“เร็วๆ สิ! มาแสดงให้ฉันดูหน่อยว่าคนอย่างเธอมีดีอะไร ถึงได้มีผู้ชายมาขอแต่งงาน... ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเธอน่ะมันสำส่อน ไม่ต่างจากโสเภณีนักหรอก!” ‘รุจาภา วรลักษณ์’ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาถูกจับขังในกรงวิวาห์กับผู้ที่เป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมาที่เจอกันทีไรเป็นต้องทำร้ายกันไม่ด้วยการกระทำก็คำพูดอยู่ร่ำไป เพียงเพราะเธอต้องการจะปกป้องคนที่เธอรัก กลับกลายเป็นต้องตกเป็นทาสสวาทพยัคฆ์ร้ายอย่างเขาไปเสียนี่ ‘พยัคฆ์ พิตตินันท์’ ไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้ต้องพบเจอกับผู้หญิงปากร้ายปากคมยิ่งกว่ามีดผ่าตัด แถมร้ายกาจจนเหลือรับ แต่เสือร้ายอย่างเขามีหรือจะนอนนิ่งๆ ให้เธอกระตุกหนวดเอาได้ง่ายๆ? ขืนทำอย่างนั้นก็เสียชื่อเสือหมดน่ะสิ! งานนี้เห็นทีต้องทำการปราบพยศ ‘ยัยเด็กแสบ’ สักหน่อยแล้วล่ะสิ แต่จะมีวิธีไหนเอาคืนได้สะใจไปกว่าการทำให้เธอตกเป็นทาสสวาทพยัคฆ์ร้ายอย่างเขาได้เล่า? “เธอจะต้องไปอยู่ในไร่กันตา...” “ในฐานะอะไรไม่ทราบ?” หญิงสาวถามทันควัน เขาอยากให้เธอไปอยู่ในไร่กับเขาในฐานะอะไรกัน? เมีย... งั้นหรือ? มีหวังปิ่นแก้วได้อาละวาดไร่แตกแน่ๆ! “ทาสไงล่ะ”
ท่ามกลางแสงแดดอันแรงร้อนในจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน ทำให้ใครหลายคนต้องหนีความร้อนด้านนอกมาพึ่งความเย็นภายในห้างดังแห่งหนึ่งแทน ไม่เว้นแม้แต่สองหนุ่มสาวรูปร่างหน้าตาดีที่กำลังก้าวเดินเคียงข้างกัน หากทว่าใบหน้าของทั้งคู่กลับไม่รื่นเริงแช่มชื่นดังที่ควรจะเป็นเลยสักนิด ฝ่ายชายนั้นใบหน้าเรียบนิ่งเย็นชาจนดูน่ากลัว ขณะที่ฝ่ายหญิงกำลังพยายามสุดฤทธิ์ที่จะปั้นหน้าให้รื่นเริงที่สุด ทั้งที่ภายในกำลังอัดแน่นด้วยความประหวั่นพรั่นพรึงและกระวนกระวายจนแทบจะอยากหนีไปจากตรงนั้น แต่ก็กลัวเกินกว่าจะหนีไปอย่างที่คิดได้
“อยากกินอะไร?” คำถามเรียบๆ นั้นทำให้ร่างเล็กที่จมอยู่กับภวังค์ของตัวเองสะดุ้งเฮือก ก่อนจะพยายามเก็บกดความกลัวไว้ลึกสุดใจ
“แพรอยากกินไอศกรีมค่ะ” หญิงสาวฝืนปั้นหน้าสดใสให้เป็นปกติเหมือนทุกครั้งที่ทำ ยามที่อยู่กับเขา
“นี่ก็เที่ยงแล้ว ผมว่าเราทานอาหารหลักกันก่อนแล้วกันนะ พอกินเสร็จแล้วผมจะพาไปกินไอศกรีม” น้ำเสียงเรียบๆ แย้งกลับมา
“ค่ะ” หญิงสาวตอบได้เพียงเท่านั้น เพราะถึงแม้เขาจะไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงบังคับ แต่ความมีอำนาจที่แฝงมากับคำพูดทุกประโยคของเขา ก็ไม่เคยทำให้เธอปฏิเสธความต้องการเขาได้เลยสักครั้ง
“ถ้างั้น...กินอาหารญี่ปุ่นแล้วกัน” ชายหนุ่มยังคงพูดด้วยท่าทางเรียบเรื่อย กระนั้นท่าทีของผู้นำที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจก็ทำให้เธอไม่กล้าขัดแย้งอีกเช่นเคย
“ก็ได้ค่ะ”
“งั้นก็ไปกัน...” ชายหนุ่มร่างสูงกำยำเดินนำหญิงสาวหน้าตาสะสวยเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังภายในห้างแห่งนั้น เขาเดินนำเธอไปยังมุมในสุดของร้าน เพราะค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากกว่า เขาไม่ชอบอะไรที่มันวุ่นวายนัก ก่อนที่ทั้งคู่จะสั่งอาหารที่อยากทานกับพนักงาน
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ ทั้งคู่ก็ทานอาหารตรงหน้าด้วยความเงียบจนน่าอึดอัด ฝ่ายหญิงนั้นไม่รู้ว่าจะชวนเขาคุยอะไรดี ทั้งๆ ที่ครั้งก่อนหน้าที่เจอกัน เธอจะเป็นคนชวนเขาคุยจ้อ ส่วนเขาก็รอให้เธอเป็นคนเปิดปากพูดก่อน แต่เมื่อได้แต่ความเงียบกลับมา ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะรอให้เธอเริ่มประเด็นอีกต่อไป
“ทำไมช่วงนี้เงียบไปล่ะ?” คำถามของเขาเล่นเอาหญิงสาวชะงักมือที่กำลังใช้ตะเกียบคีบอาหารเข้าปาก “ไม่ค่อยจะรับโทรศัพท์ผมเลย ไลน์หาก็ไม่ตอบ”
“เอ่อ...คือ...แพร...” หญิงสาวจนด้วยคำตอบ ไม่รู้ว่าควรจะแก้ตัวอย่างไรดีกับการหายหน้าหายตาไป ไม่ยอมรับการติดต่อจากเขาไม่ว่าทางใดก็ตาม ทั้งๆ ที่เคยติดต่อกันแทบจะทุกวัน “แพร...กำลังยุ่งๆ เรื่องที่จะเรียนต่อน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าควรเรียนปริญญาโทต่อหรือเปล่า แล้วถ้าจะเรียนควรเรียนที่ไหนดี แพรเลยไม่ได้ติดต่อใครเลยช่วงนี้”
“งั้นหรือ?” ชายหนุ่มรำพันเหมือนจะรับรู้กับสิ่งที่เธอบอก แต่แน่นอนว่าเขาไม่เชื่อเลยสักนิด ก็ท่าทีเธอมันดูลุกลี้ลุกลนอย่างไรชอบกล แล้วคนอย่างเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่โกหกได้เนียนเสียด้วยสิ
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำแต่หลบสายตาจับผิดนั้นวูบ ก่อนจะรีบชวนเขาเปลี่ยนเรื่อง ไม่อย่างนั้นเธอได้ถูกต้อนให้จนมุมแน่ๆ เขาเป็นผู้ชายที่ฉลาดเหลือร้าย และคงไม่ปล่อยให้คนที่โกหกเขาลอยนวลไปได้โดยไม่ทำอะไรแน่ๆ “เอ่อ...แพรว่าเราทานอาหารกันก่อนดีกว่านะคะ แพรอยากไปทานไอศกรีมเร็วๆ”
ชายหนุ่มไม่ว่าอะไรออกมา แม้จะจับพิรุธผู้หญิงตรงหน้าได้มากเพียงใดก็ตาม เขาอยากให้เธอสารภาพความผิดด้วยตัวเธอเองก่อนที่เขาจะต้องลงทุนสืบหาความจริงด้วยตัวของเขาเอง
เมื่อจู่ๆ ‘คริสโตเฟอร์ เมสัน’ ผู้บริหารหนุ่มหล่อจอมเฮี้ยบของแม็กนามีเดีย ตัดสินใจที่จะยุบนิตยสารแม่บ้านตกยุคที่ไม่เคยทำกำไรมานาน แน่นอนว่ามันรวมไปถึงการลอยแพพนักงานด้วยการจ้างออกทั้งแผนก ‘อลิสา สิปปา’ บ.ก.สาวไทยผู้แสนจะเชยไม่แพ้นิตยสารที่เธอดูแลอยู่จึงหมดทางเลือก นอกจากบุกไปพบเจ้านายคนใหม่เพื่อขอให้เขายืดเวลา แต่ว่าก็ว่าเถอะ แค่การแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดูเฟี้ยวฟ้าวเหมือนผู้หญิงปกติในสังคมเธอยังทำไม่ได้ ประสาอะไรจะปรับปรุงนิตยสารใหม่ทั้งเล่มแล้วปลุกยอดขายให้เขาได้ล่ะ ถ้าอยากได้โอกาสนักล่ะก็ ก่อนอื่นลองทำตัวสวยจนเขารู้สึกพอใจก่อนจะดีไหม “ถ้าเธอไม่ตื่นเดี๋ยวนี้ล่ะก็... เราคงไม่ได้ลุกจากเตียงกันอีกจนกว่าจะถึงเที่ยงของวันนี้นะ” ไม่ขู่เปล่า แต่คริสโตเฟอร์ยังคงกดจมูกลงที่ข้างขมับของเธอ ก่อนที่จะใช้กลีบปากแกร่งค่อยๆ ไล่จูบหนักๆ ไปตามผิวแก้มนวล เล่นเอาคนที่ตั้งท่าจะดึงดันเมื่อครู่เปิดเปลือกตาทันควัน “ตื่นแล้วค่ะ!” หญิงสาวร้องบอก แล้วผลักอกกว้างให้ออกห่าง ตั้งท่าจะถลาลงจากเตียงเมื่อเขาทำท่าว่าจะปล้ำเธอเข้าจริงๆ หากทว่าเขากลับดึงแขนเธอไว้ไม่ยอมให้ลงจากเตียงไปง่ายๆ “ตื่นแล้วก็มามอร์นิ่งคิสกันก่อนสิ” ชายหนุ่มพูดอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่เอาค่ะ!” อลิสาสั่นหน้าปฏิเสธ ขืนจูบเขาล่ะก็... เธอกลัวว่ามันจะไม่หยุดเพียงแค่จูบน่ะสิ และเธอเองก็คงอดที่จะปล่อยให้อารมณ์เตลิดตามเขาไปไม่ได้ด้วยแน่ๆ “เพิ่งตื่นก็ต้องแปรงฟันแล้วก็ทำความสะอาดร่างกายก่อนสิคะ” “ถ้าแปรงฟันแล้วเขาจะเรียกมอร์นิ่งคิสได้ยังไงล่ะ?” คริสโตเฟอร์ถามด้วยน้ำเสียงเง้างอนน้อยๆ ก่อนยื่นข้อเสนอให้ “เลือกเอาว่าเธอจะเป็นคนจูบฉัน หรือจะให้ฉันเป็นคนจูบเธอ?”
เพราะต้องการหาข้อมูลเขียนนิยายเรื่องใหม่ กานต์มาดา นักเขียนสาวจึงต้องสร้างกลรักขึ้นมา แล้วหลอกล่อให้เขา...อัลฟอนโซ่ เจ้าของบริษัทใหญ่ในสเปน และพ่วงตำแหน่งคุณพ่อลูกหนึ่ง ให้มาเล่นเกมปรารถนากับเธอ แต่เมื่อเขาจะเอาจริง เธอจึงต้องยุติทุกอย่างลงก่อนที่ความสัมพันธ์จอมปลอมจะจริงจังไปจนเกินควบคุม แต่...ไม่มีใครที่จะหลอกเล่นกับหัวใจของหนุ่มหล่อทรงเสน่ห์และอำนาจแห่งแดนกระทิงดุไปได้ อัลฟอนโซ่หมายมั่นที่จะทำทุกอย่าง เพื่อให้บทเรียนกับกานต์มาดา ที่กล้ามาล้อเล่นกับความรู้สึกเขา!!! งานนี้...ใครจะชนะในเกมปรารถนาที่กลับกลายเป็นการเอาคืนได้? หรือต่างกันต่างก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับกลรักที่ร้อยรัดหัวใจของเขาและเธอเอาไว้กันแน่? ร่วมหาคำตอบกันได้ใน “กลรัก เกมปรารถนา” **************** “ทำไม? หรือคุณกลัวผม?” “ใช่! เพราะคุณมันเจ้าเล่ห์! ไว้ใจไม่ได้!” “...จริงๆ ผมก็ไม่ชอบทำอะไรคนหลับหรอกนะ ทำอะไรตอนที่ไม่หลับได้อารมณ์กว่าเยอะ เพราะผมจะได้ยินเสียงครางหวานหูของคุณ มันเพราะจับใจยิ่งกว่าบทเพลงบทไหนในโลกเลยล่ะ”
“คุณก็รู้ว่าฉันเมา แล้วคุณยังจะทำอย่างนั้นกับฉันอีก คุณยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่รึเปล่า หา! คุณปรานต์? หรือคุณโกรธแค้นฉันมากถึงอยากจะแก้แค้นฉันให้ตายทั้งเป็นอย่างนี้?” “เธอจะมาหาว่าฉันฉวยโอกาสได้ยังไง? ในเมื่อเธอเองเป็นคนเรียกร้องสิ่งนั้นจากฉันเองแท้ๆ เธอควรจะโกรธตัวเธอเองมากกว่า แต่พูดก็พูดเถอะนะ ว่าลีลาของเธอมันช่างร้อนแรงกว่าผู้หญิงทุกคนที่ฉันเคยผ่านมาเสียอีก แหม...ว่าแล้วเราก็มาต่อกันอีกรอบดีไหมจ๊ะสาวน้อย? บอกตรงๆ ว่าฉันยังติดใจเธอไม่หาย” “หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!” “เอาน่า...ไหนๆ เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันยินดีรับผิดชอบเธอทุกอย่าง พรุ่งนี้เราไปจดทะเบียนสมรสกันเลยก็ได้ บอกตามตรงนะ ฉันยังประทับใจในลีลาของเธอไม่หายเลย” ปารวี ต้าเฟย เมธาชัย จำต้องตกอยู่ในบ่วงวิวาห์อย่างจำยอม เมื่อถูกคนเป็นพ่อมัดมือชกให้ต้องแต่งงานกับญาตาวี วัฒนากุล ลูกสาวอดีตคนรักของพ่อ คนที่ทำให้แม่ของเขาต้องตกอยู่ในความห้วงของความเจ็บปวดเพราะไม่เคยได้รับความรักจากพ่อของเขาแม้กระทั่งในวินาทีสุดท้ายของชีวิต นั่นทำให้ชายหนุ่มผูกใจเจ็บญาตาวีจนนึกอยากจะขย้ำเธอทุกวินาที แต่มันจะสนุกอะไรกับการฆ่าเธอให้ตาย? สู้หลอกล่อให้เธอตกหลุมพราง แล้วค่อยๆ กรีดหัวใจของเธอให้เจ็บมันสะใจกว่ากันเยอะ ญาตาวีไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตนี้จะต้องโคจรมาพบกับชายหนุ่มผู้เจ้าคิดเจ้าแค้น แถมยังหยิ่งยโสชนิดที่เธอนึกอยากจะข่วนหน้าหล่อๆ นั่นให้เป็นแผลเหวอะหวะ เธอพยายามจะเอาตัวออกห่างเขาเพราะไม่อยากทนรองรับอารมณ์หงุดหงิดที่ไม่มีเหตุผลของปารวีนัก แต่มันมักจะมีอันให้ต้องเข้าไปพัวพันกับเขาทุกที สุดท้าย... ก็ถูกเขาเล่นกลหลอกล่อให้เธอต้องติดอยู่ใน ‘บ่วงวิวาห์’ กับเขาแบบจำยอม แล้วชีวิตคู่ที่ไม่ได้เกิดจากพื้นฐานของความรักมันจะยืนยาวสักแค่ไหนกัน ในเมื่อเขาจ้องจะคอยทำร้ายจิตใจของเธอเพื่อแก้แค้นแทนแม่ผู้ล่วงลับของเขา ในขณะเดียวกัน... นับวันเธอก็รู้สึกเหมือนจะยิ่งผูกพันกับเขาไปทั้งใจ “อย่าเล่นบ้าๆ นะญาตาวี!” “เล่นบ้าๆ อย่างนั้นเหรอคะ? ฉันว่าไม่ใช่มั้ง เพราะดูเหมือนคุณเองก็ต้องการไม่ใช่เหรอ?” เจ้าของร่างบางค่อยๆ คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนเตียงนอนระหว่างขาทั้งสองข้างของเขา ก่อนโน้มตัวมาข้างหน้าจนใบหน้าหวานอยู่ห่างใบหน้าคมคายของเขาไม่ถึงคืบ “อย่าทำอย่างนี้นะญาตาวี เธอไม่รู้หรอกว่าผลที่ตามมามันรุนแรงแค่ไหน” “งั้นเหรอคะ?”
“แล้วอีกอย่าง...ฉันมันพวกไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ด้วยสิ ยิ่งคุณรำคาญ ยิ่งคุณอยากไล่ฉันไปไกลๆ ฉันก็จะคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ คุณ จนคุณขาดฉันไม่ได้ ยิ่งคุณเกลียดฉันมากเท่าไหร่ ฉันก็จะทำให้คุณรักฉันมากเท่านั้น” “แสดงว่า...ถ้าเธอได้ในสิ่งที่เธอต้องการแล้ว เธอจะเลิกยุ่งกับฉันอย่างนั้นใช่ไหม?” “คุณจะทำอะไร!?” หญิงสาวเบิกตาถามอย่างตกใจ เมื่อเขาย่างสามขุมเข้ามาหาด้วยท่าทีไม่น่าไว้ใจนัก เท้าบางกระชากตัวเองก้าวถอยหลังด้วยสัญชาตญาณป้องกันตัวเอง “ก็จะทำให้เธอได้ในสิ่งที่เธอต้องการไง จะได้เลิกยุ่งกับฉันสักที!” คำว่า ‘ยอมแพ้’ ไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรมประจำใจของ ‘มะลุลี วิโรจน์รุ่ง’ นักเขียนสาวผู้พกความมุ่งมั่นจนเข้าขั้นดื้อดึงมาเกิด โดยเฉพาะกับเรื่องของหัวใจ... ในเมื่อเธอหลงรักกระทิงหนุ่มผู้ดุดันและเร่าร้อนอย่าง ‘เอเลียต รามิเรส นาธาเนียล’ เข้าอย่างยากจะถ่ายถอน มีหรือที่เธอจะยอมปล่อยให้เขาหลุดมือไปโดยไม่คิดจะทำอะไรเลย ดังนั้นเธอจึงเดินหน้า ‘ภารกิจตื้อรักกระทิงหนุ่ม’ อย่างเต็มกำลัง และไม่คิดจะถอยแม้จะถูกเขา ‘ขวิด’ ด้วยการกระทำและคำพูดแสนร้ายกาจ แต่หญิงสาวก็ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นมาทาดอร์สาวปราบพยศกระทิงผู้เร่าร้อนให้จงได้ และมะลุลีก็ยังคงเป็นมะลุลี... เธอมักจะหาเรื่องใส่ตัวเสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อเธอคิดร่วมมือกับทนายหนุ่มไฟแรงเพื่อกระชากหน้ากาก ‘ชาโดว์ เดวิล’ ฆาตรกรต่อเนื่องแสนโหดเหี้ยมตัวจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลสำหรับงานเขียนเล่มใหม่ และการกระทำเช่นนั้นกลับกลายเป็นภัยร้ายที่ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาหายจะคร่าชีวิตของเธอให้แดดับ ภารกิจสืบหาความจริงที่เริ่มต้นไปพร้อมๆ กับภารกิจพิชิตรัก งานนี้มะลุลีจะทำภารกิจทั้งสองสำเร็จหรือไม่? หรือต้องสังเวยทุกๆ ภารกิจด้วยชีวิตและหัวใจของเธอกัน? “แต่ไม่เป็นไรหรอก... อีกไม่กี่นาทียาก็หมดฤทธิ์แล้ว เธอจะรู้สึก... ทุกๆ อย่างที่ฉันทำกับเธอ และเชื่อเถอะว่า เธอจะภาวนาให้ยาที่ฉันฉีดให้ไม่ฤทธิ์ เพราะมันจะเจ็บบรรลัยเลยล่ะ!” “อ๊ะ!” หญิงสาวร้องเพราะรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ข้อมือซึ่งถูกมัดติดกับที่วางแขนของเก้าอี้ไม้ “ดูเหมือน... ยาจะเริ่มคลายฤทธิ์ลงแล้วสินะ ดีเลย!” ปิศาจในเงามืดพูดพลางหยิบมีดพกแบบทหารขึ้นมา กวัดแกว่งมันไปมาพร้อมกับก้าวเท้าเข้าไปหาเหยื่อที่แม้ฤทธิ์ยาจะค่อยๆ เสื่อมลงแล้วแต่ก็ยังยังไร้หนทางพาตัวเองออกจากพันธนาการของเชือกเส้นใหญ่ “มาดูกันว่าคนที่มีความพยายามเป็นเลิศอย่างเธอจะอดทนได้นานกว่านังแพศยาคนอื่นๆ ที่ฉันเคยฆ่าหรือเปล่า?”
‘ให้ตายเถอะ! นี่เขาจะต้องแต่งงานกับยัยจิตป่วนนี่จริงๆ หรือไง?!!’ นั่นคือสิ่งที่เกเบรียล แมคไรลีย์ ดีไซเนอร์หนุ่มที่พ่วงตำแหน่งรองประธาน บริษัทอาร์ทิสติกแอทแทร์ จำกัดมหาชน ผู้มีโลกส่วนตัวสูงครวญในใจ เมื่อถูกพ่อบังคับแกมข่มขู่ให้แต่งงานกับ มารียา รัตนาวัฒน์ หญิงสาวที่ดูเป็น working woman แต่จริงๆ ซ่อนความป่วนและเพี้ยนเอาไว้มากมาย แถมภรรยาจำเป็นของเขายังหลงรักพี่ชายแท้ๆ ของเขาจนหมดหัวใจ ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอคิดว่าเขาเป็น ‘เกย์’ เลยคิดจะแต๊ะอั๋งเขายังไงก็ได้เสียอีก! มารียา ดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อผู้ก่อตั้งบริษัทอย่างเวนเดล แมคไรลีย์ ขอร้องให้เธอแต่งงานกับบุตรชายของตนด้วยเหตุผลบางประการ เธอคิดว่าเธอจะได้แต่งงานกับเคลวิน แมคไรลีย์ คนที่เธอแอบหลงรักมานานหลายปี แต่ทุกอย่างกับผิดคาดไปหมด! เพราะเธอต้องแต่งงานกับ (คนที่ตนคิดเองเออเองว่าเป็น) เกย์หนุ่มเซ็กซี่ขยี้ใจแทนเสียนี่! แต่ไม่เป็นไรหรอก เธอจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการใช้เกเบรียลเป็นสะพานไปหาจ้าวหัวใจอย่างเคลวินให้ได้! แต่ทั้งคู่คงไม่รู้ว่าการแต่งงานลวงโลกนี้จะกลับกลายเป็นตรวนรักที่ร้อยรัดดวงมานของคนทั้งคู่เข้าไว้ด้วยกัน ตรวน... ที่ทั้งสองจะไม่มีวันหนีไปไหนได้ แต่จะทำอย่างไร... เมื่อเวลาที่มีร่วมกันช่างจำกัดนัก? ติดตามเรื่องราวความรักของทั้งคู่ได้ใน “ตรวนลวงดวงมาน” “ลืม?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม ดวงตาของเขามีแววเยาะหยัน ไม่รู้ว่าหยันตัวเขาเองหรือว่ากำลังเหยียดหยันเธอกันแน่? “เธอลืมได้หรือ? ลืมได้เหรอว่าเธอขอร้องฉันว่าอะไร? ลืมได้หรือว่าเธอสัมผัสฉันอย่างเร่าร้อนแค่ไหน? ลืมได้เหรอว่าเธอตอบสนองสัมผัสของฉันอย่างกระตือรือร้นแค่ไหน? ลืมได้หรือว่าเธอเองที่เป็นคนอยากเรียนรู้และขอให้ฉันสอนทุกอย่างที่เธออยากรู้ให้!?” “ไม่! หยุด! หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!” มือบางยกขึ้นปิดหูตัวเองไว้ พร้อมทั้งร้องบอกให้เขาหยุดคำพูดที่ชวนให้คิดถึงเรื่องราวในคืนนั้นเสียที แต่เขาไม่หยุด! เขาจะไม่ยอมให้เธอหนีความจริงอีกต่อไปแล้ว! “เธอยังจำได้ไหมว่าเธอกรีดร้องด้วยความสุขมากแค่ไหน เวลาที่เราฉันสอดประสานเข้าไปในตัวของเธอ และผลักดันให้เธอพุ่งทะยานไปถึงจุดสุดยอด? ยังจำได้ว่าเธอกรีดร้องเรียกชื่อฉันอย่างแว่วหวานแค่ไหน ตอนที่เธอกระโจนถึงสวรรค์ที่ฉันพาเธอไป!?” ปกติแล้วเกเบรียลไม่ใช่คนที่จะเอาเรื่องบนเตียงมาพูดให้ผู้หญิงได้อับอาย แต่กลับคนหัวดื้ออย่างมารียา ถ้าพูดด้วยคำพูดสุภาพ...พูดด้วยคำพูดตะล่อมอย่างที่เขาชอบใช้คงไม่ได้ผล มันต้องยกเหตุผลและความเป็นจริงมาพูดอย่างนี้แหละ เธอจึงจะหาทางปฏิเสธความจริงไม่ได้!
“คุณช่วยสอนเรื่องอย่างว่าให้ฉันได้ไหม?” “ห๊ะ?!” ทันทีที่เธอพูดจบ ออสตินก็อย่างตกใจจนเกือบจะพลัดตกเก้าอี้แล้วด้วย ไม่คาดคิดว่าเธอจะพูดเรื่องนี้กับเขา ออสติน เบรเดน ปิศาจหนุ่มผู้เจนจัดในเรื่องเริงรัก ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ยินคำขอสุดพิศดารพันลึกจากปากของดรัลพร แก้วกานต์ เมื่ออยู่ๆ เธอก็บุกมาถึงห้องทำงานแล้วขอให้เขาช่วยรับหน้าที่ “ติวเตอร์” เพื่อสอน “บทเรียนพิศวาส” ให้เธอเป็น “ผู้หญิงเร่าร้อน” ในแบบที่เขาชอบ และเขาคงจะรับหน้าที่ดังกล่าว หากว่าเธอไม่ใช่น้องสาวของเพื่อนสนิท และเป็นคนที่เขาพยายามเก็บไม้เก็บมือให้อยู่ห่างจากเธอมาตลอด เพราะเขาดันรู้สึกอยากครอบครองเธอตั้งแต่เธออายุได้เพียงสิบสามปีเท่านั้น! ทว่าคนอย่างดรัลพรผู้มุทะลุมีหรือจะยอมให้เขาปฏิเสธคำขอเธอง่ายๆ เมื่อเธอยั่วยวนเขาด้วยท่าทีไม่ประสีประสาจนเขาต้องหลวมตัวตกปากรับคำว่าจะเป็น “คุณครูกิตติมศักดิ์” สอนบทเรียนแสนพิเศษนั้นให้กับเธอ เพียงแต่เธอต้องจ่ายค่าเล่าเรียนแพงลิบลิ่ว ด้วย “พรหมจรรย์” ที่เพียรรักษามานานของเธอ “คราวหลัง... อย่าได้คิดจะอ่อยผู้ชายคนอื่นอีก เข้าใจไหม?!” เขาถามเมื่อฟาดแส้ลงมาอีกครั้ง “แยกขาออกเดี๋ยวนี้!” “อื้อ!” ดรัลพรร้องอีกครั้งเมื่อเขาฟาดแส้ลงมาเพื่อเป็นการทำโทษและตักเตือนถึงผลของการขัดคำสั่งของเขา
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!