โปรย เจ้าสาวของชเยศ เพราะเธอช่วยพี่สาวให้หนีไป คีติกาจึงต้องแต่งงานกับว่าที่พี่เขยของตัวเอง ทำให้เขาโกรธมาก จากที่เธอคิดว่าเขาจะยกเลิกการแต่งงาน เขากลับแต่งงานและรับเธอเป็นเมียแทน ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “ฉันไม่อยากเป็นเมียคุณ” “อยากไม่อยากก็เป็นไปแล้ว” เขาไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่ ชเยศมองหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง ทำเอาคีติกาต้องเม้มปากเข้าหากันเมื่อเห็นท่าทีของเขา “ฉันไม่ได้ขู่ แต่ฉันเอาจริง อยากเข้าไปในนอนในคุกก็เอาสิ คนแบบฉันสามารถทำให้เธอเข้าไปนอนในคุกได้สบาย ๆ หรือเธออยากจะลองดู” “อย่ามาขู่นะ ฉันไม่กลัวคุณหรอก” “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ขู่ หรือจะลอง” “ก็ได้ อยากได้อะไรก็บอก ฉันจะดูแลคุณก็ได้ แต่ไม่ใช่ในฐานะเมียคุณนะ แต่ฐานะที่ฉันทำให้คุณเจ็บตัวก็แล้วกัน” เสียงเธออ่อนลง เธอไม่ควรลองดีกับเขา นี่สิถึงจะถูก รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี เคยมีคนสอนเธอเอาไว้ “ฉันปวดฉี่” “คะ” เธอมองหน้าเขาแล้วกัดปากตัวเอง ก่อนหน้านี้เพิ่งเช็ดตัวเสร็จ และเมื่อกี้เพิ่งกินข้าว นี่จะเข้าห้องน้ำอีกแล้ว ป้อนข้าวไม่เท่าไหร่ แต่เช็ดตัวนี่สิ คนบ้าเรียกให้เธอไปถอดเสื้อผ้าให้ พอเธอไม่ทำ เขาก็จัดการแก้ผ้าตัวเองเสียเลย น่าอายที่สุด ไอ้คนบ้าลามก! เธอด่าเขาอยู่ในใจ “ค่ะ” เธอรับคำ พลางกัดฟันกรอด จัดการพาเขาเข้าห้องน้ำ “ฉันรอคุณอยู่ข้างนอกนะ” “ห้ามไปไหนไกลล่ะ เดี๋ยวเรียกแล้วไม่ได้ยิน” “คุณก็รีบทำธุระให้เสร็จสิ” เธอหันหลังให้เขา พลางทำหน้าเมื่อย “เสร็จแล้ว เธอมาช่วยฉันหน่อย” “ช่วยอะไร” “ก็มาก่อนสิ” “ว้าย! อะไรของคุณนี่” เธอร้องขึ้นเมื่อเดินเข้าไปหาเขาก็ยังอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย “ช่วยล้างอนาคอนด้าให้ฉันหน่อย” “ก็ล้างเองสิ ไอ้บ้า คุณนี่มั่นหน้ามากนะ เรียกของตัวเองว่าอนาคอนด้า โหย... ไอ้หนอนชาเขียว” “หน็อย... เธอว่าฉันเป็นหนอนชาเขียวอย่างนั้นเหรอ คอยดูหนอนชาเขียวอย่างฉันจะทำให้เธอครางได้ไหม” “ไอ้บ้า ไอ้ลามก ฉันไม่ยอมเป็นเมียคุณหรอก” “ก็ลองดูกันไป” เขากระชากเธอมาหา ก่อนจะพูดชิดใบหน้านวลเนียนของเธอ คีติกาดิ้นหนีเขาก็กดเธอไปกับผนังห้องน้ำก่อนจะบดจูบเธออย่างดุเดือด เพียะ! เสียงตบดังขึ้น ใบหน้าของเขาหันไปตามแรงตบ เขาก็ดึงเธอมากอดจูบอย่างดุเดือดอีกรอบ เธอก็ตบเขาอีกรอบ “ชอบตบจูบก็ไม่บอก” เขาจับเธออุ้มขึ้นพาดบ่า ความจริงอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ตั้งนานแล้ว แต่ที่เขายังอยู่โรงพยาบาลเพราะอยากแกล้งคีติกา “ไอ้บ้า! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” เธอกรีดร้องดีดดิ้นเมื่อเขากดเธอลงไปบนเตียงนอนของโรงพยาบาล “ไม่ปล่อย มีปัญญาดิ้นก็ดิ้นไปสิ” “ไหนคุณบอกว่ายังปวดหัวอยู่ไง” เขาบอกว่ายังป่วยอยู่ ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกหลายวัน แล้วนี่อะไรกัน “ฉันป่วยน่ะใช่ แต่ฉันก็อยากปราบพยศเธอ” “โอ๊ย!” ชเยศร้องเสียงหลงเมื่อโดนกัดเข้าที่บ่า “นึกว่าจะหนีรอดอย่างนั้นเหรอ โอ๊ย!” ชเยศร้องอีกรอบ รอบนี้เขาโดนเข่ากระแทกเข้าที่กล่องดวงใจ “สมน้ำหน้า” แนวนิยาย นิยายรักโรแมนติกหวานละมุน ซาบซึ้งตรึงใจ ตลกเบาสมอง พ่อแง่แม่งอน ตบจูบ พระนางชอบกัดกันเอาชนะกัน จบแบบสุขนิยม น่ารักไม่เครียด...
ชเยศฟื้นขึ้นมาบนเตียงของโรงพยาบาล โดยมีผ้าสีขาวพันเอาไว้บนศีรษะ
เขากวาดสายตามองไปรอบห้องก็สะดุดเข้ากับร่างของเจ้าสาวหมาดๆ ที่เขาเพิ่งแต่งงานด้วย
เธอเองก็ดีใจที่เขาฟื้นขึ้นมาเช่นกัน แต่เขานี่สิปวดหัวจนแทบระเบิด
“คุณเป็นยังไงบ้าง” เธอเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น ถ้าเขาตายไป เธอติดคุกแน่
“ฉันยังไม่ตาย” เขาเอ่ยตอบออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะหลับตาลงเพราะปวดหัว
“ปากดี” เธอเบ้หน้าใส่เขา
“ฉันจะแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกาย”
“ก็คุณอยากมาปลุกปล้ำฉันก่อนทำไม”
เธอช่วยให้พี่สาวหนีไปกับคมฉกรรจ์เพราะสงสารในชะตากรรมของพี่สาวที่ต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก และเธอก็เคารพรักคมฉกรรจ์เป็นอันมาก เพราะเขาเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ในตอนเด็ก สิ่งไหนที่จะตอบแทนเขาได้ เธอจึงช่วยเขาอย่างเต็มที่ ดังนั้นเธอจึงให้เขาลักลอบเข้ามาพาตัวพี่สาวออกไปจากห้องนอน โดยการวางยาสลบ ในขณะที่เธอปลอมตัวเป็นพี่สาวเข้าพิธีแต่งงานกับชเยศแทน
เธอคิดว่าชเยศไม่ได้ตัวพี่สาวของเธอ เขาก็คงยกเลิกงานแต่ง แต่ไม่ใช่อย่างนั้น เขายังคงแต่งงานต่อไป อาจเพราะรักษาหน้า เธอคิดไปอีกทางหนึ่ง พอเสร็จงานก็คงแยกย้าย แต่ที่ไหนได้ เขาแก้แค้นเธอ ที่เธอช่วยให้คมฉกรรจ์พาพี่สาวเธอหนีไป จะเข้ามาปลุกปล้ำเธอ ทวงสิทธิ์ว่าเป็นสามีแต่งงานกันแล้ว เธอต่อสู้ก็เลยเอาโคมไฟฟาดหัวเขาจนหัวแตก
เธอตกใจมากกลัวเขาตาย จึงรีบเรียกให้บิดามารดาเอารถออกเพื่อพาเขามาโรงพยาบาล และโชคดีที่เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่หัวแตกเท่านั้น
แต่ปากไม่ได้แตกตามไปด้วย ถึงยังปากดีอยู่แบบนี้
“จำไม่ได้หรือไงว่าเธอแต่งงานกับฉันแล้ว เธอเป็นเมียฉัน ฉันจะนอนกับเมียมันผิดตรงไหน”
“ผิดสิ เพราะฉันกับคุณไม่ได้รักกัน คนที่คุณจะแต่งงานด้วยคือพี่สาวของฉัน”
“อ้อ... รู้ด้วยใช่ไหมว่าคนที่ฉันจะแต่งงานด้วยคือพี่สาวของเธอ เธอก็ยังจะช่วยให้คมฉกรรจ์พาคีตาหนีไป”
“ฉัน...” เธออึกอัก ยอมรับว่าทำแบบนั้นจริงๆ ตอนทะเลาะกับเขา เธอเผลอคายความลับนี้ออกมา ไม่น่าเลยจริงๆ ถ้าเธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เขาก็ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนช่วยคมฉกรรจ์พาพี่สาวของเธอหนีไป
ปากพาจนแท้ๆ เลยยัยเพลิน
แต่ช่างหัวมัน เธอไม่ยอมรับผิดซะอย่าง ใครจะทำไม
“คุณนั่นแหละผิด พี่สาวของฉันรักอยู่กับพี่คม คุณก็ยังจะมาแย่งเขาไป ทำทุกวิถีทางบีบบังคับให้พี่สาวของฉันแต่งงานกับคุณ พี่คมพาพี่เพลงหนีไปน่ะถูกต้องแล้ว พี่เพลงจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักอย่างคุณ”
“อ้อ... เหรอ คนที่บีบบังคับพี่สาวของเธอคือพ่อแม่ของเธอไม่ใช่เหรอ ฉันก็แค่จีบ แต่คนที่ทำให้พี่สาวของเธอแต่งงานกับฉันคือพ่อแม่เธอนะคีติกา”
คีติกาเม้มปากเข้าหากัน เขาพูดก็ถูก บิดามารดาเล่นใหญ่ไฟกะพริบ ดราม่าน้ำตาแตก แถมยังยอมลงทุนโดนซ้อม แล้วพี่สาวที่รักพ่อแม่เหนือเกล้าเหนือหัวอย่างคีตาจะยอมทนให้พ่อแม่ลำบากอย่างนั้นเหรอ ไม่แน่นอน คีตาจึงเลยยอมตกลงแต่งงานกับชเยศ ในขณะที่คมฉกรรจ์เดินทางไปทำงานต่างจังหวัด และเธอก็ไม่ได้อยู่บ้านในช่วงนั้น
“ก็เพราะคุณมาจีบพี่สาวฉันไง พ่อแม่เลยบังคับพี่เพลง ถ้าคุณรู้ว่าพี่สาวของฉันมีคนที่รักอยู่แล้ว คุณมีคุณธรรมสักนิด ก็คงไม่คิดแย่งผู้หญิงของคนอื่นหรอก คุณเองก็หน้าตาดี การศึกษาดี ฐานะก็ดี คงไม่ขาดแคลนผู้หญิงหรอกใช่ไหม”
“ก็ใช่ ว่าฉันไม่ขาดแคลนผู้หญิง แต่ตอนนั้นฉันพบพี่สาวของเธอ ฉันก็ตกหลุมรักในทันที ก็เลยจีบ ใครจะไปรู้ล่ะว่าพี่สาวของเธอมีคนรักอยู่แล้ว พี่สาวของเธอก็ไม่ได้เอาป้ายมาแขวนคอไว้เสียหน่อยว่ามีว่าที่ผัวแล้ว”
“คุณนี่มัน” เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ปากร้าย ปากจัดยิ่งกว่าผู้หญิงก็นายชเยศนี่แหละ เธอไม่เคยพบเคยเจอคนบ้าอะไรเถียงเก่งแถเก่งเหมือนเขามาก่อนเลย
“ฉันทำไม”
“ปากดีแบบนี้คุณคงดูแลตัวเองได้แล้ว และฉันขอบอกตรงนี้เลยว่าฉันจะไม่ยอมเป็นเมียคุณเด็ดขาด” เธอ
กับเขาเจอกันเป็นทะเลาะกัน ถ้าให้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ คงทะเลาะกันตายแน่ ๆ ที่สำคัญก็คือเธอไม่ชอบหน้าเขาเอามากๆ
“ถ้าเธอขืนก้าวออกไปจากห้องนี้ รับรองได้เลยว่าฉันจะให้คนของฉันแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายแน่ ๆ ที่สำคัญก็คือเธอเป็นเมียฉันแล้ว ยังไงก็ต้องดูแลผัว มันเป็นหน้าที่และเป็นการชดใช้กับสิ่งที่เธอทำกับฉัน”
“ฉันไม่อยากเป็นเมียคุณ”
“อยากไม่อยากก็เป็นไปแล้ว อีกอย่างพี่สาวเธอหนีไปกับชายอื่น ฉันคงไม่เอาของเหลือเดนของใครแน่ แต่คนที่ฉันจะเอาก็คือเธอนี่แหละ เธอต้องชดใช้กับสิ่งที่เธอทำเอาไว้กับฉัน” เขาไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่ ชเยศมองหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง ทำเอาคีติกาต้องเม้มปากเข้าหากันเมื่อเห็นท่าทีของเขา
“ฉันไม่ได้ขู่ แต่ฉันเอาจริง อยากเข้าไปในนอนในคุกก็เอาสิ คนแบบฉันสามารถทำให้เธอเข้าไปนอนในคุกได้สบาย ๆ หรือเธออยากจะลองดู”
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!
หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย