เพราะการแต่งงานนี้ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเขา ทำให้ทะเบียนสมรสที่เธอนอนกอดอยู่มีกำหนดหมดอายุ! เธอมีเวลาในฐานะเมียของเขาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น คอยดูเถอะ..ในสามเดือนนี้เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขาให้ได้!
“แต่งงาน!” สองเสียงผสานกันด้วยความตกใจ
‘นนท์นธี’ ชายหนุ่มสูงโปร่งรูปร่างหน้าตาดีวัยสามสิบ ทายาทเพียงคนเดียวของ ‘ไร่แสงตะวัน’ ตีหน้าเครียดขึ้นมาทันตา เขาหันไปมอง ‘หวานเย็น’ หญิงสาวที่อ่อนกว่าเขาห้าปี เธอแก่นแก้วและไม่ค่อยยอมคน แต่ก็เป็นที่เอ็นดูของทุกคนในไร่ หวานเย็นเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านที่สนิทกับครอบครัวของนนท์นธีมาตั้งแต่เล็ก ทั้งคู่จึงเปรียบเสมือนพี่ชายและน้องสาวที่เติบโตมาด้วย
หมายถึง...สำหรับนนท์นธีคนเดียวเท่านั้น
“ใช่แล้ว ตานนท์...หลานก็รู้ว่าย่าอยู่ได้อีกแค่สามเดือน อาการป่วยของย่าก็ทรุดลงเรื่อยๆ ย่าอยากเห็นหลานเป็นฝั่งเป็นฝากับผู้หญิงที่เพียบพร้อม”
‘คุณย่าเอื้องฟ้า’ คุณย่าของนนท์นธีเอ่ยขึ้นพลางเอื้อมมือไปจับมือหลานชายเอาไว้ นนท์นธีอยากจะปฏิเสธแต่ก็หวั่นใจต่ออาการป่วยของคุณย่าเหลือเกิน
“ผู้หญิงคนนั้นก็คือหนูเหรอคะ”
หวานเย็นถามเสียงแจ๋ว เธอชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยอาการที่แสดงถึงความดีอกดีใจจนปิดไม่มิด
จะไม่ให้ดีใจได้อย่างไร ในเมื่อนนท์นธีคือชายหนุ่มในฝันของสาวๆ ทั้งหมู่บ้าน แน่นอนว่ารวมตัวเธอเข้าไปด้วย หวานเย็นแอบรักนนท์นธีมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมแล้ว เธอตกหลุมรักในความใจดีแต่ก็สุขุมนุ่มลึกของเขา แม้ว่าระยะหลังมานี้เขาจะชอบตีตัวออกห่างเธอก็ตามที
“ใช่แล้วจ้ะ หวานเย็นที่ทั้งเรียบร้อย น่ารัก แล้วก็อ่อนหวาน ย่าคงสบายใจถ้านธีได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ดีอย่างหนู”
“แหม คุณย่าล่ะก็ ชมหนูเกินไปแล้วนะ”
หวานเย็นบิดตัวด้วยความเขิน นนท์นธีแอบแค่นยิ้มไม่ให้ใครเห็นพลางมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า สลับกับคำพูดที่คุณย่าพูดมาเมื่อครู่
เรียบร้อย...ผู้หญิงที่ไม่เคยใส่กระโปรงเลยนอกจากกระโปรงนักเรียนแถมยังปีนต้นไม้เร็วกว่าลิงแบบนี้น่ะหรือเรียบร้อย?
น่ารัก...กับหญิงสาวที่ไม่รู้ว่าอายไลน์เนอร์เอาไว้เขียนขอบตาแต่กลับเอามาทาปากอย่างหวานเย็นไม่เหมาะกับคำนี้ที่สุดในโลกแล้ว
สุดท้าย...อ่อนหวาน...ล่าสุดเธอเพิ่งยกพวก (แก๊งเด็กวัดหลังบ้านของเธอ) ไปถล่มกับพวกนักเลงประจำหมู่บ้านจนเนื้อตัวเขียวช้ำไปหมด มองยังไงก็ห่างไกลกับคำว่าอ่อนหวานมากๆ นนท์นธีคิดในใจพลางส่ายหน้า
หากแต่คุณย่าของเขาก็ดูจะถูกใจแม่จอมแก่นคนนี้เสียเหลือเกิน ตั้งแต่เล็กจนโต ลองเขาได้ทำทีเป็นใจร้ายใส่หล่อนเมื่อไหร่ ขี้คร้านจะเป็นเขานี่แหละที่ถูกคุณย่าบ่น
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับคุณย่า”
เขาโต้แย้ง หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่ยอมแต่งงานกับเด็กไม่รู้จักโตอย่างหวานเย็นแน่ๆ
“ก็เพราะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ น่ะสิ ย่าถึงได้เลือกหวานเย็นมาเป็นเมีย เอ๊ย ไม่สิ เป็นเจ้าสาวของแก บนโลกนี้ไม่มีใครเหมาะกับแกเท่าหวานเย็นอีกแล้ว เชื่อย่าเถอะ”
“คุณย่าครับ...”
“หนูเชื่อค่ะๆๆๆ หนูเชื่อคุณย่าที่สุดในโลกเลย”
หวานเย็นเอ่ยแทรกขึ้น นนท์นธีหันไปทำตาเขียวใส่เธอ แต่มีหรือที่หญิงสาวจะสน เธอรีบแทรกเข้าไปกอดคุณย่าและเอ่ยรับปาก
“หนูจะทำตามที่คุณย่าพูดทุกอย่างเลยค่ะ เรื่องแต่งงานกับพี่นนท์ หนูก็จะแต่งให้ คุณย่าไม่ต้องห่วงนะคะ”
“จริงหรือหวานเย็น หนูจะยอมเป็นเจ้าสาวของหลานย่าจริงๆ หรือ”
“จริงค่ะ คนอย่างหวานเย็น พูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว”
เธอยักคิ้วด้วยท่าทีแสนซน นนท์นธีถึงกับถอนหายใจชุดใหญ่ เขารีบดึงตัวเธอออกห่างจากคุณย่าเพื่อจะพูดเหตุผลของตัวเอง
“ผมไม่แต่งนะครับคุณย่า จะให้แต่งกับลิงทโมนแบบนี้น่ะหรือ ขออยู่เป็นโสดตลอดชีวิตดีกว่าครับ”
“ละ...ลิงทโมนเลยเหรอ พี่นนท์ใจร้าย! หวานไม่ใช่ลิงสักหน่อย”
“แค่เพราะเธอเรียนหนังสือได้ ไม่ได้แปลว่าเธอไม่ใช่ลิงหรอกนะ จำไว้”
ได้ยินแบบนั้นหญิงสาวก็เริ่มโกรธ เธอทำแก้มป่อง สองมือกอดอกแล้วเชิดหน้าหนีเขาไปอีกทาง แต่นนท์นธีไม่สนใจ เขาต้องการคุยกับคุณย่าให้จบ
“แปลว่าตานนท์จะไม่ทำตามที่ย่าบอกงั้นรึ”
“ผมทำตามที่คุณย่าบอกได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้ครับ อย่างน้อยก็แค่เรื่องนี้ ให้ผมได้เลือกคู่ชีวิตเองเถอะนะครับ”
นนท์นธีอ้อนวอน เหตุผลหลักๆ ที่เขาไม่อยากแต่งงานกับหวานเย็นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องความรักเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเพราะ...เขามีหญิงสาวในดวงใจอยู่แล้ว หญิงสาวที่เขาคิดจะแต่งงานด้วย
“แกคงอยากเห็นย่าแก่ๆ คนนี้นอนตายตาไม่หลับสินะ”
“คุณย่าครับ ไม่ใช่แบบนั้น...”
“ออกไป”
“คุณย่า...”
“ถ้าแกไม่ยอมแต่งงานกับหนูหวานเย็น แกก็ไม่ใช่หลานของฉันอีกต่อไป ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไปเลย!”
คุณย่าเอื้องฟ้าตะโกนดังขึ้น หวานเย็นเห็นท่าไม่ดีจึงรีบดึงนนท์นธีออกมาจากห้องก่อนที่ความดันของคุณย่าจะพุ่งสูงทะลุเพดานห้องไปเสียก่อน
“ออกมาก่อนพี่นนท์ บอกให้ออกมาไงเล่า”
ในที่สุดหล่อนก็ทำสำเร็จ นนท์นธีถูกดึงออกมาจากห้องได้ หวานเย็นรีบปิดประตูห้องคุณย่าแล้วยืนกางแขนกางขาขวางเอาไว้
“ถอยไปยัยลิง”
“ไม่ถอย คุณย่ากำลังอารมณ์ร้อน พี่อย่าเพิ่งเข้าไปเลยน่า”
“แต่ฉันต้องคุยกับคุณย่าให้รู้เรื่อง ฉันไม่มีวันแต่งงานกับเธอแน่”
คำพูดที่ยืนยันอย่างหนักแน่นของเขาทำให้เธอหน้าเสียไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาปั้นหน้าทำตัวปกติ เธอรู้ดีว่านนท์นธีมีนิสัยอย่างไร ความสุขุมนุ่มลึกในตัวของเขามีมากพอๆ กับความดื้อรันหัวชนฝาไม่ยอมใครนั่นแหละ
“เรื่องนั้นไว้ค่อยคุยตอนที่คุณย่าใจเย็นสิ พี่ก็รู้นิสัยคุณย่า อยากโดนเพ่นกบาลออกมาหรือไง อีกอย่าง...ที่คุณย่ามีความคิดแบบนี้ก็เพราะท่านยังไม่รู้ว่าพี่มีแฟนน่ะสิ” นนท์นธีชะงักเพราะคำพูดของหวานเย็น ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อคิดหาหนทางที่ดีได้ สองมือของเขาจับไปที่บ่าของหญิงสาวแล้วเอ่ยขอบคุณ
“ขอบคุณมากนะยัยลิง เธอทำให้ฉันคิดวิธีดีๆ ออกแล้ว”
“วิธีอะไรเหรอพี่”
“ฉันจะเข้ากรุงเทพฯ”
“เอ๋? ทำไมจู่ๆ ก็...”
“ฝากดูแลคุณย่าสักสองวันนะ ฉันจะไปพาหลานสะใภ้มาหาคุณย่า ท่านจะได้เลิกคิดเรื่องจับคู่ให้เธอกับฉันสักที”
นนท์นธีพูดทิ้งไว้แค่นั้นก็รีบวิ่งลงบันไดไปด้วยสีหน้าดีใจที่หาทางแก้ปัญหาได้
คล้อยหลังชายหนุ่ม หวานเย็นค่อยๆ ทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นมองตามเขาตาละห้อย เธอรู้ดีแก่ใจว่าสำหรับเขาเธอเป็นได้แค่น้องสาวเท่านั้น ไม่ว่าจะพยายามสักแค่ไหน...
ความรักของเธอ...จะไม่มีวันส่งไปถึงเขาอย่างแน่นอน
“คนบ้า ฉันน่ะ...โตเป็นสาวแล้วนะ”
แฟนไม่นอกใจคือลาภอันประเสริฐของหญิงสาว และฉันคือหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น...ซะเมื่อไหร่! เขาไม่นอกใจแต่กลับนอกกายฉันเป็นว่าเล่น งานนี้ต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ฉันต้องงัดทุกมารยาหญิงมาหยุดเขาให้ได้!
เพราะติดใจความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอ...จึงกลายมาเป็นนางฟ้าของเขาในวันนี้
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"