แวววรรณ สาวน้อยที่มีความสวยเซ็กซี่อย่างไม่รู้ตัว และมักเจอแต่เจ้านายชีกอทำให้เธอลาออกจากงาน จนตกงาน และเพื่อนๆ ก็ช่วยแนะนำแอปฯแม่บ้าน ที่ทำไปทำมารายได้งามกว่าที่คิด และอุตส่าห์หลีกเลี่ยงหนุ่มๆ แต่ก็ไม่รอดเมื่อมาทำงานแม่บ้านที่ห้องคอนโดห้องหนึ่ง ที่มีเจ้าของห้องเป็นหนุ่มหล่อใจดี อัครวินท์ หนุ่มเจ้าของห้องใจดีกับสาวน้อยน่ารักที่ขยันขันแข็งในหน้าที่การงาน จนเขาเองก็ประทับใจในการสู้ชีวิตของสาวน้อย จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเห็นท่าทางของเธอยั่วยวนใจ ความหื่นก็ถูกปลุกขึ้นให้ตื่นพร้อมๆ กับความเจ้าเล่ห์ที่มีต่อเธอเพียงคนเดียว
วันนี้เธอได้งานพิเศษ เป็นงานนอกเหนือไปจากการรับงานจากแอปพลิเคชันแม่บ้าน เพราะจริงๆ แล้ววันนี้เป็นวันที่เธอไม่รับงาน ด้วยเป็นวันหยุดที่เธอต้องไปเรียในมหาวิทยาลัยปิดเพื่อเพิ่มพูนความรู้ แต่ถ้ามีงานก็เท่ากับมีเงิน เธอเลยไม่ปฏิเสธงานนี้ อีกอย่างสถานที่ๆ ต้องไปทำก็เป็นที่ๆ เธอไปทำเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้ว เพราะงั้นไม่มีปัญหา
หญิงสาวเดินทักทายนิติคอนโดหรูที่เป็นคนเรียกเธอมารับงานแม่บ้านโดยตรง เธอรับข้อมูลจากนิติฯคนนั้นว่าผู้ว่าจ้างจัดงานปาร์ตี้เมื่อคืน และสภาพห้องก็เละเทะมาก เลยต้องการแม่บ้านที่เคยทำงานที่ห้องของเขามาก่อน นั่นทำให้นิติฯรีบติดต่อเธอเป็นการด่วน จนเธอมาปรากฏอยู่ตรงหน้าให้เขาได้โล่งใจ
จากนั้นเธอก็ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนด้วยความคุ้นเคย พอกดออดหน้าห้อง เธอก็ได้เห็นเจ้าของห้องเป็นครั้งแรกหลังจากทำงานที่นี่มาสามเดือน เธอติดต่องานทุกอย่างผ่านนิติฯทั้งหมด และเวลาเธอทำงานคือเวลาที่เจ้าของห้องไม่อยู่ ดังนั้นครั้งแรกกับการได้พบเจอ ก็ทำให้เธอแปลกใจกับความหนุ่มและความหล่อของเขา
และทันทีที่ได้พบหน้าเธอก็ยิ้มอย่างมีมารยาท และแนะนำตัวว่าเป็นแม่บ้านที่ถูกนิติฯจ้างมาให้ทำงานด่วน ที่ปกติก็ทำให้เป็นประจำอยู่แล้ว
“ฝากด้วยนะ”
เขาพูดสั้นๆ ที่ไม่ได้ทำให้หญิงสาวสนใจอะไรนัก เพราะสายตาของเธอกำลังถูกสภาพในห้องที่ถ้าจำไม่ผิด ก็ราวๆ สองวันก่อนที่เธอเพิ่งจะทำความสะอาด
ไป แต่มาวันนี้ห้องเละ เละแบบเละตุ้มเป๊ะ ไม่เหลือเค้าเดิมของห้องสักนิด
นั่นทำให้เธอตะลึง และกัดฟันแน่นเพราะหงุดหงิดที่ห้องเละเกินไป รวมถึงคันไม้คันมืออยากจะทำความสะอาดให้ห้องใหม่เอี่ยมอ่องจะแย่อยู่แล้ว แต่เจ้าของห้องก็ยังคงยืนขวางพลางประเมินเธอด้วยสายตาแปลกๆ คล้ายไม่เชื่อว่าเธอเป็นคนทำความสะอาดห้องของเขามาโดยตลอด
แวววรรณที่เห็นสายตาเขา ก็ปล่อยให้เขาประเมินเธอไป เพราะเธอคิดว่าผลงานเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ว่า เธอคือแม่บ้านตัวจริง! และไม่รอช้าที่จะหลบชายหนุ่มเจ้าของห้อง พร้อมกับหยิบจับอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นมาทำความสะอาดทันที เธอทำงานเพลินจนไม่รู้ว่าทุกการเคลื่อนไหวของเธอยังอยู่ในสายตาประเมินของ
ชายหนุ่มเจ้าของห้องตลอดเวลา
อัครวินท์มองหญิงสาวที่ตั้งอกตั้งใจทำงาน จนน่าเพิ่มโบนัสให้เป็นพิเศษ เพราะมาถึงแค่พูดนิดหน่อยก็ลุยงานเต็มอัตราค่าจ้างแบบนี้ ก็สมกับที่ทำให้เป็นประจำ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่เฝ้าแม่บ้านที่มาทำความสะอาดในห้องคอนโดตัวเอง แต่เขาก็เชื่อมั่นถึงความซื่อสัตย์ของคนที่รับงาน เพราะของทุกชิ้นในห้องยังคงอยู่ครบ แม้ว่าตำแหน่งแห่งที่จะย้ายไปบ้าง... ตามอารมณ์แม่บ้านที่วันนี้คิดอยากวางตรงไหนก็ย้ายไปย้ายมา จนบางครั้งเขาก็สับสนว่าเจ้าของห้องคือใครกันแน่...
สักพักเขาก็เดินเข้าห้อง แต่พอคิดอะไรได้ เขาก็เดินออกมาบอกแม่บ้านว่า
“ทำห้องนี้เสร็จ ช่วยไปทำความสะอาดห้องทำงานก่อนนะครับ เสร็จแล้วก็ช่วยมาเรียกด้วย เพราะจะได้ย้ายไปห้องทำงาน คุณจะได้เข้าไปทำในห้องนอนต่อ”
หญิงสาวพยักหน้าและตอบรับคำขออย่างหนักแน่น แต่เขาก็เสริมเพิ่มอีกว่า “คุณทำอาหารเป็นมั้ย”
“เป็นค่ะ แต่เฉพาะอาหารพื้นๆ นะคะ อย่างข้าวผัด ไข่เจียว ไข่ดาว แกงจืด แต่ถ้าถึงขั้นแกงเขียวหวานอะไรแบบนั้นต้องใช้เวลาค่ะ”
อัครวินท์ยิ้มนิดๆ ก่อนจะส่ายหน้า “เอาง่ายๆ อย่างข้าวผัดใส่ไข่ก็ได้ แล้วก็ทำเผื่อตัวคุณด้วยนะ”
เขาบอกอย่างไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับหรือปฏิเสธก็เดินเข้าห้องนอนตัวเองไป ปล่อยให้แม่บ้านสาวอ้าปากค้างเพราะเตรียมปฏิเสธถึงกับหุบปากเกือบไม่ทัน
“เอ่อ... ให้เรากินด้วยเหรอ แปลกจัง” เธอบ่นอย่างงงๆ แต่ก็ไม่ใส่ใจมากนัก เพราะแค่สภาพห้องรับแขกก็เยินเกินจะทน ไหนจะของกินที่หกเลอะเทอะ เปรอะเปื้อนไปทั้งโซฟา และพรมบนพื้น ทำเอาเธออยากกรี๊ดกับคนที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ แล้วไหนจะ... คอนด้อมอีก เยอะแยะไปหมด เฮ้อ...
ตกลงมันปาร์ตี้อะไรละเนี่ย ถึงได้เน้นเรื่องเซ็กซ์ขนาดนั้น เรียกว่ามีคอนด้อมไปทั่วทุกหนแห่งของพื้นที่ห้องคอนโด และไม่รู้ว่าแต่ละห้องจะมีอีกเพียบแค่ไหน
เธอทำไปบ่นไป และโคลงหัวไปมา จนกระทั่งเวลาสิบโมงกว่า เธอก็ทำความสะอาดห้องรับแขกกับห้องทำงานเสร็จ และเธอก็เรียกเจ้าของห้องย้ายไปทำงานในห้องทำงานจนได้ จากนั้นเธอก็เตรียมทำอาหาร ก่อนจะปลงกับความโล่งกว้างในตู้เย็นที่ไม่มีอะไรให้ทำอาหารได้เลยสักนิด เอาแค่ข้าวที่เป็นส่วนประกอบหลักก็ยังไม่มี... แล้วเธอจะทำข้าวผัดได้อย่างไร
แวววรรณที่ตัดสินใจไปเคาะประตูห้องของชายหนุ่ม แล้วก็โผล่หน้าไปบอกเขาว่า “เอ่อ หนูขอตัวไปซื้อของที่จะมาทำอาหารก่อนนะคะ”
เธอแอบคิดว่าจะจ้างนิติฯให้หาใครสักคนไปซื้อของให้เธอ ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดราคาแพงเกินควร เลยคิดว่าควรจะไปด้วยตัวเองมากกว่า อีกอย่างตลาดก็อยู่ไม่ห่างจากคอนโดสักเท่าไหร่ด้วย ทว่าคำตอบของชายหนุ่มหน้าตาดีตรงหน้า
ก็ทำให้แผนที่เธอวางไว้ต้องพับทิ้งเลยทีเดียว
“งั้นก็ไปซุปเปอร์ด้วยกัน ผมมีของที่ต้องซื้อพอดี”
จากนั้นเธอก็ได้นั่งรถเคียงข้างหนุ่มหล่อไปอย่างงงๆ
แม้ว่าก่อนออกจากห้องคอนโดเธอจะทำตัวเอ๋อๆ อย่างลืมเอาผ้ากันเปื้อนออก ให้ชายหนุ่มต้องยิ้มถาม
“ไม่ต้องใส่ไปให้เขารู้ก็ได้ว่าทำงานอยู่” อัครวินท์ว่าพลางชี้นิ้วไปยังผ้ากันเปื้อนพลาสติกตัวใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าหญิงสาว เธอเขินเมื่อได้ยิน
“ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย" เธอพึมพำเบาๆ แต่เขาก็ได้ยิน เพราะห้องคอนโดของเขาค่อนข้างเงียบ และเมื่อเธอถอดผ้ากันเปื้อนที่หนาหนักนั่นออก ก็ทำให้เขาเห็นสรีระของเธอที่เต็มไปด้วยความเป็นเพศหญิงอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะหน้าอกที่ใหญ่ และเอวคอด รวมถึงสะโพกที่ผายอย่างพอดีพอเหมาะกับร่างกาย เรียกว่าเหมาะไปซะทุกส่วน
นั่นทำให้เขาเหล่มองเธอบ่อยๆ เพราะพึงพอใจกับรูปร่างของหญิงสาวค่อนข้างมาก ตามประสาผู้ชายที่อดไม่ได้ที่จะมองของสวยๆ งามๆ
และระหว่างทางเขาก็แอบถามไถ่เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเธออย่างเนียนๆ
เช่นว่า “เสียใจด้วยนะเรื่องพ่อกับแม่”
หญิงสาวยิ้มจางๆ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรื่องก็นานมาแล้ว ตอนนี้อยู่คนเดียว สบายมากค่ะ”
“แล้วเรียนจบจากที่ไหน” เมื่อเขาได้ยินคำตอบ เขาก็อดเลิกคิ้วไม่ได้ เพราะชื่อเสียงมหา’ลัยก็ค่อนข้างดี แต่คณะที่เรียนจบมาน่าจะมีการแข่งขันกันสูง
แต่พอได้ฟังประโยคต่อมา เขาก็ยิ่งเลิกคิ้วเข้าไปใหญ่
“จริงๆ ก็เคยทำงานประจำอยู่นะคะ แต่อยู่ได้แค่เดือนสองเดือนก็ต้องออก เพราะเจ้านายชีกอค่ะ”
ชายหนุ่มเหล่รูปร่างของหญิงสาวแล้วก็เข้าใจถึงสาเหตุ
“ทำทุกที่เจอทุกที่เลยเหรอ”
“ทำทั้งหมดสามที่ค่ะ และเจอทุกที่จริงๆ ค่ะ เลยเคว้งคว้างไปช่วงหนึ่ง เพื่อนเลยชวนให้ไปเป็นแม่บ้าน”
“แล้วไม่มีปัญหาเดิมเกิดขึ้น”
“ไม่มีค่ะ เพราะส่วนมากเจ้าของห้องมักจะไม่อยู่ หรือถ้าอยู่ก็มักจะเป็นผู้หญิงค่ะ”
จากนั้นพวกเขาก็เดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้า และชายหนุ่มก็เปลี่ยนใจชักชวนให้หญิงสาวไปกินข้าวด้วยกัน แม้ว่าแวววรรณจะอิดออดอยู่บ้าง เพราะสถานะของทั้งสองค่อนข้างต่างกัน อีกคนเป็นเจ้านาย อีกคนเป็นลูกจ้าง แต่
ฝ่ายชายก็ไม่ถือสาอะไร แถมให้เหตุผลว่า กินเสร็จก็ไม่ต้องล้างจานให้เสียเวลา และไม่ต้องทำความสะอาดห้องครัวด้วย ทำให้เธอตกลงกินข้าวพร้อมกับเขาเพราะเหตุผลง่ายๆ แค่นี้เอง
ระหว่างรับประทานอาหารกัน ก็มีคุยกันบ้าง ทั้งคู่เหมือนมีเรื่องให้คุยไม่จบ แม้ว่าจะไปที่แผนกซุปเปอร์แล้วก็ตาม
เธอกับเขาแยกกันตรงที่จอดรถเข็น เพราะเธอต้องซื้ออาหารสำเร็จรูปกับอาหารสดที่จะทำมื้อเย็นวันนี้ ด้วยเจ้านายเธอเป็นคนบอกก่อนแยกย้ายกันว่า ให้เธอทำอาหารมื้อเย็นให้ด้วย และช่วยตุนเสบียงบางอย่างที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตไว้ในตู้เย็นให้ด้วย เพราะส่วนมากเขาจะสั่งให้ร้านอาหารเอามาส่งมากกว่า แต่เพราะแม้กระทั่งน้ำหรือนมในตู้เย็นก็ไม่มี เลยฝากวานสาวน้อยให้จัดการให้ด้วย
ส่วนชายหนุ่มก็แยกไปซื้อของใช้ส่วนตัว ที่ใช้เวลาไม่นานนัก ก็เจอกับหญิงสาวที่กำลังเลือกอาหารอยู่
เขามองหญิงสาวอย่างชอบใจกับท่าทาง บุคลิกต่างๆ ที่ดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ
และไม่ใช่มีเขาคนเดียวที่มอง หลายคนก็แอบมองเหมือนเขาเช่นกัน
จริงอยู่ว่าแวววรรณไม่ใช่คนสวยมาก แต่เป็นคนมีเสน่ห์ที่ใครเห็นก็อดที่จะมองซ้ำไม่ได้ ทั้งนิสัยที่ดูร่าเริงอีก แล้วไหนจะทัศนคติในการคุยกันเรื่องต่างๆ เขาว่าเขาชักสนใจสาวน้อยคนนี้เสียแล้ว
ของทั้งหมดที่ซื้อมาอยู่ในมือชายหนุ่มเกือบทั้งหมด โดยที่หญิงสาวพยายามแย่งแล้วแต่ไม่สำเร็จ เธอเลยได้แต่เดินตามชายหนุ่มต้อยๆ พร้อมกับถุงน้อยๆ ในมือ
เมื่อมาถึงรถคันงามอัครวินท์ก็บอกให้แวววรรณช่วยหยิบกุญแจรถที่อยู่ตรงกระเป๋าเสื้อให้
หญิงสาวเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เอามือล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อยืดโปโลของอีกฝ่ายตามคำขอทันที แต่เอามือแตะๆ ไปที่ของที่นูนๆ ออกมา ก็พบแต่ธนบัตรเท่านั้น แถมเป็นฟ่อนอีกต่างหาก
“ไม่มีค่ะ”
“สงสัยจะอยู่ในกระเป๋ากางเกง...”
“งั้นส่งของมาค่ะ เดี๋ยวหนูถือเอง”
ชายหนุ่มยิ้มที่อีกฝ่ายไม่หลวมตัวมาล้วงของในกระเป๋ากางเกงเขาจริงๆ ก็เลยยอมยื่นของให้อีกฝ่ายรับไปถือ แล้วก็หยิบกุญแจมาเปิดประตูรถ และเอาของเข้ารถ เตรียมพร้อมกลับห้องคอนโดทันที
เมื่อมาถึงคอนโด ชายหนุ่มก็เข้าห้องไปทำงาน แวววรรณเลยลุยห้องที่เหลือต่อ ทำไปก็บ่นไปว่า แต่ละคนเก็บกดเรื่องใต้สะดือกันขนาดไหน เพราะคอนด้อมยังมีให้เห็นไปทั่วทุกที่ แม้แต่ระเบียงก็ไม่เว้น...
แรกๆ เธอก็ทำด้วยความเขินอายที่ต้องมาหยิบจับอะไรแบบนี้ แม้ว่าจะใส่ถุงมือพลาสติกอย่างหนาแล้วก็ตาม แต่พอทำไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมองเป็นขยะชิ้นหนึ่งที่ต้องเก็บทิ้งเท่านั้น... ว่าแต่ต้องแยกเป็นขยะอะไรละนี่
พอเธอเริ่มสงสัยว่าควรคัดแยกขยะก่อนหรือไม่ ก็เลยนั่งค้นหาข้อมูลในมือถือเสียเลย
และคงหานานเกินไป แถมยังมุ่งมั่นจริงจังเกิน จนเจ้าของห้องเดินมายืนอยู่ข้างหลังเธอ อ่านบทความที่เธอกำลังอ่านอยู่ เธอก็ยังไม่รู้ตัวสักนิด เขาเลยกระแอมไอให้อีกฝ่ายรู้สึกตัวเสียที
เมื่อเธอสะดุ้ง และค่อยๆ หันกลับมา จากนั้นก็ยิ้มแหยๆ ให้เขา... ทุกการกระทำของเธอเป็นธรรมชาติเอามากๆ และพลอยให้เขารู้สึกใจเต้นชอบกล เพราะเธอดูน่ารักน่าชัง... และน่าแกล้ง
เขายิ้มมุมปาก “ทำไมต้องอ่านอะไรพวกนี้ด้วยละ”
แน่นอนว่าเธอกระอักกระอ่วนใจที่จะพูดอะไรออกไปสักคำ เพราะมันน่าขายหน้ามากๆ ที่เป็นสาวเป็นนางแต่มาอ่านเรื่องใต้สะดือในห้องคอนโดของผู้ชาย... ก็นะ เธอเคยชินกับการอ่านอะไรที่นี่เงียบๆ คนเดียวมานานแล้ว เพราะห้องนี้ไม่ค่อยสกปรกมากนัก เธอเลยใช้เวลาไม่นานในการทำความสะอาดแต่ละครั้ง นั่นทำให้เธอมีเวลามากพอที่จะนั่งอ่านบทความอะไรต่างๆ ได้อย่างสบายใจ อย่างเมื่อกี้เธอก็ลืมตัวว่าเจ้าของห้องอยู่ด้วย...
เพราะไม่อยากพูด เธอเลยชี้ไปที่กองคอนด้อมที่อยู่แถวๆ ทางเข้าออกห้อง ชายหนุ่มเองก็สงสัย เลยเดินไปเปิดดู จากนั้นก็ทำหน้ากระอักกระอ่วนไม่แพ้กัน ก่อนจะคิดได้ว่า ตื่นเช้ามา เขาก็ออกจากห้องมาอย่างงงๆ พอเห็นห้องรกๆ และเพื่อนทั้งหลายกับสาวๆ ที่นอนระเกะระกะ เขาก็ไล่ให้ทุกคนกลับ และระหว่างนั้นเขาก็ติดต่อหาแม่บ้านทันที แม้ว่าเพื่อนๆ อยากจะช่วยทำความสะอาด แต่เขาก็ปฏิเสธไป เพราะไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่โตที่ห้องจะเละเพราะจัดงานปาร์ตี้
เมื่อคืนเขาร่วมงานปาร์ตี้สละโสดของเพื่อนที่มาขอจัดที่ห้องคอนโดเขา ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ละคนที่มาก็พาสาวกันมา ก็ไม่รู้ว่าแฟนหรือกิ๊ก เขาเองก็ร่วมวงดื่ม และคุยกับเพื่อนไปเรื่อยๆ จนสักพักก็มีธุระเรื่องบริษัทต้องจัดการอย่างเร่งด่วน ทำให้เขาขังตัวเองอยู่ในห้องทำงาน และทำงานยาวจนหลับไป ตื่นมาก็ไม่ได้สังเกตอะไรมากว่าทุกคนจะมั่วซั่วเละเทะมีเซ็กซ์ในห้องเขาขนาดนั้น เพราะคอนด้อมที่กองไว้มีมากกว่าสิบอัน แต่เพื่อนชายที่มาร่วมปาร์ตี้เขามีแค่หกเจ็ดคนเท่านั้น...
เก็บกดมาจากไหนกัน
แน่นอนว่า หญิงสาวที่นั่งจ้องเขาตาแป๋วจากทางด้านหลังก็คงจะคิดสินะว่า หนึ่งในหลายสิบเกือบยี่สิบอันตรงนี้ ก็คงจะมีสักคอนด้อมหนึ่งที่มีเชื้อของเขารวมอยู่ด้วย แต่ก็นั่นแหละ แก้ตัวไปก็เท่านั้น สู้เปลี่ยนเรื่องและแกล้งคนตาแป๋วเล่นดีกว่า
“ที่หาข้อมูลเพราะอยากรู้ค่ะว่าต้องแยกขยะมั้ย” เธอตอบเมื่อเห็นเขาหันมามอง
คราวนี้เขาเลิกคิ้ว และลืมเรื่องที่จะแกล้งไปทันที “ต้องคัดแยกขยะก่อนทิ้งด้วยเหรอ”
“แยกไว้ก็ดีค่ะ เพราะเขาจะได้กำจัดได้อย่างถูกวิธี” แวววรรณตอบระหว่างที่ก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดโซฟาเมื่อเจอเศษสกปรกใต้นั้นและเพราะความไม่ระมัดระวังตัวของหญิงสาว ก็ทำให้เธอโชว์บั้นท้ายงามๆ ให้ชายหนุ่มได้ดูเต็มสองตา เขาเลยผิวปากนิดๆ ความคิดอยากแกล้งก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง
“แล้วตกลงต้องแยกขยะมั้ย”
“แยกสิคะ” หญิงสาวตอบพลางลุกขึ้นนั่งหอบนิดๆ เพราะกว่าจะเขี่ยขยะใต้โซฟามาได้ก็เล่นเอาเหนื่อย “เพราะถือว่าเป็นขยะติดเชื้อ ต้องคัดแยกต่างหากค่ะ คิดแล้วก็สมควรเป็นขยะติดเชื้อ หยะแหยงจริงๆ” ท้ายประโยคเธอพึมพำเบาๆ ไม่ให้ชายหนุ่มได้ยิน
อัครวินท์ยิ้มแหยหน่อยๆ เพราะฟังดูแล้วเป็นขยะที่เหมือนมีเชื้อโรคร้ายแรง ทั้งๆ ที่เป็นบ่อเกิดของการเกิดสิ่งมีชีวิตใหม่แท้ๆ นะนั่น เพียงแต่มาอยู่ในถุงก็กลายเป็นเชื้อสกปรกๆ ธรรมดาๆ นี่เอง
เอาเหอะ พอคิดจะแกล้งมาเจอความจริงกระแทกเข้าแบบนี้ เขาก็ยอมแพ้ ก่อนจะเอะใจถามขึ้นว่า
“เขาต้องตรวจก่อนมั้ยว่ามันคือขยะอะไร”
“ไม่ตรวจแต่ถามเอาค่ะ เพราะเขาจะได้คัดไปกำจัดถูก”
“แล้ว...ไม่อายเหรอ”
...แวววรรณนิ่งเงียบ เพราะเธอไม่ได้คิดมาก่อน
“อายสิคะ” พอได้สติ เธอก็สะบัดหน้าตอบอย่างลืมตัวว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ว่าจ้าง “แต่...เขาคงรู้แหละ เพราะหนูเป็นแม่บ้านนี่นา”
อัครวินท์หัวเราะเบาๆ กับความหัวไวของอีกฝ่าย “เจ้าของห้องอย่างผมก็โดนเขามองแย่สินะ”
เพราะคอนโดเขามีที่ทิ้งขยะ ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ทำให้ใครที่มาทิ้งของไม่ปกติมักจะถูกซักถาม
“มา เดี๋ยวผมไปทิ้งเองดีกว่า มีแค่นี้ใช่มั้ย”
เขาเป็นผู้ชายพอ และไม่อยากให้สาวน้อยตรงหน้าต้องมารับผิดชอบอะไรแบบนี้
“จะดีเหรอคะ นี่งานแม่บ้านนะคะ”
“แต่นี่ขยะบ้านผมนี่ เอาละ ทำความสะอาดต่อเถอะ อ้อ แล้วอย่าลืมทำมื้อเย็นด้วยละ ทำเผื่อตัวเองด้วยนะ จะได้กินด้วยกัน”
แวววรรณเตรียมจะปฏิเสธ แต่ก็ไม่ทันชายหนุ่มที่ออกจากห้องไปแล้ว เธอทำหน้ายุ่งนิดหน่อยก่อนจะส่ายหน้า และหันไปทำความสะอาดต่อ โดยกะเวลาที่จะทำอาหารเย็นไว้
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จทั้งการทำความสะอาดและทำอาหารเย็นที่พร้อมกินได้ทันที เธอก็ไปเรียกชายหนุ่มมากินข้าว ซึ่งเขาก็พอใจกับฝีมือของเธอเอามากๆ จนคิดว่า เขาควรจะได้กินอาหารเย็นแบบนี้บ่อยๆ
ดังนั้นวันนี้หลังจากหญิงสาวกลับบ้านไป แล้วนอนพักด้วยความหมดแรงไปหนึ่งคืน ตื่นมาเธอก็พบว่า ตารางงานของเธอเปลี่ยนไป ชายหนุ่มเจ้าของห้องคอนโดผู้มีขยะติดเชื้อเยอะแยะไปหมดนั้น ได้ว่าจ้างเธอถึงสามวันจากเดิมแค่สองวัน ทั้งยังเปลี่ยนเวลาเป็นช่วงเย็นอีกต่างหาก เธอลังเลที่จะกดตอบรับ เพราะยังไงก็เป็นชายหนุ่มโสดที่อยู่เพียงลำพัง มันค่อนข้างอันตรายเหมือนกันที่จะต้องอยู่ตามลำพัง แม้ว่าเมื่อวานเธอจะหลวมตัวไปอยู่เพียงลำพังแล้วก็ตาม
จนกระทั่งสายๆ ชายหนุ่มก็โทรมาหา บอกถึงความต้องการว่าที่ให้เธอไปทำงานตอนเย็นเพราะเขาติดใจรสชาติอาหารฝีมือเธอ และกว่าเขาจะกลับบ้านก็น่าจะได้กินอาหารร้อนๆ พอดี
ทำเอาเธอใจอ่อนที่เขาชมชอบฝีมืออาหาร เลยทำให้เธอตอบรับ พลางคิดได้ว่า เขาเลิกงานค่ำราวๆ หกโมงถึงหกโมงครึ่ง นั่นหมายความว่า กว่าเขาจะกลับมาจากที่ทำงาน เธอก็ทำอาหารและทำความสะอาดไปได้เยอะแล้ว เผลอๆ ช่วงเวลาที่เขาอยู่ เธอก็อาจจะไม่ได้ทำอะไร ก็พอจะหาทางหนีทีไล่กลับก่อนเวลาได้
อีกอย่างห้องเขาไม่ค่อยเลอะเทอะอะไร ทำความสะอาดหนักๆ แค่วันเดียวก็พอ ที่เหลือเธอก็ทำพอให้ไม่น่าเกลียดก็พอแล้ว
ซึ่งเธอเล็งวันศุกร์รถติดไว้ว่ากว่าเขาจะกลับมา เธอก็ใกล้เลิกงานพอดี นั่นก็อาจจะทำให้เธอไม่ต้องเจอคุณเจ้าของห้องก็เป็นได้
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"