“ขอจูบทีนึงนะ แล้วจะปล่อย”เขาบอกแล้วยิ้มทะเล้น“จะบ้าหรือไง บอกว่าชอบผู้ชายยังไงเล่า!”เธอตวาดเสียงขุ่นมองตาเขียวปัดอย่าให้หลุดไปได้จะคว้าโคมไฟเพ่นกบาลให้ “ถ้าไม่ให้จูบ จะไม่ปล่อย แถมจับแก้ผ้าด้วย" เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องปลอมเป็นชายเพื่อช่วยครอบครัว ทว่าทุกอย่างไม่ได้ง่ายเมื่อเธอได้พบกับเขา ชายเจ้าชู้ คู่สัญญาการค้าของบริษัท แต่คราวนี้เธอไม่ได้เปิดศึกอย่างที่เคยเป็น เพราะเขาหาหนทางช่วยเธอทุกวิถีทางให้รอดพ้นจากเงื้อมมื้อศัตรู เขาไม่อยากเชื่อว่าตนเองจะได้พบกับหญิงสาวที่ตนปรารถนาอย่างได้มาครอบครอง ทว่าเธอไม่เหมือนสาวอื่นไม่ได้หลงรูปลักษณ์หรือฐานะ เหตุการณ์คับขันทำให้เขาและเธอต้องพบเจอกับความวุ่นวาย หัวใจสองดวงเริ่มผูกพัน เธอจะยอมลบอคติในหัวใจและยอมรับเขาได้หรือไม่ และเขาจะสามารถปกป้องผู้หญิงที่ตนเองหมายปองให้รอดพ้นจากอันตรายได้หรือเปล่า ฝากผลงานซีรีย์เรืองที่สอง ยอดดวงใจเทพบุตรร้อยเล่ห์ ต่อจากยอดดวงใจเทพบุตรน้ำแข็ง (คู่ของซาฟ และโมนา)
รัสตินยืนมองตนเองในกระจก ดวงตาหรี่ลง ดูท่าเขาคงแก่ไปมาก เวลาอันน้อยนิดที่เหลือ ต้องทำเป้าหมายของตนให้สำเร็จ เสียงฝีเท้าก้าวแผ่วทำให้เขาหยุดชะงัก แล้วหันมอง เห็นบุตรชายกำลังก้าวเข้ามาในห้อง รีออนนั่งลงบนโซฟา คนเป็นพ่อก้าวเข้ามาทรุดกายตรงข้ามเพื่อร่วมวงสนทนา
“ผมเตรียมเอกสารสำคัญ ที่ใช้ในการร่วมหุ้นกับสายการบินแฮปปี้ฟลายแล้วครับ”
“ดีมาก แกรีบไปเมืองไทยให้เร็วที่สุดอย่าให้พวกอัลเล็นโซ่ทำสำเร็จเด็ดขาด!”
“ถ้าหากว่าแฮปปี้ฟลายได้ร่วมหุ้นกับอัลเล็นโซ่แล้วล่ะครับ เราจะทำยังไง” รีออนย้อนถามบิดา
“แกก็หาทางทำให้มันยกเลิกสัญญาสิ บอกพวกมันว่าฉันจะจ่ายให้สำหรับเงินค่าเสียหายในการยกเลิกสัญญา” รัสตินบอกบุตรชาย
“ครับพ่อ”
เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า รีออนตีหน้าเครียด หากงานนี้ไม่สำเร็จพ่อจะต้องอาละวาดเขาแน่ๆ หลายชั่วโมงผันผ่าน เมื่อถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เขาเดินออกมาพร้อมลูกน้อง
“ไปโรงแรมก่อนใช่ไหมครับ” ลูกน้องเอ่ยถาม ขณะเคลื่อนรถออกจากสนามบิน
“ไม่ ไปบริษัทแฮปปี้ฟลายก่อนเลย”
“ได้ครับ”
เสียงโทรศัพท์ในห้องทำงานดังขึ้น รณเทพดำรงตำแหน่งประธานรับสาย ปลายสายบอกว่ามีแขกขอพบ ความจริงในบันทึกวันนี้เขาไม่ได้นัดหมายลูกค้าในเวลานี้เลย รณเทพรับคำให้เลขาเชิญเข้ามา พอเห็นใบหน้าของแขกกลับแปลกใจ ร่างสูงใหญ่ ผิวขาว ดวงตาสีฟ้าเข้ม ดูท่าเรื่องนี้คงไม่ธรรมดาเสียแล้ว
“ผมชื่อรีออนครับ ผมเป็นตัวแทนของบริษัทมัสสิโม่อินเตอร์กรุ๊ปที่อิตาลีครับ” เขาแนะนำตัวพร้อมยื่นมือออกมา เพื่อให้จับทักทาย
“ครับ มีอะไรให้รับใช้หรือเปล่าครับ” รณเทพถาม แล้วผายมือเชิญแขกนั่ง
“พอดีผมมีเรื่องอยากจะเสนอกับ คุณพอมีเวลาคุยกันสักครู่ไหมครับ”
“อีกสักพักผมต้องประชุมแล้ว เป็นพรุ่งนี้ได้ไหมครับ ผมจะให้เลขาจดเวลานัดเอาไว้”
“ก็ได้ครับ แต่ผมอยากจะบอกคุณไว้อย่างหนึ่ง... ผมเป็นคนใจร้อนรอไม่ค่อยเป็นหากคุณไม่รีบระวังจะเสียโอกาสนะครับ” กระตุกยิ้มมุมปากแล้วลุกยืน เดินออกนอกห้องทำงาน
รณเทพหนักใจ ดูเหมือนทางอัลเล็นโซ่เดาถูก เพียงแค่ไม่กี่วันทางมัสสิโม่ติดต่อมา แถมยังส่งคนมาหาถึงเมืองไทยอีกด้วย คงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว
ตัดสินใจเดินทางกลับบ้าน มาถึงทรุดลงกายลงบนโซฟา ภรรยารีบนำน้ำเย็นมาเสริฟ์ ทางด้านรณวิทย์รีบรุดมาร่วมวงสนทนาด้วย
“เอลี่ไปไหนเหรอคุณวิ” รณเทพถามภรรยา สีหน้าเครียด
“วันนี้ลูกเราติดถ่ายหนังค่ะ”
“แล้วคุณไม่ไปดูลูกหน่อยเหรอ”
“วันนี้เห็นว่าจะกลับเร็วค่ะ เลยไม่ได้ไปดู” เธอตอบแล้วนำน้ำผลไม้มาให้บุตรชายคนโต
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังเป็นระยะ ทำให้รณเทพมองด้วยความแปลกใจ จนกระทั่งสาวใช้เข้ามาในบ้านหน้าตาตื่น
“มีอะไรเหรอ”
“มีคนมาขอพบคุณท่านค่ะ”
“ใครเหรอ”
“ไม่ทราบค่ะ เห็นรถหลายคันมาจอดรออยู่ค่ะ”
เจ้าของบ้านตีหน้าเครียด ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นรีออนแน่นอน มัสสิโม่รอไม่ไหวเลยหรือไง ทั้งที่นัดหมายไว้พรุ่งนี้ ช่างทำตัวไร้มารยาทสิ้นดี
“ไปเชิญเขาเข้ามา”
“ได้ค่ะ” สาวใช้รับคำแล้วรีบออกไปเปิดประตูรั้ว
รอเบนซ์สีดำจอดเทียบหน้าบ้าน รีออนก้าวลงมาพร้อมลูกน้องนับสิบ รณเทพเดินมารับแขก
“สวัสดีครับคุณรณเทพ พอดีผมรอไม่ไหวเลยต้องมาก่อนคงไม่ว่าอะไรนะครับ”รีออนบอก แล้วทิ้งกายลงบนโซฟาราวกับเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง
วิอาภาได้แต่มองแขกของสามีด้วยความสับสนในขณะที่รณวิทย์เองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ทำไมแขกบิดาถึงได้ไร้มารยาทเช่นนี้ รณเทพนั่งลงตรงข้ามกับเขาในขณะที่รีออนโยนเอกสารลงตรงหน้า
“นี่คือเอกสารข้อเสนอในการร่วมหุ้นของเรา ลองอ่านดูคุณได้ประโยชน์จากเรามากมายเลยทีเดียว”
รณเทพเปิดเอกสารออกอ่านในขณะที่บุตรชายคนโตช่วยพิจารณา ในเอกสารบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าโดยใช้สายการบินของเขา ชายกลางคนวางเอกสารลงตรงหน้า
“เป็นไงครับ”
“ผมขอตัดสินใจหน่อยนะครับ”รณเทพบอก
ร่างสูงกำยำลุกยืนเต็มความสูง หยิบบางอย่างโยนลงบนโต๊ะกระจกสีดำ รณเทพมองดูด้วยความแปลกใจ ห่อพลาสติกใสมีผงสีขาวอยู่ด้านในลักษณะคล้ายแป้งมัน
“อีกขอเสนอที่ผมอยากจะให้คุณ หากคุณยอมขนส่งสิ่งนี้ผมจะให้คุณสี่สิบเปอร์เซ็นต์”
รณเทพเอื้อมหยิบมาพิจารณา ดวงตาเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ สีหน้าเครียดขึ้นกว่าเดิม ช้อนสายตามองอีกฝ่ายด้วยความหนักใจ
“นี่มันหมายความว่ายังไงครับ?”
“ก็ตามที่เห็น หากคุณยอมช่วยเราขนสิ่งนี้เข้าประเทศ ผมจะแบ่งกำไรให้คุณสี่สิบเปอร์เซ็นต์”
รณเทพนิ่งไปพักใหญ่ แบบนี้มันไม่ใช่แล้ว เขาไม่ละโมบโลภมากพอที่จะทำลายประเทศตนเองหรอก แต่ไม่อาจปฏิเสธตอนนี้ได้ ดูคนของรีออนแล้วอาจทำให้ครอบครัวเกิดอันตราย คงต้องหาทางผ่อนผันไปก่อน
“ผมขอเวลาคิดสักหน่อยนะครับ” เขาตอบเลี่ยง
“ได้ครับ ผมจะให้เวลา แล้วพรุ่งนี้ผมจะมาเอาคำตอบ”
“ตกลงครับคุณรีออน”
เขาลุกยืนอีกครั้ง “ผมหวังว่าคงจะได้ร่วมหุ้นกันกับคุณนะครับ คุณรณเทพ”
“ครับ”
“ถ้าเช่นนั้นผมขอตัวก่อน” รีออนบอกแล้วเดินออกนอกห้องรับแขก รณเทพเดินมาส่งด้านหน้า จนกระทั่งรถเคลื่อนหายลับจากสายตา สีหน้าเจ้าบ้านเครียดมากขึ้น ครอบครัวเขาไม่ปลอดภัยแน่หากไม่ยอมรับปากรีออนเรื่องการร่วมหุ้น
กลิ่นจันทร์ หญิงสาวมากความสามารถ หนีห่างไกลเมืองไทยเพราะเจ็บช้ำจากแฟนหนุ่มซึ่งนอกใจ ทว่าเมื่อกลับมาเขากลับกลายเป็นเจ้าของบ้านที่เธอเคยอาศัยตั้งแต่เด็ก แม่เลี้ยงและพี่สาวต่างบิดารวมหัวกันหักหลังเธอกับพ่อ ขายบ้านหลังนี้ กลิ่นจันทร์ต้องการได้คืน แต่เธอไม่มีเงินมากพอ เมื่อนั้น แฟนหนุ่มซึ่งอยู่ในหัวใจเธอตลอดเวลา แม้เขาทำเรื่องผิดมหันต์ เธอก็มิอาจทำใจให้ลืมลง คิมหันต์ ชายหนุ่มผู้ฝ่าฝันอุปสรรค จำตั้งตัวเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ได้สำเร็จ กระนั้นในหัวใจเขากลับเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เพียงเพราะถูกแฟนสาวทรยศหนีไปต่างประเทศ เพียงเพราะได้พบกับผู้ชายคนใหม่ ความแค้นฝังแน่นในอก เขารอวันเอาคืน และโอกาสก็มาถึง “ผมจะคืนบ้านให้ ถ้าคุณยอมเป็นเมียผมเป็นเวลาหนึ่งปี”
เมื่อหนึ่งมีรักให้แต่ไม่อาจบอก กับอีกหนึ่งที่ไม่เคยรู้และตั้งหน้าตั้งตาชิงชัง การหมั้นหมายที่เกิดจากผู้ใหญ่ส่งผลให้นาฎสุรีย์ต้องจากลาไปไกลเพื่อรักษาแผลใจ ส่วนอีกคนที่ไม่เคยรับรู้ แท้จริงแล้วกลับห่วงหา ห้าปีต่อมา สองคนได้พบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอเปลี่ยนไป ส่วนเขากลับรู้หัวใจตัวเอง ******************** เพียะ! ใบหน้าหันตามแรงฝ่ามือ ชายหนุ่มนิ่งงัน มันชาไปทั้งแถบ นาฎสุรีย์มองมือตัวเอง มันกำลังสั่น เมื่อเขาหันมาสบตา เห็นสีหน้าแววตามันเปลี่ยนไป เธอชะงักตัดสินใจหันหลังคิดวิ่งหนี แต่ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าเอาไว้ “คิดว่าทำแบบนี้ แล้วจะหนีไปงั้นเหรอ มันง่ายไปมั้ง” พูดจบ เขาเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียง แล้วใช้เท้าถีบประตูปิดลง ก่อนล็อคอย่างแน่หนา “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที!” หญิงสาวร้องลั่น “แหกปากไปเลย เอาให้ดัง ห้องฉันเป็นห้องเดียวที่ไม่มีกุญแจสำรองไข ถึงมีก็ไม่มีใครก็กล้ามายุ่งหรอกนะ เพราะฉันเป็นคนยังไง ทุกคนรู้ดี” เขาส่งเสียงข่มขู่ นาฎสุรีย์จ้องมองอีกฝ่าย กัดริมฝีปากครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอด เธอไม่ได้อยากตบหน้าเขา แต่เพราะคำพูดนั้นมันทำให้ระงับความโกรธไว้ไม่ได้เลย “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็นายพูดจาไม่ให้เกียรติกันเลย!” หญิงสาวพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ตอนนี้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ เสียเปรียบอย่างรุนแรง ทว่าแววตาของอีกฝ่าย กลับไม่เย็นลงเลยแม้แต่น้อย “ตอนนี้ต่อให้พ่นอะไรออกมา มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะฉันไม่ให้อภัยเธอ!” เขาตวาดลั่น คนใต้ร่างสะดุ้งสีหน้าตื่นกลัว มือหนาจับสาบเสื้อ ที่เคยถูกกระชากมาก่อนหน้า ออกแรงดึง แควก! มันขาดติดมือ เจ้าของเสื้อชะงักดวงตาเบิกกว้าง กรีดร้องขึ้นมาทันที พยายามดิ้นรนผลักดันอีกฝ่ายเพื่อให้พ้นจากการโดนกระทำ แต่ทว่าอารมณ์ของเขา กลับรุนแรงเกินกว่า เรี่ยวแรงเธอจะต้านทานเอาไว้ได้ “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน ได้ยินไหม!” คนหน้ามืด ไม่ฟังเสียง ตอนนี้ในหัวเขาแค่ต้องการเอาคืน กับการกระทำไร้ซึ่งการไตร่ตรองของอีกคน คนอย่างพีรดล ไม่มีวันยอมให้ใครมาหยาม เท่าที่ผ่านก็ถือว่ายอมมามากพอแล้ว ริมฝีปากบางถูกฉกฉวยอย่างรวดเร็ว จนคนใต้ร่างร้องครางในลำคอ พยายามผลักไสอีกฝ่าย แต่ร่างกายนั้นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยเลย มือหนาลูบไล้ไปตามสัดส่วน ทำเอาเลือดในกายชายหนุ่มเริ่มร้อนฉ่า กระโปรงนักศึกษาถูกรั้งออก เจ้าของน้ำตาเริ่มคลอ ความหวาดกลัวแล่นพล่าน เธอไม่น่าโมโหจนน่ามืด แล้วหลงลืมไปว่า แท้จริงแล้วพีรดลเป็นคนเช่นไร หมดสิ้นแล้วซึ่งหนทางเอาตัวรอด อยากหลับโดยไม่รับรู้อะไรอีกเลย เขาถอนริมฝีปากจ้องมองอีกคน เห็นน้ำตาเธอกำลังไหลรินออกมา ทว่ามันได้ทำให้รู้สึกสงสาร เมื่ออารมณ์ตอนนี้มันกระเจิงไปไกล นาฎสุรีย์มีดีกว่าที่คิด เรือนร่างเย้ายวน ตรงหน้าทำเอาหายใจแทบไม่ออก ตัวตนแข็งขืนจนแทบปริแตก มันกำลังต้องการปลดปล่อย “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง นายอย่าทำอะไรฉันเลยนะ...” เธออ้อนวอนทั้งน้ำตา “มันสายไปแล้ว เธอไม่ควรเข้ามาที่ห้องฉันตั้งแต่แรก...” เขาตอบเสียงรอดไรฟัน จะให้ผละไปได้ยังไง ในเมื่อเธอทำให้เขาแทบคลั่งแบบนี้
เธอถูกจ้างให้แย่งชิงชายคนหนึ่ง ทว่าหญิงคนนั้นเสียใจจนฆ่าตัวตาย เธอจมอยู่กับความเสียใจจนกระทั่งได้พบกับเขา ชายผู้เอื้อมมือมาปลุกปลอบและทำลาย
เพราะความผิดพลาดในค่ำคืนนั้น ทำให้นรีกานต์และกวีวัธน์ต้องแต่งงานกัน ทว่าเขากลับยังคงมีเยื่อใยต่อคนรักเก่าอยู่ เธอจำต้องเดินออกมา เพื่อให้เขาได้สมหวังกับคนรัก แม้กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม ทว่าเขากลับตามหา เพื่อทวงสิทธิ์ของความเป็นสามีและพ่อของลูกกับเธอ ******************************* ปัง! ประตูปิดลงร่างเธอถูกโยนลงบนเตียง รีบลุกพรวด จ้องมองอีกฝ่ายแววตาตื่นตระหนก “นี่คุณทำบ้าอะไร ไม่ตลกแล้วนะ!” เธอตวาดลั่น “ฉันก็ไม่ตลกเหมือนกัน มาอยู่ที่นี่เพราะต้องการเป็นเมียฉันไม่ใช่หรือไง นี่ไง! กำลังจะทำให้ เธอมาได้จังหวะพอดีเลย ฉันกำลังว่าง กำลังโสด แต่ก่อนแต่ง ฉันขอเช็คของหน่อยก็แล้วกัน ว่ามีดีแค่ไหน!” คนตัวเมากระโจนเข้าหา นรีกานต์รู้ในทันทีว่า ชีวิตตนเองกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว กระโจนหนีด้วยความหวาดกลัว วิ่งตรงไปหาประตู ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าไว้ กระชากร่างบางเข้าหาจนปะทะแผงอก มือยกทุบตีจิกข่วนอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน แต่เหมือนเขาไม่สะเทือนเลยสักนิด “ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที!” ไม่ทันได้ร้องขอความช่วยเหลือต่อ ริมฝีปากถูกปิดอย่างรวดเร็ว “อื้อ!” ร่างถูกตรงบนเตียง เรียวแขนรวบไว้เหนือศีรษะ น้ำตาคนโดนกระทำไหลริน เมื่อรู้ว่าตนเองหมดหนทางรอดในคราวนี้ เขาชะงักจ้องมองใบหน้าของคนใต้ร่าง น้ำตาของผู้หญิงมันไร้ความหมายสิ้นดี มารยาแบบนี้ เห็นมาจนสะอิดสะเอียนแล้ว “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันกลัวแล้ว...” “หยุดพูดให้รำคาญสักที นอนเฉยๆ ไปเถอะ เดี๋ยวก็มีความสุขเอง!”
เธอยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อความรัก แต่คนรักกลับมีคนอื่น เธอเลยตัดสินใจแต่งงานกับเขา เพื่อเอาคืนคนพวกนั้น โดยหวังให้เขาคือเครื่องมือระบายความแค้น ทว่าเป็นเธอเองที่ตกหลุมกับดักที่ตนเองวางไว้ ใครจะรู้ว่าเขาจะนำพาให้เธอตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส จนอยากจะถอนตัว
เพราะวัยเพียงสิบสี่มิลันดาถูกปฏิเสธความรักที่มีให้กับคมฉณัฐอย่างไร้เยื่อใยความเสียใจทำให้เด็กสาวตัดสินใจเรียนต่อเมืองนอก คมฉณัฐจะทำเช่นไรเมื่อกลับมาเด็กสาวกลายเป็นสาวสะพรั่งดีกรีศัลยแพทย์เกียรตินิยม
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!