คุณอาริท ชอบเก็บ ‘เด็กสาวๆ’ ไว้กกกอด จะทำอย่างไร เมื่อ หลานสาว บัวชมพูอวบอึ๋ม มาอยู่ใกล้มือ อีริคดวงตาวาวโรจน์ ด้วยความโกรธ ความแค้น “หลายครั้งแล้วใช่ไหม หลายครั้งแล้วไหม ถ้ายังนั้นลงไปล้างตัวเสียหน่อย หลังจากนี้เผื่อใครมาขอไปเป็นเมียจะได้ไม่มีกลิ่นคาวติดตัวมากเกินไป” อีริคยกร่างหลานขึ้นเดินไปทำทีโยนลงในทะเล บัวชมพูตกใจ ดิ้นรนลงจากอ้อมแขน “อา อย่านะ อย่านะ” “ชุดบ้าๆ ที่ปิด ‘นม’ ไม่มิดเขาให้เอามาใส่ลงในน้ำไม่ได้มายั่วผู้ชาย ลงไป” อีริคตั้งท่าโยน “คนใจร้าย ปล่อย” “ปากดีลงไป” อีริคตั้งท่าโยนอีกครั้ง “กรี๊ดดด….อาริทขา บัวโกหก บัวไม่มีอะไรกับเขา” สาวน้อยสารภาพน้ำตาร่วง
“อาริท”
บัวชมพูโผเข้าหาอาริทชื่อที่เรียกติดปากตั้งแต่จำความได้ เธอเฝ้ารอคอยอามาเกือบสี่เดือน วันนี้ที่รอคอยก็มาถึงเสียที บัวชมพูอายุย่างเข้าสิบแปดปี คิดถึงอาริทมากหลังจากคุณยายซึ่งอุปการะเลี้ยงดูลาลับจากโลกไปอย่างสงบ ก่อนหน้านี้อาเดินทางมาร่วมพิธีทางศาสนา แต่อยู่ได้ไม่กี่วัน ตอนนั้นเธอได้แต่มองเพียงห่างๆ เท่านั้น
อาจะกลับมาหลังจากเคลียร์งานนะ จะมาอยู่ที่นี่สักพัก
ในวันนั้นเป็นเสมือนคำมั่นสัญญา เธอไม่เคยลืม เฝ้านับคืนวัน รอคอยและวันนี้อามาแล้ว…น้ำตาแห่งความดีใจไหลออกมาเพราะสะกดกลั้นไม่ได้
“อย่าร้องไห้” อาริท กอดปลอบหลานสาวคนสวยรูปร่างอวบอิ่ม ผิวขาวอมชมพู ดูสวยเกินวัย อีริค โรดรีเกซ หนุ่มหล่อ ร่างบึกบึน อายุ 37 ปี หลานชายเพียงคนเดียวของคุณหญิงชดช้อย สุระการกิจ เศรษฐีนีอับดับต้นๆ ของเมืองไทย ตระกูลดัง นามสกุลเด่น มีธุรกิจหลายอย่างที่ไปได้สวยงามสวนกระแสเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน มารดาอีริคเสียตั้งแต่เขาอายุสิบขวบ อีริคบินไปเรียนอังกฤษตอนอายุสิบห้าปี เพราะที่นั่นมีบิดาเชื้อสายเมืองผู้ดีคอยดูแล แม้ว่ามารดาจะจากไปแต่ท่านยังไม่มีใคร ครองตัวเป็นโสดเรื่อยมา
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาอีริคไม่มีเวลากลับเมืองไทยมากนักเพราะต้องดูแลกิจการของบิดาตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย ทว่าแม้ห่างไกลอีริคก็คิดถึงเด็กน้อยที่คุ้นเคยตั้งแต่เธอยังเล็กเสมอ เขามโนว่าโตขึ้นต้องน่ารักและสวยมาก เจอสี่เดือนก่อน เธอสวยมากจริงๆ จนอาที่ชอบของสวยๆ งามๆ ใจคะนึงหาตลอดเวลา
ทั้งสองติดต่อพูดคุยกันผ่านเครื่องมือสื่อสารบ้าง ส่วนคุณยายจะเป็นฝ่ายเดินทางไปหาเขามากกว่า ท่านไม่มีปัญหาเพราะเข้าใจเรื่องธุรกิจที่เขาต้องดูแลอยู่
“คุณหนูบัวเป็นลมหลายครั้งแล้วค่ะคุณอีริค ดิฉันบอกไม่ต้องมาทำบุญก็จะมา น่าสงสารจริงๆ”
แม่บ้านเข้ามาสวัสดีประมุขคนใหม่ของบ้าน อีริคบอกว่าจะพาสาวน้อยไปนอนในรถสั่งให้ป้าสุมนดูแลความเรียบร้อยภายในวัด
สุมนบอกว่ามีอคินช่วย อีริคได้ยินเพียงชื่อลูกชายป้าสุมนซึ่งเป็นคนสนิทคุณยาย รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นผู้ดูแลธุรกิจทุกอย่างของคุณยายที่เมืองไทย
เขาไว้ใจผู้ชายคนนี้ในระดับหนึ่งเพราะบิดารู้จักดี การันตีมาอีกที อีริคคิดว่าไม่นานคงได้รู้ว่าที่บิดาพูดมันจริงเท็จแค่ไหนกัน
ถวายภัตตาหาร กรวดน้ำ ทุกอย่างผ่านไป ในวันนี้มีเพียงคนในบ้าน เดินออกมาอีริคบอกสุมนจะพาบัวชมพูกลับ ฝ่ายนั้นรับรู้เดินไปหยิบฉากคุณยายขึ้น… ท่านจากไปในเวลาอันเหมาะสมและสงบ อีริคยิ้มกับรูปถ่าย “หลับสบายนะครับคุณยาย ไปอยู่กับคุณแม่มาหลายเดือนแล้ว ทะเลาะกันหรือเปล่าครับ”
รูปถ่ายยายเหมือนจะค้อนขวับด้วยสายตา อีริคยิ้มเดินออกไปขึ้นรถ
เกือบสี่เดือนความเศร้าในใจเรื่องคุณยายหายไปแล้ว ท่านไปสบายอย่างคุณพ่อบอก อายุเกือบร้อยปี อย่าให้ท่านอยู่กับความหลงๆ ลืมๆ อีกเลย
ภายในรถคันหรู
สาวน้อยใบหน้ารูปไข่ แก้มสาวแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาดนอนหลับตาพริ้ม เธอกำลังส่ายหน้าไปมาและเพ้อบางอย่าง ร่างสูงในชุดเสื้อยีนต์ กางเกงสแล็คของอีริคเข้านั่งในรถถอดแวนกันแดดสีชาออกมองสาวน้อยใบหน้าสดสวย เครื่องหน้าเหมาะเจาะด้วยใจสดชื่น เจอกันอีกแล้วนะ หลายปีมานี้อาชอบฝันถึงใบหน้าเรา ยิ่งสามเดือนก่อนยิ่งบ่อยมากรู้ไหมหือ
“อาขา…”
ปากอิ่มสีชมพูเหมือนกำลังเพ้อ ที่สำคัญเป็นชื่อเขานั่นเอง อีริคลูบแก้มขาวนวลเนียน อย่างอดใจไม่ได้ “อา…อามาแล้ว”
ใบหน้าสวยซุกเข้าหาอกแกร่ง อาที่ไม่กลัวอะไรในโลกหล้า ตัวแข็งชั่ววินาที กลิ่นหอมของวัยสาวแรกรุ่นต้องจมูก อกอวบใต้เสื้อคอเต่ามิดชิด สัมผัสเรือนกายแกร่ง อีริคเผลอสูดดมความหอม อกอวบปกปิดมิดชิดไม่สามารถปิดสายตาคมของอีริคได้
คัพอี หน้าอกหน้าใจเกินตัวจังคุณหลาน เป้าอาตุงนูนเพราะความนุ่มหยุ่นบดเบียดอกกว้างตลอดที่รถเริ่มเคลื่อน
เอี้ยด! รถเบรก อกหยุ่นแนบอกกว้าง ความเป็นชายอีริคผงาดจนเขารู้สึกปวดร้าว
“โทษครับนาย” คนขับรถบอกว่ารถตัดหน้าอีริคไม่พอใจแต่ไม่มีเวลาด่าทอเพราะร่างหอมเกือบตกลงจากเบาะนั่ง โชคยังดีที่เขารวบเธอมาไว้บนตักได้ อีริคก้มมองใบหน้าหวาน อยากรู้ว่าหลานจะลืมตาแต่เปล่าเลยคนที่นั่งทับเป้าตุงยังหลับตาแถมกอดเขาแน่นกว่าเดิม
“คุณยาย” เธอเพ้อ อีริคหายใจหอบกระเส่าเหมือนเด็กหนุ่มเมื่อความนุ่มใต้กระโปรงบดเบียดท่อนแข็งของเขา
โอ้ย…แม่สาวน้อยเธอกำลังทำให้อาของขึ้นนะรู้ไหม ตอนนี้ถ้าเป็นคนอื่นจะจับกดแล้วนะ
สาวน้อยดิ้นอาจเพราะนั่งไม่สบายซ้ำตวัดขานั่งคร่อมตักกว้าง อีริคหมดความอดทน ความปวดร้าว ความปรารถนาเข้ารุ่มเร้าแล่นพล่านในกาย เขารวบผมยาวที่ปล่อยสยายก่อนจะก้มลงจูบแก้มหอมละมุน จ๊วบ!
หอมชื่นใจจนอยากได้มากกว่านั้น อาหื่นจับเอวบางให้นั่งตรงกลางขาตุงของตน กดร่างเธอก่อนจะล้วงมือใหญ่เข้าใต้เสื้อตัวเล็ก ปลดตะขอด้านหลัง ไล้ยอดอกนุ่มหยุ่นเบาๆ และแรงขึ้นๆ เต้าอวบใหญ่อยู่ในมือเนิ่นนานตามแรงปรารถนา ตัณหาราคะกระเจิดกระเจิง โอ้…ของหลานดิ้นสู้มือดีมาก ยอดอกแข็งต้อนรับมือเขา อากดร่างหลานเพื่อสนองท่อนเหล็กยาวใหญ่ที่อยากจะดีดออกมาจากกางเกงเต็มแก่ไม่หยุดยั้ง
“อื้อ…โอ้” คนหลับตาครางในความฝัน มองดูน่ารัก ปากร้อนก้มลงดูดปากอิ่มส่งเสียง จ๊วบจ๊าบ
ในความฝัน สาวน้อยรู้สึกถึงสิ่งนั้นอีกแล้ว อาริทกำลังซุกไซ้หน้าอกอิ่มสวยของเธอ ดูดยอดอก ความฝันช่างแสนหวานรัญจวนจิต ซาบซ่านสุขใจเพราะตนแอบรักอาริทมาเนิ่นนาน สาวน้อยกดสองมือที่เคล้นคลึงให้อาได้ทำอย่างที่ร่างกายเธอต้องการ ความฝันซ่านทรวงเธออยากหลับอยู่อย่างนี้
“อาริทขา…โอ้ ดีจัง” สาวน้อยครางออกมาจนอีริคหยุดมือที่กำลังเมามันลง เขาคิดว่าหลานตื่นแต่เมื่อก้มมองไม่ใช่ จึงก้มหน้าลงบดจูบปากสวย เธอช่างหวานละมุน ลิ้นเล็กพัวพันกับสิ้นสากของตนอย่างน่ารัก อีริคครางฮือ หวานปานน้ำผึ้ง แบบนี้เขาจะทนต่อได้นานแค่ไหน
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