โปรย ‘ ข้าจะไม่รุนแรง หากเจ้าไม่วอนขอ ’ แม่ทัพเหิงซื่อหลุน บุรุษสูงใหญ่เรือนกายกำยำผู้โอหัง เย่อหยิ่งจองหอง ทหารรับจ้างผู้ใช้ชีวิตอิสระ มิก้มหัวให้ผู้ใดทั้งนั้น องค์หญิงเหรินซูเม่ย สตรีสูงศักดิ์ผู้เพียบพร้อม งดงามอ่อนโยนทั้งกายใจ หากชีวิตผู้เป็นใหญ่ย่อมต้องอุทิศให้ส่วนรวม หนึ่งบุรุษดุดันกร้านโลกกระหายราคะ หนึ่งสตรีนิ่มนวลไร้เดียงสา ปากว่าเกลียด หากใจอ่อนโอนสั่นไหว ยิ่งยามเผชิญความทุกข์ มีเพียงเขาที่คอยอยู่เคียงข้าง กับหนึ่งคำมั่นนั้น ‘ เจ้าจะปลอดภัยในอ้อมกอดข้า ’ อีกทั้งชั้นเชิงจัดเจนจากรสลิ้นร้ายกาจ ริมฝีปากจัดจ้าน มือสากกร้านอันซุกซน กายแกร่งฉกรรจ์อันสมบูรณ์แบบ ...สตรีใดเล่าจักต้านทานไหว... ตัวอย่าง : “ ท่านพี่เจ้าขา อย่าทำข้าเลยนะเจ้าคะ ” เขาชะงัก กัดกรามแน่นจนเป็นสันนูน เหงื่อเม็ดโป้งผุดพรายทั่วใบหน้าคมสันหล่อเหลานั้นก่อนก้มลงมองเบื้องล่าง ที่ตรงนั้น ลำเอ็นใหญ่โตจรดจ่ออยู่ที่ปากทางรัก ส่วนหัวที่เบ่งบานเปียกเปื้อนไปด้วยน้ำกำหนัดสาวและมันได้คืบลึกเข้าไปเยือนความคับแน่น แม้เพียงนิดแต่ก็รู้สึกได้ถึงการตอดตุบรัดรึงอันแสนเร้าใจ ทั่วเนินเนื้อฉ่ำแฉะเปียกเปื้อนไปด้วยทั้งน้ำลายของเขาและน้ำคาวใคร่ของนาง เขาเงยหน้ากลับไปมองใบหน้างดงามอันแดงก่ำด้วยโลหิตภายในฉีดพล่านเพราะเพลิงตัณหานั้นอีกครา ดวงตาหวานคู่นั้นเยิ้มฉ่ำฉาบเจือไปด้วยแววราคะ ทุกอณูเนื้อมันฉายชัดว่านางก็ต้องการเขาอย่างบ้าคลั่งไม่ต่าง แค่เพียงเขากระทั้นบั้นเด้าเข้าสู่ภายในเท่านั้น...
ณ เมืองหงโจว เมืองที่อยู่ไกลโพ้นท่ามกลางหุบเขาเทียนเล่อในพื้นที่อุดมสมบูรณ์และสงบสุขด้วยบุญญาบารมีแห่งท่านเจ้าเมืองผู้ผดุงความสุขและยุติธรรมมาสู่ประชาชนของท่านเสมอ
หากเวลานี้ กาลเวลาได้พรากทุกสิ่งอย่างไปจากท่าน วัยหกสิบห้าปีกับการกรำทั้งบู๊และบุ๋นทำให้ท่านอ่อนแอลงไปมาก จะแต่งตั้งผู้ใดขึ้นมาเป็นเจ้าเมืองแทนก็ยังมิเห็นสมควรจึงได้แต่รั้งตำแหน่งประคับประคองไปก่อน
เมืองที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ทำให้เป็นที่หมายปองของหัวเมืองใหญ่ที่พยายามขยายอาณาเขต
หงโจวมิได้สงบสุขดังเช่นเคย แม่ทัพและทหารกล้าต้องฝึกฝนการรบพุ่งและออกศึกสงครามอยู่เสมอ และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่หงโจวได้รับข่าวดี
“ ท่านแม่ทัพเหิงกลับมาแล้ว เราชนะ เราชนะ ! ” เสียงเซ็งแซ่ของเหล่าทหารหาญดังขึ้น
เหรินต้าฝง เจ้าเมืองวัยชราออกมายืนต้อนรับอยู่ที่หน้าประตูเมือง แม้กาลเวลาจะพรากความงดงามแห่งร่างกายไป มากโข แต่พระองค์ยังคงความมีสง่าราศีน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย สมกับที่เคยเป็นเจ้าเมืองผู้เก่งกล้าทั้งการบริหารและการรบพุ่ง แต่ยามนี้วัยหกสิบห้านั้นทำให้พระองค์ต้องยอมจำนนต่อสังขาร และเป็นเหตุให้เกิดจอมทัพคนใหม่
เขาคือท่านแม่ทัพเหิง หรือเหิงซื่อหลุน
ทัพหงโจวนั้นแม้จะขึ้นชื่อถึงความเข้มแข็งแต่สิ่งใดก็มิอาจจีรัง ยิ่งในศึกสงครามแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้และเหิงซื่อหลุนก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ณ เวลานั้น
เขามาจากไหนหาได้มีใครรู้ไม่ ชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่กำยำกว่าบุรุษใด ๆ นั้นได้ปรากฏตัวขึ้น ขณะที่ทัพหงโจวกำลัง เพลี่ยงพล้ำให้เมืองเถินแห่งปัจจิมทิศ แม่ทัพเอกถูกสังหารบั่นคอ ทหารกล้าสูญเสียกำลังใจและเริ่มระส่ำระสาย เขาผู้นั้นควบอาชาสีนิลดำขลับงดงามพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ปัดป่ายเพลงกระบี่อันเฉียบคมและเด็ดขาดสังหารอริราชศัตรูจนหมดสิ้น โลหิตทหารหาญแห่งเมืองเถินหลั่งนองผืนปฐพีคาวคลุ้งแดงฉานพร้อมกับชัยชนะของหงโจว โดยบุรุษนิรนามผู้นั้น
หลังจากนั้นท่านเจ้าเมืองจึงได้แต่งตั้งเขาให้เป็นแม่ทัพเอกแม้อีกฝ่ายจะแจ้งอย่างชัดเจนว่าตนเองนั้นทำงานเป็นเพียงทหารรับจ้าง
“ ข้ามีอิสระต่อตนเอง ไม่เคยก้มหัวให้ผู้ใด สิ่งเดียวที่ข้าศรัทธานั่นก็คือเงินทอง ”
นั่นคือสิ่งที่เขาแจ้งความประสงค์และท่านเจ้าเมืองก็ประทานให้กับเขาเสียจนเกินที่ร้องขอ
แม้จะรู้ดีว่าไม่วันใดก็วันหนึ่งเขาต้องไปจากที่นี่ แต่ท่านเจ้าเมืองก็พยายามหาสิ่งดึงดูด ประเคนทุกสิ่งที่คิดว่าจะทำให้เขามีความสุขเพื่อจะอยู่ที่นี่ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้เพื่อให้เขาช่วยฝึกซ้อมการรบพุ่งให้กับทหารของท่าน ทั้งเรือนพัก เงินทองและสตรีโฉมงามนับไม่ถ้วนและนั่นดูเหมือนจะทำให้เขาพออกพอใจได้มากพอควร เพราะเขาอยู่ที่นี่นานหกเดือนแล้วนับแต่วันนั้น
ประตูเมืองเปิดรอ ม้าสีดำสนิทควบรัวเร็วจนฝุ่นตลบผ่ากลางกองทัพแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าประตูเมือง ก่อนที่ ร่างสูงใหญ่ของชายผู้หนึ่งจะกระโดดลงจากหลังม้า โอบกอดรอบแผงคอมันอย่างสหายรักและเอ่ยถ้อยคำขอบอกขอบใจที่ร่วมศึกมาด้วยกัน
ท่านเจ้าเมืองเป็นฝ่ายเดินเข้าหาเสียเอง อีกฝ่ายทำเพียงค้อมศีรษะคำนับ ซึ่งนั่นเป็นกิริยาที่เหล่าขุนนางทั้งหลายมองว่ามันช่างยโสโอหังเสียเหลือเกิน
“ เห็นว่าเป็นคนโปรด คิดจะทำสิ่งใดก็ทำ ก็แค่ไอ้โจรกระจอกรับจ้างรบ เหตุใดท่านเจ้าเมืองจึงตามใจมากจนมัน ได้ใจเหลือเกินก็ไม่รู้ ไว้ใจมันได้ที่ไหน เปรียบได้ดังการเลี้ยงงูเห่าที่มันจะกลับมาแว้งกัดได้เมื่อไรก็ได้ ”
แน่ละ บุคลิกเย่อหยิ่งจองหองของเขาไม่เข้าตาหลายคนนัก มีคนรักย่อมมีคนเกลียด และนี่คือเสียงซุบซิบนินทาลับหลังอยู่เสมอ แต่เบื้องหน้าทุกคนต่างเคารพนบนอบเขาด้วยเกรงกลัวความเด็ดขาดเหี้ยมโหดที่ได้ยินมาจากทหารที่เคยร่วมรบ ใครเล่าอยากจะเสี่ยงกับบุรุษผู้ไร้อารยะ ย่อมรักตัวกลัวตายกันทั้งนั้น
“ คารวะท่านเจ้าเมือง ” เสียงห้าวฉะฉานเอ่ยทักทายท่านเจ้าเมือง อีกฝ่ายสืบเท้าเข้าไปใกล้แล้วยื่นมือไปตบไหล่บึกบึนกำยำนั้นหนัก ๆ เป็นการให้กำลังใจ ก่อนพินิจไปทั่วใบหน้าของเขา
โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
จะผิดไหม ถ้าอยากมีอะไรกับเพื่อนรัก เขาอยากสอดเสยลำใหญ่เข้าไปในกายเธอเหลือเกิน..เช่นเดียวกับเธอที่อยากให้เขาเข้ามาลึกๆ แรงๆ
พี่สาวครับ ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ผมอยากกอด อยากหอม อยากจับ อยากเหลือเกินครับ อยากจะจับพี่ทำเมีย...
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"