เมื่อเขาต้องเลือกเจ้าสาวจากลูกสาวของเพื่อนสนิทของพ่อที่มีอยู่2คน คนพี่สวยเซ็กซี่หยิ่งทนง คนน้องสวยน่ารักใสซื่อไม่ถือตัว เขาควรจะเลือกใครดี
เมื่อเขาต้องเลือกเจ้าสาวจากลูกสาวของเพื่อนสนิทของพ่อที่มีอยู่2คน คนพี่สวยเซ็กซี่หยิ่งทนง คนน้องสวยน่ารักใสซื่อไม่ถือตัว เขาควรจะเลือกใครดี
"คุณหนูคับ"
"สวัสดีค่ะ...ลุงสม..มาหาเดียร์ถึงที่นี่มีอะไรหรือป่าวคะ"
หญิงสาวสวยในชุดนักศึกษายกมือไหว้ชายวัยกลางคนด้วยท่าทางนอบน้อม
"คุณหนู..ลุงบอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าไม่ต้องไหว้ลุงไงคับ..ถ้าคุณษารู้ก็จะบ่นและโกรธคุณหนูอีก"ลุงสมบอก
"ช่างพี่ษาเถอะค่ะ..เดียร์ไม่สนใจหรอก..ก็เดียร์รักและเคารพลุงสมเหมือนลุงแท้ๆ..เดียร์ก็จะไหว้"
เดียร์เดินเข้าไปกอดเอวของลุงสม
"ดื้อตลอดล่ะคับ..ว่าแต่ทำไมวันนี้คุณหนูถึงไม่กลับบ้าน..ตามที่คุณพ่อบอกล่ะคับ..ท่านบ่นใหญ่เลย"ลุงสมบอก
"ก็เดียร์บอกพ่อแล้ว...ว่าวันนี้เดียร์มีสอบนี่คะ..พ่อไม่ฟังเองอ่ะ"เดียร์ทำหน้างอ
"งั้น..วันเสาร์นี้คุณหนูกลับบ้านนะคับ..คุณพ่อคิดถึงนะคับ"ลุงสมบอก
"ก็ได้ค่ะ..งั้นลุงสมก็ไปบอกพ่อก็แล้วกันค่ะว่าเดียร์จะกลับบ้าน.."เดียร์พูด
"คับ..งั้นลุงกลับก่อนนะคับ"ลุงสมบอก
"ขับรถกลับดีๆนะคะ..สวัสดีค่ะลุง..ฝากบอกป้านิ่ม พี่นุ่นและทุกคนด้วยว่าเดียร์คิดถึงนะคะ"เดียร์ยกมือไหว้แล้วยิ้มให้
"คับ..คุณหนูก็ระวังตัวและดูแลตัวเองดีๆนะคับ"ลุงสมบอก
"ค่ะ..ขอบคุณนะคะ"เดียร์ยิ้ม
ห่างจากที่เดียร์กับลุงสมคุยกันไม่ไกลมาก มีรถเก๋งสีดำจอดอยู่ กระจกด้านหลังเปิดลงและมีชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังมองมาที่เดียร์กับลุงสมที่คุยกันอยู่โดยตลอด
"นี่แหละคับคุณพีท..คุณนาเดียร์น้องสาวของคุณนาริษา..ลูกสาวคนเล็กของคุณนาวินเพื่อนของคุณพ่อคุณพีท..ที่ไม่ได้อยู่ที่บ้านวันนี้"คนขับรถหันมาบอกชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างหลัง
ชายหนุ่มคนนี้มีหน้าตาที่คมเข้มและหล่อมากๆ เขามองดูเดียร์ที่คุยกับลุงสมด้วยสายตาที่แปลกใจมากๆ
"เท่าที่ผมรู้มา..คุณนาเดียร์จะรักและเคารพรวมถึงสนิทสนมกับคนงานในบ้านทุกคน คนงานในบ้านจึงรักและเอ็นดูเธอมากกว่าคุณนาริษาที่ไม่ค่อยชอบลงไปสนิทสนมกับคนเหล่านั้นเพราะเห็นว่าเป็นแค่คนรับใช้ คุณนาริษาจึงมีเรื่องทะเลาะกับคุณนาเดียร์เป็นประจำเรื่องที่คุณนาเดียร์ชอบไปคลุกคลีกับคนงาน จนคุณนาเดียร์ขอคุณนาวินออกมาพักอยู่ที่หอของมหาลัย แต่คุณนาวินบอกว่าถ้าจะออกมาอยู่ข้างนอกก็ต้องไปอยู่คอนโดที่ซื้อไว้ คุณนาเดียร์ก็เลยย้ายออกมาอยู่คอนโดตั้งแต่เรียนมหาลัยปี1คับ"คนขับรถบอก
"คุณนาเดียร์มาเรียนและตอนเย็นจะไปเป็นดีเจเปิดเพลงที่ผับของคุณชาญชัยเพื่อนของคุณพีท ลูกชายของคุณเชิงชายเพื่อนของคุณพ่อคุณพีทกับคุณนาวินนั่นแหละคับ"คนขับรถพูด
"เป็นดีเจเหรอ"พีทพูด
"คับ..เธอไปเป็นดีเจเปิดเพลงตั้งแต่2ทุ่มจนถึง5ทุ่ม แล้วก็กลับคอนโด เป็นอย่างนี้ทุกวันคับ"
พีทมองสาวสวยที่ยืนมองรถที่ลุงสมขับออกไป เธอเป็นคนสวยเหมือนกับนาริษาที่เขาไปเจอมาวันนี้ แต่ฟังจากคนของเขาแล้วนิสัยน่าจะต่างกันอย่างมาก เขาเห็นเธอเดินไปขึ้นรถเก๋งสีขาวและกำลังจะขับออกไปจากมหาลัย
"ตามเธอไป.."พีทบอก
"คับ"
พีทให้คนขับรถตามเดียร์ไป เขาเห็นเธอจอดรถลงไปซื้อขนมมา2-3ถุงแล้วก็กลับมาขึ้นรถขับต่อไปจนถึงคอนโด ก่อนจะเข้าไปในคอนโดจะผ่านตู้ยาม เขาเห็นเธอส่งถุงขนมให้ยามที่อยู่ในนั้น1ถุง แล้วก็ขับเข้าไปข้างใน
พีทให้คนขับรถตามเข้าไปข้างในคอนโด จนเธอจอดรถและลงจากรถพร้อมกับถือถุงขนมอีก2ถุงมาด้วย เขาให้คนขับจอดห่างจากที่เธอจอดนิดหนึ่งเพื่อจะดูว่าเธอจะทำอะไรต่อ
เดียร์ลงจากรถแล้วถือถุงขนมตรงไปให้ยามที่เฝ้าลานจอดรถ1ถุง
"เดียร์ซื้อขนมมาฝากค่ะ"
"ขอบคุณคับคุณเดียร์"
ยามรับถุงขนมไว้แล้วยิ้มขอบคุณเธอ
แล้วเดียร์ก็เดินไปที่ลิฟต์ ที่ลิฟต์ก็มียามอีกหนึ่งคน เธอเดินไปถึงก็ส่งถุงขนมให้เหมือนกัน
"เดียร์เอาขนมมาฝากค่ะ"
"ขอบคุณคับคุณเดียร์"
ยามกดลิฟต์ให้เดียร์แล้วขอบคุณเธอ
พีทเห็นที่เดียร์ทำก็อมยิ้ม เขาคิดว่าเธอเป็นคนแปลกๆ
"แล้วเธอไปทำงานกี่โมง"พีทถาม
"6โมงเย็นคับ..คุณพีทจะรอหรือว่าจะไปไหนต่อคับ"คนขับถาม
"รอคับ"พีทพูด
พีทรอจนกระทั่งเกือบๆ6โมงเย็น เดียร์ก็ลงลิฟต์มา เขาเห็นเธอสวมชุดหนังสีดำทั้งชุด สวมรองเท้าหุ้มส้น ปล่อยผมที่มีสีน้ำตาลเข้มเป็นลอนใหญ่ ไม่ได้แต่งหน้าตาแค่ทาแป้งกับลิปสติกสีชมพูออ่นๆ มือถือหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีดำมาด้วย เธอเดินตรงไปที่รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สีดำที่จอดอยู่ด้านข้างรถเก๋งที่เธอจอดทีแรก
เดียร์เดินไปถึงรถก็เอาหมวกกันน็อควางบนเบาะรถแล้วเอามือรวบผมม้วนๆไว้กลางหัวแล้วสวมหมวกกันน็อคคลุมลงมา จากนั้นก็คล่อมรถแล้วสตาร์ทขี่ออกไปจากลานจอดรถ
พีทเห็นที่เดียร์ทำก็อึ้ง เขาไม่คิดว่าเธอจะกล้าขี่รถบิ๊กไบค์ เธอตัวเล็กนิดเดียวเท่านั้นถ้ารถล้มจะทำยังไงกัน เขาบอกให้คนขับรถตามเธอไป
พีทตามไปจนกระทั่งถึงที่ผับของชาญชัย
เดียร์ขี่รถไปจอดทางด้านหลังของผับ แล้วเดินเข้าไปข้างใน
"อ้าว!มาถึงแต่วันเลยเดียร์"ชัยทัก
"ค่ะ..พี่ชัย..วันนี้เดียร์เลิกเรียนเร็ว..งั้นขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ"เดียร์พูด
"ตามสบายเลย"ชัยบอก
เดียร์เดินเข้าไปข้างในที่มีห้องเอาไว้สำหรับแต่งตัว
พีทเดินเข้าไปในผับ เขาให้คนขับรถกลับไปก่อนแล้วเขาจะขับรถกลับเอง
"อ้าว!เฮ้ย..ลมอะไรหอบมึงมาถึงผับกูได้วะ..ไอ้พีท"ชัยทัก
"เออ..กูแค่อยากมาดูว่ากิจการของมึงเป็นยังไงบ้าง"พีทพูด
เขาเดินเข้าไปหาชัยแล้วจับมือกัน
พีทกับชัยเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียนประถมจนจบปริญญาตรี มาห่างกันตอนที่พีทไปเรียนต่อโทที่เมืองนอกแต่พอกลับมาก็สนิทกันเหมือนเดิม
"กูได้ข่าวว่า..พ่อมึงให้มึงไปเลือกว่าที่เจ้าสาวที่เป็นลูกสาวของลุงนาวินไม่ใช่เหรอวะ"ชัยยิ้ม
"เออสิ..พ่อกับแม่กูบอกว่าเคยสัญญากับป้าวิภาวีไว้ก่อนที่ป้าวิจะเสียว่าจะให้กูแต่งงานกับลูกสาวคนใดคนหนึ่งของเขา..ก็เลยต้องทำตามคำพูด"พีทพูด
"ดีนะที่มึงยังไม่มีแฟน..ไม่งั้นงานนี้คงวุ่นวายน่าดู"ชัยว่า
"เออ..กูก็พอจะรู้อยู่ก่อนแล้ว ถึงได้ไม่คบใครจริงจังไง"พีทบอก
"แล้วไปเจอมา..เป็นไงบ้างล่ะมึง...ถูกใจมั้ย..แต่กูว่าสเปคของมึงก็น่าจะถูกใจอยู่นะ..นาริษาทั้งสวยทั้งเปรี้ยว ทันสมัยจัดๆอยู่ การแต่งตัวก็เหมือนสาวๆที่มึงเคยควงอยู่นี่"ชัยพูดยิ้มๆ
"ก็สวยอยู่..แต่อีกคนยังไม่เห็น"พีทพูด
"นาเดียร์น่ะเหรอ..อ้าว!แล้ววันนี้เดียร์ไม่ได้เข้าไปบ้านหรอกเหรอ"ชัยถาม
"ใช่..กูก็เลยยังไม่รู้ว่าจะเลือกใครดี..ต้องให้กูเห็นอีกคนก่อน"พีทพูดทำหน้าเฉยๆ
"งั้น..เดี๋ยวมึงก็ได้เห็น..เพราะเดียร์มาเป็นดีเจอยู่ที่ร้านของกูนี่แหละ"ชัยบอก
"เหรอวะ"พีทแกล้งทำเหมือนเพิ่งรู้
"เออ!เดียร์มาเป็นดีเจที่นี่ตั้ง3ปีแล้ว ร้านกูมีคนมากก็เพราะเดียร์นี่แหละ..ลูกค้าส่วนใหญ่มาติดเดียร์กันทั้งนั้น..แต่กินแห้วทุกราย"ชัยยิ้ม
"ทำไมวะ"พีทถาม
"ก็เดียร์ไม่สนใจใคร..ไม่เคยมานั่งที่โต๊ะแขกเลยนับตั้งแต่เริ่มงานมา"ชัยบอก
"แล้วลูกค้ายอมเหรอวะ"พีทถาม
"กูก็เห็นยอมทุกคน..และก็มากันแทบทุกวัน...เดียร์นิสัยไม่เหมือนษาหรอกนะ...มึงไปอยู่เมืองนอกเสียนานคงไม่รู้"ชัยพูด
"งั้นมึงก็เล่ามา...กูจะฟัง"พีทพูด
"เดียร์กับษานิสัยต่างกันเหมือนขาวกับดำเลย ษาเป็นคนสวย เก่งหยิ่งทนง แต่งตัวทันสมัยเหมือนหลุดมาจากนิตยสาร คนที่ษาคบจะต้องอยู่ในระดับเดียวกันเท่านั้น ส่วนเดียร์ก็เป็นคนสวย เก่งแต่ไม่หยิ่ง เดียร์เข้ากับคนง่าย ยิ้มเก่ง มองโลกในแง่ดี เข้าได้กับทุกคนทุกระดับชั้น ไม่ว่าจะรวยหรือจนก็คบได้หมด แต่ไม่ชอบแต่งตัวเหมือนสาวๆสมัยนี้และที่เดียร์ต้องออกมาอยู่คอนโดก็เพราะทะเลาะกับษาเรื่องการคบคนนี่แหละ"ชัยเล่า
"งั้น..กูคงต้องลองพูดคุยดูก่อนถึงจะรู้ว่าจะเลือกใครดีว่ะ"พีทพูด
"นั่นๆ..เดียร์เดินออกมาแล้ว..มึงก็นั่งมองไปก่อนก็แล้วกันนะเพื่อน..กูขอไปรับแขกก่อน"ชัยบอก
"เออ..ไปเถอะ..กูจะนั่งตรงนี้แหละ...มึงไม่ต้องบอกเดียร์ล่ะ"พีทบอก
เขาตกหลุมรักเพื่อนสนิทของน้องสาวตั้งแต่เห็นครั้งแรกแต่เพราะเธอมีนิสัยที่ไม่เหมือนใครทำให้เขาไม่กล้าแสดงตัวว่าชอบได้แต่พยายามตีสนิทโดยมีน้องสาวตัวแสบคอยช่วยเหลือคงต้องมาช่วยกันลุ้นว่าเขาจะจีบเธอมาเป็นแฟนได้มั้ย
เขาแอบรักเธอตั้งแต่เขายังเรียนมัธยมต้นแต่ไม่กล้าบอกเพราะเธอเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทจนผ่านมาถึง10ปีเขาได้เจอกับเธออีกครั้งและตั้งใจจะบอกกับเธอ แต่เขาก็ต้องมีคู่แข่งอีกหลายคนดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนเพื่อทำให้เธอรักเขาให้ได้
เขาเป็นลูกชายของมาเฟียที่ผันตัวเองมาทำธุรกิจ เขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไม่จริงจังกับใครแต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ช่วยชีวิตเธอไว้โดยบังเอิญแล้วนั่นก็เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเขาตกหลุมรักเธอโดยยังไม่รู้แม้แต่ชื่อ แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไป
เขาหลงรักเธอตั้งแต่ในความฝันแล้วพยายามตามหาเธอในความจริงจนกระทั่งพรหมลิขิตก็ทำให้เขาได้เจอกับเธอ
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
เธอแอบชอบรุ่นพี่มาตั้งแต่เข้ามหาลัยปี 1 แต่ไม่กล้าบอกจนผ่านมาได้ 1 ปีเธอถึงได้กล้าไปบอกเขาและขอตามฉี่เป็นเวลา 3 เดือนเขาปฏิเสธ
ห้าปีก่อน เพื่อช่วยเผยจี๋ ท้องของซางหว่านถูกแทงจนบาดเจ็บ ชาตินี้ไม่สามารถมีลูกได้อีก เผยจี๋ที่เคยบอกว่าทั้งชาตินี้ไม่อยากมีลูก สุดท้ายก็ยังมีความคิด “อาศัยท้องคนอื่นอุ้มบุญ” และคนที่เขาเลือกคือ ซูเซวี่ย นักศึกษามหาวิทยาลัยที่หน้าตาคล้ายกับซางหว่าน เผยจี๋ไม่รู้เลยว่า ในวันที่เขาเสนอความต้องการนี้ออกมา ซางหว่านก็ได้ตัดสินใจจะจากเขาไปแล้ว
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
นั่งรีวิวนิยายอยู่ดีๆ จ้าวลี่หลินก็ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นนางร้ายในนิยายตรงหน้า สวรรค์ข้าเพียงด่านางร้ายผู้นี้ไปสองสามประโยคเท่านั้น เหตุใดต้องกลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ แล้วสามีผู้นี้มิใช่ว่าเขาคือแม่ทัพผู้เก่งกาจหรือไร เกิดอะไรขึ้นจึงได้มาเป็นชาวสวนแบบนี้ แต่ถึงจะถูกไล่ออกมาเป็นชาวสวนแล้วอย่างไร ไม่ได้เป็นขุนนางก็เป็นคนร่ำรวยได้ มีเงินย่อมมีอำนาจมิใช่หรือ แต่หากอยากกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งก็ต้องฟังภรรยาอย่างข้า สามี...อยากรวยต้องช่วยข้าทำสวน
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY