นางเอกเปิดสำนักไถ่บาป สร้างลัทธิหลอกลวงผู้คนให้บริจาคเงิน แถมยังใช้ร่างกายที่สวยและสาวยั่วยวนเหล่าคนรวยบ้าตัญหาจนยอมเปย์ให้ทุกอย่าง นอกเหนือจากนั้นยังยั่วสวาทเหล่าหนุ่มวัยรุ่นชายฉกรรจ์ให้มาเป็นสมุนรับใช้งานต่างๆ เพื่อแลกกับการได้สัมผัสกับร่างกายอันไร้ที่ติของศาสดาสาว
ตอน แม่พระไถ่บาป
หิมะแรกในรอบปีกำลังตก ฝอยน้ำแข็งเกล็ดขาวลอยฟุ้งไปตามกระแสลมแรง บ้างเกาะยอดหญ้าเรียบเตียน รถหรูจอดล้อมรอบโบสถ์แห่งหนึ่งที่มีสัญลักษณ์แปลกๆ ตรามันไม่เหมือนกับศาสนาใดเลย ราวกับว่าเป็นสำนักอะไรบางอย่างที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่
ภายในมีโถงใหญ่ โคมไฟระย้าส่องแสงทองเรืองรองลงมาชวนให้อุ่นตา ชายหญิงในชุดสูทและชุดราตรีสีขาวต่างกำลังยืนเรียงแถวรอเข้าพบแม่พระนางหนึ่ง หล่อนมีชื่อว่าซี ซีที่แปลว่าเห็นทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเอง
ขณะที่ทุกคนกำลังยืนเรียงแถวมือก็ถือบัตรคิว บ้างกำจิกแน่นสีหน้ากระวนกระวาย ราวกับมีเรื่องด่วนเรื่องร้ายอะไรจะให้แม่พระช่วยเหลือเป็นการด่วน
ยังมีกลุ่มลูกสมุนของแม่พระที่เป็นพวกหนุ่มวัยรุ่นที่ดูเหมือนนักศึกษา พวกเขากำลังจัดระเบียบ คุมงานพิธี แจกเครื่องดื่มและขนมรองท้องระหว่างรอคิวไถ่บาป
"คิวที่เก้า อ้อท่านประธานนี่เอง เชิญเข้าพบท่านแม่ได้เลยขอรับ" เด็กหนุ่มเอ่ยทักประธานบริษัทนำเข้ารถหรู
"ขอบคุณครับ ๆ" ท่านประธานรุ่นพ่อกลับโค้งหัวคำนับเด็กวัยรุ่นแล้ววิ่งเข้าห้องไถ่บาป ภายในนี้เป็นห้องมืดสลัว กลางห้องมีหญิงสาวร่างเล็กผมทองกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ หล่อนสวมชุดคลุมสีขาวลายลูกไม้สีทองและมีหมวกคลุมศรีษะ เปิดให้เห็นเพียงใบหน้าเรียวสวยกับแก้มโตและดวงตากลมแป๋ว ส่วนอื่นที่เลยล้นผ้าก็มีแขน และน่องเรียวขาว สวมรองเท้าส้นสูงสีทอง
"สวัสดีครับท่านแม่" ท่านประธานบริษัทกล่าวขณะคุกเข่าลงไปกับพื้น คลานเข้ามาอยู่ตรงหน้าเด็กสาวรุ่นลูกแล้วถอดแว่นเงยหน้ามองผู้หญิงที่เคารพและศรัทธายิ่งกว่าแม่แท้ๆของตัวเอง
สาวสวยยื่นมือลงไป หนุ่มใหญ่ใช้สองมือลูบคลำมือน้อยๆก่อนจะจูบหลังมือเนียนนุ่ม จุ๊บ!
"มีเรื่องเงินทองหรือ" แม่พระทักขึ้นมาทันใด ชายหนุ่มตกใจหน้าสั่นเมื่อโดนรู้ความลับเพียงแค่ได้สัมผัสกัน
"ขอรับคุณแม่"
"ก่อนอื่น ถ้าอยากให้จิตวิญญาณเราเป็นสุขเราต้องยอมรับความจริง บอกสิ่งที่เคยทำผิดพลาดมาเสีย แล้วแม่จะไถ่บาปให้กับเจ้า ลูกเอ๋ย"
"ผม คือ จะเริ่มจากไหนดี เรื่องนี้มันทำให้ผมนอนไม่หลับมาหลายปีแล้ว"
"ใช่แล้วแม่เห็น สารภาพมาเลย" สาวสวยลุกเดินมายืนหลังหนุ่มใหญ่ เอามือลูบหัวของเชาก่อนจะดึงให้เอนมาพิงหัวกับหน้าท้องของหล่อน
"ผมเคยเบิกเงินบริษัทมาเลี้ยงเมียน้อย ตอนนี้นางกำลังจะเลิกกับผมแล้วแฉทุกอย่าง ทั้งเรื่องยักยอกเงินและเรื่องเลี้ยงเมียน้อย"
"ฮือ! ๆ แม่ครับ ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ขืนจะจ่ายค่าปิดปากเธอผมก็ต้องหมดตัวแน่ หากไม่ยอมผมก็คงโดนแฉจนติดคุก และเมียผมก็ต้องฟ้องหย่า สุดท้ายผมก็ไม่เหลืออะไรอยู่ดี ท่านแม่ได้โปรดช่วยผมทีเถอะครับ ให้ทำอะไรตอบแทนผมก็ยอม นะครับ ๆ แม่ครับ"
หนุ่มใหญ่เอ่ยขณะร้องไห้สะอึกสะอื้นแถมยังหมุนตัวมาคุกเข่ากอดเอวแม่พระแน่น เอาหน้าเปียกๆซุกซบพุงน้อยและร้องห่มร้องไห้อย่างไร้ยางอาย
"โอ๋! ๆ ๆ บาปหนานะเนี่ยเรา" ท่านแม่ลูบหัวท่านประธานและยิ้มมุมปาก
"ช่วยผมนะครับแม่ ได้ไหมครับ" ท่ายประธานเงยหน้าอ้อนวอน
"ได้สิ งั้นเรื่องเมียน้อยปล่อยให้แม่จัดการ คนบาปจะโดนลงโทษ ส่วนบาปของลูกแม่จะไถ่ให้เอง แต่ต้องแลกด้วยรถหรูนะ"
"ผม ผมจะให้ได้ยังไงครับ ก่อนหน้านี้ผมก็ยักยอกเงินมาแล้วนะครับ ผมไม่กล้าทำอีก"
หมับ! สาวสวยจิกผมหน้าหนุ่มใหญ่แล้วกระชากหัวของเขาโยกไปมาพร้อมกับดุด่า "อะไร๊ เมื่อกี๊ยังบอกว่าถ้าช่วยให้รอดไปได้จะยอมทำทุกอย่าง ศรัทธาสิ ทำได้ไหม ตอบมา"
"โอ๊ย! ๆ ทำได้ครับ โอ๊ย! ๆ"
"จดไว้ ให้ทำแคมเปญจับฉลากลุ้นรถแล้วล็อครางวัลให้แม่ โอเคไหม"
"โอเคครับ อ๋อ! ๆ แบบนีัเอง ผมทราบแล้วครับท่านแม่ ท่านแม่ปราดเปรื่องจริงๆ"
"นั่นแหละ ถ้ามีความเชื่อมันก็เป็นจริงได้ รวมทั้งเรื่องเมียน้อยแกด้วย บักเเว่น"
"แล้วผมต้องทำยังไงเรื่องเมียน้อยจะแฉครับ ผมไม่อยากโดนไล่ออกและติดคุกครับ"
"ได้ฟังไหมเนี่ย ฉันบอกว่าให้ฉันจัดการเอง นายก็แค่ไปทำงาน ออกแคมเปญชิงโชคลุ้นรถ แล้วก็รอฟังข่าว"
"ทราบแล้วครับแม่ ผมจะดำเนินตามนั้นโดยเร็วที่สุดเลยครับ ขอบคุณครับ ๆ ๆ" ท่านประธานก้มกราบเท้าสาววัยรุ่นสามรอบก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป
สามวันต่อมา
เสียงผู้ประกาศข่าวเช้ากำลังรายงานออกหน้าจอทีวีในศูนย์รถนำเข้าต่างประเทศ "เมื่อคืนนี้มีรายงานว่าผู้หญิงคนนึงพลัดตกจากคอนโดหรูค่ะ เบื้องต้นไม่พบว่ามีคู่กรณี ตำรวจสันนิษฐานว่าจะเป็นการคิดสั้น"
"ข่าวต่อไป ผู้โชคดีได้รับรถหรูคือคุณซีค่ะ หลังจากออกแคมเปญนี้ทำให้ศูนย์รถนำเข้ามียอดจองเพิ่มขึ้นอีกยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ นับว่าเป็นการโปรโมตเพื่อเรียกลูกค้าที่ร้อนแรงของปีนี้เลยค่ะ
หนุ่มแว่นในชุดสูทเทานั่งอ้าปากหว๋อก่อนจะตบแก้มตัวเอง เพี๊ยะ! ๆ "เยส! ข้ารอด ข้ารอดว่ะ ฮ่ะ! ๆ ๆ ท่านแม่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆด้วย ว่าแล้ว ๆ ไม่เสียเงิยเลยซักแดง ฮ่ะ! ๆ ๆ"
ตุบ! ๆ ๆ หนุ่มใหญ่วิ่งออกจากสำนักงานพร้อมกับพึมพำ "กระเพาะปลา ๆ ต้องเอาของดีไปถวายท่านแล้ว"
"ท่านประธานคะ ๆ จะไปไหนคะ" เสียงเลขาวิ่งตามหลัง
"ฉันจะไปหาแม่ เช้านี้เธอดูศูนย์ด้วยนะ ฝากก่อนๆ เดี๋ยวมา เดี๋ยวเย็นนี้เลี้ยงเนื้อย่างทั้งแผนก"
นางเอกถูกสามีนอกใจแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอยอมเป็นเมียโง่เพื่อที่ได้แอบกินตับกับพ่อผัว ลูกเลี้ยง หลานชาย และคนสวนในบ้าน สรุปแล้วเธอเสียสามีไปแค่คนเดียว แต่กลับได้ชู้ในบ้านเพิ่มเป็นสิบๆคน
หลังจากโดนผัวทิ้งตอนน้ำหนัก80กิโลแจมก็ผันตัวมาออกกำลังกายดูแลสุขภาพอย่างหนักหน่วง เพียงไม่กี่ปีเธอก็กลายเป็นสาวหุ่นดี แถมยังมีสถาบันฟิตเนสทาบทามให้ไปเป็นเทรนเนอร์สุดสวยประจำยิมเสียด้วย แต่ด้วยการที่ต้องหาลูกเทรนและทำยอดขายช่างยากเย็นไม่ต่างอะไรกับการขายประกัน ล่าสุดแจมเกิดปิ๊งไอเดียใหม่เพื่อหาคนมาเทรนด้วย เธอชอบยั่วยวนลูกชายเพื่อนๆให้มาออกกำลังกายที่ยิมแล้วหลอกกินตับ ไปๆมาๆได้ทั้งคู่นอนได้ทั้งค่าคอมจนกระเป๋าตุง เรียกได้ว่านับแต่นั้นมาแทบไม่มีวันไหนที่เธอได้นอนคนเดียวเลยซักคืน
กระต่ายถูกเก็บมาเลี้ยงในตระกูลผู้ดีที่มีชื่อเสียงทางสังคม ทว่าเธอกลับพลาดพลั้งไปมีอะไรกับพี่ชาย พอน้องเห็นเข้าก็แบล็คเมล์เธออีก ไปๆมาๆก็โดนคุณปู่ด้วยอีกคน ในไม่ช้าก็คงไม่พ้นพ่อเลี้ยง สรุปแล้วผู้ชายทั้งบ้านโดนเด็กสาวคนเดียวที่เก็บมาเลี้ยงกินตับจนหมด เธออยากได้อะไรก็ต้องให้ เธออยากไปไหนก็ต้องตามใจ เพราะทุกคนต่างก็คลั่งรักเด็กสาวที่ทั้งสวยและสดใส
นาจำต้องเลี้ยงดูลูกติดของน้องเขยเพราะว่าเขากับน้องสาวของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต นับแต่นั้นมาฝาแฝดก็มีคุณป้าคนสวยเพียงคนเดียวดูแลตลอดมา พอโตเป็นหนุ่มแล้วพวกเขาก็ชอบเล่นกล้ามและไปแข่งประกวดเพาะกายจนได้รางวัลและเงินมามากมาย คุณป้ายังสาวจึงต้องคอยดูแลอาหารการกินและเสื้อผ้าหน้าผมสองหนุ่มอยู่ตลอดเวลา วันดีคืนดีก็ต้องดูแลเรื่องบนเตียงของพวกเขาด้วย ในเมื่อหนุ่มๆพวกนี้ทั้งคึกคักและแรงดี เรียกได้ว่าเผลอทีไรเป็นต้องถึงเนื้อถึงตัวกับนาทุกครั้งไป แนะนำตัวละคร นา นางเอก อายุ29ปี ด้วยความที่เธอมีเชื้อจีนและหน้าเด็กตัวเล็กขาวจึงดูเหมือนสาววัยรุ่น (สายตาสั้น,เฉิ่ม) อภิวัฒน์ น้องเขยของนา (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) เขาเป็นเสี่ยอายุ38 (มีลูกติดมาจากเมียเก่าสองคนเป็นฝาแฝด) นิน น้องสาวของนา อายุ 28 (เสียชีวิต) ปกป้อง หลานแฝดผู้พี่ อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง ปราบปราม หลานแฝดผู้น้อง อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง *หมายเหตุ แฝดทั้งสองเป็นแฝดคนละฝา หน้าตาและนิสัยไม่เหมือนกัน
เอรีนคือเจ้าหญิงจากต่างแดนที่อพยพมาลงหลักปักฐานที่เมืองใหญ่ หลังการปฏิวัติตระกูลของเธอก็เปลี่ยนจากราชวงศ์มาเป็นมาเฟียแทน นับแต่นั้นมาเจ้าหญิงที่สวยใสจึงกลายเป็นเจ้าหญิงมาเฟียสายโหด ดุ หื่น และเอาแต่ใจ เรียกได้ว่าชอบผู้ชายคนไหนก็สั่งลูกน้องให้อุ้มมาขืนใจได้ทั้งหมด....
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว