คาร์โลส อะลอนโซ อิเกลเซียส มหาเศรษฐีหนุ่มเพลบอยสุดเซ็กซี่ ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในสเปนและติดหนึ่งในห้าของโลก เขาไม่เคยรู้จักคำว่า ‘ผิดหวัง’ อำนาจในมือที่มีอยู่สามารถดลบันดาลทุกสิ่งให้ได้ตามปรารถนา แม้กระทั่ง ‘พรหมจารี’ ของเหยื่อสาวอย่างกัญญิกา คุณานันท์ “คืนนี้เธอต้องอยู่บนเตียงกับฉันต่างหาก... ส่วนพ่อของเธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันให้คนจัดการหาพยาบาลพิเศษเฝ้าให้จนกว่าจะออกจากโรงพยาบาลนั่นแหละ...” คำพูดของคาร์โลสทำเอาแก้มสาวแดงก่ำ ความร้อนผ่าววิ่งไปทั่วทุกรูขุมขน มือบางที่กำโทรศัพท์อยู่สั่นน้อยๆ ขณะกัดฟันข่มเสียงให้เป็นปกติที่สุดตอบโต้คนใจร้ายออกไป “ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ...” “อย่าเข้าข้างตัวเองแบบนั้นสิเมียจ๋า... ฉันไม่เคยคิดจะช่วยเหลือเธอ...” เขาลากเสียงยาวฟังแล้วน่าหมั่นไส้ยิ่งนัก “แล้วทำแบบนี้ทำไม?” “ก็เพราะฉันต้องการเธอบนเตียงของฉันยังไงล่ะ” คำพูดของคนปลายสายฟังแล้วน่าเจ็บใจนัก นี่เขาเห็นหล่อนเป็นอีตัวอย่างที่เขาเคยพูดกรอกหูจริงๆ ใช่ไหม กัญญิกากัดปากแน่น น้ำตาเอ่อขอบตา “คนสารเลว... ฉันเกลียดคุณ...” คาร์โลสยิ้มกริ่มสะใจกับโทรศัพท์ “ฉันก็ไม่เคยอยากให้เธอรักฉันสักหน่อย... จำเอาไว้นะ เธอมันก็แค่ผู้หญิงที่ยอมขายแม้กระทั่งตัวเพื่อแลกกับเงิน มีค่าไม่ต่างจากอีตัวตามซ่องแม้แต่นิดเดียว... ดังนั้นเธอควรจะขอบใจนะ ที่ฉันเรียกเธอใช้ซ้ำอีกรอบ...” น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มสาว ก่อนที่มือบางที่ว่างอยู่อีกข้างจะยกขึ้นปาดมันทิ้งด้วยความเจ็บใจ หากฆ่าผู้ชายคนนี้ได้... หล่อนจะไม่รีรอที่จะทำเลยจริงๆ
ปลายมกราคม 2011
กรุงมาดริด ประเทศสเปน
มาดริด เมืองหลวงและจัดว่าเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของสเปน ตั้งอยู่ในใจกลางของคาบสมุทรไอบีเรีย ที่นี่จัดเป็นศูนย์กลางของศิลปะ และอุตสาหกรรมต่างๆ นักธุรกิจและมหาเศรษฐีใหม่ของสเปนเกิดขึ้นมหาศาลในทุกปี และหนึ่งในนั้นก็คงหนีไม่พ้น คาร์โลส อะลอนโซ อิเกลเซียส หนุ่มเลือดลาติน สแปนิซ ผิวสีทอง วัยเพียงสามสิบสามปีเศษ ที่ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ผู้ทรงอำนาจที่สุดในสเปน
คาร์โลส อะลอนโซ อิเกลเซียส ถูกจัดอันดับจากนิตยสารระดับโลกว่าเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงแทบจะทั้งโลกใฝ่ฝันอยากขึ้นเตียงด้วยมากที่สุด อาจจะเป็นเพราะใบหน้าสี่เหลี่ยมคมคายที่อยู่ในกรอบผมเส้นเล็กสีเข้มที่ผ่านการตัดแต่งมาอย่างประณีตจากช่างฝีมือเยี่ยม หรืออาจจะเป็นเพราะนัยน์ตาคมจัดสีน้ำเงินที่เต็มไปด้วยความเลือดเย็น ไร้หัวใจ หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะริมฝีปากสีสดบางเฉียบที่อยู่ใต้จมูกโด่งงามที่เจือความเยาะหยันไว้ตลอดเวลานั่น
แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะส่วนไหนของใบหน้าสมบูรณ์แบบ ไร้ที่ตินี้ ผู้หญิงทั้งโลกก็ไม่เคยลดความคลั่งไคล้ที่มีต่อเทพบุตรมารนามว่า คาร์โลสลงเลย จะเห็นได้ชัดเจนจากการขึ้นอันดับสูงสุดของผู้ชายในฝันของสาวทั้งโลกมายาวนานถึงห้าปีซ้อนเลยทีเดียว
ไม่มีใครก้าวขึ้นมาวัดรอยเท้ากับเขาได้...
ผู้ชายที่ทั้งอำมหิต แต่ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความเซ็กซี่ เร้าร้อน ร่างกายที่สมบูรณ์แบบ แกร่งกำยำไปทั่วทั้งร่าง ทำให้ผู้หญิงน้ำลายหกได้ไม่ยาก จะเห็นได้จากรูปแอบถ่ายของปาปารัซซี่ที่ถ่ายได้ตอนที่เขากำลังขึ้นจากสระว่ายน้ำในหาดส่วนตัวเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ภาพพวกนั้นขายหมดล้านก๊อปปี้ได้ภายในไม่ถึงสิบนาทีและมีการพิมพ์ซ้ำมากหลายพันครั้ง และตอนนี้มันก็กลายเป็นภาพหายากที่สุดในโลกไปเสียแล้ว
แต่คาร์โลสไม่ได้ดีใจกับสิ่งเหล่านั้นแม้แต่น้อย... เขากลับรู้สึกขยะแขยงสตรีเหล่านั้นจนแทบจะอาเจียน พวกหล่อนก็ไม่ต่างไปจากพวกปลิง พวกทาก ที่หวังจะใช้เรือนร่างไต่ลงไปในถังข้าวสารทองคำของเขา
แต่... ฝันไปเถอะ
คาร์โลส อะลอนโซ อิเกลเซียส ไม่ใช่หมู ที่ใครจะจับได้ง่ายๆ และการแต่งงานก็ไม่เคยอยู่ในหัวของเขามาก่อน
แม้จะมีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตมากมาย แต่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้ผู้ชายที่มีสัญชาตญาณนักล่าอย่างเขายอมสยบได้เลยแม้แต่คนเดียว แค่หนึ่งคืนบนเตียงในเพ้นต์เฮาส์สุดหรู และหลังจากนั้นทุกอย่างก็จบลงด้วยการจ่ายเงินจำนวนมากพอที่จะทำให้ผู้หญิงหิวเงินพวกนั้นยอมจากไปแต่โดยดี
รอยยิ้มเหยียดหยันที่มักจะผุดที่มุมปากหยักสวยเป็นนิจโค้งขึ้นน้อยๆ เมื่อนึกถึงสีหน้าของสตรีเหล่านั้นยามได้รับเช็คจำนวนหลายหมื่นยูโรจากเขา พวกหล่อนก็ไม่ต่างจากสินค้าที่ถูกซื้อมาบำบัดความใคร่ จากนั้นก็ถูกเขี่ยทิ้งไม่ต่างจากกระดาษชำระ
ชายหนุ่มผละจากวิวตรงหน้าเดินกลับมานั่งที่โต๊ะไม้มะฮอกกานีโบราณภายในห้องทำงานแสนหรูหราของตัวเอง ที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของ อาวิลล่า อะลอนโซ บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีเขาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด อาวิลล่า ทำเงินได้มหาศาลทุกปีตั้งแต่เปิดดำเนินการ
