพราะยีนส์ดูซื่อๆ แต่อีกใจหนึ่งเกมก็คิดว่าคนซื่อๆนี่แหละ เมื่อเจอสิ่งยั่วยุมักหลงจนหาทางกลับไม่เจอ
“เราง่วงนอนแล้วขอนอนเลยได้ไหม”ยีนส์พูดขี้น เพราะเขาเดินมาทั้งวันและกลางคืนก็ยืนหลายชั่วโมง
“ไม่อาบน้ำเหรอ”เกมชำเลืองมองยีนส์
“ถ้านายเหม็นเราอาบก็ได้”
“ไปอาบซะห้องน้ำอยู่โน้น”
“ฮือ”ยีนส์พยักหน้า
เกมนั่งมองยีนส์ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วนุ่งผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป ส่วนตัวเขาก็คิดว่าพรุ่งนี้จะเปลื่ยนยีนส์ให้เป็นคนใหม่ได้อย่างไงดี
รักแล้วไม่กลัวเจ็บ แต่ต้องเก็บเป็นความลับ เพราะไม่สามารถเปิดเผยรักที่แท้จริงได้ จึงต้องฝืนทนกล่ำกลืนรักที่แสนรันทัด แต่ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ไม่กลัวที่จะได้รักกัน ถึงแม้จะเป็นรักที่เจ็บๆแต่จริงใจและห่วงใย
สุดท้ายเราก็รักกันไม่ได้ ถึงแม้ถ่ายไฟเก่าจะลุกขึ้นจนมอดไหม้ ไม่มีเหลือชิ้นดี
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"