ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ฤดูเหมันต์ในเมืองอวี๋เย็นเยียบจนแทบแข็งไปถึงขั้วกระดูก แต่ภายในคฤหาสน์อวิ๋นเซียวกลับมีเงาสองร่างกำลังโอบรัดกันอย่างเร่าร้อน
“เสิ่น…ติงหลาน ช้าหน่อย……”
น้ำเสียงสั่นเครือของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น มือบางทั้งสองข้างขยุ้มมุมหมอนแน่น แสงไฟสลัวส่องกระทบใบหน้าแดงระเรื่อของเธอ เพิ่มความเร้าใจให้กับเกมรักในคืนนี้ได้เป็นอย่างดี
“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?” ชายหนุ่มจงใจกดตัวลงต่ำ ก่อนจะกระซิบถามข้างหูพลางขบเม้มใบหูนั้นเบา ๆ
ถังหว่านทนรับความทรมานนี้ไม่ไหว ร่างกายบอบบางอ่อนระทวยราวกับลูกแมวซุกอยู่ในอ้อมแขน เสียงสะอื้นพร่ำเว้าวอน
“คะ…คุณอา ได้โปรด……”
เสิ่นติงหลานพึงพอใจอย่างยิ่งกับท่าทางว่าง่ายของเธอ ท่ามกลางคำวิงวอนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหล่านั้น เขาได้พาเธอขึ้นไปถึงจุดสูงสุด
แต่ไหนแต่ไร เสิ่นติงหลานก็ชอบให้เธอเรียกเขาแบบนี้ แต่ก่อนมันเป็นเพียงคำแทนตัวที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องบนเตียง ทว่าในค่ำคืนนี้กลับกลายเป็นทั้งการปลุกเร้าอารมณ์ ถังหว่านตอนนี้เพียงรู้สึกคับข้องใจและเขินอายไปพร้อม ๆ กัน
แน่นอนว่าเพียงครั้งเดียวย่อมไม่พอสำหรับเสิ่นติงหลาน ยิ่งไปกว่านั้นเขาเพิ่งไปเจรจาธุระที่ต่างเมืองมากว่าครึ่งเดือน ไม่ได้แตะต้องถังหว่านมานานถึงครึ่งเดือนแล้ว
แรงปรารถนาที่อดกลั้นไว้มานานในที่สุดก็ปะทุขึ้นมาในค่ำคืนนี้ ต่อให้ผ่านมาหลายครั้ง ถังหว่านก็ยังคงตอดรัดเขาแน่นจนชายหนุ่มขนลุกชันไปทั้งกาย ร่างกายที่งดงามเย้ายวนเช่นนี้ ใครบ้างจะไม่หลงใหล
ถังหว่านย่อมรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มหนำจึงปรนเปรอเขาต่อไป เธอเกาะเกี่ยวร่างกายของเขาไว้พลางเคลื่อนไหวไปตามจังหวะรัก
“วันนี้ว่าง่ายจังนะ หืม?”
“ฉันว่าง่าย คุณอาไม่ชอบเหรอคะ คุณอาคะ เราไม่ได้ลองอะไรใหม่ ๆ กันมานานแล้วนะคะ” แม้จะรู้สึกเจ็บระบมไปหมด แต่ถังหว่านกลับไม่ยอมหยุดการเคลื่อนไหว และเพิ่มจังหวะมากขึ้นเรื่อย ๆ
ต้องยอมรับว่าเสิ่นติงหลานชอบมันมาก
เขาจับเอวถังหว่านไว้แน่นแล้วพลิกตัวเธอให้หันหลัง ดวงตาสีดำสนิทสะท้อนแรงปรารถนาอันแรงกล้า เขากดตัวลงต่ำแล้วค่อย ๆ กระซิบเสียงเรียบอย่างผู้เหนือกว่า “งั้นก็อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ”
ถังหว่านก้มหน้าลงต่ำพลางกัดฟันแน่น ก่อนจะขยับตัวต่อไปอย่างขยันขันแข็ง
คืนนี้เธอมีเรื่องต้องขอร้องเสิ่นติงหลาน เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่น
เมื่อทุกอย่างจบลง เวลาก็ล่วงเข้าช่วงตีสองแล้ว ขาเรียวสวยของถังหว่านโผล่พ้นจากผ้าห่ม ผิวขาวเนียนเต็มไปด้วยรอยมือ และยังมีรอยเปียกจาง ๆ ซึมผ่านผ้าห่มออกมา
เธอยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง พอดีกับเสิ่นติงหลานเดินออกมาจากห้องน้ำ แผงอกแกร่งเปลือยเปล่า หยดน้ำที่ยังไม่ได้เช็ดแห้งไหลไปตามกล้ามหน้าท้องแกร่งอย่างอ้อยอิ่ง ชวนให้คนมองอดไม่ได้ที่จะคิดเตลิดไปไกล
“อยากได้อะไร?” เสิ่นติงหลานนั่งลงบนโซฟาพลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด เขาดูอารมณ์ดีไม่น้อย เพราะวันนี้เธอว่าง่ายเป็นพิเศษ
“ได้ทุกอย่างเลยเหรอคะ?” เสียงของถังหว่านแผ่วเบา ร่างกายเธออ่อนล้ามาก แต่สายตากลับมีประกายแห่งความหวังขณะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาอันชวนให้ใครต่อใครหลงรักของเขา
“พูดมาก่อน”
“ฉันต้องการตำแหน่งคุณนายเสิ่น”
เมื่อเห็นว่าดวงตาของชายหนุ่มที่เคยนิ่งกลับเย็นเยียบลงทุกขณะ หัวใจของถังหว่านค่อย ๆ จมดิ่ง และก็เป็นไปตามคาด เสิ่นติงหลานแค่นเสียงหัวเราะเบา ๆ ราวกับเย้ยหยันในความทะเยอทะยานของเธอ
เขาบี้บุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดลงบนที่เขี่ยบุหรี่ การกระทำของเขาราวกับกำลังบดขยี้มดตัวหนึ่งให้ตายคามือ “ดูเหมือนว่าฉันจะตามใจเธอมากไปสินะ ถึงได้กล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมา!”
ถังหว่านขบกลีบปาก มือเรียวกำแน่นจนเล็บจิกลงบนฝ่ามือ “หยวนซูกลับมาแล้ว คุณอากำลังจะแต่งงานกับเธอใช่ไหมคะ”
หยวนซู หญิงสาวผู้เป็นดั่งรักแรกของเสิ่นติงหลาน ได้ยินมาว่าเมื่อครั้งที่เสิ่นติงหลานอายุครบสิบแปด เขาถูกศัตรูลักพาตัวไป และบังเอิญหยวนซูเป็นคนช่วยเขาเอาไว้ นับแต่นั้นเป็นต้นมาตระกูลหยวนกับตระกูลเสิ่นจึงได้ตกลงหมั้นหมายกัน
เสิ่นติงหลานขมวดคิ้วเล็กน้อย ถังหว่านอยู่กับเขามาสองปี เธอย่อมมองออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “ทำไมล่ะคะ? ฉันก็แค่ต้องการตำแหน่งเอาไว้ปกป้องตัวเองเท่านั้น คุณอาก็รู้นี่คะ ว่าฉันอยู่ในตระกูลเสิ่น……”
“ปกป้องตัวเอง? เธอคิดว่าฉันดูไม่ออกว่าเธอคิดอะไรอยู่จริง ๆ เหรอ?” เสิ่นติงหลานขัดจังหวะขึ้นกลางคัน ก่อนจะยกมือบีบปลายคางของเธอ ดวงตาที่ใช้มองหญิงสาวดูคมกริบประหนึ่งนักล่าที่จ้องเหยื่อ ทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัว “ถังหว่าน เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าเธอมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นคุณนายเสิ่นได้น่ะ?”
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก