/0/22690/coverbig.jpg?v=fa79831be0e88ed6c50975a5834a3309)
"ในโลกที่ความมืดครอบงำหัวใจ การต่อสู้เพื่อแสงสว่างกลับกลายเป็นศัตรูที่แท้จริง เมื่อตัวเลือกคือความรักหรือความแค้น ทางไหนจะนำพาสู่จุดจบ?"
เสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน เลือดไหลนองตามพื้นดิน ความตายค่อยๆ แผ่ซ่านไปทั่วทุกมุม ลูกเล็กเด็กแดงร้องไห้หาพ่อแม่ด้วยความหวาดกลัว บ้างก็กอดศพของพ่อแม่ไว้แน่น ร้องไห้ปานจะขาดใจ ฝันร้ายในค่ำคืนนี้กลายเป็นความจริงที่ไม่มีใครสามารถหลีกหนีได้
ท่ามกลางเสียงโศกเศร้า ฝีเท้าแผ่วเบาคู่หนึ่งเหยียบย่างเข้ามาที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งดูมีฐานะดีกว่าบ้านอื่นๆ รอบข้างตัวบ้านใหญ่โตและโอ่อ่า ประดับประดาไปด้วยของล้ำค่า แต่บรรยากาศรอบข้างกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดและหวาดหวั่น ชายวัยกลางคนผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวก้าวออกมาด้วยท่าทางแข็งกร้าว เขามองไปยังผู้มาเยือนที่ยืนอยู่ท่ามกลางเงามืด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและความโกรธ
“เจ้าเป็นใคร!?” เขาตะคอกถามอย่างดุดัน พยายามปกป้องครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังเขา
ชายสวมหมวกคลุมยืนเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเลิกหมวกออก เผยให้เห็นใบหน้าที่เขาเคยรู้จักดี ใบหน้าที่เขาเคยทอดทิ้ง
“ลูเซียส!” ชายวัยกลางคนอุทานออกมาอย่างตกใจระคนหวาดกลัว เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ลูเซียสแสยะยิ้มมุมปาก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและความเคียดแค้น
“จำข้าได้แล้วเหรอ... ท่านพ่อ” เสียงของเขาเน้นย้ำคำว่า "พ่อ" ราวกับต้องการทิ่มแทงหัวใจของชายตรงหน้าความเงียบที่ตามมาหลังจากนั้นหนักอึ้งราวกับจะทำให้หัวใจหยุดเต้น ลูเซียสจ้องมองชายผู้เคยเป็นพ่อของเขาด้วยความเกลียดชังที่สะสมมาตลอดหลายปี ความน้อยใจและความเสียใจที่เคยฝังลึกอยู่ในใจเขาไม่เคยจางหาย แต่กลับทวีความรุนแรงขึ้นทุกครั้งที่เขานึกถึงความทรยศหักหลังที่เขาเคยได้รับ
“ท่านพ่อ... ข้าเคยเรียกท่านเช่นนี้ด้วยความรักและเคารพ แต่สิ่งที่ข้าได้รับกลับมา... คือการทรยศและการทอดทิ้ง” ลูเซียสพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“ท่านทิ้งข้าไว้กับความมืด ความโดดเดี่ยว และความสิ้นหวัง ข้ารอคอยวันที่จะได้กลับมาพบท่าน... แต่ไม่ใช่ในฐานะลูกชาย... แต่ในฐานะผู้ที่ท่านทอดทิ้ง”
ดวงตาของชายวัยกลางคนสั่นระริก เขาเริ่มรู้สึกถึงความหวาดกลัวที่แทรกซึมเข้าไปในจิตใจของเขา ลูเซียสก้าวเข้ามาใกล้ช้าๆ ในขณะที่สายตาของเขาไม่ละไปจากใบหน้าของชายผู้เป็นพ่อของเขาเลย
“ท่านทำให้ข้าต้องทนทุกข์ทรมาน ต้องเผชิญหน้ากับความมืดที่กลืนกินจิตวิญญาณของข้า แต่บัดนี้ ข้าไม่ใช่ลูกชายที่ท่านเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว ข้าคือผลผลิตของความโหดร้ายที่ท่านสร้างขึ้นมาเอง และคืนนี้... ข้าจะทำให้ท่านได้ลิ้มรสความเจ็บปวดที่ข้าต้องทนมาโดยตลอด”
ลูเซียสไม่รอให้คำตอบใดๆหลุดจากชายผู้เคยเป็นพ่อของเขา เขาชักดาบที่หลอมจากเงามืดขึ้นมาและเคลื่อนเข้าไปโจมตีอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดและความแค้นที่สะสมมาเป็นเวลานาน เสียงดาบฟาดฟันทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ความโหดเหี้ยมและความเย็นชาของเขาไม่เหลือไว้ซึ่งความเมตตาหรือความปราณี
เสียงกรีดร้องของชายวัยกลางคนและสมาชิกในครอบครัวของเขาดังก้องไปทั่วบ้าน เสียงของความเจ็บปวดและความตายสั่นสะเทือนโสตประสาท ลูเซียสลงมือด้วยความโกรธที่ไม่อาจควบคุมได้ เขาฆ่าคนในบ้านทั้งหมด ไม่เหลือแม้แต่ชีวิตเดียว
ทุกครั้งที่ดาบของเขาฟาดลงไป มันเหมือนกับการชำระล้างความเจ็บปวดในใจของเขา แต่ยิ่งเขาฆ่ามากเท่าไร ความว่างเปล่าภายในจิตใจของเขากลับยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
เมื่อทุกอย่างจบลง ร่างของคนในครอบครัวนอนนิ่งอยู่กับพื้น เลือดไหลรินออกมาจากบาดแผลลึก ลูเซียสยืนอยู่ท่ามกลางซากศพเหล่านั้น หอบหายใจหนักด้วยความเหนื่อยล้าทั้งทางกายและจิตใจ เขามองดูผลงานของเขาด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้ แววตาสั่นไหวระริกไปด้วยความรู้สึกผิด แต่แค่แวบเดียว มันก็กลับมาดำมืดเหมือนเดิม
“นี่คือสิ่งที่ท่านทำให้ข้าต้องกลายเป็นแบบนี้... นี่คือสิ่งที่ข้าเหลืออยู่...” ลูเซียสพูดกับตัวเองเบาๆ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและความสิ้นหวัง
แต่ในความเงียบสงัดนั้น ลูเซียสกลับไม่รู้สึกถึงความพึงพอใจหรือความสุขที่เขาคาดหวัง สิ่งที่เขารู้สึกมีเพียงความว่างเปล่าและความเศร้าที่ไม่อาจลบล้างได้ ความเจ็บปวดที่เขาหวังว่าจะหายไปกลับยังคงอยู่ ราวกับว่ามันฝังลึกลงไปในจิตวิญญาณของเขา
เขามองดูร่างที่ไร้ชีวิตของพ่อและครอบครัวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสน
“ข้าควรจะรู้สึกอย่างไร... ข้าควรจะมีความสุขที่ได้แก้แค้นหรือเปล่า... หรือว่าข้าสูญเสียทุกสิ่งที่ข้ามีไปแล้ว”คำถามเหล่านั้นยังคงวนเวียนอยู่ในใจของลูเซียส ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ไม่มีทางออกจากความมืดที่เขาได้จมลึกลงไป
เมื่อเขาหันหลังกลับและเดินออกจากบ้านหลังนั้น ลูเซียสทิ้งให้หมู่บ้านเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความสิ้นหวัง เหลือไว้เพียงร่องรอยของการล้างแค้นที่ไม่มีวันจบสิ้น
แต่ภายในใจของเขา... เขายังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ไม่อาจลบล้างได้เสียงกระซิบในใจของลูเซียสเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง คำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบยังคงค้างคาอยู่ในจิตใจของเขา และมันทำให้เขารู้ว่า... เขาไม่มีวันหลุดพ้นจากเงามืดในจิตใจของเขาเอง
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"