"คุณเข้มขาผู้หญิงกับผู้ชายนอนด้วยกันแค่ครั้งสองครั้งเขาไม่เรียกว่าผัวเมียหรอกนะคะ อย่าคิดมากเลยค่ะ ฉันเป็นคนหัวสมัยใหม่เรื่องแค่นี้ฉันไม่เก็บมาคิดให้ปวดหัวหรอก" ***** เพราะพี่สาวฝาแฝดถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเมียน้อย น้องสาวอย่างเธอจึงยอมไปเป็นจำเลยของเขา แต่เมื่อเขารู้ความจริงเธอก็กลายเป็นจำเลยที่เขาแสนรัก
ท่ามกลางความมืดในเวลาเกือบเที่ยงคืนรถยนต์สองคันขับเบียดกันมาบนถนนเส้นหนึ่งก่อนที่รถคันหน้าจะเสียหลักพลิกคว่ำอยู่หลายตลบจนไปชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง
รถที่ขับเบียดมานั้นไม่ได้จอดให้ความช่วยเหลือแต่ขับเลยไปแล้ววนกลับมาอีกครั้งคนในรถรีบโทรศัพท์แจ้งเหตุกับกู้ภัยและรอจนกระทั่งได้ยินเสียงไซเรนก็รีบขับออกไปจากจุดเกิดเหตุ
เสียงโทรศัพท์ของกานต์ชิสาหญิงสาววัย 24 ปีดังขึ้นในเวลา 02.15 นาฬิกา เจ้าของโทรศัพท์กวาดมือไปบนเตียงนอนเพื่อหาโทรศัพท์ที่ไม่รู้ว่ามันไปซ่อนอยู่ตรงไหนบนเตียงนอนกว้าง
“ใครโทรมาเวลานี้นะ” หญิงสาวเปิดโคมไฟที่หัวเตียงเพื่อหาโทรศัพท์ที่ยังส่งเสียงไม่ยอมหยุด ถ้าปลายสายที่โทรมาไม่มีเรื่องสำคัญละก็ได้เห็นดีกันแน่
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีใช่เบอร์ของคุณกานต์ชิสาไหมคะ”
“ใช่ค่ะ”
“ดิฉันเป็นพยาบาลประจำห้องฉุกเฉินจากโรงพยาบาล xxx ค่ะ”
“โรงพยาบาลเหรอคะ” กานต์ชิสามองนาฬิกาดิจิทัลที่โต๊ะข้างเตียงแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน ดึกขนาดนี้แล้วโรงพยาบาลจะโทรมาหาเธอทำไมกันหรือว่าจะมีใครเป็นอะไร
“ใช่ค่ะ ดิฉันจะโทรมาแจ้งว่าตอนนี้คุณกานต์สิชาได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วเธอให้เราโทรมาแจ้งคุณค่ะ”
“แล้วพี่สาวของฉันเป็นอะไรมากไหมคะ ทำไมเธอไม่โทรมาเอง”
“เธอไม่มีแผลนิดหน่อยค่ะ กำลังทำแผลอยู่แต่เธอบอกให้ฉันโทรบอกคุณให้มารีบรับ”
“ได้ค่ะ ไม่เกินสิบนาทีฉันจะไปรับค่ะ”
เมื่อวางสายจากพยาบาลแล้วกานต์ชิสาก็รีบล้างหน้าและเปลี่ยนชุดก่อนจะขับรถตรงมายังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
“เค้กทางนี้” หญิงสาวคนหนึ่งโบกมือให้กับคนที่วิ่งเข้ามาที่หน้าฉุกเฉินใบหน้าของเธอทั้งสองคนนั้นเหมือนกันมากถ้าหากอีกคนหนึ่งไม่มีผ้าก็อซติดที่ศีรษะก็คงแยกไม่ออกแน่ว่าใครเป็นใคร
“พี่ครีมเป็นอะไรหรือเปล่าเจ็บมากไหม แล้วมันเกิดอะไรขึ้น”
“ก็เท่าที่เห็น เรารีบไปกันเถอะเค้ก เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนอยู่ในรถนะ” กานต์สิชาตอบน้องสาวฝาแฝดและมีท่าทางร้อนรน
“ทำไม่รีบจังพี่ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม ให้หมอตรวจอย่างละเอียดหรือยัง”
“อือ หมอตรวจดีแล้ว รถจอดอยู่ไหนล่ะ”
“นู้นไง เดินไหวไหม” เธอหันมาถามพี่สาวด้วยความเป็นห่วง
“ไหวสิพี่เจ็บที่หัวนะไม่ได้เจ็บที่ขาสักหน่อย” เธอตอบก่อนจะเดินนำไปยังรถที่จอดอยู่หน้าโรงพยาบาล
“เล่ามาเลยนะพี่ครีมว่ามันเกิดอะไรขึ้นนี่มันดึกมากแล้วทำไม่พี่ถึงไม่นอนอยู่ที่บ้าน”
“เค้กขับรถไปโรงพยาบาลxxx ให้หน่อยสิ”
“พี่ครีมจะไปทำไม แล้วก็ตอบคำถามของเค้กมาก่อน”
“ก็คนที่ขับรถให้พี่นั่งถูกพาไปโรงพยาบาลนั้น” เพราะโรงพยาบาลที่เธอมารักษานั้นเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กเครื่องมือมีไม่มากพอกู้ภัยเลยไปส่งคนที่อาการหนักว่าที่นั่น
“ใครเหรอพี่”
“คุณไตรภพ”
“เขาเป็นใครเหรอ” กานต์ชิสาถามพี่สาวเพราะตั้งแต่เธอกลับมาจากอังกฤษได้หนึ่งสัปดาห์ก็ยังไม่เคยได้ยินพี่สาวพูดถึงคนชื่อนี้เลย
“เขาจะเป็นแฟนพี่ได้ยังไงเค้กก็รู้ว่าแฟนพี่ชื่อภูมิ แล้วคนนี้เขาก็มีเมียแล้ว”
“พี่ครีมคงไม่ได้เป็นเมียน้อยเขาใช่ไหม” หญิงสาวหันมามองหน้าพี่สาวที่เกิดก่อนตนเองสองนาทีด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจะผิดหวัง
“อย่าเพิ่งมองพี่แบบนั้นสิ พี่กับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“แล้วทำไมถึงต้องนั่งรถมาด้วยกันกลางดึกแบบนี้ล่ะ เราพี่น้องกันนะมีอะไรก็บอกเค้กมาเถอะน่า”
“ไม่เชื่อใจกันเลยเหรอเค้ก”
“ก็พี่ทำตัวน่าสงสัยนี่”
“เดี๋ยวพี่จะเล่าทุกอย่างให้เค้กฟังทั้งมดเลย แต่ตอนนี้ขอไปดูก่อนว่าคุณไตรภพเขาเจ็บมากไหมและภรรยาเขารู้ข่าวหรือยัง”
“พี่บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกับเขาแล้วพี่จะไปเยี่ยมเขาทำไม”
“เค้กพี่นั่งรถมากับเขานะ ถ้าไม่เห็นว่าเขาปลอดภัยพี่คงนอนไม่หลับแน่ๆ ตอนที่กู้ภัยพาเขาไปเอาเลือดออกเยอะมากพี่กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไปน่ะ” สีหน้าของพี่สาวทำให้คนเป็นน้องอย่างกานต์ชิสาไม่ค่อยสบายใจเลย
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลกานต์สิชาก็ตรงไปที่ห้องฉุกเฉินซึ่งตอนนี้ด้านในเหมือนจะไม่มีผู้ป่วยเลยสักคน
“ขอโทษนะคะ คนเจ็บที่กู้ภัยมาส่งเมื่อกี้ไปไหนแล้วค่ะ” เธอถามเจ้าหน้าที่ซึ่งนั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
“คุณหมายถึงคนไหนคะ” เพราะในแต่ละคืนมีคนเจ็บเข้ามาใช้บริการค่อนข้างมากเจ้าหน้าที่จึงต้องถามให้แน่ใจ
“คุณไตรภพค่ะ”
“คุณเป็นอะไรกับเขาคะ” เจ้าหน้าที่ถามเพราะข้อมูลของผู้ป่วยก็ถือว่าเป็นความลับอย่างหนึ่งที่จะบอกให้คนอื่นรู้ไม่ได้
“ฉันนั่งมากับเขาในรถคันที่เกิดอุบัติเหตุค่ะ แต่ฉันถูกพาไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ถ้าคุณไม่เชื่อจะถามเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่พามาส่งก็ได้นะคะ ว่าฉันนั่งอยู่ในรถคันเดียวกับคุณไตรภพจริงหรือเปล่า”
“คนเจ็บได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะแต่ไม่เป็นอะไรมากแต่ที่ขามีกระดูกหักค่ะตอนนี้ถูกพาไปที่ห้องผ่าตัดแล้ว”
“ภรรยาเขารู้เรื่องแล้วใช่ไหมคะ”
“ค่ะ ตอนนี้ก็น่าจะอยู่หน้าห้องผ่าตัด”
“ขอบคุณนะคะ” กานต์สิชากล่าวขอบคุณจากนั้นก็ทำท่าจะเดินกลับ
“เราจะขึ้นไปดูเขาไหมพี่ครีม”
“เอาไว้เขาออกจากห้องผ่าตัดเราค่อยมาเยี่ยมพรุ่งนี้ก็ได้ ตอนนี้พี่ง่วงมากอยากกลับไปนอน”
ความสัมพันธ์ระหว่างนายหัวหนุ่มและนักศึกษาสาว ที่ห่างกันทั้งอายุและระยะทางนายหัวหนุ่มจะทำให้เธอรักเขาได้อย่างที่เขารักเธอหรือไม่คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ในคืนที่โดนแฟนเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่เครื่องดื่ม เธอขอให้ชายคนหนึ่งช่วย พอเช้ามาถึงได้รู้ว่าเขาคือเพื่อนสมัยเรียนเขาขู่ให้เธอยอมเป็นคู่นอนของเขาโดยบอกว่ามีคลิปในคืนนั้นเธอยอมเพราะคำขู่แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่มีคลิปทุกอย่างระหว่างเขากับเธอก็จบแต่เขาไม่ยอมจบเพราะตอนนี้คิดกับเธอมากไปกว่าคู่นอนไปแล้ว
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
ใครจะคิดว่าคนที่เธอเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวในคืนนั้นจะกลายมาเป็นคนรักในวันนี้ แต่เขาไม่ใช่แค่คนรักธรรมดาเพราะเขาคือเจ้าของบริษัทที่เธอเพิ่งเข้าทำงานได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ แต่เธอต้องเก็บเป็นความลับก่อนจะผ่านช่วงทดลองงาน
เพราะชอบเธอเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนเธอความจำเสื่อม โดยมีตนเองเป็นต้นเหตุ หมออย่างเขาก็ไม่รีรอที่จะรับเธอไปดูแลในฐานะคนรัก
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"