“อู้ว... ซี้ด” ริมฝีปากน้าเดือนห่อรัดเป็นวง ผมโชว์ลีลาเบิร์นอันร้ายเหลือ สมกับที่เป็นไอ้หนุ่มสายเบิร์นตัวจริง “อูย... เก่งจังจอห์นจ๋า” น้าเดือนหลงลิ้นผมเข้าแล้ว เพราะว่าผมไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตากระแทกลิ้นเข้าใส่ร่องเสียวของหล่อนอย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่ผมใช้ความนุ่มนวลอ่อนหวาน เรียกน้ำเสียวให้ฉีดซ่านออกมา “อ๊อย... วูบวาบไปหมดจอห์นจ๋า” น้าเดือนแอ่นหนอกเนินรับปลายลิ้นปาดเลีย ผมรู้ว่าบางจังหวะถ้ารุนแรงเกินไปจะทำให้น้าเดือนเจ็บ “อ๊า... ดีเหลือเกินจอห์นจ๋า” น้าเดือนครางครวญ
ผัวเด็กลีลาเด็ด
(ไอ้หนุ่มสายเบิร์น)
ผู้เขียน
กาสะลอง
ภายหลังขับรถกระบะมาจอดหน้าบ้านไอ้วินเพื่อนสนิท ผมไม่ได้ตรงขึ้นบันไดไปหามันบนห้องนอนชั้นสองของบ้าน แต่รีบตรงรี่เข้ามาหาอีกคนที่อยู่ในครัว ด้วยจุดประสงค์ที่มีแต่ผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้
“ทำอะไรอยู่ครับน้าเดือนคนสวย”
ผมส่งเสียงหวาน ชะโงกใบหน้าสุดหล่อเหลาเข้ามาทักทายคนที่กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารเช้า
ผมประจบน้าเดือนยิ่งกว่าลูกชายของหล่อน แท้จริงแล้วคือการ ‘จีบ’ อย่างไม่ต้องสงสัย ผมบอกอย่างไม่อายว่าชอบรุ่นใหญ่ไฟกระพริบอย่างน้าเดือนคนนี้แหละสเปคผม
“น้ากำลังต้มโจ๊กจ้ะ”
น้าเดือนหันมาส่งยิ้มหวานทักทายผมที่เพิ่งมาถึง ผมสืบเท้าเข้ามาใกล้ร่างเอิบอิ่ม ได้กลิ่นแป้งหอมกรุ่นจากผิวกาย หล่อนยังอยู่ในชุดนอนบางๆ
“หอมจัง... ”
ผมทำจมูกฟุดฟิด สูดกลิ่นโจ๊กที่กำลังเดือดอยู่บนเตาไฟ กลิ่นหอมกรุ่นโชยมากระทบจมูก ผมทำราวกับว่าสนใจโจ๊กเสียเต็มประดา แต่สายตาหื่นแอบจับจ้องความเซ็กซี่เย้ายวนของแม่เพื่อน
“ไม่ได้มาหลายวันคิดถึงน้าเดือนจัง”
ผมจ้องมองน้าเดือนจากทางด้านหลัง ขณะเดินเข้ามาใกล้เรือนร่างเอิบอิ่มรัดรึง ซ่อนความเซ็กซี่เอาไว้ภายใต้ชุดนอนเนื้อผ้าซาตินพลิ้วบาง มีเพียงสายน้อยๆ เกี่ยวไว้เหนือลาดไหล่สล้าง ผิวพรรณของน้าเดือนขาวมาก
“เดี๋ยวก่อนไปกินโจ๊กก่อนนะจ๊ะหนุ่มๆ... ”
น้าเดือนรู้ว่าวันนี้ผมแวะมารับไอ้วินลูกชายของหล่อนออกไปตกปลา
“ครับ... หอมจัง... โจ๊กน้าเดือนต้องอร่อยแน่ๆ”
ผมตอบ หากใจกลับไม่ได้สนใจโจ๊กที่กำลังเดือดอยู่ในหม้อต้ม แต่แอบจินตนาการทะลึ่งลามกไปถึงโจ๊กชามใหญ่ที่ผูดนูนอะร้าอร่ามขึ้นมาตรงง่ามขาของน้าเดือน
‘โอ้ว... ’
ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าเลือดกำเดาของตัวเองจะกระฉูดออกมาเสียให้ได้
น้าเดือนเซ็กซี่มาก ผมเห็นชัดในตอนที่หล่อนเอี้ยวกาย กระแสลมวูบหนึ่งสาดเข้ามาทางช่องหน้าต่าง ทำให้เนื้อผ้าซาตินพลิ้วบางแนบเน้นสรีระของหล่อน เห็นสองเต้าอวบใหญ่ หัวนมเป็นเม็ดตุง เสียดสีแทงอยู่ใต้เนื้อผ้าเพราะว่าน้าเดือนโนบราทั้งบนและล่าง
“โจ๊กหอมจังเลยครับ... แต่ยังหอมน้อยกว่าแก้มของน้าเดือน”
ผมชมเสียงหวาน สืบเท้าเข้ามาใกล้ร่างเอิบอิ่ม สองแขนสวมกอดเอวหล่อนจากทางด้านหลัง วางคางไว้ที่ไหล่ ฉวยโอกาสหอมแก้มน้าเดือนเสียงดังฟอด
ผมก็ทำแบบนี้ทุกครั้งที่แวะมาหาไอ้วิน ซึ่งน้าเดือนก็ไม่ได้ว่าอะไร หล่อนคง ‘เอ็นดู’ ผมเหมือนลูกคนหนึ่ง ต่างจากผมที่อยากให้หล่อน ‘ดูเอ็น’ สักครั้ง
น้าเดือนคงไม่รู้ว่าผมแอบคิดกับหล่อนในเชิงชู้สาว ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้ากันแล้วรู้ว่าหล่อนเป็นม่ายไร้สามี
“แก้มน้าเดือนนุ่มจัง... ขอหอมอีกทีนะครับ”
ผมหอมแก้มหล่อนอีกครั้งเสียงดังฟอด สังเกตเห็นว่าน้าเดือนขนลุกซู่ตอนที่เคราแข็งบริเวณคางของผมปักทิ่มซอกคอของหล่อน
“อุ๊ย... จั๊กกะจี้”
น้าเดือนแก้มแดงเรื่อ เอียงคอหนีจูบ สองแขนของผมคร่อมล็อคลำตัวหล่อนไว้ตรงกลาง สังเกตเห็นเส้นขนอ่อนๆ บริเวณต้นแขนแม่เพื่อนลุกซู่
ผมรู้ว่าไม่ใช่แค่จั๊กกะจี้ แต่น้าเดือนสยิวกับตอเคราแข็งที่เพิ่งโกนมาไม่นาน และการจูบไซ้เมื่อครู่ผมรู้ว่าน้าเดือนรู้ว่ามันมีความหมายมากกว่าเด็กหอมแก้มผู้ใหญ่
“หิวหรือยังจ๊ะ... กินอะไรมาหรือยัง”
ผมแอบเห็นมือของน้าเดือนที่กำลังจับตะหลิว ออกอาการสั่นน้อยๆ
“ยังครับ”
ได้ทีผมรีบเบียดกายเข้าหาหล่อนจากทางด้านหลัง กล้ามท้องเบียดแนบเสียดสีบั้นท้ายกลมกลึงตึงเต็มของหล่อน จะด้วยความตั้งใจหรือเป็นเพราะว่าพยายามเบี่ยงกายหนีก็ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าก้นงอนของหล่อนขยับดุนดัน สู้แก่นกายของผม ทำเอาใจเต้น
“เด็กดื้อ... อย่าแกล้งน้า อุ๊ย... น้าขอตักโจ๊กก่อนนะจ๊ะ”
คนถูกกวนหันมาบอก เส้นขนลุกซู่ น้ำเสียงบอกความตื่นเต้น น้าเดือนคงไม่คิดว่าผมจะกล้าเล่นพิเรนทร์กับหล่อนแบบนี้
“ก็ตักไปสิครับ ผมยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย... โดนจูบแค่นี้ถึงกับมือสั่นเชียวหรือครับน้าเดือนจ๋า”
ผมกระซิบถามข้างหู แนบเน้นแก่นกายเคียดขึงเป็นลำแข็งเบียดคลึงระหว่างกลีบก้น ใกล้ช่องทางแห่งความสุขของหล่อน
“จอห์น... ”
น้าเดือนตกใจ ผมยังดื้อ แนบกายกดเป้าเข้าใส่สะโพกของน้าเดือนจากทางด้านหลังจนร่างน้อยๆ ถูกดันไปแนบชิดติดเคาน์เตอร์หน้าเตาแก๊ส
“ก็น้าเดือนน่ากอดนี่ครับ”
ผมดื้อ สองแขนใหญ่คร่อมขึงลำตัวน้อยๆ ไว้ตรงกลาง มือซุกซนสอดเข้าใต้ซอกแขนของหล่อน ลูบล้วงขึ้นมาตะล่อมบีบทรวงอกอวบใหญ่
“อุ๊ย... จอห์น”
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ………. นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว*
กรุงเทพฯ มหานคร ตอนเช้า ที่ห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ เสียงพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างลูกสะใภ้กับเพื่อนสาวของหล่อนที่อยู่ปลายสาย ทำให้ พ่อเลี้ยง ‘เพลิง’ ถึงกับชะงัก ต้องแอบฟังอย่างเสียมารยาท เพราะมันเหมือนเป็นการหยามเกียรติของลูกชายจนเขาทนไม่ได้
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
“ไม่ให้เลียข้างล่าง... งั้นผมดูดข้างบนนะที่รัก” อดัมส์ยังมีอารมณ์ขี้เล่น แม้ในตอนจะร่วมรัก เขารีบผละออกมาจากง่ามขา จูบไซ้ขึ้นมาที่ท้องน้อย กระทั่งถึงเต้านมของหล่อน ครอบริมฝีปากดูดเลียอย่างโหยหาเอาเป็นเอาตาย “อุ๊ย... วันนี้คุณดำซาดิสม์จัง” อรทัยสะดุ้งเฮือก เมื่อทรวงอกอวบโดนมือใหญ่ของสามีบีบขยำอย่างแรง จากนั้นก็เกลือกใบหน้าฟอนฟัดอย่างไม่ลืมหูลืมตา อรทัยเสียวซ่านสุดๆ รีบบีบนมยัดปากเขาที่ค้อมลงมาดูดเลียหัวนมอย่างตะกละตะกลาม อดัมส์ดูดเลียสลับไปมาระหว่างยอดอกทั้งสองข้างเสียงดังซ่วดๆ เหมือนกำลังซดกลืนของอร่อย ทำเอาสาวน้อยที่แอบยืนดู เกิดอาการเสียวซ่านขึ้นมาที่ยอดอกของตัวเองอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้ รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังโดนพี่เขยดูดนม
แก้วตาพึมพำในใจ มองพี่เขยจัดหนักพี่สาวของหล่อน ยิ่งมอง… ก็ยิ่งตื่นเต้นมีอารมณ์ หน้าขาหนีบแน่น บิดไปบิดมาจนรู้สึกได้ว่ามีน้ำหล่อหลื่นเหนียวๆ หลั่งชุ่มออกมาแฉะแพนตี้ตัวน้อย พอเอามือเอื้อมลงมาแตะที่ง่ามขา ก็รู้ว่ามีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มเป็นยางย้อยติดนิ้ว ‘อุ๊ย… ’ แก้วตาตกใจ หลังจากแอบดูจนน้ำเดิน ด้วยภาพที่เกิดขึ้นในห้องนอน อยู่ห่างจากสายตาของหล่อนเพียงช่วงแขนกระมัง จึงเห็นทุกอย่าง ชัดเจนเต็มสองตาทั้งภาพทั้งเสียง คมชัดปานว่ากำลังมองผ่านจอภาพระบบเอชดี “อ๊าย... ผัวจ๋า... เมียเสียว... เมียทรมาน” ใบหน้าของลีนาบิดเบะ สะบัดไปด้วยความซ่านสยิว ก้นอวบขาวดีดเด้ง แอ่นส่ายไปตามอารมณ์กระเจิดกระเจิง โดนกระแทกกระทั้นดุเดือดขนาดนี้ไม่ว่าเป็นใครก็คงเคลิบเคลิ้มไม่ต่างจากหล่อน ลีนาเปล่งเสียงร้องครางออกมาตลอดเวลาที่ท่อนเอ็นคัดแข็งเป็นลำเหมือนดุ้นมะระจีนใหญ่ๆ ของสามีกระแทกใส่จนมิดสุดโคนพวงสวรรค์ บลั่กๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“ไม่ไหวแล้วครับ… ผมแข็งแทบระเบิดแล้ว… ไม่เชื่อก็ลองจับ… ” บอสหื่นดึงมือข้างหนึ่งของเลขามาทางด้านหลังเธอจึงต้องไล้ลูบสัมผัสความเป็นชาย ใหญ่ยาวน่าสะพรึง ยิ่งลูบไล้ของเขา… มือเธอยิ่งสั่น ใบหน้าร้อนผะผ่าว ความเสียวซ่านแล่นวาบเข้ามาตรงกึ่งกลางกาย ใจเต้นระทึก มือยังจับท่อนเนื้อยาวใหญ่ของบอส ใหญ่มากจนมือกำไม่รอบ
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน