เมื่อเขาต้องเลือกเจ้าสาวจากลูกสาวของเพื่อนสนิทของพ่อที่มีอยู่2คน คนพี่สวยเซ็กซี่หยิ่งทนง คนน้องสวยน่ารักใสซื่อไม่ถือตัว เขาควรจะเลือกใครดี
เมื่อเขาต้องเลือกเจ้าสาวจากลูกสาวของเพื่อนสนิทของพ่อที่มีอยู่2คน คนพี่สวยเซ็กซี่หยิ่งทนง คนน้องสวยน่ารักใสซื่อไม่ถือตัว เขาควรจะเลือกใครดี
"คุณหนูคับ"
"สวัสดีค่ะ...ลุงสม..มาหาเดียร์ถึงที่นี่มีอะไรหรือป่าวคะ"
หญิงสาวสวยในชุดนักศึกษายกมือไหว้ชายวัยกลางคนด้วยท่าทางนอบน้อม
"คุณหนู..ลุงบอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าไม่ต้องไหว้ลุงไงคับ..ถ้าคุณษารู้ก็จะบ่นและโกรธคุณหนูอีก"ลุงสมบอก
"ช่างพี่ษาเถอะค่ะ..เดียร์ไม่สนใจหรอก..ก็เดียร์รักและเคารพลุงสมเหมือนลุงแท้ๆ..เดียร์ก็จะไหว้"
เดียร์เดินเข้าไปกอดเอวของลุงสม
"ดื้อตลอดล่ะคับ..ว่าแต่ทำไมวันนี้คุณหนูถึงไม่กลับบ้าน..ตามที่คุณพ่อบอกล่ะคับ..ท่านบ่นใหญ่เลย"ลุงสมบอก
"ก็เดียร์บอกพ่อแล้ว...ว่าวันนี้เดียร์มีสอบนี่คะ..พ่อไม่ฟังเองอ่ะ"เดียร์ทำหน้างอ
"งั้น..วันเสาร์นี้คุณหนูกลับบ้านนะคับ..คุณพ่อคิดถึงนะคับ"ลุงสมบอก
"ก็ได้ค่ะ..งั้นลุงสมก็ไปบอกพ่อก็แล้วกันค่ะว่าเดียร์จะกลับบ้าน.."เดียร์พูด
"คับ..งั้นลุงกลับก่อนนะคับ"ลุงสมบอก
"ขับรถกลับดีๆนะคะ..สวัสดีค่ะลุง..ฝากบอกป้านิ่ม พี่นุ่นและทุกคนด้วยว่าเดียร์คิดถึงนะคะ"เดียร์ยกมือไหว้แล้วยิ้มให้
"คับ..คุณหนูก็ระวังตัวและดูแลตัวเองดีๆนะคับ"ลุงสมบอก
"ค่ะ..ขอบคุณนะคะ"เดียร์ยิ้ม
ห่างจากที่เดียร์กับลุงสมคุยกันไม่ไกลมาก มีรถเก๋งสีดำจอดอยู่ กระจกด้านหลังเปิดลงและมีชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังมองมาที่เดียร์กับลุงสมที่คุยกันอยู่โดยตลอด
"นี่แหละคับคุณพีท..คุณนาเดียร์น้องสาวของคุณนาริษา..ลูกสาวคนเล็กของคุณนาวินเพื่อนของคุณพ่อคุณพีท..ที่ไม่ได้อยู่ที่บ้านวันนี้"คนขับรถหันมาบอกชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างหลัง
ชายหนุ่มคนนี้มีหน้าตาที่คมเข้มและหล่อมากๆ เขามองดูเดียร์ที่คุยกับลุงสมด้วยสายตาที่แปลกใจมากๆ
"เท่าที่ผมรู้มา..คุณนาเดียร์จะรักและเคารพรวมถึงสนิทสนมกับคนงานในบ้านทุกคน คนงานในบ้านจึงรักและเอ็นดูเธอมากกว่าคุณนาริษาที่ไม่ค่อยชอบลงไปสนิทสนมกับคนเหล่านั้นเพราะเห็นว่าเป็นแค่คนรับใช้ คุณนาริษาจึงมีเรื่องทะเลาะกับคุณนาเดียร์เป็นประจำเรื่องที่คุณนาเดียร์ชอบไปคลุกคลีกับคนงาน จนคุณนาเดียร์ขอคุณนาวินออกมาพักอยู่ที่หอของมหาลัย แต่คุณนาวินบอกว่าถ้าจะออกมาอยู่ข้างนอกก็ต้องไปอยู่คอนโดที่ซื้อไว้ คุณนาเดียร์ก็เลยย้ายออกมาอยู่คอนโดตั้งแต่เรียนมหาลัยปี1คับ"คนขับรถบอก
"คุณนาเดียร์มาเรียนและตอนเย็นจะไปเป็นดีเจเปิดเพลงที่ผับของคุณชาญชัยเพื่อนของคุณพีท ลูกชายของคุณเชิงชายเพื่อนของคุณพ่อคุณพีทกับคุณนาวินนั่นแหละคับ"คนขับรถพูด
"เป็นดีเจเหรอ"พีทพูด
"คับ..เธอไปเป็นดีเจเปิดเพลงตั้งแต่2ทุ่มจนถึง5ทุ่ม แล้วก็กลับคอนโด เป็นอย่างนี้ทุกวันคับ"
พีทมองสาวสวยที่ยืนมองรถที่ลุงสมขับออกไป เธอเป็นคนสวยเหมือนกับนาริษาที่เขาไปเจอมาวันนี้ แต่ฟังจากคนของเขาแล้วนิสัยน่าจะต่างกันอย่างมาก เขาเห็นเธอเดินไปขึ้นรถเก๋งสีขาวและกำลังจะขับออกไปจากมหาลัย
"ตามเธอไป.."พีทบอก
"คับ"
พีทให้คนขับรถตามเดียร์ไป เขาเห็นเธอจอดรถลงไปซื้อขนมมา2-3ถุงแล้วก็กลับมาขึ้นรถขับต่อไปจนถึงคอนโด ก่อนจะเข้าไปในคอนโดจะผ่านตู้ยาม เขาเห็นเธอส่งถุงขนมให้ยามที่อยู่ในนั้น1ถุง แล้วก็ขับเข้าไปข้างใน
พีทให้คนขับรถตามเข้าไปข้างในคอนโด จนเธอจอดรถและลงจากรถพร้อมกับถือถุงขนมอีก2ถุงมาด้วย เขาให้คนขับจอดห่างจากที่เธอจอดนิดหนึ่งเพื่อจะดูว่าเธอจะทำอะไรต่อ
เดียร์ลงจากรถแล้วถือถุงขนมตรงไปให้ยามที่เฝ้าลานจอดรถ1ถุง
"เดียร์ซื้อขนมมาฝากค่ะ"
"ขอบคุณคับคุณเดียร์"
ยามรับถุงขนมไว้แล้วยิ้มขอบคุณเธอ
แล้วเดียร์ก็เดินไปที่ลิฟต์ ที่ลิฟต์ก็มียามอีกหนึ่งคน เธอเดินไปถึงก็ส่งถุงขนมให้เหมือนกัน
"เดียร์เอาขนมมาฝากค่ะ"
"ขอบคุณคับคุณเดียร์"
ยามกดลิฟต์ให้เดียร์แล้วขอบคุณเธอ
พีทเห็นที่เดียร์ทำก็อมยิ้ม เขาคิดว่าเธอเป็นคนแปลกๆ
"แล้วเธอไปทำงานกี่โมง"พีทถาม
"6โมงเย็นคับ..คุณพีทจะรอหรือว่าจะไปไหนต่อคับ"คนขับถาม
"รอคับ"พีทพูด
พีทรอจนกระทั่งเกือบๆ6โมงเย็น เดียร์ก็ลงลิฟต์มา เขาเห็นเธอสวมชุดหนังสีดำทั้งชุด สวมรองเท้าหุ้มส้น ปล่อยผมที่มีสีน้ำตาลเข้มเป็นลอนใหญ่ ไม่ได้แต่งหน้าตาแค่ทาแป้งกับลิปสติกสีชมพูออ่นๆ มือถือหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีดำมาด้วย เธอเดินตรงไปที่รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สีดำที่จอดอยู่ด้านข้างรถเก๋งที่เธอจอดทีแรก
เดียร์เดินไปถึงรถก็เอาหมวกกันน็อควางบนเบาะรถแล้วเอามือรวบผมม้วนๆไว้กลางหัวแล้วสวมหมวกกันน็อคคลุมลงมา จากนั้นก็คล่อมรถแล้วสตาร์ทขี่ออกไปจากลานจอดรถ
พีทเห็นที่เดียร์ทำก็อึ้ง เขาไม่คิดว่าเธอจะกล้าขี่รถบิ๊กไบค์ เธอตัวเล็กนิดเดียวเท่านั้นถ้ารถล้มจะทำยังไงกัน เขาบอกให้คนขับรถตามเธอไป
พีทตามไปจนกระทั่งถึงที่ผับของชาญชัย
เดียร์ขี่รถไปจอดทางด้านหลังของผับ แล้วเดินเข้าไปข้างใน
"อ้าว!มาถึงแต่วันเลยเดียร์"ชัยทัก
"ค่ะ..พี่ชัย..วันนี้เดียร์เลิกเรียนเร็ว..งั้นขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ"เดียร์พูด
"ตามสบายเลย"ชัยบอก
เดียร์เดินเข้าไปข้างในที่มีห้องเอาไว้สำหรับแต่งตัว
พีทเดินเข้าไปในผับ เขาให้คนขับรถกลับไปก่อนแล้วเขาจะขับรถกลับเอง
"อ้าว!เฮ้ย..ลมอะไรหอบมึงมาถึงผับกูได้วะ..ไอ้พีท"ชัยทัก
"เออ..กูแค่อยากมาดูว่ากิจการของมึงเป็นยังไงบ้าง"พีทพูด
เขาเดินเข้าไปหาชัยแล้วจับมือกัน
พีทกับชัยเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียนประถมจนจบปริญญาตรี มาห่างกันตอนที่พีทไปเรียนต่อโทที่เมืองนอกแต่พอกลับมาก็สนิทกันเหมือนเดิม
"กูได้ข่าวว่า..พ่อมึงให้มึงไปเลือกว่าที่เจ้าสาวที่เป็นลูกสาวของลุงนาวินไม่ใช่เหรอวะ"ชัยยิ้ม
"เออสิ..พ่อกับแม่กูบอกว่าเคยสัญญากับป้าวิภาวีไว้ก่อนที่ป้าวิจะเสียว่าจะให้กูแต่งงานกับลูกสาวคนใดคนหนึ่งของเขา..ก็เลยต้องทำตามคำพูด"พีทพูด
"ดีนะที่มึงยังไม่มีแฟน..ไม่งั้นงานนี้คงวุ่นวายน่าดู"ชัยว่า
"เออ..กูก็พอจะรู้อยู่ก่อนแล้ว ถึงได้ไม่คบใครจริงจังไง"พีทบอก
"แล้วไปเจอมา..เป็นไงบ้างล่ะมึง...ถูกใจมั้ย..แต่กูว่าสเปคของมึงก็น่าจะถูกใจอยู่นะ..นาริษาทั้งสวยทั้งเปรี้ยว ทันสมัยจัดๆอยู่ การแต่งตัวก็เหมือนสาวๆที่มึงเคยควงอยู่นี่"ชัยพูดยิ้มๆ
"ก็สวยอยู่..แต่อีกคนยังไม่เห็น"พีทพูด
"นาเดียร์น่ะเหรอ..อ้าว!แล้ววันนี้เดียร์ไม่ได้เข้าไปบ้านหรอกเหรอ"ชัยถาม
"ใช่..กูก็เลยยังไม่รู้ว่าจะเลือกใครดี..ต้องให้กูเห็นอีกคนก่อน"พีทพูดทำหน้าเฉยๆ
"งั้น..เดี๋ยวมึงก็ได้เห็น..เพราะเดียร์มาเป็นดีเจอยู่ที่ร้านของกูนี่แหละ"ชัยบอก
"เหรอวะ"พีทแกล้งทำเหมือนเพิ่งรู้
"เออ!เดียร์มาเป็นดีเจที่นี่ตั้ง3ปีแล้ว ร้านกูมีคนมากก็เพราะเดียร์นี่แหละ..ลูกค้าส่วนใหญ่มาติดเดียร์กันทั้งนั้น..แต่กินแห้วทุกราย"ชัยยิ้ม
"ทำไมวะ"พีทถาม
"ก็เดียร์ไม่สนใจใคร..ไม่เคยมานั่งที่โต๊ะแขกเลยนับตั้งแต่เริ่มงานมา"ชัยบอก
"แล้วลูกค้ายอมเหรอวะ"พีทถาม
"กูก็เห็นยอมทุกคน..และก็มากันแทบทุกวัน...เดียร์นิสัยไม่เหมือนษาหรอกนะ...มึงไปอยู่เมืองนอกเสียนานคงไม่รู้"ชัยพูด
"งั้นมึงก็เล่ามา...กูจะฟัง"พีทพูด
"เดียร์กับษานิสัยต่างกันเหมือนขาวกับดำเลย ษาเป็นคนสวย เก่งหยิ่งทนง แต่งตัวทันสมัยเหมือนหลุดมาจากนิตยสาร คนที่ษาคบจะต้องอยู่ในระดับเดียวกันเท่านั้น ส่วนเดียร์ก็เป็นคนสวย เก่งแต่ไม่หยิ่ง เดียร์เข้ากับคนง่าย ยิ้มเก่ง มองโลกในแง่ดี เข้าได้กับทุกคนทุกระดับชั้น ไม่ว่าจะรวยหรือจนก็คบได้หมด แต่ไม่ชอบแต่งตัวเหมือนสาวๆสมัยนี้และที่เดียร์ต้องออกมาอยู่คอนโดก็เพราะทะเลาะกับษาเรื่องการคบคนนี่แหละ"ชัยเล่า
"งั้น..กูคงต้องลองพูดคุยดูก่อนถึงจะรู้ว่าจะเลือกใครดีว่ะ"พีทพูด
"นั่นๆ..เดียร์เดินออกมาแล้ว..มึงก็นั่งมองไปก่อนก็แล้วกันนะเพื่อน..กูขอไปรับแขกก่อน"ชัยบอก
"เออ..ไปเถอะ..กูจะนั่งตรงนี้แหละ...มึงไม่ต้องบอกเดียร์ล่ะ"พีทบอก
เขาตกหลุมรักเพื่อนสนิทของน้องสาวตั้งแต่เห็นครั้งแรกแต่เพราะเธอมีนิสัยที่ไม่เหมือนใครทำให้เขาไม่กล้าแสดงตัวว่าชอบได้แต่พยายามตีสนิทโดยมีน้องสาวตัวแสบคอยช่วยเหลือคงต้องมาช่วยกันลุ้นว่าเขาจะจีบเธอมาเป็นแฟนได้มั้ย
เขาแอบรักเธอตั้งแต่เขายังเรียนมัธยมต้นแต่ไม่กล้าบอกเพราะเธอเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทจนผ่านมาถึง10ปีเขาได้เจอกับเธออีกครั้งและตั้งใจจะบอกกับเธอ แต่เขาก็ต้องมีคู่แข่งอีกหลายคนดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนเพื่อทำให้เธอรักเขาให้ได้
เขาเป็นลูกชายของมาเฟียที่ผันตัวเองมาทำธุรกิจ เขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไม่จริงจังกับใครแต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ช่วยชีวิตเธอไว้โดยบังเอิญแล้วนั่นก็เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเขาตกหลุมรักเธอโดยยังไม่รู้แม้แต่ชื่อ แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไป
เขาหลงรักเธอตั้งแต่ในความฝันแล้วพยายามตามหาเธอในความจริงจนกระทั่งพรหมลิขิตก็ทำให้เขาได้เจอกับเธอ
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
เธอแอบชอบรุ่นพี่มาตั้งแต่เข้ามหาลัยปี 1 แต่ไม่กล้าบอกจนผ่านมาได้ 1 ปีเธอถึงได้กล้าไปบอกเขาและขอตามฉี่เป็นเวลา 3 เดือนเขาปฏิเสธ
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง
กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด