เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถลกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา “ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้”
เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถลกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา “ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้”
“ที่นี่นอกจากจะมีสัตว์อสูรมากแล้ว วัตถุดิบทำอาหารก็เยอะพอสมควรเลยนะเนี่ย” ฉินหลิวซีเดินเก็บวัตถุดิบพลางสำรวจเส้นทางไปด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดของเวลานี้คือการหาที่ค้างแรม
ฉินหลิวซีสำรวจเส้นทางโดยรอบจนกระทั่งพบเข้ากับถ้ำแห่งหนึ่ง
“ไม่เลวนี่ คืนนี้ใช้ที่นี่แล้วกัน” นางเดินเข้าไปและเริ่มก่อกองไฟไว้ใกล้ปากถ้ำ นำใบไม้ใบหญ้ามาปูทำที่นอนให้ตัวเอง
ฉินหลิวซีจัดการเตรียมพื้นที่ค้างแรมให้ตัวเองไปได้ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงกระบี่ฟาดฟันกันอยู่ด้านนอก
มองออกไปเห็นกลุ่มคนกำลังประมือกัน นางไม่ได้ใส่ใจ
แค่ระวังไม่ให้ลมจากการปะทะพัดมาจนกองไฟนางดับก็พอ หลังจากคนพวกนั้นไล่ตามกันไปไกลจากจุดที่นางอยู่ นางก็ออกมาสำรวจด้านนอก
กิจวัตรของนางน่าเบื่อหน่ายจึงไม่มีอะไรถ่ายทอดไปถึงฝั่งผู้ชม
โอ๊ะโอ ไม่นึกว่าข้าจะโชคดีเจอเหยื่อเร็วถึงเพียงนี้
เด็กหญิงกลิ้งตัวหลบเข้าไปในพุ่มไม้ทันทีที่เห็นเงาสัตว์อสูรตนหนึ่ง สายตาของนางเพ่งมองไปที่มัน สัตว์อสูรตนนั้นได้รับบาดเจ็บ ระดับของมันอยู่เพียงขั้นที่สอง คงจะโดนจอมยุทธ์คนอื่นเล่นงานมา ดูจากบาดแผลแล้วอย่างไรก็คงไม่รอด คงหนีมาไกลมากทีเดียวจึงได้มาหมดแรงอยู่ตรงนี้
ครั้งนี้คงต้องขอแก่นอสูรของแกไปละนะ
ฉินหลิวซีใช้มีดสั้นปลิดชีพมันในดาบเดียว ไม่ให้ต้องทรมานนาน ถึงนางจะต้องการใช้ประโยชน์จากมันแต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้มันทุรนทุรายก่อนจะตาย หลังจากได้แก่น
อสูรมานางก็เก็บไว้ในถุงเฉียนคุนก่อนจะเดินสำรวจเส้นทางอื่นต่อ
ป่าแห่งนี้สมชื่อกับการแข่งล่าสัตว์อสูร มีสัตว์อสูรระดับต่ำไปจนถึงสูงมากมาย ที่เดินมานี้นางก็ได้พบสัตว์อสูรหลายตัวแล้ว แต่พวกมันตัวเล็กจิ๋วและว่องไว นางยังจับไม่ทัน กระทั่งบังเอิญเจอสัตว์อสูรระดับหนึ่งสามตัว ฉินหลิวซีตาเป็นประกายวาววับ ด้วยระดับฝึกตนที่แข็งแกร่งขึ้นใช้เวลาเพียงไม่นานนางก็จัดการได้
ได้แก่นอสูรหนึ่งชิ้นก็เหมือนได้รางวัล แต่ก้มมองเสื้อผ้าตัวเองก็ต้องย่นคิ้ว ตัวนางเลอะคราบเลือดเสียจนสกปรกไปหมด ไหนจะฝุ่นดินที่ไปกลิ้งคลุกมาอีก
“เลอะเทอะอะไรขนาดนี้เนี่ย ข้านึกว่าตัวเองออกแรงไม่ได้มากขนาดนั้นแล้วเชียวนะ” ดูเหมือนว่านางจะยังกะแรงต่อระดับขั้นของสัตว์อสูรไม่ถูก เพราะส่วนใหญ่ก็มักจะได้รับมือกับพวกที่มีฝีมือกว่าตัวเองทั้งนั้น
“ให้ตายสิ ข้าน่าจะลองสำรวจดูอีกสักหน่อยก่อนจะหาถ้ำนะเนี่ย”
เด็กหญิงเดินต่อไปเพื่อหาแหล่งน้ำ กระทั่งได้ยินเสียงน้ำไหลก็รีบมุ่งไปด้านหน้าตามทิศทางเสียง นางดีดตัวขึ้นบนกิ่งไม้ ยืนมองบริเวณโดยรอบจากมุมสูง แม่น้ำสายนี้มีขนาดเล็ก และที่ไกลออกไปไม่มากนักก็มองเห็นเป็นสระใหญ่น่าจะเป็นต้นน้ำของบริเวณนี้ พวกสัตว์และพวกจอมยุทธ์ที่เข้าแข่งขันคงจะไปที่นั่นกันมากกว่า แม่น้ำที่อยู่ไกลสายตานี้จึงปลอดคน
“ใช้ที่นี่ได้สินะ”
นางถอดชุดตัวนอกออกเหลือแต่ชุดซับด้านในแล้วลงไปล้างตัว ไหน ๆ แล้วก็ล้างคราบเลือดคราบฝุ่นที่เปรอะเปื้อนเสื้อผ้าออกด้วย ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องรอพวกมันแห้ง นางเปลี่ยนชุดเป็นชุดใหม่และนั่งก่อไฟใกล้แม่น้ำ
สิ่งที่นางเรียนรู้จากอาจารย์ถูกนำมาใช้ทั้งหมด
ฉินหลิวซีนำสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ถูกบดเป็นผงโรยไว้รอบ ๆ คุณสมบัติของมันคือช่วยขับไล่สัตว์อสูรไม่ให้เข้าใกล้บริเวณนี้ สูตรนี้นางคิดค้นขึ้นเองจากการเรียนรู้ที่ได้อาจารย์ช่วยพร่ำสอน ต่อให้เป็นสัตว์อสูรที่มีระดับสูงก็ได้ผลเช่นกัน
นางนำเนื้อที่พึ่งล่ามาได้ไม่นานออกมาทำอาหารกิน ถึงแม้กลางวันนางจะไม่ค่อยได้ออกแรงอะไรนอกจากล่าสัตว์ แต่กลางคืนก็ไม่ได้หมายความว่านางจะปลอดภัย ต้องมีจอมยุทธ์หลายกลุ่มที่เลือกเคลื่อนไหวตอนกลางคืนแน่
“พอเวลาจำกัดแล้วก็ทำอะไรได้ยุ่งยากจริง ๆ จะให้เวลาต้มเนื้อนานกว่านี้จนนุ่มหน่อยก็ไม่ได้”
นางบ่นอุบอิบด้วยความไม่พอใจ เนื้อหยาบ ๆ แบบนี้กินไปก็ไม่อร่อยเลย ถึงจะมีหลายครั้งที่ต้องทน แต่ใครบ้างจะอยากกินของไม่อร่อยไปเรื่อย ๆ หลังจากเสร็จการแข่งนี้นางจะทำอาหารชุดใหญ่ฉลองเลยเชียว น้องชายนางต้องได้กินเนื้อนุ่ม ๆ อาจารย์ต้องได้กินน้ำแกงรสดี
ข้าจะล่าให้ได้เยอะ ๆ และเก็บเงินให้ได้มาก ๆ !
