เมื่อความจำเป็นนำพา เบลล่า ฟรานเซนโก้ นางแบบสาวให้มาพัวพันกับความอันตรายของซีนอล ออตโตนี มาเฟียหนุ่ม ผู้ทรงอำนาจแห่งลากูนผู้ไม่เคยยอมให้ใครก้าวล้ำเข้ามาในโลกส่วนตัว ต้องยื่นมือช่วยเหลือเธอ...
บทที่ 1 มาเฟียหนุ่มซีนอล
ซีนอล ออตโตนี วัยสามสิบสามปี เจ้าพ่อมาเฟียแห่งลูมินัสลากูน เมืองแห่งทะเลสาบที่ส่องประกายราวกับแสงดาวยามค่ำคืน ชายผู้ทรงอำนาจที่สุดในพื้นที่นี้ ทุกการตัดสินใจของเขาคือกฎเหล็ก
ซีนอล ออตโตนี คือคำจำกัดความของ "ความสมบูรณ์แบบ" ในแบบฉบับชายหนุ่มอิตาลีผู้ทรงอำนาจและน่าหลงใหลจนใคร ๆ ที่ได้เห็นไม่อาจละสายตาได้
คนเราจะโชคดีทั้งทรัพย์สมบัติ อำนาจ และรูปสมบัติให้เป็นที่น่าอิจฉา เขามีร่างสูงใหญ่และสมส่วนอย่างน่าทึ่ง ความสูงที่ร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ทำให้เขาดูโดดเด่นเหนือทุกคน ดวงตาสีเทาที่ลึก และแค่ได้สบตาก็ทำให้รู้สึกเยือกเย็นไปถึงกระดูกสันหลัง
แต่ทว่ากับพลิ้วไหวดุจผืนน้ำของทะเลสาบในฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ ซีนอลสามารถสะกดใจทุกคนที่สบตาเข้าโดยตรง และยิ่งจมูกโด่งได้รูป คมชัดราวกับถูกแกะสลักจากหินอ่อน
กรามแข็งแรงที่เน้นอยู่ในกรอบหน้า รับกับมุมปากที่ยกขึ้นเพียงเล็กน้อย หากพิจารณาดี ๆ แล้วในรอยยิ้มหยักนั่น แฝงไปด้วยเสน่ห์อันตรายและความมั่นใจที่ไม่มีใครเทียบได้
รอยเคราที่ปรากฏบาง ๆ บนกรอบหน้าเพิ่มความลึกลับและความเป็นชายอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่น่าเชื่อว่าเขาไม่ได้ทำสีผม เส้นผมสีดำสนิทของเขาเงางามและจัดทรงอย่างเนี้ยบ
เขาก้าวเข้ามาในห้องแห่งนี้ ทุกสายตาพุ่งเป้าไปที่เขาเป็นตาเดียวกัน
แม้ร่างหนาจะไม่ได้ใส่สูทสีเข้ม ๆ เหมือนเคย แค่เพียงเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีดำ ที่ตัดเย็บอย่างพิถีพิถันประณีต ก็กินขาดบุรุษทุกคนที่อยู่ในห้องนี้
ไหล่กว้างผายตามหลักผู้ชายอกสามศอก หน้าอกที่มีมัดกล้ามเนื้ออย่าสมบูรณ์ บ่งบอกถึงการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี
“สวัสดีครับคุณซีนอล เป็นเกียรติแก่ผับของเราครับ”
“วันนี้มีอะไรดี ๆ หรือ” เสียงของเขาที่ทุ้มนุ่มลึกและทรงพลัง ราวกับท่วงทำนองที่ผสานกันระหว่างความเย็นชากับความดึงดูดในเวลาเดียวกัน
“มีแน่นอนครับ ถ้าคุณได้เห็นหน้าของเธอละก็ อาจจะ”
“อย่าโม้มากนะ”
“ไม่มีแน่นอนครับ ผมพูดเรื่องจริงเสมอ” เปาโลเจ้าของผับที่อยู่ภายใต้การดูแลของซีนอล
