การตัดสินใจเดินจากมา เพราะรัก การที่เธอเลือกทางเดินเอง ก็เพราะรัก ไม่ว่าตรงหน้าของเธอ จะมีพี่นายหรือไม่ ไม่ว่าความจริงที่เจอ จะปวดร้าวเพียงใด แต่นิตาไม่เคยเสียใจสักวัน ที่เลือกจากทางเดินนี้
ภาพชายหนุ่มเนื้อตัวกำยำกำลังขับเคลื่อนร่างกายลงบนร่างบางใต้ร่างของตัวเองอย่างเนิบนาบแต่แฝงไปด้วยความดุดัน สร้อยคอทองคำขาวเส้นบางที่ห้อยบนคอ ส่งเเสงประกายวิบวับสะท้อนแหวนเพชรเเบบเรียบหรูที่ประดับเพชรเม็ดเล็กไว้ด้านใน สั่นไหวยามเจ้าตัวขยับเอวโยกคนใต้ร่างอย่างหนักหน่วง เสียงหวานร้องครางดังออกมายิ่งทำเค้าเร่งความแรงและความเร็วของสะโพกใส่คนใต้ร่าง เสียงพูดที่พูดออกมาทั้งหยาบคายไม่เหมือนชายหนุ่มที่แสนสุภาพที่ใครๆ ได้เคยรู้จัก
"ร่านนักใช่ไหม นิตา อยากโดนพี่เอามากใช่ไหม ถึงได้ยั่วพี่ขนาดนี้ ตัวแต่นี้อยากจะโดนเอา พี่จะสนองให้เอง"
นิตาหลับตาลงกัดฟันกลั้นน้ำตากับคำพูดดูถูกเหยียดหยาม ของชายในฝันของเธอ กว่ายี่สิบปีที่เธอลืมตาดูโลกใบนี้ พี่นายคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเธอ
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ปลุกจากความฝันอันแสนหวานปนเศร้า กว่าสามปีที่เธอฝันถึงเค้า ผู้ชายคนที่เธอรักสุดหัวใจ
นิตาลุกขึ้นปิดนาฬิกาปลุก แล้วค่อยๆ ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า ภาพความทรงจำที่เธอกับเค้าร่วมรักกันอย่างเร่าร้อนแค่เพียงคืนนั้นคืนเดียว ถึงกับเปลี่ยนชีวิตของเธอมาถึงวันนี้ สาวน้อยวัยยี่สิบปี เรียนมหาวิทยาลัยปีสาม ดาวคณะที่สวย รวย และเนื้อหอมที่สุดในคณะบัญชี ที่ไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนเลยนอกจาก
พี่นาย นักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง ไฮโซของแท้ รวยจริง ลูกชายคนเดียวของกลุ่มบริษัทเครื่องดื่มยี่ห้อดังที่รวยติดอันดับท้อปไฟว์ในประเทศ ที่ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่ามีสาวน้อย นามว่า นิตา ลูกสาวบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง จองตัวตั้งแต่ยังเด็ก แม้ฝ่ายชายจะเมินเฉยต่อฝ่ายหญิงไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยปฎิเสธถึงความสนิทสนมของสองครอบครัวนี้ หล่อสวย และรวยกับรวยมาเจอกัน แค่รอเวลาฝ่ายหญิงเรียนจบ รับรองว่าคู่นี้ได้แต่งกันแน่นอน
มือบางหยิบผ้าห่มผืนเล็กขึ้นมาจากพื้นเตียงแล้วห่มให้ลูกสาวตัวน้อยอย่างเบามือ นางฟ้าของแม่ นิตาก้มลงหอมแก้มเด็กน้อยอย่างแผ่วเบาแล้วลุกขึ้นไปทำงานอย่างเร่งด่วน
เค้กกล้วยหอมและบัตเตอร์เค้ก อย่างละร้อยชิ้นใช้เวลากว่าสองชั่วโมงจึงเสร็จเรียบร้อย หกโมงเช้าแล้วพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแสงสว่างกำลังจะเข้ามา นิตาเริ่มแพคขนมอย่างคล่องแคล่ว เจ็ดโมงเช้า จะมีคนมารับขนมเธอไปขาย กว่าสามปีที่เธอทำขนมขายส่งและขายปลีก อาชีพที่เลี้ยงดูตัวเองและลูกสาวตัวน้อยได้อย่างไม่ลำบากนัก ปีนี้เธอจะอายุ24ปีแล้ว โตแล้ว โตมากกว่าที่ใครจะคิดว่า นิตาคนนี้หรอจะทำมาหากินได้ นิตาคนนี้หรอจะสวมเสื้อราคาร้อยกว่า และ นิตาคนนี้หรอจะเลิกตามพี่นายได้ ใช่ เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งต่างๆ เปลี่ยนไป นิตาคนนี้ไม่ใช่นิตาคนนั้นอีกต่อไปแล้ว
เสียงกริ่งหน้าบ้านทำลายความฝันอันหวานซึ้ง มือบางบรรจงเรียงห่อขนมอย่างระมัดระวัง นิตาหิ้งถุงขนมออกไปส่งด้วยรอยยิ้ม
"ค่าขนม1800บาทค่ะ"
นิตาแจ้งราคาพร้อมยื่นถุงขนมส่งให้ ผู้มารับส่งเงินให้และยืนยันยอดขนมอีกครั้ง พรุ่งนี้เหมือนเดิมนะ นิตารับคำแล้วปิดประตูรั้วบ้าน ทาวน์เฮาส์หลังเล็กย่านชานเมืองที่มีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มากมายเป็นบ้านพักหลังใหม่ของเธอ จากบ้านหรูราคากว่าร้อยล้านมาเป็นทาวน์เฮ้าส์มือสองราคาไม่ถึงล้านบาท ที่ยังต้องผ่อนธนาคารอีกเป็นสิบปี นิตายิ้มออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ยังมีงานรออยู่อีกเพียบ
เสียงข่าวสังคมดังออกมาจากทีวีทำให้เธอวางมือจากงานที่ทำและวิ่งออกมาดูภาพข่าวอย่างตั้งใจ เค้าเคียงคู่กับหญิงสาวราชนิกุลที่มีเทือกเถา แถมยังรวยมาแต่ดั้งเดิมออกงานสังคมด้วยกัน ดูเหมาะสมและคู่ควรยิ่งนัก นิตาทรุดตัวนั่งลงกับพื้นหน้าทีวี ขาอ่อนไปหมด ในหัวใจเจ็บแปลบทุกทีที่ได้รู้ข่าว แต่เธอก็ยังไม่เคยจำ ยังดื้อดึงที่จะรับรู้ข่าวคราวในชีวิตของเค้าเสมอ กว่าสี่ปีที่ไม่ได้เจอกัน พี่นายยังหล่อ ยังเท่ห์ ยังสมาร์ท เหมือนเดิม แม้วัยจะเพิ่มขึ้น แต่ความหล่อยังไม่เคยลดลง นิตาหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัว เพื่อทำงานต่อไป หมดเวลาแห่งความฝันแล้วนิตา ตรงหน้านี้คือความจริง....
เพราะฐานะที่ต่างกันมาก เหลือเกิน ทำให้เค้า ได้แต่เฝ้ามองเธอเพียงเท่านั้น ความรัก ของเค้า ที่จะส่งไปให้ถึงใจเธอ มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในเมื่อ ครอบครัว ของเธอ ไม่มีวันเห็นดีเห็นงาม และถ้าจะต้องตัดใจ เค้าจะทำได้ไหม ในเมื่อ เธอ คือ ความหวัง ความฝัน และความหวานละมุน ในชีวิตที่แสนจะขมขื่นของเค้า อนาคตที่มองไม่เห็นทางข้างหน้า แต่เมื่อมีเธอ เดินเข้ามา ชีวิตของเค้า ก็ดูเหมือนกับว่า อะไรมันจะง่ายลงไป แม้จะไม่ง่ายจริงๆ แต่ว่า เค้ากลับมีพลังใจในการต่อสู้ เพื่อจะอยู่ต่อไป อยากจะพิสูจน์ตัวเอง ให้เธอ ได้เห็นว่า เค้า มีเธอ เป็นแรงใจในทุกๆวัน
"ถ้าคืนนี้ ไปต่อ ฉันต้องจ่ายเท่าไหร่ลิลลี่ " เธอสวย เธอหรู เธอแพง ในเล้าจ์แห่งนี้ เธอเหมาะจะอยู่แค่บนเตียง ไม่เหมาะจะเดินเคียงข้าง" " เควิน ซุง " มองเธอด้วยความโกรธ ที่เธอท้าทายเขา กล้าดียังไงถึงมานั่งกับคนอื่น แบบนี้ "เขาเป็นลูกค้า เขาอยากนั่งกับลิลลี่ ลิลลี่เลือกไม่ได้ แล้วเขา เลี้ยงดริ้งก์คืนนี้แล้วค่ะ ถ้าคุณเควินอยากนั่งกับลิลลี่ ก็ต้องจ่ายหนักหน่อยนะคะ " "ลิลลี่ ถ้าเล่นตัวนัก จะจัดให้ร้องทั้งคืนเลย " เธอกล้าดียังไง มาทำให้เขาโกรธ แม่ดอกลิลลี่
"ล้านบาท สำหรับวันนี้ ถ้าคุณมือขึ้น ผมขอเงินคืน ถ้าคุณเสียหมด คุณจะเป็นหนี้ผมสิบล้าน รวมกับของเก่าอาทิตย์ที่แล้ว" ชายหนุ่มพูดภาษาอังกฤษน้ำเสียงหนักแน่น ชัดเจน บอกออกไป โยธิน ยิ้มกว้าง ออกมาทันที ขอเเค่คืนนี้ได้ต่อทุน คืนนี้จะต้องเป็นวันของเค้า ชายหนุ่มวัยสามสิบปียิ้มกว้างออกมา ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินออกไปข้างนอก เพื่อใช้เงินล้านคืนนี้ต่อทุนเป็นสิบล้าน นิอร ยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะวางจานขนมใบเล็กลงบนโต้ะอย่างเอาใจคนตรงหน้า "คุณป้าขา อย่าโมโหเลยค่ะ พี่โย อาจจะแค่เมาไม่กลับเท่านั้นเองค่ะ อย่าห่วงไปเลยค่ะ" เสียงหวานปลอบใจผู้มีพระคุณ ก่อนจะตักขนมช่อม่วงชิ้นสวย ให้คุณป้าได้ลองชิม "อรลองทำช่อม่วงค่ะ คุณป้าช่วยชิมให้อรได้ไหมคะ ถ้าเผื่ออร่อยจะได้เอาไว้รับรองแขกที่บริษัท" สาวน้อยทำทีเปลี่ยนเรื่อง เพื่อหันเหความสนใจ ป่านนี้พี่โยอยู่ที่ไหน ทำไมไม่กลับบ้าน
นางร้ายขายดี อย่าง ทอปัด ตั้งใจว่า ถ้าต่อไปนี้ ใคร จะเดินเข้ามา ขอความจริงใจ เปิดเผยและชัดเจน ความรักที่ผ่านมา ทำให้เธอ ทั้งเจ็บ และ อาย บทเรียนราคาแพง ที่ทำให้เธอ ต้องระวังระวังใจ จนกระทั่ง เขา เดินเข้ามา แล้วบอกกับเธอว่า เขาจะอยู่ตรงนี้ จะไม่ไปไหน จะจับมือเธอ เดินไปข้างหน้า และบอกทุกคนว่า คนนี้ แฟนผม
เพราะเรื่องราวในครั้งนั้น เขาไม่ชัดเจน ทำให้เธอ ต้องเสียใจ เมื่อกลับมาพบกันอีกครั้ง เขาตั้งใจว่า จะไม่ปล่อยเธอไป แต่ว่า เขาไม่รู้เลย ช่วงเวลาที่เขาหายไป เธอกลายเป็นแม่ไปแล้ว แม่ที่น่ารักแสนดี ที่มีลูกสาว และคนข้างๆ ยืนเคียงข้างไม่ห่าง หนังสือรักเล่มเดิม ที่จะปรับปรุงใหม่ จะช้าเกินไปไหม สำหรับคำว่าเรา สองคน
นิยายรัก หวานละมุน ของคุณอา และ หลานสาว ความรักของน้องพรีน ที่มอง อาแพค มานาน รักครั้งแรก ของพรีน คือ อาแพค แต่ว่า รักแรกของเธอมองเธอเป็นเพียงหลานสาว เพราะอาแพค มีแฟน ที่เหมาะสม และคู่ควรกัน การรอคอย การแอบรัก และเฝ้ามอง มานานแสนนาน น้องพรีนจะ อยู่ห่างๆ มองอาแพคไกลๆ จนกว่า อาแพค จะหันมา แล้วเจอพรีน อยู่ตรงนี้
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