ไม่ว่ายุคสมัยใดเงินก็เป็นสิ่งสำคัญราวกับพระเจ้า เงินไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต แต่ถ้าไม่มีเงินชีวิตลำบากแน่
อาจเพราะน้ำแกงเปล่าทำพิษ นางจึงฝังใจต่อความยากจนนัก ถึงที่ผ่านมาเมื่อชีวิตที่แล้วนางจะไม่ได้ย่ำแย่ถึงขนาดนี้...ไม่สิ นึกดูดี ๆ แล้วก็ย่ำแย่ไม่ต่างกันเลย
ข้าต้องหาเงิน!
คิดไปด้วยใจมุ่งมั่นพลางแทะเนื้อติดกระดูกที่เหลืออยู่ ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว อีกไม่นานรัตติกาลจะกลืนกินนภาอย่างแน่นอน นางจัดการถมกองไฟที่จุดไว้และใช้พลังธาตุไม้ในการสานเปลนอนอยู่บนต้นไม้ใกล้ ๆ
ฉินหลิวซีขึ้นไปแล้วใช้น้ำหนักขย่ม ดูแล้วแข็งแรงดีมากจึงได้เหวี่ยงตัวขึ้นไปนอน ท้องนางอิ่มแล้วถึงเวลาต้องพักผ่อน ความสงบเงียบยามค่ำคืนมิได้มีอยู่ที่นี่ เสียงคำรามสัตว์อสูรดังกึกก้องมาจากหลายทิศทาง บางพวกออกล่าตอนกลางคืนทั้งพวกจอมยุทธ์และสัตว์พวกนั้นเองก็เหมือนกัน มีการปะทะเกิดขึ้นหลายกลุ่ม
นางชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกางข่ายมนตร์ตามที่อาจารย์เคยสอนบริเวณที่นางอยู่ เป็นไปได้สูงว่านางจะถูกรบกวนตอนกลางคืนระหว่างหลับ ไม่คนก็สัตว์อย่างใดอย่างหนึ่ง หากเข้ามาตอนนางตื่นไม่เป็นปัญหาหรอก แต่ถ้าหากเข้ามาตอนนางเผลอหลับไปแล้วละก็ได้มีคนเจ็บตัวแน่
เด็กหญิงใจลอยคล้อยหลับไปยามมองพระจันทร์เบื้องบน ล่วงเข้ายามดึกจากเสียงคำรามลั่นและกระบี่ฟาดฟันกันก็เงียบสงัด ฝีเท้าหลายคู่ย่างเข้ามาใกล้จนลํ้ำเข้ามาในเขตที่นางวางข่ายมนตร์เอาไว้ จับฝีเท้าดูดี ๆ แล้วพบว่ามากันสามคน
“กับเด็กก็จะลงมือด้วยรึ?”
“ข้าว่าความคิดนี้ไม่ค่อยดีเท่าไร”
“พวกเจ้าจะกลัวอะไรกันก็แค่เด็กคนเดียว”
“เด็กคนเดียวที่ลงแข่งขันลำพังได้ ข้าไม่คิดว่านางจะธรรมดาหรอก” หนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้นอย่างระแวง
“ถึงจะเก่งพอล้มสัตว์อสูรได้ แต่ก็คงไม่คณามือพวกเราหรอก นางอาจจะเข้ามาเก็บกวาดแค่สัตว์อสูรระดับต่ำเพื่อหาแก่นอสูรระดับล่างก็เป็นได้ ตัดคู่แข่งไปได้อีกหนึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ”
“เราลงมือกับพวกอ่อนแอคนอื่นก็ได้ไม่ใช่หรือ
พวกที่ตัวเท่ากันน่ะ” ในกลุ่มนั้นคนหนึ่งตัวสั่นตลอดเวลา
ทั้งขลาดกลัวและยังขี้ตกใจ เขามองซ้ายขวาสายตาล่อกแล่ก กลัวว่าจะมีอะไรโผล่ออกมาตลบหลัง อีกคนก็เดินใจลอยยังไม่รู้ร้อนรู้หนาว เห็นทีคนที่ตั้งใจจะมาเล่นงานฉินหลิวซีอย่างจริงจังจะมีแค่คนเดียว
“เจ้านี่มันปอดแหกจริง ๆ แค่เด็กคนเดียวก็กลัวเสียแล้ว”
“ข้าไม่ได้กลัวเด็ก ข้ากลัวความอำมหิตของเจ้ามากกว่า เด็กคนเดียวก็ลงมือได้ลงคอ”
“พูดมากเปลืองน้ำลาย หากไม่ทำก็ไสหัวไปให้พ้น!” เขาตวาดลั่นก่อนอีกสองคนจะพร้อมใจกันร้องชู่วบอกให้เงียบเสียงลง
ไม่รู้ว่าต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ก็จับพลัดจับผลูลงเรือลำเดียวกันแล้ว มีแต่ต้องลงมือไปตามคนที่แข็งแกร่งกว่า
ตอนแรกนั้นพวกเขาไม่ได้สนใจจอมยุทธ์น้อย
แต่ตอนที่ฉินหลิวซีสำรวจถ้ำ พวกเขาก็บังเอิญเห็นนางใช้ถุงเฉียนคุน ตั้งแต่นั้นจึงได้แอบติดตามมา นอกจากนี้ฝีมือของนางก็โดดเด่นจนน่าใจหาย นางล้มสัตว์อสูรได้ แต่กลับไม่ยอมต่อสู้กับจอมยุทธ์ด้วยกัน ทำให้หนึ่งในกลุ่มนั้นคิดว่านางคงต่อสู้ไม่เก่งแค่ล่าสัตว์ได้โดดเด่นเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนั้นโอกาสที่พวกเขาจะแย่งแก่นอสูรมาได้ก็ดูจะมากขึ้น
พวกเขาเห็นนางมีความสามารถ แต่ก็ดูแคลนว่านางเป็นเด็ก พวกเขาจึงคิดแย่งชิงแก่นอสูรจากนางรวมถึงของวิเศษอื่น ๆ ด้วย
พวกเขาจับกระบี่ในมือมั่น ดีดตัวขึ้นไปเหนือพื้น
หันคมกระบี่ลงเบื้องล่าง ตั้งใจสังหารนางอย่างไร้เมตตา กระบี่ปักลงบนวัตถุนั้นอย่างง่ายดายจนน่าแปลกใจ พลันแผ่นหลังก็เย็นวาบราวกับถูกมัจจุราชจับจ้อง เขาพลิกตัวตั้งท่าป้องกัน เหล็กกระทบกันดังจนเกิดประกายไฟจากการเสียดสีอย่างรุนแรง
เคร้ง!
พริบตาที่แสงจันทร์สาดแสงลงมา จึงได้เห็นว่าตรงที่ตนปักกระบี่ลงไปเป็นแค่เปลไม้เปล่า ส่วนตัวคนทำเปลลอยอยู่เหนือพวกเขา
ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อก็รู้สึกเจ็บที่สีข้าง รู้ตัวอีกทีก็มีเลือดไหลซึมออกมา พวกเขายังไม่ทันตั้งกระบวนท่าก็โดนกระบี่สั้นตัดเฉือนเข้าเนื้อไปหลายแผล ก่อนฝ่าเท้าของเด็กหญิงที่ตนปรามาสไว้จะทุ่มน้ำหนักลงมากลางหน้าท้อง พวกเขาเจ็บจุกจนหน้าถอดสีตกลงจากต้นไม้
อะไรกันเนี่ย เป็นผู้ใหญ่สามคนมารุมเด็กคนเดียว ทำให้ข้าบาดเจ็บไม่ได้แม้แต่ปลายเส้นผม พวกนี้น่าสมเพชเกินไปแล้ว
พวกมันยังไม่ทันตั้งตัวได้นางก็เตะซ้ำเข้าไปอีกคนละที เด็กหญิงตัวเบาโหวงราวกับเหินร่อนบนอากาศ เดินได้บนฟ้า ดั่งขนนกไร้น้ำหนัก มือหนึ่งถือกระบี่ร่อนลงไปตรงหน้า อัดลมปราณเข้ากระแทกหน้าอกจนคนหนึ่งกระอักเลือด
“สัตว์ประหลาด สัตว์ประหลาดชัด ๆ นี่มันพละกำลังของมนุษย์แน่หรือ!” เขาตะเกียกตะกายวิ่งหนีไม่สนข้าวของที่หล่นไปจากตัว กรีดร้องเสียงหลงไปตลอดทาง
ฉินหลิวซีไม่ปล่อยให้เขาหนี นางพลิกกระบี่เขวี้ยงด้ามของมันมุ่งหน้าไปซัดอัดเข้าไปซ้ำจนด้ามจับกระแทกเข้ากับแผ่นหลังคนผู้นั้นจนล้มกลิ้งและสลบไปทันทีด้วยความผวาตกใจ
ชายสองคนมองนางด้วยสายตาหวาดกลัว แต่อีกคนก็ยังทำใจดีสู้เสือ
“อย่าเข้ามาใกล้ข้านะ ออกไปให้พ้น!”
“ข้าไม่ได้อัญเชิญผู้ใดเข้ามา เป็นพวกท่านอาวุโสเองไม่ใช่หรือที่ตั้งใจจะลงมือกับข้า” นางเอ่ยเสียงเนิบช้าไม่รีบร้อนจัดการ
“เห็นข้าเป็นเด็กอย่างนี้ก็ไม่ได้ใจดีหรือใสซื่อหรอกนะ” คนแค่สามคนรับมือง่ายกว่าฝูงซอมบี้ตั้งมาก เจ้าพวกศพเดินได้พวกนั้นจึงจัดการได้ยุ่งยากกว่านี้เสียอีก พวกมันไม่มีสมองคิด จู่โจมเข้ามาอย่างสะเปะสะปะไร้ทิศทาง จุดมุ่งหมายเดียวคือแพร่เชื้อใส่คนอื่น พวกมันไม่สนวิธีการและไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดจึงทำให้รับมือได้ยาก
นางทนชีวิตแบบนั้นมาไม่รู้กี่ปีต่อปี มนุษย์สามคนที่มีวิชาปราณระดับพื้นฐานจะเอาชนะนางได้อย่างไร ต่อให้ร่างกายของฉินหลิวซีไร้พรสวรรค์ แต่เมื่อนางเติบโตขึ้นเป็นสาวเต็มตัว เรื่องธาตุไม้ในกายก็เป็นพลังให้นางได้แน่นอนอยู่แล้วไม่มีทางที่จะแพ้คนเหล่านี้ได้หรอก
เด็กหญิงจัดการเอาคืนคนเหล่านั้นและแย่งแก่นอสูรมา มัดพวกเขาแล้วผูกเอาไว้บนต้นไม้ รวมแล้วสิ่งที่ยึดมาได้คือแก่นอสูรระดับหนึ่งเจ็ดอัน แก่นอสูรระดับสามห้าอัน และแก่นอสูรก่อกำเนิดสามอัน
เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา “ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้”
ทั่วทั้งแคว้นอ้ายคงมีเพียงบุรุษเช่นหัวหน้ากลุ่มต้าหยางเท่านั้นที่ยอมแต่งเข้าบ้านภรรยา เพราะนั่นมันเท่ากับว่าเขายอมอยู่ใต้บารมีของภรรยา และยอมให้ภรรยาเป็นใหญ่ ทว่าบุรุษที่อกหักมาสิบครั้งอย่างเขา ไม่อยากจะอกหักเป็นครั้งที่สิบเอ็ดแล้วนี่นา อีกทั้งคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางเองก็ใจตรงกัน เรื่องธรรมเนียมอะไรนั่นก็ช่างมันเถิด เทียนจื่อซานแทบจะถูกเรียกว่าเป็นบุรุษอาภัพในรัก ด้วยเพราะเวลาไปเกี้ยวสตรีบ้านไหน จุดจบก็หนีไม่พ้นการถูกปฏิเสธ จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับกู้หลินฟาง ไม่แน่ใจว่าเป็นเมตตาจากท่านเทพบนสวรรค์ หรือเทพมารต้องการให้เขาทำลายสถิติอกหักอีกครั้งกันแน่ แต่เขา... เทียนจื่อซานไม่ขอยอมแพ้ และจะเกี้ยวคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางอีกสักครั้ง
เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถลกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา "ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้"
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - - ตัวอย่างในเล่ม “ดูสิ ฉันจะได้อะไร” หลิวตานถูมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะบอกระบบว่าเริ่มสุ่มวงล้อ “ระบบเริ่มสุ่มวงล้อได้เลย” ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่งามมองวงล้อสุ่มของรางวัลที่หมุนไปมาด้วยความประหม่า เพราะมันเป็นของรางวัลชิ้นแรกที่เธอคาดหวัง ไม่รู้มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้ช่วยสี่แม่ลูกได้ยิ่งดี “เมล็ดพันธุ์ผักกาด?” หลิวตานมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่น้ำตาตกในเมื่อของรางวัลที่แลกมากับการไปตัดหญ้ามาให้หมูคือเมล็ดพันธุ์ผักกาด!
เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
หลินหลั่งเยี่ยน เป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ จากรัฐ เป็นสาวอัจฉริยะที่ทุกคนในองค์กรอิจฉา มีความสามารถทางการต่อสู้สูงและไม่ยอมใคร แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวฝาแฝดของเธอเพียงลำพัง หลังจากผ่านไปเจ็ดปี ในที่สุดรัฐก็อนุมัติอิสรภาพให้เธอ หัวใจของหลินเหลิงเหยียนเต้นระรัวด้วยความคาดหวัง ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับบ้าน แต่เธอกลับต้องพบว่าป้าของเธอใช้ชีวิตอย่างหรูหราในบ้านพักของพ่อแม่ผู้ล่วงลับ ขณะที่น้องสาวของเธอเองกลับถูกบังคับให้นอนในคอกสุนัขและกินของเหลือ ทันใดนั้น เธอพลิกโต๊ะอาหารด้วยความโกรธ ป้าข่มขู่? เธอใช้วิธีการที่เด็ดขาดถอนตัวจากการร่วมมือ จนบริษัทของป้าพังทลายลงอย่างรวดเร็ว! การกลั่นแกล้งในโรงเรียน? เธอปลอมตัวเป็นน้องสาว เข้าไปในโรงเรียนและตัดสินใจสู้ไฟด้วยไฟ จากนั้นเธอก็ถ่ายทอดสดตอนพวกอันธพาลคุกเข่าร้องขอความเมตตา ถูกเยาะเย้ยเรื่องตัวตน? หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา“ใช่ ฉันก็แค่คนธรรมดา” ในวินาทีถัดมา ครอบครัวที่มีชื่อเสียงมายืนยันว่า“เธอคือลูกสาวคนโตของเรา!” สถาบันวิจัยแห่งชาติ “พวกเราคือเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ!” …… ซือฮานเฟิง ผู้เป็นผู้นำของตระกูลลึกลับ ไม่เคยปรากฏตัวในสายตาสาธารณชน ข่าวลือว่าเขาเป็นคนเยือกเย็นและไร้ความปรานี บางคนเคยเห็นเขายืนสูบบุหรี่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว และบางคนก็เห็นเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา แต่ต่อมากลับมีคนเห็นว่าเขาไล่ตามหลินหลั่งเยี่ยนจนถึงมุมกำแพง ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าและความไม่พอใจ “หลั่งเยี่ยน ฉันช่วยเธอจัดการพวกนั้นแล้ว เธอควรจะอยู่เป็นเพื่อนกับฉันบ้างไหม?” “เราไม่ใช่แค่พันธมิตรหรือ?” หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างงงงวย ซือฮานเฟิงถอนหายใจลึกๆ แล้วจูบเบาๆ บนริมฝีปากของเธอ “ตอนนี้ล่ะ”
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY