ชีวิตคู่จะเป็นยังไง ถ้าสามีอยู่อย่างไร้หัวใจและพร้อมจะเลือกคนอื่น ดวงฤทัย – ปรัชญ์ ปรัชญ์ นายแพทย์ด้านศัลยกรรมมือหนึ่งที่อายุยังไม่ถึงสามสิบต้องอดทนกับชีวิตแต่งงานตามความต้องการของคุณย่าที่อยากให้เขามีลูกกับ ดวงฤทัย เด็กนอกตระกูลที่คุณย่าของเขารับมาเลี้ยง เขาเย็นชาและดีกับทุกคนยกเว้นเมียตัวเอง กระทั่งปรัชญ์ได้รู้จักกับ พิสินี ผู้หญิงที่ทำให้เขาเริ่มเอนเอียงและเกิดความรู้สึกไม่อยากกลับบ้าน ดวงฤทัยคงไม่เจ็บปวดไปมากกว่านี้หากผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คนไข้ที่เขาต้องคอยดูแลเอาใจ แต่ยังเป็นเพื่อนสนิทของดวงฤทัยที่กลับกลายเป็นมือที่สาม แม้ครอบครัวต้องพังทลายแต่เธอจะไม่ยอมยอมสูญเสียหัวใจดวงน้อย ตัวแทนความรักสุดท้ายที่ ดวงฤทัยพาหลีกหนีไปให้ไกลจากวิมานไร้ใจของเธอ
“ดวง...ดวงฤทัยใช่ไหม?”
เสียงนั้นทำให้หญิงสาวในชุดพยาบาลเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือขณะนั่งในร้านกาแฟเล็ก ๆ ภายในบริเวณโรงพยาบาลและพบกับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าหมดจดของผู้หญิงในชุดกระโปรงลายดอกไม้สีหวานซึ่งมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ขณะนั้นเป็นเวลาพักเที่ยงและมีลูกค้าของร้านกาแฟนั่งอยู่หลายโต๊ะ ส่วนใหญ่เป็นนางพยาบาลและญาติคนไข้ เมื่อเห็นว่าเป็นใครดวงฤทัยก็มีสีหน้าดีใจและตื่นเต้นเช่นกัน
“แพม...ใช่ดวงเองจ้ะ นั่งก่อนซี ดีใจมากเลยที่ได้เจอ”
เธอเชื้อเชิญ พิสินี ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากสมัยเรียนมัธยมปลาย แต่เมื่อเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยทำให้ขาดการติดต่อกันไปนานเกือบห้าปี ซึ่งการได้พบกันวันนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง พิสินีนั่งลงก่อนหันไปสั่งเครื่องดื่มบริกรและหันกลับมายังดวงฤทัยที่ยังมีสีหน้าตื่นเต้น
“แพมก็ดีใจนะที่ได้เจอดวง เราไม่ได้เจอกันหลายปีแล้วนะเนี่ย”
“ใช่จ้ะ แล้วตอนนี้แพมทำอะไรอยู่”
“แพมทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ให้โรงแรม แหม...ดูซี ไม่ได้เจอกันนานดวงก็ยังเป็นสาวหวานและเรียบร้อยเหมือนเดิมเลยนะ”
“แพมก็สวยและเป็นสาวมั่นไม่เปลี่ยนแปลงเลยเหมือนกัน ว่าแต่...วันนี้แพมมาทำอะไรที่โรงพยาบาลหรือจ๊ะ หรือว่ามาเยี่ยมใคร”
“แพมไม่ได้มาเยี่ยมใครหรอก แต่จะมาขอคำปรึกษาหมอเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรม แพมจะผ่าตัดซีสต์ที่ข้อมือแล้วมีเพื่อนแนะนำบอกว่าที่นี่มีหมอศัลยกรรมที่มีความเชี่ยวชาญก็เลยว่าจะมารักษา โชคดีจังที่ดวงเป็นนางพยาบาลอยู่ที่นี่ด้วย”
“ดวงเรียนจบก็ทำงานที่นี่เลยเพราะใกล้บ้าน จะได้อยู่ช่วยดูแลคุณย่าด้วย แล้วแพมล่ะจ๊ะ ตั้งแต่สอบเข้ามหาลัยเราไม่ได้เจอกันเลย นานมากเลยนะ ตอนนี้แพมแต่งงานมีครอบครัวหรือยัง”
พอถูกถามพิสินีก็เงียบไปชั่วอึดใจแต่ก่อนจะตอบคำถามเพื่อนที่เคยสนิทบริกรนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟพอดีทำให้ขัดจังหวะการสนทนาเล็กน้อยและทำให้ดวงฤทัยลืมคำถามของตัวเองและกลายเป็นฝ่ายถูกเพื่อนถามกลับมาว่า
“แล้วดวงล่ะ นี่ดวงยังอยู่กับผู้ปกครอง...เอ้อ...คนที่เขารับดวงมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กอยู่อีกหรือจ๊ะ”
“ใช่จ้ะ ดวงมีหน้าที่ต้องคอยดูแลคุณย่า เพราะท่านอายุมากแล้ว”
“ดวงแต่งงานหรือยัง?”
“จ้ะ...ดวงแต่งงานแล้ว...เอ้อ...เพิ่งแต่งได้ไม่ถึงสามเดือน”
“ดีจังเลย แล้วสามีของดวงเขาทำงานอะไรเหรอจ๊ะ”
“เขา...เป็นหมออยู่ที่นี่จ้ะ ก็...เอ้อ...เขาเป็นหลานชายของคุณย่าที่รับดวงมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กนั่นล่ะ”
“อุ๊ย! โรแมนติกจังเลย นี่แสดงว่าดวงแต่งงานกับผู้ชายที่โตมาด้วยกันในบ้านเดียวกัน แต่คุณย่าที่รับดวงไปเลี้ยงเขาฐานะดีมากใช่ไหม แสดงว่าดวงโชคดีมากเลยล่ะ”
พิสินีพูดพลางยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มโดยไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าและแววตาของเพื่อนสนิทว่ามีบางอย่างฉายวาบขึ้นมาในดวงตาซ่อนรอยเศร้าคู่นั้น สักครู่ดวงฤทัยจึงเอ่ยขึ้นว่า
“แพม...ดวงต้องขอโทษด้วยนะที่ต้องไปก่อน ใกล้ถึงเวลาทำงานแล้วล่ะ”
“ตามสบายเลยจ้ะ เดี๋ยวแพมก็ต้องไปติดต่อเจ้าหน้าที่ จะได้รีบพบหมอแล้วรีบกลับ...เอ๊...นี่ดวงเอากล่องข้าวห่อมากินที่ทำงานเหรอจ๊ะเนี่ย”
พิสินีเอ่ยถามเมื่อเหลือบไปเห็นถุงใส่กล่องข้าววางใกล้กระเป๋าทำงานบนโต๊ะ ดวงฤทัยตอบว่า
“อ้อ...นี่ไม่ใช่ของดวงหรอกจ้ะ แต่เป็นเป็นกล่องข้าวของสามีดวงเอง เดี๋ยวจะเอาไปให้เขา...ดวงไปก่อนนะ แล้วค่อยเจอกันอีกจ้ะ”
ดวงฤทัยพูดจบก็หยิบของบนโต๊ะแล้วเดินออกไป พิสินีมองตามแล้วเอนหลังพิงเก้าอี้พลางถอนใจขณะพูดกับตัวเองเบาๆ
“ดวง...เธอโชคดีจังเลยนะ มีงานทำมั่นคงแถมยังมีสามีเป็นหมอรวยซะด้วย...ส่วนฉันนี่ซี...”
ขณะนั้นดวงฤทัยก็รีบเดินตรงไปยังตึกใหญ่ซึ่งเป็นตึกอำนวยการของโรงพยาบาล หญิงสาวมุ่งหน้าไปยังห้องหนึ่งซึ่งด้านหน้ามีป้ายบอกชื่อให้รู้ว่าเป็นห้องส่วนตัว เธอเคาะประตูและได้ยินเสียงตอบกลับมาว่า
“เชิญครับ”
ดวงฤทัยเปิดประตูเข้าไปและเห็นร่างสูงใหญ่ในชุดกาวน์นั่งที่โต๊ะทำงาน กำลังก้มหน้าเขียนเอกสารก่อนที่เขาจะเลยขึ้นมองและเห็นรอยยิ้มของหญิงสาวขณะค่อย ๆ วางกล่องข้าวลงบนโต๊ะ
ไม่มีใครรู้ว่า นันทินี เลขาของ เจตต์ มีงานอีกอย่างคือการเป็นนางบำเรอลับๆ ของเขา กระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถทำหน้าที่นั้นต่อไปได้เพราะนันทินีหลงรักท่านประธานสุดหล่อ เธอตัดสินใจลาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม ก็ในเมื่อเธอจากไปพร้อมหอบลูกในท้องของเขาไปด้วย
เธอยอมทนให้เขาดูถูก เป็นแม่ของลูกให้สามีของพี่สาว จเด็จ - นภัทสรีย์ นภัทสรีย์ ยอมรับข้อเสนอมีลูกกับ จเด็จ สามีของ เพียงกมล พี่สาวต่างแม่ที่มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถมีลูกได้และชีวิตอาจไม่ยืนยาว เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เพียงกมลส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ ทั้งที่ จเด็จไม่เห็นด้วยแต่แรกและแสดงท่าทีรังเกียจเพราะคิดว่า นภัทสรีย์อยากได้สามีของพี่สาว และยิ่งกว่านั้นคืออยากได้มรดก แต่แล้วเขาเองเผลอมีความสัมพันธ์กับนภัทสรีย์จนเธอตั้งท้อง แต่เพียงกมลกลับเสียชีวิตเสียก่อนน้องสาวคลอด เมื่อไม่มีพี่สาวแล้ว นภัทสรีย์ก็ตัดสินใจยอมจากไปทั้งที่อุ้มท้องแก่เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเธอไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ทั้งทรัพย์สมบัติและที่ดินแม้จะรักสามีของพี่สาวที่รังเกียจเดียจฉันท์เธอ ไม่ต้องการเป็นแค่ เมียแทนรัก ถึงเวลานั้นจเด็จจึงรู้ใจตัวเองว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และไม่สามารถปล่อยเมียกับลูกไปจากชีวิตของเขาได้
“มาเรียสจะไม่เป็นอะไร เขาจะไม่บาดเจ็บอาการสาหัสและต้องตายถ้าคนที่ขับรถพาเขาไปคืนนั้น ไม่ใช่คุณ!” เบน คริสเตียนเซน จะไม่ยอมสูญเสียน้องชายฝาแฝดของเขาไปโดยไม่ได้ลากตัวคนผิดมาลงโทษ เขาล่อหลอก พลอยพิชญา มายังสกรูวา แห่งหมู่เกาะโลโฟเตนเพื่อจองจำเธอไว้กับอเวจีชั่วนิรันดร์ในสวรรค์ของชาวไวกิ้ง เขาคือมัจจุราชที่จะลากเธอลงสู่ห้วงลึกที่สุดของมหาสมุทรแห่งความสิ้นหวัง ทว่าเธอกลับยินดีชดใช้ความผิดแม้แลกด้วยวิญญาณที่ถูกร้อยรัดจากความชิงชัง หากแต่พิศวาสเถื่อนนั้นคือการลงทัณฑ์หรือเสน่หาที่พันธนาการตัวเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด
ภารกิจสำคัญของ อลินทิรา คาฮานา สายลับสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอลา หรือที่รู้จักในองค์กรว่า ออลโซย่า คือการโจรกรรมข้อมูลสำคัญของธาตุชนิดใหม่ที่สามารถพัฒนาเป็นอาวุธ ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ สายลับแสนสวยมือหนึ่งได้ข้อมูลนั้นไป แต่เธอกลับต้องพบกับความจริงอันน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า เพราะเธอกำลังถูกตามล่า ไม่ใช่แค่องค์กรลับที่สั่งเธอมา แต่ยังมีเขา แดเนียล ไพรซ์ เทพบุตรผู้หล่อเหลาเกินใครในตระกูลขุนนางเก่าอันมั่งคั่ง มาเฟียผู้หยิ่งทะนงและเลือดเย็นเจ้าของข้อมูลลับที่ถูกโจรกรรม เขาควานหาตัว ออลโซย่า แทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อได้ตัวเธอมา เขากลับ ฆ่า เธอด้วยเสน่หาและพิศวาสร้อนแรง
เมมนอน ราชองครักษ์หลวงแห่งฟาโรห์รามเสสมหาราช ผู้มีหัวใจรักมั่นคงต่อเจ้าฟ้าหญิงเนเฟอร์ติตี หากเมื่อถูกหักหลัง รักจึงกลายกลับ เป็นความเคียดแค้นชิงชังอย่างมิอาจเลี่ยง เนเฟอร์ติตี เจ้าฟ้าหญิงแห่งนครธีปส์ พระราชธิดาในฟาโรห์รามเสสและพระมเหสีเอกเนเฟอร์ตารี พระชนมายุ ๑๗ ชันษา หัวใจของนางมอบไว้แด่ราชองรักษ์หลวงเมมนอนผู้เดียวเท่านั้น “เมมนอน…เกิดอะไรขึ้น…ท่านบาดเจ็บ” “อย่ามาแสร้งว่าท่านเป็นห่วงเป็นใยข้าเจ้าหญิงเนเฟอร์ติตี !” เมมนอนคำรามลั่นพร้อมทั้งดึงข้อพระบาททั้งสองจนร่างทั้งร่างของเจ้าหญิงเซเข้าหาร่างสูงใหญ่ เนเฟอร์ติตีสั่นไปหมดด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มโกรธมากขนาดนี้ หากดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้ำพระเนตรของเจ้าหญิงซึ่งเคยเป็นที่รัก มีแต่จะเดือดดาลและบีบข้อพระหัตถ์แรงขึ้น “เมมนอน…. ท่านเป็นอะไรไป ข้าเจ็บ!” “เนเฟอร์ติตี…ท่านคงรู้เห็นกับรามเสสส่งคนไปกำจัดข้าในการเดินทางครั้งนี้ แสร้งทำดีให้ข้าไปอาบูซิมเบลแล้วตลบหลังด้วยการส่งนักฆ่าขึ้นไปบนเรือหลวง เท่านั้นไม่พอ พวกท่านอำมหิตนักแม้แต่ทหารที่ไปกับข้าก็ไม้ละเว้นชีวิตเพื่อให้ใครๆเข้าใจว่านี่เป็นการปล้นสะดมต์ บอกข้าสิเนเฟอร์ติตี…บอกข้าว่าหัวใจของท่านทำด้วยอะไรถึงได้โหดร้ายยิ่งกว่าอนูบิส!” “หยุดปรักปรำข้าเดี่ยวนี้! ข้าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดที่ท่านกล่าวมา ท่านน่าจะรู้ว่าข้ามิเคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้น” เสียงนางอ่อนลงในตอนท้ายราวจะบอกให้รู้ว่าความอาลัยนั้นยังติดลึกในใจมากเหลือเกิน หากสำหรับราชองครักษ์หนุ่มกลับคิดตรงกันข้าม เนเฟอร์ติตีก็เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ นางแสร้งทำให้เขาสงสารเพื่อคิดจะพล่าผลาญวิญญานของเขาในภายหลัง “ข้าเคยหลงเชื่อพวกท่าน ยอมมอบชีวิตและความภักดีแก่องค์สมมติเทพแห่งอมุน-รา เป็นนายทหารที่ยอมตายแทนองค์เหนือหัวได้ทุกเวลา... และสำหรับท่าน ข้าก็ได้มอบความรักอย่างชายคนหนึ่งที่พึงรักหญิงเดียวอย่างสุดหัวใจ หากแต่สิ่งที่ข้าได้กลับคืนก็แค่คำลวงและความทรยศหักหลัง ท่านจงรู้ไว้ว่าข้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความไว้วางใจ ระหว่างท่านกับข้าให้มันเหมือนสายน้ำไนล์ที่ไหลไปไม่มีวันหวนคืน!”
แม่ทัพเฉิงจิ้นเหอ หนึ่งในแม่ทัพผู้เยี่ยมยุทธถูกส่งตัวมายังดินแดนลับเร้นเพื่อกวาดล้างอำนาจของเหล่ามาร และหนึ่งในเหตุผลที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพื่อตามล่า นางมารหมื่นบุปผา ผู้ซึ่งปลิดชีวิตคู่หมายของเขาโดยไร้ความปราณี หากแต่เมื่อเฉินจิ้นเหอได้พบนาง โลกอันเปล่าร้างนั้นเสมือนกลับมาเบ่งบานในหัวใจ ของจอมยุทธผู้ไร้รัก
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"