เอ็ดสัน อะลอนโซ โดนาส และ มารีอา อิเกลเซียส บัลเดส บิดามารดาของเขาที่ล่วงลับไปแล้วเกือบสิบปีได้มอบธุรกิจคมนาคมนี้ไว้ในมือของเขา โดยหวังว่าลูกชายคนนี้จะทำให้มันยิ่งใหญ่ได้ และทุกอย่างมันก็เป็นความจริง คาร์โลสไม่ได้ทำให้ท่านทั้งสองผิดหวัง เพราะเพียงแค่ไม่กี่ปีที่เข้ามาบริหารงาน ชายหนุ่มก็กลายเป็นเจ้าพ่อแห่งธุรกิจสื่อสารและคมนาคมผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในสเปนและในโลกตะวันตกได้อย่างง่ายดาย
ด้วยจิตวิญญาณของผู้ล่า คาร์โลส ไม่เคยปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสหายใจแม้แต่เฮือกเดียวในการประลองกันในสนามธุรกิจ ชายหนุ่มเด็ดหัว พร้อมกับขยี้คู่แข่งจนแหลกเหลวคามืออย่างเลือดเย็น จนความเหี้ยมโหด ไร้ความปรานีของเขาเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลก และด้วยผลพ่วงนี้จึงไม่มีใครหน้าไหนกล้าเข้ามารุกล้ำอำนาจของเขาเลยแม้แต่คนเดียว
มือใหญ่สีทองค่อยๆ เปิดแฟ้มรายชื่อบริษัทที่น่าสนใจในแถบเอเชีย นัยน์ตาคมกริบที่เหล่าอิสตรีขนานนามให้ว่า ‘เทพบุตร’ แต่คู่แข่งในโลกธุรกิจกลับขนานนามให้คาร์โลสว่า ‘จอมมาร’ ไล่ไปตามตัวอักษรยาวเหยียด หน้าแล้วหน้าเล่าก่อนจะมาหยุดที่บริษัทซัน กรุ๊ป จำกัด ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
“ซัน กรุ๊ปหรือ น่าสนใจ...”
ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ ก่อนจะพลิกไปหน้าถัดไปเพื่ออ่านรายละเอียดของซัน กรุ๊ป และรอยยิ้มอำมหิตก็ผุดขึ้นที่มุมปากหยักสวยของคาร์โลส มือใหญ่เอื้อมไปกดอินเตอร์คอม พร้อมทั้งออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจกับเลขาสาวหน้าห้องด้วยความเคยชิน
“มิสเทเรซ่า ผมต้องการติดต่อกับเจ้าหนี้ของซัน กรุ๊ป ไทยแลนด์เดี๋ยวนี้...”
“ค่ะ ท่านประธาน...”
เลขาสาวรีบรับคำอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ดีกว่าเจ้านายขึ้นชื่อเรื่องความใจร้อนมากแค่ไหน หากถูกขัดใจเมื่อไหร่ ระเบิดคงลงที่อาวิลล่าอย่างแน่นอน
เพียงไม่นานเจ้าหนี้รายใหญ่ของซันกรุ๊ป บริษัทที่กำลังจะล้มก็ถูกโอนเข้ามาหาคาร์โลสอย่างรวดเร็ว หากจับเวลาก็ไม่ถึงสองนาทีด้วยซ้ำ
“ผมต้องการเป็นเจ้าของซัน กรุ๊ป คุณต้องการเงินเท่าไหร่...”
น้ำเสียงเย็นเฉียบแต่แฝงไปด้วยความกระด้างของคาร์โลสทำให้คู่สนทนาถึงกับเขาอ่อน กิตติศัพท์ของเสือร้ายตนนี้เป็นที่โจษจันกันไปทั่วโลก และหากใครหน้าไหนบังอาจขัดขวางความต้องการของเขาละก็ คนผู้นั้นอาจจะถูกขยี้ด้วยปลายเท้าของคาร์โลสจนไม่เหลือชิ้นดี
“อย่างนั้นหรือ ไม่ดีกว่าผมจะให้มากกว่านั้น สักห้าสิบล้านเป็นไง...”
เมื่ออีกฝ่ายบอกว่าแล้วแต่เขา ชายหนุ่มซึ่งไม่เคยเอาเปรียบใครอยู่แล้วจึงเพิ่มราคาซันกรุ๊ปขึ้นอีกสิบล้านบาท ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมรับอย่างไม่มีขัดข้อง
คาร์โลสระบายยิ้มน้อยๆ แสดงถึงความพึงพอใจที่มุมปาก “งั้นก็ตามนี้ ผมจะส่งคนเข้าไปทำสัญญากับคุณที่บาร์เซโลน่าในวันพรุ่งนี้ บาย...”
มือใหญ่ที่ประกอบด้วยนิ้วเรียวยาววางโทรศัพท์ลงช้าๆ ขณะที่นัยน์ตาคมกล้าสีน้ำเงินเข้มไม่ต่างจากแซฟไฟร์วาววับราวกับซ่อนเร้นอะไรบางอย่างไว้ในนั้น รอยยิ้มที่ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเป็นรอยยิ้มแบบไหนผุดขึ้นที่มุมปากหยักสวยสีสด
ไม่เคยมีอะไรที่คาร์โลสอยากได้แล้วไม่ได้ ไม่ว่าจะธุรกิจ หรือว่าจะผู้หญิง... ผู้หญิงอย่างนั้นหรือ... ใช่สิ วันนี้เขามีนัดกับ มิเกล นางงามจักรวาลคนล่าสุด สัญชาติอาร์เจนติน่า...
บนเตียง!
ร่างสูงใหญ่แสนสง่างามลุกขึ้นยืนตระหง่าน มือใหญ่คว้าเสื้อสูทที่พาดไว้ที่พนักเก้าอี้หนังแท้สีดำสนิทขึ้นมาพาดไว้ที่แขน ก่อนจะก้าวยาวๆ ออกจากห้องทำงานไปทันที
ใช่ว่าเขาจะเสน่หาแม่มิเกลอะไรนั่น แค่ร่างกายของเขามันอึดอัด หิวกระหายการปลดปล่อยต่างหากล่ะ ครั้งเดียว คืนเดียว หรือมากหน่อยก็สองคืน มิเกลนางงามจักรวาลก็จะต้องลงจากเตียงของเขาไปทันที
“ผมจะไม่กลับเข้ามาอีกในวันนี้... งานทุกอย่างไม่ว่าจะสำคัญแค่ไหนผมจะเคลียร์ให้ในตอนเช้าของวันพรุ่งนี้ เข้าใจที่ผมพูดนะมิสเทเรซ่า...” ชายหนุ่มย้ำเสียงหนัก
“เข้าใจค่ะท่านประธาน...”
รอยยิ้มพึงพอใจผุดที่มุมปากของคาร์โลส
“ดีมาก... และอย่าให้ใครโทรหาผมล่ะ เพราะอาจจะกำลังยุ่ง...”
พูดจบก็ก้าวยาวๆ มุ่งหน้าตรงไปที่ลิฟท์ เทเรซ่ามองตามไปด้วยความโล่งใจ ที่วันนี้ตัวเองไม่ถูกเจ้านายหนุ่มแสนหล่อเล่นงาน
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
เพราะ One night stand ครั้งนั้น... ทำให้นักธุรกิจหนุ่มหล่อวัยสามสิบห้า ต้องมาหลงเสน่ห์เด็กสาววัยยี่สิบเอ็ดอย่างเธอ!! "ไหนคุณบอกว่าเรื่องระหว่างเราเป็นแค่ one night stand ไงคะ" "แล้วถ้าผมไม่ได้อยากให้มันจบลงแค่นั้นล่ะ" "คะ?" "มาอยู่กับผม รับรองว่า คุณจะได้ทุกอย่างที่อยากได้" "ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย" "เพราะไม่ว่ายังไง คุณก็ไม่มีทางหนีผมพ้นหรอก..." "นี่คุณ!" "บอกว่าให้เรียกพี่ภามไง หรือถ้าไม่ถนัดเรียกที่รัก ก็ได้ แต่ถ้ายาวไปเรียกผัว เฉยๆก็ได้เหมือนกัน"
[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ
คำโปรย หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หลัวเซียงเซียง ถูกดูดเข้ามาอยู่ในนิยายจีนโบราณที่ตัวเองกำลังอ่าน ชีวิตในนิยายไม่ได้ง่ายเลยเมื่อต้องมาอยู่ในร่างของนางร้ายที่ใคร ๆ ก็ขนานนามว่าเป็นอสรพิษและสุดท้ายต้องสังเวยชีวิตเพราะความชั่วร้ายของตัวเอง วิธีการเดียวที่จะออกไปจากนิยายเรื่องนี้ได้ก็คือต้องเอาตัวรอดจนกระทั่งบทสุดท้ายในนิยายเรื่องนี้ หลัวเซียงเซียงจึงพยายามแสดงความร้ายกาจออกมาให้เป็นที่รังเกียจที่สุด ทำให้ชื่อเสียงมัวหมอง เพื่อไม่ให้ฝ่าบาทมอบสมรสพระราชทาน ถูกจับเข้าตำหนักฉินอ๋องหลงเฟยเยี่ยเพื่อเอาชีวิตรอดและออกไปจากนิยายน้ำเน่าเรื่องนี้เสียที 'เชิญรักกันตามสบาย นางร้ายอย่างฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด' ชินอ๋องหลงเฟยเยี่ย มีสตรีที่อยู่ในใจ ทว่าฝ่าบาทกลับบังคับฝืนใจให้เขาแต่งกับคุณหนูรองจากจวนแม่ทัพหลัวเพื่อผูกใจของคนผู้นั้นเอาไว้ นิสัยของคุณหนูรองผู้นี้เขาย่อมรู้ดี ต่อหน้าทำเป็นแสนดีลับหลังกลับร้ายกาจ หลอกลวงฝ่าบาทจนพระองค์คิดว่านางคือคนดี จึงทำให้เขาไม่คิดย่างกรายเข้าไปเหยียบตำหนักหวางเฟยของนางโดยเด็ดขาด ทว่าเกิดเรื่องไม่คาดฝันทำให้จำใจต้องใกล้ชิด ทำให้เขาได้รู้ว่าทุกสิ่งที่เขาได้ยินมานั้นและรู้มานั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผิดแผกจากที่เคยรู้ ทำให้หลงเฟยเยี่ยบังเกิดความประหลาดใจ 'แท้จริงแล้วสตรีผู้นี้เป็นคนเช่นไรกันแน่' มู่ลี่เอ๋อร์ ผู้เป็นที่รักของหลงเฟยเยี่ย ในเนื้อหานิยายเรื่องนี้ เดิมนางผู้นี้จะถูกหลัวเซียงเซียงแอบลอบสังหารเพราะเป็นหนามตำใจ ทว่าเรื่องกลับไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว เมื่อหลัวเซียนเซียนผู้เคยร้ายกาจกลับคิดญาติดีกับนาง 'ทำให้มู่ลี่เอ๋อร์งวยงงยิ่งนัก'
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
เพราะรักนางจึงยอมทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับมอบความรักให้สตรีอื่น ในเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางแล้วนางก็ไม่คิดจะยื้อไว้อีกต่อไป ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว ส่วนข้าจะเดินจากไปพร้อมกับบุตรในครรภ์