เขารักเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่เพราะความเข้าใจผิดทำให้เขาร้ายกาจกับเธอ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน "ไม่ต้องทำท่ารังเกียจฉันขนาดนั้นก็ได้ เพราะฉันก็ไม่ได้พิศวาสผู้หญิงสำส่อนแบบเธอหรอก" เธอหันขวับไปมองเขา ก็ได้เห็นแต่สายตาดูถูกเหยียดหยามของเขา "พี่หมายความว่ายังไงคะ" เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด เธอไปสำส่อนอะไรกับใครตอนไหน "อย่าแกล้งทำเป็นไขสือหน่อยเลย กับฉันทำเป็นสะดีดสะดิ้ง ทีกับผู้ชายคนอื่นเธอร่าน" "พี่ช้าง" เธอหลุดอุทานออกมาอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะโดนเขาด่าเช่นนี้ แต่เธอไม่อยากเสวนากับคนพาล เห็นว่าฝนเริ่มซา เลยคิดว่าจะกลับบ้านตัวเอง ยังไงก็เปียกอยู่แล้ว เปียกอีกนิดก็คงไม่เป็นไร "จะรีบไปไหนล่ะ" คเชนทร์ตามมากระชากแขนของพิมพ์แก้วเอาไว้ เธอตกใจสะบัดหนีแต่ไม่หลุด "กับฉันทำไมทำท่ารังเกียจแบบนี้ หรือแกล้งทำเป็นดีดดิ้นเล่นตัวโก่งค่าตัว" เขารั้งเธอมากอดรัดเอาไว้แนบอก พิมพ์แก้วตกใจกับการกระทำป่าเถื่อนของเขา "ฉันก็แมนทั้งแท่ง เงินก็มีเต็มกระเป๋า รับรองว่าลีลาเด็ดไม่แพ้ผู้ชายคนไหน เธอไม่สนเหรอ" เขาพูดจาอย่างคุกคาม "หยาบคายร้ายกาจที่สุด นี่ปล่อยนะ ถึงแก้วจะร่านยังไง แต่รู้เอาไว้ว่าไม่ร่านกับพี่แน่นอน ฉันจะนอนกับผู้ชายทุกคนบนโลกยกเว้นพี่" "อย่างนั้นเหรอ" เขาจูบเธออย่างดุเดือด พิมพ์แก้วดิ้นรนผลักไส ก่อนจะตบหน้าเขาฉาดใหญ่ ทำให้ใบหน้าของเขาหันไปตามแรงตบ เธอเตรียมหนีแต่เขากระชากแขนเธอเอาไว้ ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บจนหน้าชาไปหมด เขาใช้ลิ้นดุนดันกระพุ่งแก้มเอาไว้ ก่อนที่จะจับเธอแบกขึ้นบ่าพาเข้าไปในกระท่อมหลังน้อย "นี่ปล่อยนะ คนบ้าป่าเถื่อน" เธอหวีดร้อง รู้สึกมึนหัวไปหมด เขาโถมกายเข้าหา ทาบทับเธอเอาไว้ทั้งตัว "ไม่ปล่อย" เขาตอบอย่างยียวน ก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหา ขบเม้มซอกคอเนียนละเอียดของเธอไม่ยอมละห่าง "ปล่อยแก้วนะ" พิมพ์แก้วดิ้นหนี แต่ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของเขาได้ เขากระชากเสื้อผ้าเปียกชื้นของเธอออกไปจากร่าง พิมพ์แก้วหวีดร้องเสียงหลง ใจหายวาบ ไม่คิดว่าจะเสียท่าเขาขนาดนี้ ไม่คิดด้วยว่าคเชนทร์จะป่าเถื่อนกับเธอถึงเพียงนี้ เธอยกมือขึ้นกอดอก อับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ไม่เคยมีใครได้เห็นนวลเนื้อขาวผ่องใต้ร่มผ้าของเธอมาก่อน "ว้าย! ปล่อยนะ" พิมพ์แก้วดิ้นหนีเขาก็ตามมาทาบทับ ใช้มือหนากดมือเล็กไปกับเตียงไม้ขนาดกลาง "อย่านะคะพี่ช้าง" "อื้อ" เสียงประท้วงของเธอหายเข้าไปในลำคอเมื่อเขาก้มลงมาจุมพิต ริมฝีปากแสนหวานอย่างดูดดื่ม เธอพยายามเบี่ยงหลบ เขาก็ใช้มือหนาจับปลายคางสวยเอาไว้ บังคับให้เธอเผยอปากรับจูบเขา มือหนาอีกข้างรวบมือเธอขึ้นเหนือศีรษะเพื่อล็อกเอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอใช้มือประทุษร้ายเขาได้ ยิ่งเธอดิ้น เขาก็ยิ่งอยากเอาชนะ จัดการกระชากกางเกงผ้าด้านล่างของเธอออก หัวใจของพิมพ์แก้วหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม "พี่ช้างอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ" "กับคนอื่นเธอยอม แต่กับฉันเธอไม่ยอม" "แก้วสกปรกสำส่อนก็อย่าเอาตัวเองมาเกลือกกลั๊วกับแก้วเลยค่ะ" "ยอมรับแล้วสินะว่าตัวเองสกปรก ก็ดีเอามัน ๆ ไม่ต้องถนอมมาก" เขาหยิบเครื่องป้องกันมาสวมใส่ก่อนจะแยกเรียวขาของเธอออก
พิมพ์แก้วเดินไปมาอยู่หน้าเตาไฟเพื่อปรุงอาหาร
เธอได้รับการถ่ายทอดวิชาทำอาหารมาจากคุณยาย พอคุณยายเสียชีวิตเธอจึงกลายเป็นแม่ครัวใหญ่ รับปรุงอาหารในงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะงานบวช งานศพ งานแต่ง หรือแม้กระทั้งงานขึ้นบ้านใหม่
ในขณะที่เธอปรุงอาหารอยู่นั้นเสียงเอ่ยแซวและเสียงโห่ก็ดังขึ้น
พิมพ์แก้วหันไปมองทางด้านหลังก่อนจะอุทานออกมา
“อุ๊ย” เพราะคเชนทร์หรือช้าง ลูกชายกำนันประจำตำบลนั้นกำลังยืนยิ้มอยู่ทางานหลังเธอ
คเชนทร์ตามจีบเธออยู่นานหลายเดือน ตั้งแต่ที่เขากลับมาจากกรุงเทพฯ แต่เธอไม่เล่นด้วย เพราะฐานะที่แตกต่างกัน และมารดาของเขาไม่ชอบเธอ
แม้ลึกๆ แล้วเธอจะเคยมีความประทับใจให้แก่เขาตั้งแต่เยาว์วัย ก่อนที่เขาจะเดินทางไปเรียนต่อในเมืองใหญ่
และอาจเพราะว่าเขาร่ำรวย ฐานะดี บิดามารดามีหน้ามีตาในสังคม อีกทั้งคเชนทร์เองก็ยังหน้าตาดีมาก สาว ๆ ในหมู่บ้านต่างชอบเขามากมาย
เธอจึงไม่อยากแก่งแย่งชิงดีกับใคร เพราะเธอมีฐานะปานกลาง อายุเพียงแค่สิบแปด แถมยังกำพร้า คเชนทร์มีลูกล้อลูกชนมาก เธอกลัวจะตามเขาไม่ทัน จึงไม่อยากเผลอตัวเผลอใจให้เขา กลัวเขาจะแค่หลอก
วันก่อนเธอยังเห็นสาว ๆ หน้าตาดี จากในเมืองมาหาเขาอยู่เลย
“ให้พี่ช้างช่วยไหมจ๊ะแก้ว” เขาเอ่ยถามเสียงหวาน มองเธอด้วยสายตาเหมือนจะกลืนกิน ทำเอาพิมพ์แก้วใจสั่น ยอมรับว่าเขาทำให้เธอหวั่นไหวอยู่มากเหมือนกัน แต่เธอพยายามหักห้ามใจ
“ไม่ต้องจ้ะ” พิมพ์แก้วเอ่ยตอบ ยื่นมือไปคนแกงเนื้อในหม้อที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นตลบอบอวลไปทั่ว
คเชนทร์ก็เดินมาเบียดทางด้านหลัง จับมือเธอช่วยคนแกงด้วย
“อุ๊ย! ปล่อยนะคะพี่ช้าง” เธอดึงมือหนีหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู ที่นี่เป็นบ้านของเขา อะไร ๆ ก็ดูเข้าทางเขาไปเสียหมด ทุกคนก็ดูรู้เห็นเป็นใจกับเขา
ด้วย ไม่มีใครห้ามปรามหรือสนใจเมื่อคเชนทร์เข้าหาเธอ
“พี่อยากช่วยนี่จ้ะ” เขายิ้มหน้าเป็น
“ไม่เป็นไรจ้ะ หน้าที่ของฉัน” เธอรีบเอ่ยบอก
เธอเป็นแม่ครัวรับจ้างตามงาน หรือบางงานก็ช่วยไม่ได้คิดเงินมากมาย แล้วแต่เจ้าของงานให้ นอกจากเงิน เขาก็ให้เป็นข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องปรุงรสและเครื่องครัว ทำให้เธอไม่ต้องซื้อหาของพวกนี้ในการดำรงชีวิตเลยประหยัดไปได้มาก
แถมที่บ้านเธอยังปลูกพืชผักสวนครัวเอาไว้อีก ดังนั้นเงินจากการรับจ้างเป็นแม่ครัวเลยมีเหลือเก็บ
บ้านช่องคุณยายก็ปลูกเอาไว้ให้แล้ว แม้จะไม่ใช่บ้านหลังใหญ่มากนัก แต่ก็ทำให้เธออาศัยอยู่ได้อย่างสบาย กันแดดกันฝน ไม่ต้องไปนอนหนาวอยู่ใต้โคนกล้วย
“ตาช้างมาอยู่นี่เองแม่ตามหาเสียทั่ว” เสียงของชบาผู้ซึ่งมารดาของคเชนทร์เอ่ยขึ้น วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของสามี นั่นก็คือกำนันครามนั่นเอง นางและสามีเชิญแขกเหรื่อมาเยอะ เพราะอยากให้ลูกชาย ได้รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ และลูกสาวคนรวยๆ เผื่อจะถูกใจลูกผู้ดีมีเงินคนไหน จะได้ทาบทามสู่ขอให้ลูกชายเสียเลย
“ครับแม่”
“มาขลุกตัวอยู่ในครัวทำไม ที่นี่มีแม่ครัวอยู่แล้ว เราน่ะไปรับแขกกับแม่ดีกว่า” ชบาพูดเสียงเฉียบ ก่อนจะมาดึงลูกชายออกไปจากครัว ที่ทำเป็นเพิงชั่วคราว ทางด้านหลังบ้าน นี่ก็อีกเหตุผลหนึ่ง ที่เธอไม่อยากยุ่งกับคเชนทร์ เพราะมารดาของเขาค่อนข้างหวงมาก และท่านเอง ก็คงมองว่าเธอไม่เหมาะสมกับลูกชายของท่านด้วยประกันทั้งปวง
เป็นจริงดังคาด หลังจากเสร็จงาน ชบาเรียกไปพบ เพื่อจ่ายค่าตอบแทน
“ฉันขอพูดตรง ๆ นะพิมพ์แก้ว” ชบาเอ่ยเสียงเฉียบ
“ฉันไม่อยากให้ลูกชายของฉันไปยุ่งกับผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเธอ ฉันพูดแบบนี้เธอคงเข้าใจนะ”
“เข้าใจค่ะ”
“หลบหลีกได้ก็ควรหลบหลีก ตาช้างน่ะ ก็เหมือนผู้ชายทั่วไป เห็นผู้หญิงหน้าตาพอใช้ได้ ก็หยอกเล่นไปแบบนั้นเอง แต่เขาไม่ได้คิดจริงจังหรอก ฉันพูดแบบนี้ เธอก็คงเข้าใจนะ”
“เข้าใจค่ะ” พิมพ์แก้วรับคำ เธอไม่ชอบมีปัญหากับใครอยู่แล้ว เมื่อเสร็จงานเลี้ยงที่บ้านกำนันคราม พิมพ์แก้วเคลียร์ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็ปั่นจักรยาน เดินทางกลับบ้าน
“อุ๊ย” พิมพ์แก้วอุทาน เมื่อจู่ ๆ คเชนทร์ก็โผล่ออกมาจากข้างทาง มาดักหน้าของเธอเอาไว้
“ว้าย!” จักรยานเธอล้มลงไม่เป็นท่า
“โอ๊ย!” เธอร้องเสียงหลง
“เฮ้ย!” เขาร้องอย่างตกใจ รีบเข้าไปประคองร่างน้อยเอาไว้
“เป็นไงบ้าง”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอพยายามลุกแต่ไม่ไหว ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย!”
“ไม่เป็นอะไรได้ไง ร้องซะขนาดนี้”
“พี่ช้างจะทำอะไรคะ” เธอร้องอย่างตกใจ รีบกอดคอหนาเอาไว้ เมื่อเขาอุ้มขึ้นสู่อ้อมแขน
“อุ้มไปส่งบ้านไง ปวดขาซะขนาดนี้ จะกลับยังไงล่ะ”
“แล้วใครเป็นคนทำล่ะคะ” เธอต่อว่าเขา เขาก็ยิ้มใส่ตาเธอ
“พี่เป็นคนทำ พี่ยอมรับ พี่จะไถ่โทษด้วยการไปส่งแก้วที่บ้านไง”
“ไม่ต้องค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“แก้วตัวหนัก”
“แต่พี่อุ้มไหว”
“จักรยานแก้วล่ะคะ”
“เดี๋ยวให้คนเอาไปส่งให้” เขาอุ้มเธอเดินจ้ำอ้าวกลับบ้านสวนของเธอเอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
“บ้านร่มรื่นน่าอยู่จัง” เขาวางเธอที่แคร่ตรงใต้ถุนบ้าน ก่อนจะกวาดสายตา มองไปรอบกาย ก็เห็นแต่สวนผัก ต้นไม้ ดอกไม้ แลดูสดชื่นร่มรื่น
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!
หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เธอคิดว่าพวกเขาจะต่างคนต่างไปหลังจากการหย่าร้าง โดยเขาใช้ชีวิตของเขาเอง ส่วนเธอก็มีความสุขกับเธอไป-- แต่แล้ว... "ที่รัก ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาได้ไหม" ชายใจร้ายที่เคยหักหลังเธอสุดท้ายก็ก้มหัวที่หยิ่งผยองลง "เราคืนดีกันเถอะ ผมขอร้องล่ะ" ซูเชียนชือผลักดอกไม้ที่ชายคนนั้นมอบให้ออกไปอย่างเย็นชา และตอบอย่างใจเย็น "มันสายไปแล้ว"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน