ความเข้าใจผิดทำให้ ฮาร์เวีย มาสเคราโน่ กลายเป็นจอมมารร้ายแสนป่าเถื่อน และด้วยความรักทำให้ แพทริเซีย อะลอนโซ ลิซเต เลือกที่จะยอมเป็นเหยื่อเพื่อให้จอมมารย่ำยี “แพทยังไม่พร้อมค่ะ อยากพักผ่อน เมื่อคืนคุณทำให้แพทเจ็บ” ฮาร์เวียหัวเราะหึหึใกล้ๆ กับใบหูเล็กหอมละมุน “ครั้งนี้สัญญาว่ามันจะไม่เจ็บ และเธอก็จะชอบมันมากๆ” พยายามขัดขืน พยายามดิ้นรน แต่ก็ถูกพ่อคนตัวโตที่ตอนนี้กำลังกระหายเซ็กซ์จนหน้ามืดตามัวกระชากเสื้อผ้าออกไปจากร่างกายจนได้ และเขาก็หาได้หยุดแค่นั้นไม่ เพราะอีกไม่กี่วินาทีต่อมาทั้งบราเซียร์และกางเกงในตัวน้อยก็มีสภาพไม่ต่างเสื้อผ้าตัวสวยพวกนั้น คือลงไปกองอยู่ที่พื้นห้อง “อย่าค่ะ อย่าทำแบบนี้...” “เธอไม่มีสิทธิ์ขัดขืน ฉันอยากจะเบื่อเธอเร็วๆ เธอจะได้ไปให้พ้นหูพ้นตาฉันสักที” “ก็ปล่อยแพทไปตอนนี้เลยสิคะ จะรั้งไว้ทำไม เซ็กซ์น่ะคุณหากับผู้หญิงคนไหนก็ได้ไม่ใช่หรือคะ แค่คุณกระดิกนิ้วผู้หญิงครึ่งโลกก็ต่างพากันกรูเข้ามาหาแล้ว ปล่อยแพทสิ” “แต่ฉันไม่ได้ต้องการผู้หญิงทั้งโลกนี่...” เขาตามทาบทับลงมาทันทีเมื่อวางร่างอรชรเปลือยเปล่าของหล่อนลงกับที่นอน ร่างงามถูกตรึงไว้ด้วยกรงสวาทของคนตัวโตทุกทิศทาง ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรู้สึกถึงความพ่ายแพ้ “ฉันต้องการเธอ... กำลังหิวเธอเหลือเกิน” มือของเขา ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว จาบจ้วง รุนแรง และไม่ปรานี แต่กระนั้นร่างกายของหล่อนก็แอ่นรับอย่างเต็มอกเต็มใจ ลิ้นร้อนๆ ปาดเลียปลายถันเม็ดงามด้วยความเร่าร้อน บีบเคล้นเต้างามด้วยแรงๆ จนมันแทบแหลกเละคามือ
05 ตุลาคม 2011
กรุงบัวโนสไอเรส สาธารณรัฐอาร์เจนตินา
แลมโบกินี อเวนทาดอร์ สปอร์ตหรูสีขาวคันงามราคาแพงระยับแล่นทะยานไปตามท้องถนนที่คดเคี้ยวของกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ มุ่งหน้าสู่โรงแรมหรูที่สุดใจกลางเมืองบัวโนสไอเรส ซึ่งตระกูล มาสเคราโน่ ถือครองหุ้นส่วนใหญ่เอาไว้ทั้งหมด
ดินแดนสวรรค์สองข้างทางที่ประดับไปด้วยไม้ประดับและซุ้มขายดอกไม้มากมายไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากดวงตาคมกริบสีเทาหวานฉ่ำได้ เพราะนัยน์ตาคมกล้ายังคงจับจ้องไปเบื้องหน้าเขม็ง หัวใจบีบเกร็งอย่างรุนแรงเมื่อสิ่งที่รอคอยกำลังจะตกลงมาอยู่ในอุ้งมือของเขาในระยะเวลาอันใกล้นี้
รอยยิ้มเหี้ยมโหดแต้มแต่งบนใบหล่อเหลาปานเทพบุตรของ ฮาร์เวีย มาสเคราโน่ ริมฝีปากหยักสวยที่สาวๆ ลงความเห็นว่ามันสุดแสนจะเซ็กซี่เร้าใจแสยะยิ้มเย็นชาน่ากลัว
“ในที่สุดเธอก็มาติดกับดักของฉันจนได้นะ แพทริเซีย และรับรองได้เลยว่าฉันจะต้อนรับเธอให้พิเศษจนลืมไม่ลงเชียวแหละ”
ไม่มีเสียงหัวเราะออกมาจากลำคอแกร่งของหนุ่มสุดหล่อเลือดลาตินอีก แต่กระนั้นความชิงชัง เคียดแค้นที่มันเบ่งบานเต็มหัวใจก็ทะลักไหลหลากออกมาทางสายตาคมกริบสีเทาอย่างมหาศาล
เหตุการณ์ที่ผ่านมาเดือนกว่าๆ ยังฝังแน่นอยู่ในสมอง เขาไม่มีทางลบเลือนมันออกไปจากหัวใจได้ แพทริเซียผู้หญิงที่สามารถเขย่าหัวใจตายด้านของเขาให้เต้นแรงที่สุดในชีวิต ทุกเซลล์ประสาทจดจำรายละเอียดของเจ้าหล่อนได้อย่างชัดเจน ใบหน้ารูปไข่ผุดผาดด้วยเลือดฝาด ดวงตากลมโตสีน้ำเงินเข้มหวานหยดย้อยไม่ต่างจากน้ำตาลอ้อย ขณะที่จมูกโด่งและริมฝีปากอิ่มสีแดงสดรับกันอย่างเหมาะเจาะ แพทริเซียงามยิ่งกว่านางฟ้าบนสรวงสวรรค์เสียอีก
ฮาร์เวียหัวเราะหึหึในลำคอคล้ายกับกำลังหัวเราะเยาะตัวเอง เมื่อรับรู้ถึงอิทธิพลจากเสน่ห์นางที่แผ่ปกคลุมหัวใจและร่างกายของตนเองจนยากจะดิ้นหลุดพ้น อยากจะเกลียด อยากจะขยะแขยง แต่ก็ทำไม่ได้เลยสักนิด แพทริเซียยังคงมีอำนาจเหนือการควบคุมของเขาเช่นเดิม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนก็ตาม
รถสปอร์ตคันงามเคลื่อนเข้ามาจอดในลานจอดรถส่วนตัวภายในโรงแรมหรูระดับห้าดาวของ โฮนาส มาเคลาโน่ พี่ชายสุดหล่อที่อายุห่างจากเขาเพียงแค่สองปี และด้วยช่วงอายุที่ไม่ห่างกันมากนี้ทำให้เขากับพี่ชายสนิทสนมกันและสามารถพูดกันได้ทุกเรื่อง
ช่วงขาเพรียวทรงพละกำลังก้าวไปตามทางเดินที่ถูกปูไว้ด้วยพรมสีเขียวเทอควอยซ์หนานุ่มที่เป็นสีประจำของโรงแรมแห่งนี้ด้วยท่าทางสง่างาม ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมสมบูรณ์แบบยังคงราบเรียบไร้ซึ่งรอยยิ้ม เมื่ออยู่ตามลำพังในลิฟต์ส่วนตัวที่กำลังพาเขาขึ้นไปสู่ชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องทำงานของโฮนาส มาเคลาโน่ พี่ชายของตนเอง
“ฮาร์เวีย... นั่งก่อนสิ”
เสียงทักทายของพี่ชายที่นั่งอยู่ภายในห้องทำงานชั้นบนสุดของโรงแรมสุดหรูดังขึ้นทันทีเมื่อเขาเปิดประตูไม้บานใหญ่เข้ามา
“สวัสดีครับพี่โฮนาส”
ร่างสูงใหญ่กำยำที่เกิดจากเชื้อชาติและการเล่นฟุตบอลของฮาร์เวียทรุดนั่งลงบนโซฟาริมหน้าต่างกระจกบานใหญ่ตามคำเชิญของพี่ชาย เอนหลังพิงกับพนักของโซฟาหนังแท้แสนนุ่ม พร้อมๆ กับตวัดขาไขว่ห้างด้วยท่าทางแสนสง่างาม
“จะมาดูตัวเหยื่อหรือไง”
โฮนาสพูดด้วยรอยยิ้ม แต่ผู้เป็นน้องชายหาได้มีรอยยิ้มไม่
“เธอมาถึงหรือยังครับ”
ผู้เป็นพี่ชายหัวเราะออกมา ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ จ้องมองฮาร์เวียด้วยสายตารู้ทัน “น่าจะถึงตอนเย็นๆ นั่นแหละ ดูท่าทางนายจะคลั่งไคล้ผู้หญิงคนนี้มากเลยนะฮาร์เวีย นายรักเธอหรือ?”
คำตามของพี่ชายแทงถูกใจดำเหลือเกิน แต่คนปากแข็ง ใจแข็งอย่างเขาไม่มีทางยอมรับออกไปง่ายๆ แน่ อาจจะใช่ที่แพทริเซียมีอิทธิพลต่อร่างกายของเขาเป็นอย่างมาก แต่หัวใจแม่ผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นไม่มีทางได้แตะมันหรอก
ไม่มีทาง!
เขาก็แค่ต้องการสอนบทเรียนราคาแพงให้กับแม่นั่นเท่านั้นเอง หล่อนจะได้รู้ว่าคนอย่างฮาร์เวีย มาเคลาโน่ ล้อเล่นด้วยไม่ได้
“พี่โฮนาสเคยเห็นผมรักผู้หญิงคนไหนมาบ้างหรือเปล่าล่ะครับ”
“ไม่เคย แต่พี่ว่าคนนี้มีอิทธิพลกับนายมากเลยนะ ฮาร์เวีย ระวังหัวใจเอาไว้หน่อยก็ดีนะ”
เจ้าของชื่อแค่นยิ้มหยันออกมา “ไม่มีทางหรอกครับ ผมก็แค่อยากจะสอนให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่า ผมไม่ใช่ไอ้งั่งที่หล่อนจะมาปั่นหัวเล่นได้ง่าย”
“แต่นายกำลังจะลักพาตัวเธอนะฮาร์เวีย มันผิดกฎหมาย และพี่ก็ไม่เห็นด้วย”
โฮนาสพยายามจะบอกให้ฮาร์เวียรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้นมันไม่ใช่เรื่องดี แต่ดูเหมือนว่าเจ้าน้องชายจอมเย็นชาของเขาจะไม่ยอมฟังเอาเสียเลย
“มันถูกต้องสำหรับผู้หญิงอย่างแพทริเซียแล้วล่ะครับ พี่โฮนาสไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกครับ ผมจะไม่ให้เรื่องนี้มาเกี่ยวพันกับพี่อย่างแน่นอน”
“พี่ไม่ได้กลัวเรื่องนั้นหรอก แต่นายก็รู้นี่ว่าคาร์โลสดุร้ายแค่ไหน หากเขารู้ว่าเรากักขังแพทริเซียเอาไว้ พี่ว่าพวกเราอาจจะต้องเดือดร้อนอย่างมาก ซึ่งพี่ไม่อยากมีปัญหากับเสือร้ายอย่างคาร์โลส”
น้ำเสียงของพี่ชายมีร่องรอยวิตกกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก็แน่ล่ะชื่อของ คาร์โลส อะลอนโซ อิเกลเซียส ใครได้ยินก็ต้องหวาดกลัวกันทั้งนั้นแหละ แต่ไม่ใช่เขา ไม่ใช่ฮาร์เวีย มาเคลาโน่คนนี้
“คาร์โลสจะไม่มีทางรับรู้อะไรทั้งนั้น”
“พี่ว่านายล้มเลิกความตั้งใจซะเถอะฮาร์เวีย ปล่อยให้แพทริเซียได้ทำงานที่เธออยากจะทำดีกว่า อย่าให้ผู้หญิงเพียงคนเดียวมาทำให้ชีวิตของนายวุ่นวายเลย หายนะมักมาพร้อมๆ กับสตรีนายจำคำนี้ที่พ่อเคยบอกไม่ได้หรือ”
สีหน้าและแววตาของฮาร์เวียไม่ได้แสดงความรู้สึกไม่สบายใจใดๆ ออกมาเหมือนกับพี่ชายเลย ตรงกันข้ามเขากลับกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในอกต่างหาก
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"