เปาโลหันไปตบมือเรียกพนักงาน เครื่องดื่ม และอื่น ๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้ ก็ถูกลำเลียงออกมาวางตรงหน้าเขา เปาโลผายมืออีกที สาว ๆ สวย ๆ กำลังจะดาหน้าเข้ามานั่ง
“ไม่... วันนี้ฉันอยากจะนั่งอย่างสงบ”
“อ้อ... ครับ ได้ครับคุณซีนอล” เปาโลหันไปสะบัดมือ สาว ๆ ทั้งหลายก็ถอนหายใจกันอย่างเสียดาย และพากันล่าถอยกลับไป
“ทุกคนก็ออกไปด้วย” เขาเอ่ยปากไล่ ทั้งเปาโล และบอดี้การ์ดของเขา
ดวงตาที่สะท้อนความอันตรายราวกับเสือดำที่เฝ้ามองเหยื่อจากเงามืด ความเย็นชาและห่างเหินที่เขาแสดงออก ทำเอาทุกคนขนลุกไปหมด
ซีนอลยกแก้ววิสกี้ขึ้นจรดริมฝีปาก และเทน้ำสีเหลืองอำพันเข้าไปในลำคอ
ใบหน้าของคุณปู่ลอเรนโซวนเวียนอยู่ในหัวของเขา เรื่องที่ท่านเอ่ยกับเขาในวันนี้
ณ คฤหาสน์ของท่านลอเรนโซ
ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนหน้าผาสูงชัน เมื่อมองลงไปก็เห็น ลูมินัสลากูน
ทะเลสาบที่เปล่งประกายราวกับอัญมณีเมื่อต้องแสงจันทร์ ตัวคฤหาสน์ถูกออกแบบในสไตล์นีโอคลาสสิกที่งดงามและทรงอำนาจ ผนังหินอ่อนสีขาวสะอาดสะท้อนแสงอ่อน ๆ ยามค่ำคืน หน้าต่างกระจกทรงโค้งสูงเปิดรับลมเย็นจากทะเลสาป
สวนที่ล้อมรอบเต็มไปด้วยไม้พุ่มตัดแต่งเป็นระเบียบ และน้ำพุหินอ่อนที่มีรูปปั้นเทพเจ้าโรมันตั้งอยู่กลางลานกว้าง เสียงน้ำไหลเพิ่มความสงบให้กับสถานที่แห่งนี้
รั้วเหล็กดัดลายวิจิตรทอดยาวปกป้องคฤหาสน์ดุจดั่งของล้ำค่าหายาก
ที่ระเบียงทอดยาวยื่นไปในทะเล เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นลูมินัสลากูนทั้งผืนก็ว่าได้ ในยามค่ำคืนนี้ แสงที่สาดส่องมาจากเมืองที่อยู่ในฝั่งตรงกันข้าม และแสงจันทร์ดวงกลมโต ที่สะท้อนบนผืนน้ำทำให้ที่นี่ดูราวกับภาพวาดในเทพนิยาย
ซีนอลถอนหายใจลึก ๆ และผินหน้าหันหนี ไม่มองหน้าของคุณปู่ของตนเอง ในสายตาของคุณปู่ลอเรนโซ ชายหนุ่มยังขาดบางสิ่ง... ความรักและความสุขที่แท้จริง
คุณลอเรนโซ ผู้เคยเดินทางชีวิตมาด้วยความแข็งกร้าวเช่นเดียวกับซีนอล ตระหนักดีว่า หากปราศจากคู่ครองที่จะคอยเติมเต็ม ชีวิตที่ดูเหมือนสมบูรณ์แบบ อาจกลายเป็นเพียงความว่างเปล่า
จู่ ๆ คุณปู่ลอเรนโซก็หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ "ซีนอล แกยังคิดเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า ที่ว่าแกน่ะจะสร้างโลกใบนี้ด้วยมือของตัวเอง อำนาจ ทรัพย์สินล้ำค่า รวมถึงที่ว่าทุกคนยำเกรง เฮ้อ... แต่แกเคยถามตัวเองไหมว่า สิ่งเหล่านั้นเติมเต็มชีวิตของหลานได้จริง ๆ หรือเปล่า?”
น้ำเสียงของชายชราที่ผมเป็นสีดอกเลาแล้ว เต็มไปด้วยความหนักแน่น ซีนอลหันกลับมา ก็พบดวงตาที่อ่อนโยน... แต่ใบหน้าของซีนอลก็ยังเย็นชา และไร้อารมณ์เหมือนเดิม
“ปู่หมายถึงอะไร”
คุณปู่กำลังจะขยับปาก เขาก็รีบยกมือห้ามเสียก่อน ก็คงไม่พ้นเรื่องเดิม ๆ ที่อยากจะให้ซีนอลหาผู้หญิงสักคนมาแนบกาย และรักเธอคนนั้นอย่างหมดหัวใจ
“ผมไม่ต้องการสิ่งที่เรียกว่าความรักนะครับ ความสุขของผมคือการได้ครอบครองทุกอย่างในมือ”
“เฮ๊ย! แล้วยังไง มันสุขจนแกน่ะ เคยได้เห็นหน้าของตัวเองในตอนนี้ไหม หน้าตาไม่มีแม้แต่รอยยิ้มน่ะ” อดที่จะว่าให้หลานชายไม่ได้
“รู้ไหมเรื่องเงินทอง ลาภยศ สรรเสริญ มันหายไปจากแกได้ หากมีใครสักคนทรยศหรือหักหลังแก แต่ว่าความรักที่แท้จริงน่ะนะ ไม่มีใครพรากไปจากแกได้...” ซีนอลทำหน้าปุ¬เลี่ยนๆ
คุณปู่ก็ได้แต่หัวเราะรวน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเศร้าหม่น ที่ท่านพูดออกไปแล้วแต่หลานชายไม่เชื่อ
"เอาเถอะ ๆ แกคิดว่าแกแข็งแกร่ง แต่จริง ๆ แล้ว แกน่ะน่าจะเป็นคนที่เปราะบางกว่าที่คิดนะ การมีใครสักคนที่รักอย่างไม่มีเงื่อนไขต่างหาก ที่จะทำให้แกรู้จักความแข็งแกร่งที่แท้จริง" ซีนอลเอาแต่ส่ายหน้า และถอนหายใจยาว ๆ เขายังกอดอก แล้วมองสบตากับคุณปู่
สักพักท่านก็ยักไหล่ แล้วมองออกไปยังทะเลสาบที่อยู่เบื้องหน้า
"ผมเห็นพ่อทำลายตัวเองเพราะความรัก ผมเห็นแม่ร้องไห้จนวันสุดท้ายของชีวิต ผมไม่เชื่อว่าความรักจะนำพาความสุขมาให้ มันมีแต่จะทำลายทุกสิ่ง"
คุณลอเรนโซชักสีหน้านิด ๆ แล้วหันมาวางมือลงบนไหล่ของหลานชาย
“ตอนนี้แกยังไม่เชื่อ แต่สักวันเมื่อความรักมันเข้าตา แล้วจะโงหัวไม่ขึ้น คนอย่างแกน่ะนะ ปู่เชื่อว่า ต้องคลั่งรักมาก ความรักที่แกเชื่อว่าเป็นตัวทำลายล้างนะ มันไม่จริงสักหน่อยซีนอล” ท่านยังแสดงอาการขบขันออกมา พร้อมกับจ้องมองหลานชายตาไม่กะพริบ
ซีนอลก็อยากจะเถียงเหมือนกัน แต่เขาก็ต้องนิ่งเสีย และนั่งนิ่ง ๆ รอฟังสิว่าคุณปู่จะพูดอะไรต่อไป
ผู้หญิงที่ทำงานเก่งและประสบความสำเร็จทุกอย่างในชีวิต แต่กลับประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด แล้วตื่นขึ้นมาในร่างของ “หลินจิ่วเอ๋อร์” ภรรยาคนที่สองของแม่ทัพซูเหยียนในทันทีที่นางเปิดตาขึ้นในร่างนี้...
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี